|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์ละไมวัดไทย ๙ วัดในกทม.
ทัวร์ ๙ วัดเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่เพิ่งจะฮิตติดลมบนเมื่อไม่นานมานี้เอง เราเป็นคนหนึ่งที่เกาะกระแสการทำบุญแล้วก็ได้เที่ยวไปในตัว ทัวร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ แล้ว แต่ในทัวร์ครั้งแรกนั้นเราไปไม่ถึง ๙ วัด เพราะดันไปช่วงเทศกาลปีใหม่ คนมากมายหลั่งไหลจากทั่วสารทิศพร้อมใจกันมาทำบุญ ทำให้แต่ละวัดเต็มไปด้วยคน คน คนและคน แออัดเบียดเสียด ทำให้อารมณ์ของเราเริ่มไม่ปกติ ความหงุดหงิดเข้ามาแทรกเหมือนมีมารผจญ เลยตั้งใจไว้ว่าคราวหลังจะมาทัวร์ช่วงนอกเทศกาลจะดีกว่า มาครั้งนี้ (๓ เม.ย.๕๐) เป็นวันที่เราออกทัวร์บุญอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจมากกกกก....การเดินทางเริ่มจากท่าเรือผ่านฟ้าตอน ๘.๐๐ น. ด้วยความที่เงอะๆงะ จึงเรียกคุณน้าตุ๊กตุ๊ก...ไปวัดบวรฯ ๔๐ บาท (ลองต่อให้เหลือ ๓๙ ก็ได้...) พอไปถึง...กะระยะทางดูแล้ว...เดินเอาก็ได้ ถ้าอยากออกกำลังกาย วัดแรก: วัดบวรนิเวศวิหาร ไปถึงปุ๊ป...พระท่านทำวัตรเช้าพอดี...เราเลยนั่งสวดมนต์นอกพระอุโบสถ ขอให้บรรเทาเคราะห์ภัย หากใครไปเช้าๆ ไปนั่งสมาธิข้างในก็ได้ เย็นสบายดี จากนั้นเดินทะลุถนนข้าวสาร ปากก็ถามทางแม่ค้าแผงลอยแถวนั้น ถึงวัดที่เป็นเป้าหมายต่อไป...วัดชนะสงคราม...เดินเอาไม่ไกลเท่าไร วัดแห่งที่๒ : วัดชนะสงคราม ว่านโมฯ ๓ จบ ต่อด้วย พระนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะ ชยันตะโคดม บรมศาสดา อนาวรญาณ เราขอพรให้มีชัยต่ออุปสรรค ทำการสิ่งใดขอให้สำเร็จ...ทำบุญสังฆทาน พระท่านก็พรมน้ำมนต์ให้เป็นศิริมงคล ตอนนี้ใช้บริการรถตุ๊กๆ ไปวัดสุทัศน์ฯ (๓๐ บาท) วิ่งหัวปลิว....ววววว ผมกระจายยยย ระหว่างทางผ่านศาลเจ้าพ่อเสือ...เลยหมายตาไว้เป็นที่ต่อไป วัดแห่งที่ ๓: วัดสุทัศน์เทพวราราม ทำบุญดอกไม้ ธูป เทียนในวัด เข้าไปกราบในพระอุโบสถ เราชอบจังเวลาเข้าไปข้างใน...อากาศเย็นสบาย สงบดี...ว่านโม ๓ จบ สวดบทชินบัญชร... นั่งสมาธิต่ออีกหน่อย...สบายจายยยย ที่หมายตาไว้ตอนนั่งตุ๊กๆ จำทางได้ เลยใช้ ๒ ขานี่แหละเดิน...ต้องใช้ความระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะทางเท้ามีแค่แมวดิ้นตาย แต่เดินเรียงเดี่ยวเท่านั้น ระวังรถที่วิ่งด้วย ใครสะพายกระเป๋าก็ต้องระวัง อย่ามัวเดินเพลิน...จะโดนกระชากไม่รู้ตัว วัดแห่งที่ ๔ : ศาลเจ้าพ่อเสือ เข้าไปปุ๊ป...ยืนงงๆเอ๋อๆ ทำอะไรไม่ถูก ถามไถ่เจ้าหน้าที่เอา...ซื้อธูปเทียน ๑ ชุด ให้ไหว้จากข้างนอกเข้าไปข้างใน (ข้างนอก ๓ จุด และข้างในอีก ๓ จุด รวมธูป ๑๘ ดอก) มีให้ซื้อเครื่องเซ่นไหว้...แล้วแต่ใครอยากจะทำ ถามเจ้าหน้าที่เอานะ...หากไปช่วงเทศกาล ควันธูปจะเยอะมาก...ใครไปก็ระวังหน่อยนะ เวลาจุดธูปเสร็จให้ชูขึ้นสูงๆ ถือเตี้ยๆจะไปจี้หลังคนข้างหน้าเป็นรู กึ้ยย...ยย จากนั้นก็เดินอีก...ไปศาลหลักเมืองค่ะ...ถามทางจากเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าพ่อเสือ...