มกราคม 2555

1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แ ก ง ก ะ ห รี่ ไ ก่


ป้าเดซี่ทำกับข้าวไม่เก่ง
นี่คือเรื่องจริง ไม่อิงนิยาย และไม่ได้ถ่อมตัวค่ะ
ถ้าทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย
ก็คงจะเป็นแม่บ้านแกงถุง
หรือกินข้าวนอกบ้านกันทั้งปีทั้งชาติ


แต่พอโชคชะตาทำให้ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน
จะให้ออกไปกินข้าวนอกบ้านทุกวันรึ
ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีสตางค์


พอต้องมาทำอาหารกินเอง
ก็ทำแต่ที่ตัวเองชอบ ต้องทำง่าย และไม่เหม็น
ของทอดที่ต้องทอดนาน ๆ พวกปลาทอด ไก่ทอด หมูทอด ฯลฯ
ปีนึงได้ทำซัก 3-4 ครั้งมั้งคะ ความถี่พอฟัดพอเหวี่ยงกับการทำแกงต่าง ๆ
เพราะกลิ่นแรง ควันเยอะ กลัวคนข้างบ้านเค้าจะด่าเอา
คือ เวลาเค้าทำอะไรเหม็น ๆ เราก็ไม่ค่อยอภิเชษฐ์เนอะ ใจเขาใจเรา


แล้วพอได้ทำแกงอะไรก็ตามขึ้นมาทีไร
ก็อดไม่ได้ที่จะเอามาอัพบล็อก
เพราะนาน ๆ ถึงจะได้ทำซักที อย่างที่บอก
อย่างวันนี้ป้าเดซี่ แกงกะหรี่ไก่ เล่นค่ะ






มันฝรั่ง 2 หัว หัวหอมใหญ่ 1 หัว หั่นชิ้นโตหน่อย
ถ้าคราวหน้าได้ทำอีก จะหั่นมันฝรั่งชิ้นโตกว่านี้
ส่วนหัวหอมใหญ่ จะใช้ลูกเล็กหน่อยแล้วผ่าครึ่ง
หรือไม่ก็ใส่ไปทั้งลูกเลย







สำหรับเนื้อไก่เนี่ย ปรกติที่เค้าขายกันตามร้าน
หรือที่เห็นแม่ทำจะใช้สะโพกไก่นะคะ
เพราะเนื้อส่วนนี้จะนุ่มกว่าส่วนอื่น
แต่คุณฝรั่งที่บ้านชอบเนื้ออกไก่ไม่หนัง
เลยซื้อมา 2 แบบ ตั้งใจทำไว้กินซัก 3-4 มื้อ
เนื้ออกไก่ตามใจเธอ เยอะหน่อย 500 ก.
เนื้อสะโพกติดน่องตามใจฉัน น้อยหน่อย 300 ก.
เนื้ออกไก่หั่นได้ 3 ชั้น สะโพกหั่นได้ 2 ชิ้น







เครื่องปรุง มีกะทิ 1 กระป๋อง น้ำพริกแกงกะหรี่ 1 ห่อ (100 ก.)
น้ำปลา-ตอนทำไม่ได้ใส่น้ำปลาเลย
น้ำตาลปีบ-ครึ่งก้อน






ก่อนเปิดกระป๋องกะทิ ก็เขย่าให้กะทิเข้ากันดี
เทกะทิใส่กะทะประมาณ 1/4 กระป๋อง
เทน้ำพริกแกงทั้งห่อใส่ลงไปหมดเลยค่ะ







ใช้ไฟอ่อนผัดพริกแกงกับกะทิไปเรื่อย ๆ







จนน้ำพริกแตกมัน คือน้ำพริกงวดขึ้นเงาและมีน้ำมันซึมออกมา
ระหว่างนั้นอิชั้นก็ตระหนักว่าการทำอาหารประเภทแกงไทยเนี่ย
มันหาได้เหม็นเท่าผัดกระเพราที่ตัวเองทำบ่อยเกือบทุกอาทิตย์ไม่
ว่าแล้วก็วางแผนไว้ซะเลยดีมั้ย คราวหน้าจะแกงอะไรดีหนอ







อ่ะ .. ใส่ไก่ที่หั่นแล้วลงไป นับได้ 10 ชิ้น







หลังจากนั้น เติมกะทิที่เหลืออยู่อีก 3/4 กระป๋องลงไป
ไม่หนำใจ เติมน้ำลงไปอีกในปริมาตรเท่ากันคือ 3/4 กระป๋อง
จะได้น้ำแกงที่ข้นกำลังดี สำหรับการตักซดหรือราดรดลงไปบนข้าว






