AnotherJoe

 
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ตุลาคม 2551
 

ขี่มอ'ไซค์เที่ยวเหนือ

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนกัน 2 คน
...แต่การไปครั้งนี้ไม่ธรรมดา...


จอดพักแถวๆเด่นชัย







ถึงโรงแรมที่เชียงใหม่แล้ว
เตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆเชียว เพราะความตื่นเต้น




เช้าแล้ว
กะว่าวันนี้ต้องไป อ.สะเมิงโดยข้ามเขาลูกนี้ไปให้ได้



นี่ไงครับ เช่ามา 3 วัน ไปเดินหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ตอนเย็น ตอนแรกว่าจะเช่าตอน 8 โมงเช้า แต่พี่ที่ร้านเขาใจดีให้มาก่อน รวมเป็น 3 วันครึ่ง
รุ่นนี้ค่าเช่าวันละ 800 ค่าประกันรถ 5000

*ตอนนี้กำลังเตรียมตัวแพคของขึ้นรถ ในชั้นใต้ดินของโรงแรม*



ก่อนเช่า คุยกับพี่ที่ร้าน เขาสอนเทคนิคมากมาย ในการขับรถประเภทนี้
การเข้าโค้ง การวิ่งผ่านหลุม ฯลฯ ซึ่งพี่เขาก็บอกว่า การล้มเป็นเรื่องปกติของรถแบบนี้ บวกกับเส้นทางหน้าฝน
พี่เขาก็เล่าว่าก่อนหน้าเคยมีคนเช่าแล้วเกิดอุบัติเหตุอะไรมาบ้าง
แต่ผมก็บอกพี่ไปว่า ผมขี่ช้าๆ ระมัดระวังอยู่แล้ว "คงไม่ล้มแน่นอน"

*กินข้าวกันก่อนออกเดินทางก่อนขึ้นดอยสุเทพ*



*ถึงดอยสุเทพแล้ว*



ที่มัดอยู่ท้ายรถนั่น เสื้อผ้า ห่อถุงพลาสติกกันโคลนและฝน
แต่ที่กระเป๋าหลังนั่น ใส่ถังน้ำมันขนาด 5 ลิตร แบกไปเพื่อความชัวร์

*จอดถ่ายรูปกันหน่อย*



*ไปดอยปุยกันต่อ*



*จอดถามทางเจ้าหน้าที่นิดนึง เนื่องจากใน gps ไม่มีแผนที่ เจ้าหน้าที่ใจดี วาดแผนที่ทางไป ต.โป่งแยงให้ 1 แผ่น



เส้นทางที่เลยดอยปุยช่วงนี้ค่อนข้างเละ และ ลื่นมาก
ประกอบกับมีฝนตกเป็นระยะๆ ทำให้เกิดร่องลึกจากรอยล้อรถยนต์ของชาวสวน ทำให้ยากแก่การขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก
ยิ่งเป็นทางขึ้นเนินด้วย ก็จะยากเป็นพิเศษ

ในภาพ ตรงนี้ก็สังเวยไป 1 ล้ม เนื่องจากไปแบบช้าๆ แล้วค่อยๆประคองไปทางฝั่งด้านซ้าย เนื่องจากไปช้าเกินไป จึงต้องใช้เท้า
ประคองๆไปด้วยทำให้เท้าด้านขวาเกิดอาการ "หยั่งไม่ถึง" เพราะรถมันสูง แถมตรงกลางถนนต่ำกว่าริมถนน
ก็เลยยิ่งหยั่งไม่ถึงไปใหญ่ ..พอจอดปุ๊บ รถก็เริ่มถอยหลังเบรคหน้าก็เบรคไม่อยู่ เพราะน้ำหนักลงมาที่ล้อหลัง เบรคเท้าก็เบรคไม่ได้
เพราะต้องประคองพื้นถนน ในที่สุดก็ล้มแบบตะแคง ตัวกลิ้งหงายหลัง เนื่องจากน้ำหนักของน้ำมัน 5 ลิตรที่ถ่วงอยู่ที่หลัง




