มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
29
31
 
All Blog
จะเกิดอะไรขึ้น ... ถ้าเราเข้าไปจิกคนที่กำลังแซงคิวให้เกิดความละอายใจ (ซะบ้างสิคะ)


อ่านข่าวว่ามีสาวนามสกุลดัง มหาดำรงค์กุล (ตระกูลนี้เค้าเป็นผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายนาฬิกาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย บริษัทศรีทองพาณิชย์ นั่นยังไงเล่า) โพสท์ใน Facebook ของตนเอง ว่าพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ถูกมือกลองของวงบอดี้สแลมกระชากคอเสื้อที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เธอโพสท์ว่า ...


“เมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา นี้ คุณแม่รินและญาติสนิท 2 คน รวมทั้งพี่ๆ ที่บริษัทคุณแม่ เข้า check in ที่ Gate 1 การบินไทย สนามบินสุวรรณภูมิ (คุณแม่รินทำธุรกิจนาฬิกาและต้องเดินทางมา Basel watch fair ที่สวิส เป็นประจำทุกปี) เนื่องจากเป็น Flight กลางคืน (เครื่องขึ้นเที่ยงคืน แต่ไป check in ตั้งแต่ 4 ทุ่ม)


ในเวลานั้น ที่ check in การบินไทยเปิดช่องสำหรับเช็คอินแค่สองช่อง ทำให้คิวของคนที่จะ check in ยาวมาก ขณะนั้นเองก็มีกลุ่มของนักร้อง Bodyslam จำนวน 5 คนเดินตัดคิวของคนที่กำลังต่อคิวยาวอยู่ (เข้าใจว่ามีเจ้าหน้าที่การบินไทยพาเข้า มาทราบทีหลังว่าทั้งวงกำลังจะเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ London) ทำให้คนที่กำลังต่อคิวกันอยู่ทั้งชาวไทยและต่างชาติพากันบ่นระงม (เพราะคิวยาวมากและทุกคนก็กลัวว่าจะ check in ไม่ทัน)


พี่ชายของริน (ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันและกำลังต่อคิวเพื่อ check in เข้าชั้นธุรกิจ) ก็ได้เอ่ยปากถามขึ้นว่า “ทำไมถึงตัดคิว ทำไมไม่ต่อคิว” (เข้าใจว่าเป็นนักร้อง แต่อย่าลืมนะคะว่าถ้าคุณรีบ คนอื่นก็รีบเหมือนกัน) พี่ตูน bodyslam (และคณะที่กำลังเดินผ่านไป) ก็หันมาตอบดีๆ ว่า “ผมมากับคณะเค้าครับ” แล้วสุดท้ายก็ตัดคิวกันทั้งกลุ่มและเดินเข้าไปก่อน ในขณะที่ประชาชนคนอื่นๆ ก็ยืนรอกันต่อไป”



“หลังจากที่คุณแม่ของรินและกลุ่มที่ไปด้วยกัน check in เสร็จ ก็ต้องผ่านกับจุดที่เป็นจุดตรวจหนังสือเดินทาง คุณแม่รินและคุณป้าก็รีบเข้าไปกันก่อนเพราะอยากจะรีบไปซื้อเครื่องสำอาง ในขณะที่พี่ชายของรินตามมาทีหลัง


คุณแม่รินเมื่อตรวจหนังสือเดินทางเสร็จก็เดินเข้ามาก่อน แต่ก็ยืนรอพี่ชาย (เนื่องจากจะรอบอกเค้าว่าเข้ามาก่อนแล้ว จะไปรีบไปซื้อเครื่องสำอาง) พอพี่ชายของรินผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางเข้ามา ก็พบว่ากลุ่มนักร้อง Bodyslam ยืนดักรออยู่ (ในขณะนั้นมีกันอยู่ประมาณ 4-5 คน ไม่มีพี่ตูน)


เมื่อกลุ่มนักร้องเห็นพี่ชายริน ตัวพี่ที่เป็นมือกลองก็เดินปรี่เข้ามาและ “กระชากคอเสื้”' พี่ชายของริน พร้อมกับพูดว่า “เมื่อกี้มึงพูดว่ายังไงนะ... พ่อมึงเป็นใคร” คนในกลุ่มก็มีเข้ามาห้ามแล้วบอกให้ปล่อย พี่มือกลองจึงปล่อยคอเสื้อ ก่อนจะหันมาพูดกับพี่ชายรินว่า


“ระวังตัวไว้ให้ดี จะไปเมืองไหน กูมีพวกอยู่ทุกเมือง ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะ” ก่อนจะเดินไป ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทั้งคุณแม่รินและคุณป้าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด”



เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องรอให้วงบอดี้สแลมซึ่งตอนนี้กำลังแสดงคอนเสิร์ตอยู่ที่ลอนดอน กลับมาชี้แจงแถลงไขอ่ะนะ


พออ่านข่าวนี้แล้ว อิชั้นก็นึกไปถึงตอนที่เกิดกรณีคล้าย ๆ กันกับครอบครัวตัวเอง


เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ครอบครัวอิชั้นไปเที่ยวต่างประเทศกันเดือนนึง ปลาย ๆ ทริปเนี่ย พวกเราก็เดินทางจากฝรั่งเศสไปยังอังกฤษด้วยรถไฟ