ต้มไฟปานกลางไปเรื่อย ๆ จนไก่นุ่มสุกดี (ประมาณ 10-15 นาที)
ตอนนี้ถึงจะยังไม่ได้ปรุงรส แต่อิชั้นก็ชิมเลยค่ะ
ปรากฏว่าเค็มโดดมาเลย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใส่อะไรเลยนะ เค็มน้ำพริกแกงน่ะแหละ
อยากได้รสชาติอ่อน ๆ ก็เติมน้ำตาลปีบไปครึ่งก้อน จบข่าว
ช่วงนี้กล้าดียังไงไม่รู้ เปลี่ยนจากกะทะเป็นหม้อ
คือเทแกงในกะทะมาลงหม้อซะ แล้วก็เติมมันฝรั่งลงไป
ผลคือ ... แกงแทบล้น จะเปลี่ยนเป็นหม้ออีกใบที่ใหญ่กว่ารึ
แม่บ้านอย่างเราก็ขี้เกียจล้างเป็นยิ่งนัก
เลยเทแกงจากหม้อกลับลงกะทะใหม่ ไม่รู้ไม่ชี้







พอกลับมาใส่กะทะอย่างเก่า เห็นมั้ย ยังใส่อะไรลงไปได้อีกตั้งเยอะ
ก็ใส่หัวหอมลงไปสิ ต้มต่อไปอีกจนมันฝรั่งสุก (ประมาณ 10-15 นาที)








หลังจากนั้น ไก่ หัวหอม และมันฝรั่งจะหด ยุบตัวลงค่ะ
ก็ย้ายมาใส่หม้ออีกแล้ว ใส่พอดีเลยเห็นมั้ย อิอิ

แกงพรรค์นี้เนี่ย ยิ่งเก็บ ยิ่งอุ่น ยิ่งอร่อย ว่ามั้ยคะ
ตอนอิชั้นยังเด็ก ถ้าวันไหนที่บ้านทำแกง
ก่อนจะนอน แม่จะใช้ให้อุ่นแกงให้เดือด
แล้วก็ปิดฝาหม้อ ตั้งทิ้งไว้ในครัวอย่างนั้นแหละ








แต่มาเดี๋ยวนี้ แต่งงานแต่งการมาอยู่กับฝรั่งเนี่ย
"ยูไม่เก็บอาหารไว้ในตู้เย็น วางทิ้งไว้ทั้งคืน
แล้วมาอุ่นกินอีกได้ยังไง ฝรั่งไม่เข้าจาย"

วู้ย ... ก็ต้องมาเปลี่ยนวิถีการต้มยำทำแกงซะใหม่
เวลาทำอาหารแล้วมันเหลือ ก็ต้องเก็บใส่กล่องแช่เย็นไว้แทน
เวลาจะกินค่อยเอามาอุ่นด้วยไมโครเวฟ








ทีนี้ พอมาทำแกงกะหรี่ ซึ่งเน้นอีกทีว่า ยิ่งเก็บ ยิ่งอุ่น ยิ่งอร่อย
ถึงแม้แกงมันจะสุกดีแล้ว มันฝรั่งถ้าต้มนานกว่านี้จะเละได้
แต่มินำพาค่ะ อิชั้นยังตั้งไฟต่อ โดยใช้ไฟอ่อนที่สุดอีกครึ่งชั่วโมง
ดูจากหน้าตาแล้ว เชื่อกันมั้ยว่า ...
นี่เป็นแกงกะหรี่ไก่ที่อิชั้นทำเองเป็นหม้อแรกในชีวิต ??

แกงจะร้อนรุม ๆ จนได้เวลามื้อเย็นพอดี
ตักใส่ชามสำหรับมื้อเย็นไปหนึ่งมื้อ
ที่เหลือก็ตักใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ
เวลาจะกินก็เวฟเอา รสชาติจะได้เข้มข้นขึ้นหน่อย








แกงกะหรี่ ถ้าจะให้อร่อยเลิศ ต้องมีอาจาดไว้กินคู่กันเนอะ
แล้วยิ่งแกงกะหรี่บ้านนี้ ไม่เน้นเค็ม ไม่เน้นหวาน
การมีอาจาดรสชาติจัดจ้านมาแก้เลี่ยน จำเป็นยิ่งนัก
การทำอาจาดใช้น้ำ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน
อย่างอิชั้นทำเนี่ย ก็ใช้ทัพพีตวงเอา 1 ทัพพีทุกอย่างค่ะ
เติมเกลือป่น 1/2 ช้อนชา ตั้งไฟจนเดือด ทิ้งไว้ให้เย็น
แล้วก็หั่นแตงกวา หอมแดง พริกสดใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำอาจาดที่เย็นแล้ว







สุดท้ายนี้ ....
ป้าเดซี่ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่แก่เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกท่าน
ขอจงประสบแต่ความสุข ความสำราญโดยถ้วนทั่ว
หัวเราะร่า ๕๕๕ ตามปีพ.ศ.ใหม่นี้กันได้ตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีเลยนะคะ



พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ







Create Date : 02 มกราคม 2555
Last Update : 4 มกราคม 2555 14:04:14 น.
Counter : 1530 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