เขาทำหน้าประมาณว่า ไกลนะหนู...ไหวเหรอ นั่งตุ๊กๆเอาก็ ๓๐ บาทแหนะ เอ...ตกลงเดินเอาดีไหมเนี่ย..สรุปก็คือเดินค่ะ...ออกกำลังสุดๆ เดินวันละ ๒๐๐ ก้าวดีต่อสุขภาพนะเออ... วัดแห่งที่ ๕: ศาลหลักเมือง เดินทะลุออกมาด้านข้างของกระทรวงกลาโหม เลี้ยวเข้าประตูศาลหลักเมือง เจอคนขายดอกไม้ประชิดตัว ทำเอาตกใจ...น้อง...ดอกไม้ไหม ๑๐ บาท มาสดๆไม่มีเวียน ข้างใน ๕๕ นะคะน้อง แต่เรา...ไม่เอาค่ะ...แฮ่ เข้าไปซื้อชุดไหว้ ๑ ชุด ๕๕ บาท ตามที่ป้าขายดอกไม้ข้างนอกบอกเป๊ะๆ แต่ใน ๑ ชุดนั้นมีดอกไม้ พวงมาลัย ผ้าแพร ธูป เทียน แผ่นทอง และน้ำมัน เราไหว้องค์หลักเมืองจำลองข้างนอกก่อน จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ แปะทอง พันผ้าแพร และเสี่ยงเซียมซี ได้ใบไม่ดีก็คืน....จากนั้นนำพวงมาลัย ไปไหว้องค์หลักเมืององค์จริงด้านใน ออกมาทำบุญสะเดาะเคราะห์น้ำมันตะเกียงตามวันเกิด ศาลหลักเมืองมีการเสี่ยงทายอุ้มองค์พระ...แต่เราไม่ได้ลอง...ใครสนใจเชิญได้ เดินข้ามถนนอีกหน่อย....แดดเริ่มร้อน นักท่องเที่ยวเริ่มมาก ขาเริ่มล้า แต่ยังเต็มร้อย... วัดแห่งที่ ๖: วัดพระแก้ว เอ่อ...พุทธศาสนิกชนทั้งหลายค่ะ...กรุณาแต่งตัวให้เรียบร้อยนะคะ พวกสายเดี่ยวเสียวหลุด กางเกงขาสั้น สามส่วน อดเข้านะคะ...ใครเผลอใส่กางเกงขาสั้นโชว์ต้นขาบวกผิวส้ม ต้องนุ่งผ้าถุงที่ทางวัดจัดให้เข้าไปนะคะ...อันที่จริง เราคนไทยน่าจะรู้นะว่าการแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะเป็นอย่างไร...ไม่เห็นต้องให้บอกเลยเนอะ รู้สึกภูมิใจ...ยืดๆ เพราะเดินเข้าช่องสำหรับคนไทย ไม่ต้องต่อแถวเหมือนคนต่างชาติ โอยรู้สึก VIP ยังไงก็ไม่รู้ ฮิฮิ พอเข้าไปข้างใน จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงามขององค์พระแก้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า คนไทยเชิญด้านหน้าเลยครับ เราเลยเดินก้มๆ ผ่านนักท่องเที่ยวไปนั่งจุมปุ้กอยู่ข้างหน้า กราบเบญจางคประดิษฐ์งามๆ โชว์ซะ โอย...ภูมิใจจริงจริ๊ง...งง....ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ออกมาเอาดอกบัวจุมน้ำมนต์พรมที่หัวหน่อย...ตั้งจิตให้มั่น เพราะนักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ เอาล่ะ....ไปต่อโลด เดินข้ามถนนหน้าพระลาน ไปท่าช้าง ใช้บริการเรือข้ามฟาก ๓ บาท ไปวัดระฆัง วัดแห่งที่ ๗: วัดระฆัง ระยะทางเดินเข้าวัด...เต็มไปด้วยปลา นก เต่า หอย รอผู้ใจบุญ...แต่ให้เดินผ่านมาก่อนนะ เพราะเราคิดว่าปลาต่างๆ เช่น ปลาไหล ลูกปลาต่างๆ ไม่เหมาะกับการนำมาปล่อยที่แม่น้ำใหญ่ๆ แล้วถ้าซื้อ พอนำมาปล่อยจะเจอฝูงปลาสวายมากมาย จนอดคิดไม่ได้ว่าปลาเล็กปลาน้อยทั้งหลายที่ปล่อยลงไปนั้น จะโดนปลาใหญ่งาบเอาหรือเปล่านอ... เข้ามาในวัด เหลือบมาห้องทางซ้ายมือ เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ก่อนเข้าบริจาคซื้อหมากพลูตามศรัทธา ถือจานเข้าไป ข้างในมีแผ่นบทสวดชินบัญชรให้สวด เอามา ๑ แผ่น นั่งหลบๆมุม ค่อยๆสวดมนต์ บริจาคเงินแผ่นทอง ได้มา ๓ แผ่น มาแปะที่องค์หลวงพ่อโต ก่อนออกนำบทสวดไปวางที่เดิม ทำบุญน้ำมัน ๒๐ บาท สวดบทประจำวัดเกิด มีป้ายให้อ่าน สวดตามโลด...