ชื่อร้าน : ครัวธรรมชาติ
รายการอาหาร : อาหารไทย อาหารทะเล อาหารพื้นเมืองภูเก็ต
ที่ตั้งร้าน : ซ.ภูธร ถ.ระนอง อ.เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต Thailand
พิกัด GPS : 7° 52' 52.91" N 98° 23' 3.97" E

บล็อกเมื่อวันก่อนป้าเดซี่ยังอยู่ที่หัวหิน แต่บล็อกนี้มาถึงภูเก็ตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ร้านอาหารที่อิชั้นจะมารีวิวร้านนี้ เป็นร้านเก่าแก่ในตัวเมืองภูเก็ต
ในร้านมีประกาศนียบัตรต่าง ๆ แถมมีรายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นเคยมารีวิวด้วย
สมัยอยู่ภูเก็ตครอบครัวอิชั้นก็จะมาร้านนี้ค่อนข้างบ่อย เพราะใกล้บ้าน
ขับรถจากบ้านที่กะทู้มาร้านนี้ก็ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น







ร้านครัวธรรมชาติเป็นร้านอาหารไทย อาหารทะเล และอาหารพื้นเมือง
อาหารที่ขึ้นชื่อก็น่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองนี่แหละค่ะ
ถ้าเป็นอาหารทะเล ร้านนี้จะแพงกว่าร้านที่ตั้งอยู่ริมชายหาดทั่วไป







อิชั้นไม่เคยรีวิวอาหารร้านนี้ซักที (คิดว่านะ)
เพราะร้านมืด ถึงมืดที่สุด
จะว่าไปทริปนี้ เจอแต่ร้านมืด ๆ
ยังถ่ายรูปไม่เก่ง เจอมืด ๆ แบบนี้ก็ทำเอาเซ็งเหมือนกัน
เพราะไม่ชอบถ่ายรูปแบบใช้แฟลช
ภาพเบลอ ไม่สวย ไม่ชัด ก็ต้องขออภัยไว้ด้วยค่ะ







เสน่ห์ของร้านอยู่ที่การจัดร้านและของประดับตกแต่งภายในร้าน
ซึ่งเป็นของเก่า .. อิชั้นหมายถึงเก่าจริง ๆ อ่ะนะ ไม่ใช่ของโบราณมีค่า
พวกทีวีเก่า โม่หิน โคมไฟ ฯลฯ เป็นของเก่าที่ยังหาซื้อได้ในราคาไม่แพง
ซึ่งเหมาะกับร้านอาหารที่คนเยอะ ๆ แบบนี้ด้วยแหละค่ะ
เพราะทนทาน ถึงแตกหักเสียหายไป ก็ไม่ต้องมาเสียดาย







ลูกค้าในร้านนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ
มีไกด์พามาบ้าง ตามมาจากหนังสือท่องเที่ยวในท้องถิ่นบ้าง
ราคาอาหารที่ค่อนข้างสูงกว่าร้านอื่น ๆ
จึงไม่ใช่ปัญหา เพราะยังไงลูกค้าเค้าก็เยอะอยู่แล้ว







ภายในร้านซึ่งเดิมเป็นบ้านไม้เก่าชั้นเดียว
ถูกต่อเติมขึ้นไปในแนวตั้ง เป็นชั้นลอยต่างระดับหลายชั้น
เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว ประหนึ่งเดินอยู่ในเขาวงกตเลยทีเดียว








อีกความรู้สึกก็คือ เหมือนกำลังปีนขึ้นต้นไม้
ซึ่งแตกกิ่งก้านสาขา ซ้ายขวา หน้าหลัง
แล้วบนกิ่งก้านนั้น ๆ ก็มีชานให้วางโต๊ะเก้าอี้ได้
ใครนัดกับเพื่อนไว้ที่ร้านนี้ ไม่ใช่จะเดินหาเจอกันง่าย ๆ ค่ะ
คงต้องมีการโทรฯตามว่านั่งรอกันอยู่ตรงไหน ละติจูดใดเลยทีเดียว








การเดินทางไปมาร้านนี้ ก็สะดวกสบายค่ะ
 ร้านตั้งอยู่ในซอยภูธร เลยสำนักงานบริษัทการบินไทยมานิดเดียว
ช่วงปากซอยจะเห็นศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 300 ม.
ทางร้านไม่มีที่จอดรถแต่อย่างใด
แต่ด้วยความที่ในซอยค่อนข้างเงียบ การจราจรไม่พลุกพล่าน
ลูกค้าสามารถจอดรถริมถนนได้สบายมากค่ะ
อันนี้พูดถึงกลางคืนนะคะ ไม่เคยไปช่วงกลางวันซักที







