Group Blog
 
 
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ทัวร์ละไมวัดไทย ๙ วัดในกทม.

ทัวร์ ๙ วัดเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่เพิ่งจะฮิตติดลมบนเมื่อไม่นานมานี้เอง เราเป็นคนหนึ่งที่เกาะกระแสการทำบุญแล้วก็ได้เที่ยวไปในตัว ทัวร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ แล้ว แต่ในทัวร์ครั้งแรกนั้นเราไปไม่ถึง ๙ วัด เพราะดันไปช่วงเทศกาลปีใหม่ คนมากมายหลั่งไหลจากทั่วสารทิศพร้อมใจกันมาทำบุญ ทำให้แต่ละวัดเต็มไปด้วยคน คน คนและคน แออัดเบียดเสียด ทำให้อารมณ์ของเราเริ่มไม่ปกติ ความหงุดหงิดเข้ามาแทรกเหมือนมีมารผจญ เลยตั้งใจไว้ว่าคราวหลังจะมาทัวร์ช่วงนอกเทศกาลจะดีกว่า
มาครั้งนี้ (๓ เม.ย.๕๐) เป็นวันที่เราออกทัวร์บุญอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจมากกกกก....การเดินทางเริ่มจากท่าเรือผ่านฟ้าตอน ๘.๐๐ น. ด้วยความที่เงอะๆงะ จึงเรียกคุณน้าตุ๊กตุ๊ก...ไปวัดบวรฯ ๔๐ บาท (ลองต่อให้เหลือ ๓๙ ก็ได้...) พอไปถึง...กะระยะทางดูแล้ว...เดินเอาก็ได้ ถ้าอยากออกกำลังกาย
วัดแรก: วัดบวรนิเวศวิหาร
ไปถึงปุ๊ป...พระท่านทำวัตรเช้าพอดี...เราเลยนั่งสวดมนต์นอกพระอุโบสถ ขอให้บรรเทาเคราะห์ภัย หากใครไปเช้าๆ ไปนั่งสมาธิข้างในก็ได้ เย็นสบายดี
จากนั้นเดินทะลุถนนข้าวสาร ปากก็ถามทางแม่ค้าแผงลอยแถวนั้น ถึงวัดที่เป็นเป้าหมายต่อไป...วัดชนะสงคราม...เดินเอาไม่ไกลเท่าไร
วัดแห่งที่๒ : วัดชนะสงคราม
ว่านโมฯ ๓ จบ ต่อด้วย “พระนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะ ชยันตะโคดม บรมศาสดา อนาวรญาณ” เราขอพรให้มีชัยต่ออุปสรรค ทำการสิ่งใดขอให้สำเร็จ...ทำบุญสังฆทาน พระท่านก็พรมน้ำมนต์ให้เป็นศิริมงคล
ตอนนี้ใช้บริการรถตุ๊กๆ ไปวัดสุทัศน์ฯ (๓๐ บาท) วิ่งหัวปลิว....ววววว ผมกระจายยยย ระหว่างทางผ่านศาลเจ้าพ่อเสือ...เลยหมายตาไว้เป็นที่ต่อไป
วัดแห่งที่ ๓: วัดสุทัศน์เทพวราราม
ทำบุญดอกไม้ ธูป เทียนในวัด เข้าไปกราบในพระอุโบสถ เราชอบจังเวลาเข้าไปข้างใน...อากาศเย็นสบาย สงบดี...ว่านโม ๓ จบ สวดบทชินบัญชร... นั่งสมาธิต่ออีกหน่อย...สบายจายยยย
ที่หมายตาไว้ตอนนั่งตุ๊กๆ จำทางได้ เลยใช้ ๒ ขานี่แหละเดิน...ต้องใช้ความระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะทางเท้ามีแค่แมวดิ้นตาย แต่เดินเรียงเดี่ยวเท่านั้น ระวังรถที่วิ่งด้วย ใครสะพายกระเป๋าก็ต้องระวัง อย่ามัวเดินเพลิน...จะโดนกระชากไม่รู้ตัว
วัดแห่งที่ ๔ : ศาลเจ้าพ่อเสือ
เข้าไปปุ๊ป...ยืนงงๆเอ๋อๆ ทำอะไรไม่ถูก ถามไถ่เจ้าหน้าที่เอา...ซื้อธูปเทียน ๑ ชุด ให้ไหว้จากข้างนอกเข้าไปข้างใน (ข้างนอก ๓ จุด และข้างในอีก ๓ จุด รวมธูป ๑๘ ดอก) มีให้ซื้อเครื่องเซ่นไหว้...แล้วแต่ใครอยากจะทำ ถามเจ้าหน้าที่เอานะ...หากไปช่วงเทศกาล ควันธูปจะเยอะมาก...ใครไปก็ระวังหน่อยนะ เวลาจุดธูปเสร็จให้ชูขึ้นสูงๆ ถือเตี้ยๆจะไปจี้หลังคนข้างหน้าเป็นรู กึ้ยย...ยย
จากนั้นก็เดินอีก...ไปศาลหลักเมืองค่ะ...ถามทางจากเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าพ่อเสือ...เขาทำหน้าประมาณว่า “ไกลนะหนู...ไหวเหรอ นั่งตุ๊กๆเอาก็ ๓๐ บาทแหนะ” เอ...ตกลงเดินเอาดีไหมเนี่ย..สรุปก็คือเดินค่ะ...ออกกำลังสุดๆ เดินวันละ ๒๐๐ ก้าวดีต่อสุขภาพนะเออ...
วัดแห่งที่ ๕: ศาลหลักเมือง
เดินทะลุออกมาด้านข้างของกระทรวงกลาโหม เลี้ยวเข้าประตูศาลหลักเมือง เจอคนขายดอกไม้ประชิดตัว ทำเอาตกใจ...”น้อง...ดอกไม้ไหม ๑๐ บาท มาสดๆไม่มีเวียน ข้างใน ๕๕ นะคะน้อง” แต่เรา...ไม่เอาค่ะ...แฮ่
เข้าไปซื้อชุดไหว้ ๑ ชุด ๕๕ บาท ตามที่ป้าขายดอกไม้ข้างนอกบอกเป๊ะๆ แต่ใน ๑ ชุดนั้นมีดอกไม้ พวงมาลัย ผ้าแพร ธูป เทียน แผ่นทอง และน้ำมัน
เราไหว้องค์หลักเมืองจำลองข้างนอกก่อน จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ แปะทอง พันผ้าแพร และเสี่ยงเซียมซี ได้ใบไม่ดีก็คืน....จากนั้นนำพวงมาลัย ไปไหว้องค์หลักเมืององค์จริงด้านใน ออกมาทำบุญสะเดาะเคราะห์น้ำมันตะเกียงตามวันเกิด