ตักน้ำมนต์ใส่ถุง (วัดมีถุงให้ด้วย) เอากลับไปฝากคนที่บ้าน.... นั่งเรือข้ามฟากกลับมาท่าช้าง เดินต่อไปเรื่อยๆ...ยังวัดแห่งที่ ๘ วัดแห่งที่ ๘: วัดโพธิ์ วัดที่มีพระนอนใหญ่ที่สุด...จุดธูปเทียนไหว้ข้างนอกก่อน แล้วเดินเข้าไปชมองค์พระข้างใน มีตักบาตรเหรียญ บริจาค ๒๐ บาท ใครขี้เมื่อย มีบริการนวดแผนไทย สบายๆ นั่งรถเมล์สาย ๔๔ หรือ ๔๗ ก็ได้ ประหยัดดี มายังวัดแห่งสุดท้าย.... วัดแห่งที่ ๙: วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) แนะนำว่า หากใครคิดจะเดินทางแบบเรา ที่เริ่มจากท่าเรือผ่านฟ้า ให้แวะที่นี่เป็นแห่งแรกในตอนเช้าดีกว่า เพราะแดดยังไม่แรงมาก เผอิญเราคิดมาแห่งนี้เป็นที่สุดท้ายเพราะเห็นว่าใกล้ท่าเรือเก็บไว้ที่สุดท้าย จะได้ขึ้นเรือกลับเลย เนื่องจากพอเดินขึ้นบันไดไปแล้วถึงข้างบน กระเบื้องโดนแดดตอนบ่ายๆ แผ่นกระเบื้องร้อนมากๆ เดินแล้วเท้าจะพองค่ะ ตอนแรกกะว่าจะเดินวนรอบพระเจดีย์สัก ๓ รอบ แต่ได้แค่รอบเดียว เพราะแสบเท้ามากเลยค่ะ แถมตอนจะลงประตูทางลงอยู่อีกมุมนึง ต้องกระโดดกระย่องกระแย่ง อูย...ยยยย ก่อนจะเดินขึ้นไปวนพระเจดีย์ ไหว้พระบรมสารีริกธาตุก่อนนำแผ่นทองไปปิด แล้วค่อยเดินขึ้นต่อนะ....ตอนเราไหว้อยู่ มีกลุ่มเด็กๆ กลุ่มใหญ่มากกกกกกก...ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวน่าดู...แต่ต้องทำใจให้สงบสวดมนต์ต่อค่ะ....(แล้วเด็กกลุ่มเดิมนี่แหละ ไปวิ่งสไลด์กันไปมา รอบพระเจดีย์...ทำใจให้สงบค่ะ...) การเดินทางทำบุญวันนี้สนุกมาก...แม้แดดจะร้อน แต่รู้สึกเย็นในใจ...หากใครจะนำโปรแกรมแบบเราไปใช้ ขอให้สนุก...และอิ่มบุญนะคะ (ตอนนี้มีวัดหลายแห่งทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ มีผ้าใบเขียวๆ นั่งร้านเต็มไปหมด...ว่าจะเก็บรูปมาให้ดู แต่ว่ามันไม่ถูกใจเลยอ่ะ)
Create Date : 03 เมษายน 2550 |
Last Update : 3 เมษายน 2550 18:48:25 น. |
|
4 comments
|
Counter : 947 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:19:41:35 น. |
|
|
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:20:23:22 น. |
|
|
|
โดย: Yoawarat วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:22:06:36 น. |
|
|
|
โดย: umi_chan (umi_chan_2 ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:12:34:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
|
ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพและงานเขียนที่ปรากฏในเวบไซด์แห่งนี้ เป็นลิขสิทธิ์แต่ผู้เดียวของ oanotai ห้ามมิให้กระทำการดัดแปลง แก้ไข และลอกเลียนแบบ หรือนำไปแอบอ้างเป็นผลงานของตน ตลอดจนนำออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือ นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ
|
|
|
|
|
|
|
สดชื่นสดใส สุขใจ อิ่มบุญ สาธุด้วยคนค่ะ