มกราคม 2555

1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แ ก ง เ ขี ย ว ห ว า น เ นื้ อ ม ะ เ ขื อ พ ว ง


ระยะหลัง ป้าเดซี่ ตื่นสายโด่ง ไม่สิบโมงไม่ยอมลุกจากที่นอน
ตื่นแล้วก็ออกกำลังกาย อาบน้ำ ทำกับข้าว กินข้าว ทำงานบ้าน
กว่าจะได้เริ่มทำงานแปล ก็ปาเข้าไปบ่ายคล้อยจนถึงเย็นย่ำ
ก็นั่งทำงานไป เปิดทีวีเป็นเพื่อนไปจนดึกดื่นค่อนคืน
ไม่ตีสองไม่นอนค่ะ ทำงานติดลมจนตีสี่ก็เคย


การทำงานดึกดื่นไปจนเกือบเช้าแบบนี้
ข้อดีคือ มันเงียบ ทำให้มีสมาธิ
แต่ข้อเสียคือ มันทำให้หิวซะจนอยากกินมื้อดึกอีกซักมื้อ
สิ่งที่อยากกินในช่วงนี้ ก็พวกแกงนี่แหละค่ะ
ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูหนาวของฮ่องกง
อิชั้นคิดไปเองว่า กินกะทิเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนหรอก
เพราะไขมันช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นเนอะ อิอิ






เมื่อ 3-4 วันก่อน เพิ่งจะทำแกงกะหรี่ไก่ไป
สำเหนียกว่ามันไม่ได้ทำให้บ้านเหม็นเท่าไหร่
รสชาติพอกินได้ แถมสนุกดีอีกด้วย
เลยฮึกเหิม ทำแกงนั่น แกงนี่อีกหลายแกงค่ะ
และนี่เป็นอีกหนึ่งแกงที่อยากกินตอนตีสองของคืนทำงานคืนหนึ่ง
แกงเขียวหวานเนื้อมะเขือพวง







เครื่องปรุงก็มีน้ำปลา น้ำตาลปึก กะทิ น้ำพริกแกงเขียวหวาน






แกงเขียวหวานเนื้อที่ฝันถึงนะ ต้องใช้เนื้อติดมัน แล้วก็เหนียวสู้ฟันหน่อย
ตอนไปซื้อก็ต้องตามล่าหาอยู่นานหลายชั่วโมงเลย
เขียงเนื้อในตลาดสดมีแต่เนื้อสันในไร้มัน กับเนื้อติดเอ็น
เลยต้องพึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งมีแต่เนื้อเซอร์ลอยน์อิมพอร์ตจากออสเตรเลีย
ซึ่งอิชั้นว่าไม่ค่อยอร่อยนะ เพราะเนื้อมันนุ่มเกิน
คิดถึงเสือร้องไห้ขึ้นมาจับจิตสิคะ โอ้ .. พี่เสือ







ผักหญ้าที่ใส่ ซื้อหาจากร้านไทยทั้งหมด
ก็มีมะเขือพวง โหระพา พริกขี้หนูสวน
ทุกอย่างขายเป็นถุง ๆ ละ 5-7 เหรียญ
อิชั้นคว้ามะเขือพวงซึ่งเป็นนางเอกของงานมา 2 ถุง







วันนี้ตั้งใจทำแกงแบบน้ำเยอะ ๆ เพราะจะเอาไว้ราดข้าว ราดขนมจีน
ก็ใช้กะทิทั้งกระป๋องนี่แหละค่ะ ก่อนเปิดก็เขย่าให้เข้ากัน
ใช้กะทิประมาณ 1/4 กระป๋องผัดกับน้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ห่อ (100 ก.)







ใช้ไฟอ่อนผัดไปเรื่อย ๆ








จนน้ำพริกแตกมัน คือน้ำพริกขึ้นเงา และมีน้ำมันซึมออกมา







โยนเนื้อที่ล้างหั่นไว้แล้วลงไป







เติมกะทิประมาณ 1/2 กระป๋อง
แล้วก็เติมน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1/4 กระป๋อง
ไม่ใช้ถ้วยตวงกันหละ (ไม่มี๊) กะเอาทั้งนั้นค่ะ







ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึกนิดนึง น้ำปลาอีกหน่อย







เติมมะเขือพวงลงไป ต้มต่อจนมะเขือพวงสุก







เติมพริกขี้หนู







เติมหัวกะทิที่เหลือประมาณ 1/4 กระป๋อง
แล้วจะใส่ใบโหระพาก็ตอนนี้แหละค่ะ
แต่อิชั้นไม่ใส่ เพราะอยากถ่ายรูปเล่น
ถ้าใส่ไปเลยตอนนี้ ถ่ายรูปแล้วไม่สวย







ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
ถ้าใส่หัวกะทิลงไปด้วยตอนนี้จะเริ่ดมาก







แกงเขียวหวานเนื้อมะเขือพวงแบบนี้
กินคู่กับขนมจีนก็เด็ดนะคะ
คนไกลบ้านหาขนมจีนไม่ได้
ก็ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวซึ่งทำจากแป้งข้าวเจ้าของเจียงซี
ซึ่งพอต้มแล้วมันทั้งเหนียวทั้งนุ่ม
ส่วนตัวแล้วชอบมากกว่าเส้นขนมจีนอีก







จะต้มไข่ยางมะตูมไว้กินแกล้มก็เข้ากันดีเหมือนกัน
อิชั้นต้มแค่ใบเดียว ไว้สำหรับถ่ายรูปคู่กับแกง
ปรกติไม่เน้นกินไข่เท่าไหร่ค่ะ แก่แล้ว
ก็ต้มไข่ไปพร้อมกับเส้นเลย
ไข่เอาออกมาจากตู้เย็นให้อุณหภูมิปรกติก่อน
แล้วใช้เวลาต้มเท่ากันกับเส้น คือต้มในน้ำที่เดือดแล้ว 7 นาที

และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ น้ำปลาพริก
หั่นหอมแดง พริกสวนลงไปหน่อย บีบมะนาวลงไปอีกนิด
ทำง่ายจริง ๆ เลยเนอะ แกงไทย ๆ เนี่ย ติดใจแฮะ


พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ






Create Date : 06 มกราคม 2555
Last Update : 6 มกราคม 2555 0:44:17 น.
Counter : 2977 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