ในภาพด้านล่างต้องจอดพักสักแป๊บ เอาแรงคืน
ล้มมาประมาณคนละ 3-4 ครั้ง เหนื่อยที่สุดก็ตอนยกรถขึ้นนี่แหละ
ต้องให้เพื่อนมาช่วยตลอดเลย ทางเรียบๆเอาขึ้นเองได้
แต่ถ้าเป็นทางขึ้นเขา,ลงเขา พื้นมันเอียง ยิ่งยกยากไปใหญ่
...อย่างผมนี่ แค่กลับรถตรงทางเอียงๆ ก็ล้มแล้ว เพราะขาไม่ค่อยถึง(สูง 172)

แดดไม่ออก บรรยากาศครึ้มๆ ฝนจะตก แต่เสื้อผมกับเพื่อนปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เพราะอะไรน่ะหรือ ..ก็เพราะล้มที ก็ออกแรงยกรถกันทีนึง ถ้ามาคนเดียว สงสัยได้นอนกลางป่า

*จอดพักเหนื่อย*





*จอดพักเป็นระยะๆ พักที เพื่อนก็ส่ง sms,mms ให้แฟนทีนึง(ถ้ามีคลื่น) *


*กระจกคันของผมไม่เหลือแล้ว เลยถอดเก็บดีกว่า ส่วนของเพื่อน ยังเหลือด้านซ้าย*



ชุดอุปกรณ์นำร่องด้วยดาวเทียม ต่อกับชุดชาร์ตแบตแบบฉุกเฉิน
ใช้วางรอยทางไว้ เผื่อหลง จะได้กลับถูก
เนื่องจากทางที่ผมไปกันนั้น มีแยกเยอะมาก ให้เลือกว่าจะซ้ายหรือขวา
เพราะเป็นทางวิ่งผ่านสวนลิ้นจี่ ซึ่งแยกไปสวนใครสวนมัน ไม่รู้ว่าทางไหนมันออกได้
บางจุด แคบๆเห็นแค่ทางเท่าคนเดิน ต้นหญ้าขึ้นมาปิดบังเส้นทาง รกมากๆ
สอบถามจากชาวบ้านที่เดินผ่านมาได้ว่า หน้าฝนนี้ ไม่ค่อยมีใครเข้ามากัน
จะมาก็ตอนหมดฝนแล้ว จึงปล่อยให้ถนนรกร้างเช่นนี้
แต่ตอนเข้ามา มีชาวบ้านบางกลุ่ม ขนก้อนหินมากลบหลุม ซ่อมทางกันบ้างแล้ว คงเพื่อเตรียมไว้ตอนหน้าหนาว
ที่จะได้เข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้สะดวกยิ่งขึ้น


*จอดกันกินข้าวแถวนี้แหละ เพราะใกล้ถึง ต.โป่งแยงแล้ว*



*ทั้งเหนื่อย หมดแรง แล้วก็หิวข้าว ดีที่เตรียมเสบียงมาพร้อม*



*ออกจากเขามาได้แล้ว พักกินน้ำที่ อ.สะเมิง กันก่อน เมื่อยมากๆ จากจุดนี้กว่าจะถึง อ.ปาย ก็อีก 177 กิโลเมตร*



เลย ต.บ่อแก้ว มาได้นิดหน่อย ฝนเริ่มตก เลยต้องจอดใส่ชุดกันฝน
จาก อ.สะเมิงมาถึง ต.บ่อแก้ว ทางดี ลาดยางตลอด
แต่พอออกจากจุดนี้เท่านั้น หมดทางลาดยาง เหลือแต่ทางลูกรัง + ถนนเละๆ
ก่อนถึง บ้านวัดจันทร์ ก็ล้มไปอีก 1
เนื่องจากวิ่งในรอยล้อรถยนต์ที่ได้สร้างร่องบนถนน แล้วประคองไม่ดี
ล้อหน้าปีนออกไปจากร่องได้ แต่ล้อหลังยังอยู่ในร่อง ก็เลยล้ม