ศาลหลักเมืองมีการเสี่ยงทายอุ้มองค์พระ...แต่เราไม่ได้ลอง...ใครสนใจเชิญได้
เดินข้ามถนนอีกหน่อย....แดดเริ่มร้อน นักท่องเที่ยวเริ่มมาก ขาเริ่มล้า แต่ยังเต็มร้อย...
วัดแห่งที่ ๖: วัดพระแก้ว
เอ่อ...พุทธศาสนิกชนทั้งหลายค่ะ...กรุณาแต่งตัวให้เรียบร้อยนะคะ พวกสายเดี่ยวเสียวหลุด กางเกงขาสั้น สามส่วน อดเข้านะคะ...ใครเผลอใส่กางเกงขาสั้นโชว์ต้นขาบวกผิวส้ม ต้องนุ่งผ้าถุงที่ทางวัดจัดให้เข้าไปนะคะ...อันที่จริง เราคนไทยน่าจะรู้นะว่าการแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะเป็นอย่างไร...ไม่เห็นต้องให้บอกเลยเนอะ
รู้สึกภูมิใจ...ยืดๆ เพราะเดินเข้าช่องสำหรับคนไทย ไม่ต้องต่อแถวเหมือนคนต่างชาติ โอยรู้สึก VIP ยังไงก็ไม่รู้ ฮิฮิ
พอเข้าไปข้างใน จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงามขององค์พระแก้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า “คนไทยเชิญด้านหน้าเลยครับ” เราเลยเดินก้มๆ ผ่านนักท่องเที่ยวไปนั่งจุมปุ้กอยู่ข้างหน้า กราบเบญจางคประดิษฐ์งามๆ โชว์ซะ โอย...ภูมิใจจริงจริ๊ง...งง....”ขอให้ร่ำรวยเงินทอง”
ออกมาเอาดอกบัวจุมน้ำมนต์พรมที่หัวหน่อย...ตั้งจิตให้มั่น เพราะนักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ
เอาล่ะ....ไปต่อโลด เดินข้ามถนนหน้าพระลาน ไปท่าช้าง ใช้บริการเรือข้ามฟาก ๓ บาท ไปวัดระฆัง
วัดแห่งที่ ๗: วัดระฆัง
ระยะทางเดินเข้าวัด...เต็มไปด้วยปลา นก เต่า หอย รอผู้ใจบุญ...แต่ให้เดินผ่านมาก่อนนะ เพราะเราคิดว่าปลาต่างๆ เช่น ปลาไหล ลูกปลาต่างๆ ไม่เหมาะกับการนำมาปล่อยที่แม่น้ำใหญ่ๆ แล้วถ้าซื้อ พอนำมาปล่อยจะเจอฝูงปลาสวายมากมาย จนอดคิดไม่ได้ว่าปลาเล็กปลาน้อยทั้งหลายที่ปล่อยลงไปนั้น จะโดนปลาใหญ่งาบเอาหรือเปล่านอ...
เข้ามาในวัด เหลือบมาห้องทางซ้ายมือ เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ก่อนเข้าบริจาคซื้อหมากพลูตามศรัทธา ถือจานเข้าไป ข้างในมีแผ่นบทสวดชินบัญชรให้สวด เอามา ๑ แผ่น นั่งหลบๆมุม ค่อยๆสวดมนต์ บริจาคเงินแผ่นทอง ได้มา ๓ แผ่น มาแปะที่องค์หลวงพ่อโต ก่อนออกนำบทสวดไปวางที่เดิม
ทำบุญน้ำมัน ๒๐ บาท สวดบทประจำวัดเกิด มีป้ายให้อ่าน สวดตามโลด...ตักน้ำมนต์ใส่ถุง (วัดมีถุงให้ด้วย) เอากลับไปฝากคนที่บ้าน....
นั่งเรือข้ามฟากกลับมาท่าช้าง เดินต่อไปเรื่อยๆ...ยังวัดแห่งที่ ๘
วัดแห่งที่ ๘: วัดโพธิ์
วัดที่มีพระนอนใหญ่ที่สุด...จุดธูปเทียนไหว้ข้างนอกก่อน แล้วเดินเข้าไปชมองค์พระข้างใน มีตักบาตรเหรียญ บริจาค ๒๐ บาท
ใครขี้เมื่อย มีบริการนวดแผนไทย สบายๆ
นั่งรถเมล์สาย ๔๔ หรือ ๔๗ ก็ได้ ประหยัดดี มายังวัดแห่งสุดท้าย....
วัดแห่งที่ ๙: วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)
แนะนำว่า หากใครคิดจะเดินทางแบบเรา ที่เริ่มจากท่าเรือผ่านฟ้า ให้แวะที่นี่เป็นแห่งแรกในตอนเช้าดีกว่า เพราะแดดยังไม่แรงมาก เผอิญเราคิดมาแห่งนี้เป็นที่สุดท้ายเพราะเห็นว่าใกล้ท่าเรือเก็บไว้ที่สุดท้าย จะได้ขึ้นเรือกลับเลย เนื่องจากพอเดินขึ้นบันไดไปแล้วถึงข้างบน กระเบื้องโดนแดดตอนบ่ายๆ แผ่นกระเบื้องร้อนมากๆ เดินแล้วเท้าจะพองค่ะ ตอนแรกกะว่าจะเดินวนรอบพระเจดีย์สัก ๓ รอบ แต่ได้แค่รอบเดียว เพราะแสบเท้ามากเลยค่ะ แถมตอนจะลงประตูทางลงอยู่อีกมุมนึง ต้องกระโดดกระย่องกระแย่ง อูย...ยยยย
ก่อนจะเดินขึ้นไปวนพระเจดีย์ ไหว้พระบรมสารีริกธาตุก่อนนำแผ่นทองไปปิด แล้วค่อยเดินขึ้นต่อนะ....ตอนเราไหว้อยู่ มีกลุ่มเด็กๆ กลุ่มใหญ่มากกกกกกก...ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวน่าดู...แต่ต้องทำใจให้สงบสวดมนต์ต่อค่ะ....(แล้วเด็กกลุ่มเดิมนี่แหละ ไปวิ่งสไลด์กันไปมา รอบพระเจดีย์...ทำใจให้สงบค่ะ...)
การเดินทางทำบุญวันนี้สนุกมาก...แม้แดดจะร้อน แต่รู้สึกเย็นในใจ...หากใครจะนำโปรแกรมแบบเราไปใช้ ขอให้สนุก...และอิ่มบุญนะคะ (ตอนนี้มีวัดหลายแห่งทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ มีผ้าใบเขียวๆ นั่งร้านเต็มไปหมด...ว่าจะเก็บรูปมาให้ดู แต่ว่ามันไม่ถูกใจเลยอ่ะ)



