เมษายน 2556

 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
Din Tai Fung หนึ่งใน 10 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก (โดย The New York Times)


ชื่อร้าน : Din Tai Fung
รายการอาหาร : Shanghai Cuisine
ที่ตั้งร้าน : G/F, 68 Yee Woo Street , Causeway Bay, Hong Kong
พิกัด GPS : 22° 16' 46.58" N 114° 11' 10.85" E







วันนี้ ป้าเดซี่ มาทำธุระที่ Causeway Bay ค่ะ ปรกติที่บ้านจะมา Causeway Bay กันไม่บ่อยนัก เพราะร้านค้าที่ Causeway Bay มี ย่านอื่น (ซึ่งใกล้บ้านกว่า) อย่าง Central เค้าก็มีเหมือนกัน ไม่ต้องถ่อสังขารมาไกลถึงที่นี่





ครั้งที่แล้วที่มาเดินในย่านนี้ก็ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนค่ะ ตั้งใจมาซื้อของที่ Ikea ก่อนมาก็กูเกิลหาร้านอาหารน่าสนใจแถว Causeway Bay ซะหน่อย ก็เจอร้าน Din Tai Fung (หลัก Linguistic ของภาษาจีนกวางตุ้งอ่านว่า "ติ่นไถ่ฟ้ง") นี้เข้า

ร้านนี้ก็เป็นร้านดังร้านหนึ่ง ซึ่งมีสาขาในเมืองใหญ่ต่าง ๆ หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และประเทศไทยค่ะ






ซึ่งที่ Causeway Bay เนี่ยก็มีอยู่ 2 สาขาแน่ะ อิชั้นเลือกมาสาขา Yee Wo Street เพราะจะอยู่ตรงข้ามกับร้านขายของเล่นและโมเดล UML ซึ่งคุณสามีชอบแวะเวียนเข้าไปดู






ครั้งที่แล้วที่มานั้นอิชั้นได้บัตรคิวรอประมาณ 10 คิว ซึ่งไม่นานค่ะ แต่พอมาครั้งนี้มาถึงก็ได้โต๊ะเลย โชคดีจริง ๆ กำลังหิวอยู่ด้วย ภายในร้านอาหารก็ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาสามัญไม่ได้หรูหราอะไรนะคะ






เมนูของที่นี่สีสันสวยงาม มีทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และรูปภาพประกอบ สมเป็นร้านอาหารระดับนานาชาติ ราคาอาหารโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 50-78 เหรียญ นอกจากจะสั่งเมนูที่ใช้วัตถุดิบพิเศษอย่างเห็ดทรัฟเฟิลเนี่ย ก็จะตกประมาณร้อยกว่าเหรียญ






เครื่องปรุงบนโต๊ะก็มีภาษาอังกฤษกำกับไว้เช่นกัน







พนักงานเต็มใจให้บริการดีเกินมาตรฐานพนักงานร้านอาหารฮ่องกงทั่วไปเลยนะคะ พามานั่งโต๊ะแล้วก็เอาถ้วยซอสใส่ขิงมาให้ เติมซอสเปรี้ยวกันได้ตามสบาย






จานชามก็เป็นกระเบื้องสีขาวเหมือนร้านอาหารโดยทั่วไป ที่นี่เสิร์ฟน้ำชาแบบ House Tea คือไม่มีให้เลือก เค้าเลือกมาแล้ว อิอิ เป็นชาเขียวแบบจีน อิชั้นชอบดื่มชาอ่อน ๆ ก็ถูกใจสิคะ ส่วนคุณสามีชอบชาดำเลยไม่โปรดเท่าใดนัก






เริ่มสั่งกันเลยละกัน ก็เป็นจานที่สั่งแทบจะทุกครั้งเมื่อไปร้านอาหารเซี่ยงไฮ้ แตงกวาคลุกน้ำมันงา หอม กรอบ เปรี้ยวหวาน กลมกล่อมดีค่ะ เหมาะกับการรับประทานในหน้าร้อนมาก (แต่ฮ่องกงยังเป็นฤดูใบไม้ผลิแบบเปียก ๆ อยู่นะ สองสัปดาห์มานี้ฝนตกมันทุกวัน)






จานนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้โปะหน้าด้วยหมูสามชั้นฝาน ราดซอสปรุงรสพร้อมพริกกระเทียม อร่อยถูกใจกระเหรี่ยงมาก ๆ






มาที่นี่แล้ว ไม่สั่งสิวหล่งป๊าว (หรือเสี่ยวหลงเป่า) ก็เรียกว่ามาไม่ถึงติ่นไถ่ฟ้งเนอะ







สิวหล่งป๊าวของที่นี่ลูกเล็กน่ารักมากค่ะ เข่งนึงมีอยู่ 6 ลูก รับประทานกันสบาย ๆ ไม่หนักมาก






ใครชอบแบบจิ้มน้ำจิ้มด้วย ก็จิ้มกันในถ้วยน้ำจิ้มขิงที่เค้าเอามาวางไว้ให้คนละถ้วยในตอนแรก






ชามนี้เป็นเกี๊ยวกุ้ง (แต่เค้าใส่หมูด้วยนะ) ในซอสเผ็ด








ซอสของเกี๊ยวชามนี้รสชาติจัดจ้านไม่แพ้เส้นเซี่ยงไฮ้กับหมูสามชั้นนะคะ แต่เป็นซอสออกแนวมัน ๆ เพราะใส่น้ำมันพริกด้วย






ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ก็จะชามเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มแบบนี้ค่ะ ชามนี้คือบะหมี่ราดซอสถั่วลิสง คนจีนฮ่องกงเรียกว่าตามตามหมี่น






ชามนี้เป็นซุปเสฉวน ชามใหญ่กว่าตามตามหมี่นนิดนึง








ร้านติ่นไถ่ฟงก็เป็นร้านที่อิชั้นแนะนำร้านนึงเลยนะคะ อาหารอร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพงเกินไป บรรยากาศในร้านก็นั่งกันสบาย ๆ เรียกว่าเป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัว เหมาะสำหรับการสั่งหลาย ๆ อย่างแล้วมาแบ่งกันรับประทาน มื้อนี้ก็หมดไปประมาณ 300 กว่าเหรียญค่ะ

พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ





Create Date : 07 เมษายน 2556
Last Update : 8 เมษายน 2556 15:18:23 น.
Counter : 5412 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