*และแล้วก็ถึง อ.ปาย ถึงประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ช่วงขี่จาก บ้านวัดจันทร์มา อ.ปายนี่ น่ากลัวสิ้นดี
ถนนเปลี่ยวมาก ไม่มีใครสัญจรผ่านไปมาในเวลากลางคืนเลย
แถมมีวัวดักอยู่กลางถนนอยู่หลายจุด






*เช้าแล้วที่ปาย*


*เพื่อนซื้อไป 1 ตัว*


*ช่วงเช้าก็ไปเที่ยวใกล้ๆซะหน่อย*




*มาแวะกินข้าวที่บ้านสันติชลซะหน่อย*



*กินแค่นี้แหละ ขาหมูน้ำแดงดูเหมือนจะเยอะไปสำหรับ 2 คน (ชามละ 200) แต่จริงๆต้องประหยัด




จากนั้นประมาณเกือบเที่ยง ก็เช็คเอ๊าท์ เตรียมเสบียง แล้วมุ่งต่อไปที่ห้วยน้ำดัง
พอถึงด่านก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า ไป อ.เวียงแหง เจ้าหน้าที่ก็จะให้ไปโดยไม่เก็บเงิน

เลยจุดกางเต๊นท์ อช.ห้วยน้ำดังมานิดเดียว ก็เจอทางเละๆอีกตามเคย
ด้านล่างนี่คือผลจากการเข้าลายผิด จมโคลนไปครึ่งล้อเลย
ทุลักทุเลกันพอสมควร กว่าจะเอารถออกมาจากโคลนได้



หลังจากถึง อ. เวียงแหงแล้ว คิดว่าทางคงดีจนไปถึงดอยอ่างขาง
ซึ่งเราจะใช้เส้นทางจาก1322 แล้วไปแยกเข้า 1178 สายบน เพิ่อไปที่ด่านอรุโณทัย แล้วขึ้นดอยอ่างขาง
เส้น 1178 นี่ตอนแรกก็ยังดีๆอยู่ หลังจากนั้นทางก็เปลี่ยนสภาพเป็น "หิน" ก้อนเล็กๆ ไปจนก้อนใหญ่ๆ ยาวหลายสิบกิโล
การขี่มอเตอร์ไซค์บนทางแบบนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากล้อเล็กๆ เหยียบไปบนหินที่เป็นก้อนๆ ที่ไม่ได้ฝังตัวอยู่ในถนน
ทำให้เกิดอาการล้อปัดไปปัดมา ต้องระวังให้ดี มิฉนั้นอาจจะล้มได้ ถ้าประคองรถไม่ดี ถ้าเป็นรถยนต์คงไม่มีปัญหา
แค่ไปได้ช้าเท่านั้น

กว่าจะถึงดอยอ่างขางก็ประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งเส้นทางขึ้นดอยอ่างขางทางฝั่งด่านอรุโณทัย ค่อนข้างดี แต่ขี่ตอนค่ำ ก็วังเวงใช้ได้เลยครับ

พอถึงดอยอ่างขาง ตอนแรกว่าจะนอนเต๊นท์ที่ลานกางเต๊นท์ แต่พอผ่านไป ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ แล้วก็เต็นท์กางอยู่สักหลัง
จึงต้องขับเลยไปหาข้าวกินแถวร้านค้าหน้าทางเข้าโครงการหลวง
โชคดีที่ร้านข้าวที่ไปกินนั้นได้ เพิ่งเปิดห้องพักใหม่เอี่ยมพอดี ยังมีร่องรอยของการขึ้นบ้านใหม่อยู่เลย
ส่วนด้านล่างที่ลานจอดรถ ยังไม่ได้เทปูนเลย คาดว่าเพิ่งสร้างเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาช่วงหน้าหนาวนี้
ราคาตอนนี้ถูกมาก มีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น สะอาด กว้างขวาง ราคายังแค่ 500 บาทต่อคืน
ถ้าเดือนพฤศจิกายน-มกราคมไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นเป็นเท่าไร

*ถ่ายจากระเบียงหน้าห้อง* (ที่ๆผมพักออกแบบเหมือนอพาร์ทเมนต์)