Create Date : 03 เมษายน 2550
Last Update : 3 เมษายน 2550 18:48:25 น. 4 comments
Counter : 947 Pageviews.

 
ดีจังเลยค่ะ ไปทำบุญ 9 วัด

สดชื่นสดใส สุขใจ อิ่มบุญ สาธุด้วยคนค่ะ


โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:19:41:35 น.  

 
ดีจังคับ...อยากไปบ้าง


โดย: Kurt Narris วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:20:23:22 น.  

 
คนนิยมไหว้พระ9วันในวันเดียวแยะเลย
ผมก็เคยทำมาสถิติ เริ่มแปดโมงครึ่ง ที่หลักเมือง เสร็จวัดสุดท้ายวัดสระเกตุ เวลา บ่ายสี่พอดี เหนื่อยเพราะตั้งมั่นกันไว้กะพวกว่าวัดสุดท้ายต้องเดินขึ้นภูเขาทองไหว้พระบรมธาตุ จึงเหนื่อยแต่บายใจจิงๆ......


โดย: Yoawarat วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:22:06:36 น.  

 
อยากไปทำบุญมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาศได้ไปซักที


โดย: umi_chan (umi_chan_2 ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:12:34:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

oanotai
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพและงานเขียนที่ปรากฏในเวบไซด์แห่งนี้
เป็นลิขสิทธิ์แต่ผู้เดียวของ oanotai
ห้ามมิให้กระทำการดัดแปลง แก้ไข และลอกเลียนแบบ
หรือนำไปแอบอ้างเป็นผลงานของตน
ตลอดจนนำออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือ
นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ






Friends' blogs
[Add oanotai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.