ที่นี่มีน้ำผลไม้ปั่นหลากหลายรายการ
คนอื่นสั่งน้ำอะไรกันเยอะแยะ แต่อิชั้นถ่ายรูปของตัวเองมาคนเดียว
น้ำแตงโมปั่น ใส่มาในโถป้อมสั้นแบบนี้








จานนี้เป็นออเดอร์ของคุณสามี พะแนงกุ้ง
ร้านนี้จะทำพวกแกง พะแนง และมัสมั่นอร่อย
เพราะใช้พริกแกงของใต้ ซึ่งรสชาติเข้มข้นกว่าของภาคกลาง
ขณะเดียวกันความเผ็ดเนี่ยจะน้อยกว่าแกงใต้ทั่วไป
เพราะคงเอาใจชาวต่างชาติคออาหารไทยนั่นเอง
 








ทอดมันกุ้งจานนี้สั่งเผื่อคุณญาติฝรั่ง
อาหารเริ่มทยอยมาเต็มโต๊ะ ถ่ายใกล้ไปนิด เบลอเลยค่ะ








ปลาหมึกผัดพริกแกง แบบใส่พริกไทยอ่อนด้วย
ปลาหมึกสดเด้งดึ๋ง น้ำพริกแกงเผ็ดจัดจ้าน
มีเม็ดพริกไทยมาเคี้ยวให้ซ่าส์ในปาก








คุณญาติฝรั่งสั่งกุ้งชุบแป้งทอด ไข่เจียว และสเต็กไก่ไปด้วย
แต่อยู่ไกลเกิ๊น เลยไม่ได้มาเจาะถ่ายทีละจานแต่อย่างใด








อิชั้นสั่งกุ้งลายเสือย่างตัวอย่างเบ้งมาทำโทษ
 แต่คุณญาติเธอเห็นแล้วอยากลอง เลยยกให้ไปหมด









จานนี้อารมณ์เหมือนกับยำผักบุ้งกรอบ
เป็นยำผักรวมชุบแป้งทอด
ก็มีทั้งพริกหวาน ถั่วฝักยาว และอื่น ๆ ที่จำไม่ได้
มีน้ำยำรสชาติจัดจ้านแยกมาให้ด้วย แต่อิชั้นใช้เป็นน้ำจิ้มแทน
กลัวราดลงไปเลย แล้วผักจะไม่กรอบ








อาหารคาวจานสุดท้ายคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ
ชอบผักเคียงที่เค้าให้มาอย่างอลังการมาก
ผักบ้าน ๆ บวบงู หรือใบบัวบกก็มี
นั่งเคี้ยวเพลินอยู่คนเดียวเลยค่ะ ฝรั่งไม่รู้จัก








สุดท้ายล้างปากด้วยข้าวเหนียวมะม่วง
ก่อนไปภูเก็ตยังนึกเล่น ๆ เลยว่า
ที่ภูเก็ตหาข้าวเหนียวมะม่วงอร่อย ๆ ทำยายากมาก
ข้าวเหนียวมะม่วงร้านนี้ก็ไม่อร่อย ตั้งแต่ตัวข้างเหนียวที่ใส่กลิ่นเยอะเกิน
กะทิที่ราดก็ไม่อร่อยค่ะ แต่อ่ะนะ .. ไม่มีเวลาไปดั้นด้นหา
มีเวลาในเมืองไทยน้อยนิด เอาแค่พอให้หายอยากไปก่อนละกัน


ครัวธรรมชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ใครผ่านไปผ่านมาควรจะไปลอง
ใครที่พักแถวตัวเมืองภูเก็ต ป่าตอง ราไวย์เนี่ย
นับว่าไปมาได้สะดวกล่ะค่ะ ไม่ไกลนัก
อาหารคาวที่สั่งไปอร่อยหมดค่ะ บริการโอเค
ราคาอาหารสูงกว่าร้านอาหารแถวชายหาดเพียงนิดหน่อย
เรียกว่ามาดู มาชมการแต่งร้านแบบย้อนยุค ให้หัวใจได้ยิ้มกันค่ะ

พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