*มุมจากชั้น 2 ลงมา จะเห็นว่ายังไม่ได้เทพื้นลานจอดรถ (กำลังก่อสร้าง)*



*เช็คเอาท์แล้วก็ไปกันต่อที่จุดชมวิวดอยอ่างขาง*


*เมฆทั้งนั้น ลอยต่ำมากๆ จนไม่เห็นวิวอะไรเลย*


*ขึ้นไปถ่ายบนสถานีตรวจอากาศ บนดอยอ่างขาง*



ได้แวะเข้าไปด้านในโครงการ ซึ่งตอนนี้ดอกไม้ยังไม่บาน น่าจะบานตอนหน้าหนาวนู่นเลย
...หลังจากขี่เล่นจนรอบดอยอ่างขางแล้ว ก็จะลงไปหาข้าวกินที่ อ.ฝาง ซึ่งป้ายบอกทางลงไป อ.ฝาง บอกไว้ที่ 44 กิโลเมตร
แต่เนื่องจากเห็นว่ามีทางลงทางด้าน ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ด้านนั้นจะใกล้กว่า ซึ่งป้ายบอกไว้แค่ 26 กิโลเมตรเอง
เห็นทางใกล้แบบนี้ ก็แน่นอนล่ะครับ ทางพังๆซะส่วนใหญ่ แล้วก็ชันมากกว่าอีกด้านนึง เลาะไปตามชายแดนไทย-พม่า
บรรยากาศตอนเช้าๆ หมอกลง วังเวงมาก กลัวว่าจะเจอทหารพม่าจับ
ข้างทางเต็มไปด้วยต้นหญ้าคาสูงๆท่วมหัว ล้ำเข้ามาในเขตถนน ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
ขี่ไปสักพัก ก็เจอด่านทหารไทย มีทหารประจำการอยู่ 3 นาย ก็เรียกให้จอด
แล้วขอดูบัตรประชาชน สอบถามได้ความว่า เป็นด่านสกัดกั้นยาเสพติดที่จะเข้าไปทางฝั่งไทย
..ดีที่ไม่ได้ให้ร้องเพลงชาติให้ฟัง

*ลงทางด้านนี้แหละ หลังรั้วเป็นฝั่งพม่า แล้วบนยอดเขานั่นที่เมฆบัง ก็เป็นฐานทหารพม่า*



จอดกินข้าวที่ อ.ฝาง เรียบร้อย ก็จะเดินทางต่อไปที่ ต.วาวี
ประมาณว่าอยากไปชิมกาแฟดอยช้างซะหน่อย


กว่าจะถามทางชาวบ้านจนไปถึงร้านกาแฟดอยช้างได้ ก็กลับรถอยู่หลายครั้ง
ถ้าใครอยากไป ต้องถามว่า "โรงงานกาแฟ ไปทางไหนครับ" เพราะถ้าเป็นร้านกาแฟ มีอยู่หลายร้านเหมือนกัน
เพราะแถวนั้นเขาปลูกกาแฟกันเยอะ

*นั่งกินกันคนละแก้ว*


*แก้วละ 50*



*อร่อยใช้ได้ ไม่รู้ว่าด้วยความยากลำบากในการขึ้นดอยมาหรือเปล่า แต่ก็ได้มาถึงแหล่งผลิตเลย*


*มีประวัติของที่นี่ให้ดูด้วย*


*โรงงานกาแฟบนดอย*


*ชาวบ้านกำลังนั่งคัดแยกเมล็ดกาแฟ*


*ปิดท้ายด้วยเด็กดอยช้าง*


จากนั้นก็ลงดอยมาทาง อ.แม่สรวย แวะกินข้าว ก่อนที่จะเข้าตัวเมืองเชียงใหม่

รวมระยะทาง 3 วัน 780 กิโลเมตร (กว่าครึ่งไม่ได้ลาดยาง)
หมดค่าน้ำมัน (91) ไป ประมาณ 1400