ไปขึ้นรถไฟกันที่สถานีการ์ดูนอรด์ (Gare Du Nord) ของปารีส เพื่อไปยังสถานีเซนต์แพนคราส (St Pancras) ของลอนดอน

ก็จะต้องผ่านตม.ฝรั่งเศส แล้วถึงจะผ่านตม.อังกฤษซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันนั่นแหละ พวกเราก็ไปถึงสถานีรถไฟ 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง เห็นคนต่อแถวกันยาวเหยียด มีป้ายบอกตรงหน้าแถวว่า แถวนี้เป็นรถไฟขบวนไหน ซึ่งตอนนั้นเนี่ยเค้าเข้าแถวขึ้นรถไฟขบวนก่อนหน้าเรากันอยู่ 

อิชั้นเห็นแถวมันยาวน่ากลัวมาก กลัวว่าจะตกรถไฟกันอ่ะนะ ก็เลยไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เอาตั๋วให้ดูว่า ยังไม่ถึงเวลารถไฟขบวนเราหรอกนะ แต่ว่าจะขอต่อแถวเช็คอินผ่านตม.ไปก่อนได้มั้ย เค้าก็บอกว่าไม่ได้ ตอนนี้รถไฟขบวนก่อนหน้ายังมีอีกตั้ง 2 ขบวน อีกชั่วโมงครึ่งค่อยมาต่อแถว

อ่ะ เราก็เลยไปหาคาเฟ่แถวนั้น กินดูแปงดื่มคาเฟ่โอเล่ท์รอกันไป ได้เวลาก็มาต่อแถว ซึ่งคนที่ขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกับเราเนี่ย ต้องเข้าแถวต่อจากแถวผู้โดยสารรถไฟขบวนก่อนหน้าเราอีก

พวกเรากระดืบตามแถวข้างหน้าไปด้วยสปีดหอยทาก จนใกล้จะถึงเคาน์เตอร์ตม.ของฝรั่งเศส ก็เห็นสาเหตุที่ทำให้แถวมันเคลื่อนตัวได้ช้า จนหางแถวยาวเหยียดจากชั้นบนลงไปถึงชั้นล่าง (ใครเคยไปสถานีนี้ คงนึกภาพกันออก)

ตม.ฝรั่งเศสหนุ่ม (หน้าตาดีมาก) ไม่เป็นอันทำงานทำการ นั่งคุยกับอีตม.คนข้าง ๆ แบบคุยเป็นจริงเป็นจังเลยนะ ไม่ใช่ว่ามือทำงาน ตาดูพาสปอร์ต อะไรแบบนี้ ไม่ใช่เลย !! คือ เธอไม่ดู ไม่ใส่ใจคนที่กำลังต่อแถวอยู่เป็นร้อยเลย มัวแต่คุย คุย คุย อยู่นั่น

หลังจากที่พวกเราต่อคิวกันมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ดูนาฬิกาก็ได้เวลารถไฟออก พวกเราหันรีหันขวางถามคนที่ต่อแถวทั้งข้างหน้าข้างหลังแล้วขอให้เค้าถามต่อ ๆ กันไปด้านหลังอีก 7-8 คนว่ารอรถไฟขบวนไหนอยู่ ได้ความว่าไปขบวนเดียวกันนี่แหละ ก็เอาวะ สบายใจขึ้นมานิด 

ถามพนักงานรถไฟที่ยืนทำหน้าเซ็ง ๆ อยู่แถวนั้นว่า พวกเราจะตกรถไฟมั้ย เค้าก็ส่ายหน้า ส่ายหัว เพราะเห็น ๆ กันว่า อีตม.เธอไม่ทำงาน แล้วก็มีตม.นั่งกันอยู่แค่สองช่อง ต่างคนต่างตายอดตายอยาก อยู่บ้านแล้วไม่ได้คุยกับใคร ก็มานั่งช้งเช้ง ล้งเล้งกันอยู่สองคน ก่อนจะถึงครอบครัวอิชั้นก็ยังมีคนต่อแถวกันอยู่กว่าสิบคน

ทันใดนั้น ... ก็มีแถวพิเศษ แทรกมาจากสวรรค์ชั้นไหนก็ไม่รู้ เป็นกลุ่มผู้ชาย 3-4 คน ใส่ชุดสูทหิ้วกระเป๋าเจมส์บอนด์เหมือนนักธุรกิจ ถ้าเห็นที่สนามบิน อิชั้นก็คงจะนึกว่า พวกนี้ต้องนั่งชั้นเฟิร์สคลาสแน่ ๆ กำลังจะเดินผ่านหน้าพวกเราไปอย่างสง่าผ่าเผย หนอย .. หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็เด่น ริอ่านจะมาแซงคิวเหรอ ??

สามีอิชั้นก็ปากไว ถามผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มไปด้วยความฉุนว่า

"Where are you going??"

ผู้ชายคนนั้นก็หน้าเจื่อน ๆ ด้วยความละอาย (จริง ๆ นะ) แล้วอ้อมแอ้มตอบกลับมาว่า

"I'm going to drive the train you are catching."

ตึ่งโป๊ะ !!!




Create Date : 30 มีนาคม 2555
Last Update : 30 มีนาคม 2555 14:04:51 น.
Counter : 1388 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