ครั้งแรกกับ มอเตอร์ไซค์แบบวิบากนี้ก็...
ล้มได้แผลถลอกกันไปคนละเล็กคนละน้อย
ตอนขี่น่ะเมื่อยก้น ต้องยืนขี่บ่อยมาก
แต่ตอนถึงที่พักแต่ละวัน ก็มีปวดข้อมือ เพราะต้องบิดทั้งวัน
ต้นขา ที่ต้องเกร็งประคองรถ และลุกๆนั่งๆเวลาขี่

สำหรับใครที่ชอบแบบชีวิตแบบโลดโผน
สำหรับ Honda XR 250cc ตัวนี้ รับรองจะไม่ผิดหวัง
เพราะของเขาแรงจริงๆ
ความรู้สึกเหมือนได้แข่ง ปารีส-ดาร์กก้า

โอกาสหน้าคงต้องหาเส้นทาง off road ทางฝั่ง เชียงราย,น่าน ดูบ้างล่ะ
สวัสดีครับ

*ถ่ายภาพทั้งหมดด้วย Olympus µ850SW (ไปลุยๆตากฝน ต้องตัวนี้เลย)
Olympus µ850SW




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2551
10 comments
Last Update : 18 ตุลาคม 2551 11:39:08 น.
Counter : 5294 Pageviews.

 
 
 
 
ลุยหน้าดู ยังดีนะค่ะ
ที่กล้อง กับอุปกรณ์นำทาง ไม่ไปตามกระจกรถ ฮุๆๆๆ

ปล. ไปเส้นไทย-พม่า ไม่ต้องกลัวโดนจับค่ะ
แต่ถ้าไปเส้นระหว่างไทย-เขมร ตอนนี้น่ากลัวกว่า ฮุๆ
 
 

โดย: GoOnG_ChaN วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:10:38:00 น.  

 
 
 
น่าสนุกจังเลยนะครับ
 
 

โดย: วิทย์ IP: 158.108.106.194 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:16:15:47 น.  

 
 
 
อยากรู้จักและเข้าร่วมแก็งด้วย kreangrecon@gmail.com
ผมมี NSR 150 พลีสสส
 
 

โดย: เกรียง IP: 125.27.239.193 วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:16:27:06 น.  

 
 
 
ทำไมไม่ขับตั่งแต่บ้านไปเลยอะคัฟ แบบนี้มันก็ไม่ถึงใจดิคัฟ มันต้องขับ ไปตั่งแต่ กทม เลย มันจิงๆๆ ... ผมกำลังไป และ อิอิ วัน ที่ 456 และจะเอาภาพมาให้ชม
 
 

โดย: บุญชง IP: 183.89.112.167 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา:3:04:19 น.  

 
 
 
สุดยอดเลยยย
 
 

โดย: หนึ่ง IP: 180.180.146.190 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:6:44:08 น.  

 
 
 
ปีใหม่นี้ผมจะไปแบบพี่บ้างครับ มีอะไรแนะนำเป็นพิเศษถึงสิ่งสำคัญหลักๆที่ต้องเตรียมไหมครับ?
 
 

โดย: นายกะปอม IP: 111.84.16.86 วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:23:20:26 น.  

 
 
 
ไม่มีอะไรต้องเตรียมมาก เตรียมเงิน ใจและแฟนสาว อย่าแฟนตุ๊ดน่ะ
 
 

โดย: เดินป่า IP: 202.176.103.50 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:1:33:38 น.  

 
 
 
คิดว่าจะไปเหมือนกันเลยเข้ามาดู+++++++++
เคยไปมาทิปนึง++++++++++
4 คนครับ มันหน้าดู+++++++++++++
 
 

โดย: เอ IP: 49.49.31.208 วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:0:26:07 น.  

 
 
 
อยากไปจัง
 
 

โดย: oily IP: 223.207.60.228 วันที่: 26 ตุลาคม 2554 เวลา:21:49:20 น.  

 
 
 
ผมมีd tractor 250ยังไม่เคยไปไกลเกิน100โลเลย
 
 

โดย: Nipon.s IP: 49.49.83.169 วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:52:35 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

anotherjoe
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add anotherjoe's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com