|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไป (ต่อ) ก็ยังไม่ถึงญี่ปุ่น
ถ้าทางจะเป็น blog series ดองยาว กว่าจะได้ up แต่ละทีเพื่อน ๆ คงจะลืมกันไปเลย (สงสัยเพราะตั้งชื่อได้เป็นมงคลมาก ไม่ถึงจุดหมายซะทีเรา )
ความเดิมตอนที่แล้ว....ว่าด้วยเรื่องของโอวาคุดานิ ซึ่งเหมือนกลัวว่าเราจะลืมชื่อนี้ เขาเลยมีตราประทับวางไว้ คล้าย ๆ ตราประทับสะสมของอุทยานแห่งชาติบ้านเรา
ไม่รู้ว่าปรกติเขาเอาตรานี้ประทับลงในอะไรกัน เราหันซ้ายหันขวาไม่เจออะไรที่ดีกว่าหนังสือ After the Quake ที่พกมาและพยายามจะเอามาอ่านระหว่างเดินทาง (แต่ไม่ประสบความสำเร็จ) เลยเป็นที่ประทับตราโอวาคุดานิของเราไป แป๊ะไปเสร็จ อ้าว กลับหัว
ไปจากที่นี่ซะทีดีกว่า ระหว่างทางที่เราจะไปยังจุดหมายต่อไปคือ ไปล่องเรือที่ทะเลสาบอาชิ รถขับผ่านจุดที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ที่ทำให้เรามั่นใจว่า เรามาถึงญี่ปุ่นชัวร์แน่แล้ว
ช่างเป็นภูเขาที่สวยงามได้รูปทรงภูเขาแท้ ๆ แบบที่เราชอบวาดตอนเด็ก ๆ ซะจริง ๆ ความรู้สึกที่เห็นตั้งแต่นั่งอยู่ในรถ เหมือนความรู้สึกตอนที่ไปทะเลครั้งแรก แล้วมองเห็นทะเลอยู่ไกล ๆ นั่นไงๆ ทะเล ทะเล เย้ เย้ ถึงแล้ว ความรู้สึกตื่นเต้นเดียวกันเลย ขนาดคนที่เคยมาแล้วยังแอบชะเง้อชะแง้ดูไปกับเรา
ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ สูงประมาณเกือบ 4 พันเมตร (อินทนนท์ต่อกัน 2 ลูก) รถนักท่องเที่ยวจะขึ้นไปได้ถึงบริเวณครึ่งนึงคือประมาณที่ 2 พันเมตรหรือเรียกว่าชั้น 5 จากนั้นก็ตัวใครตัวไผ ใครอยากไปต่อก็เชิญปีนขึ้นเองตามสบาย (เคยมีญาติของเพื่อนไปปีนจนเกือบสุดมาแล้ว เขาบอกว่าข้างบนมีที่พักให้ด้วยนะ แต่ต้องยอมโดนฝุ่นเขม่าดำที่มาจากปล่องภูเขาไฟ เนื้อตัวจะเละนิดนึง)
ว่ากันว่า วิธีการชมฟูจิวิธีที่เริ่ดที่สุดวิธีหนึ่ง คือการนั่งชินคันเซนขบวนที่ผ่านภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะวิ่งผ่านและสามารถเห็นตั้งแต่ปลายฐานด้านหนึ่งไปจนสุดอีกด้านหนึ่งอย่างชัดเจน แต่เขาจำรายละเอียดไม่ได้ว่าต้องนั่งขบวนอะไรจากไหนไปไหน กะว่าไว้ได้ไปอีก จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติม (และหาตังค์เพิ่ม เพราะค่ารถไฟแพงมั่ก ๆ 4 พันกว่าบาทต่อเที่ยวโดยประมาณ)
และแล้วก็มาถึงทะเลสาบอาชิ ซึ่งเป็นที่ที่เราจะไปลงเรือเพื่อชมความงามของวนอุทยานฮาโกเน่
เรือท่องเที่ยวหน้าตาค่อนข้างลิเก มีคณะทัวร์ทั้งไทย (ก็คือพวกเรา) ญี่ปุ่น และจีนมาร่วมกันลงเรือเดียวกัน โดยมิได้นัดหมาย และไม่มีใครสนใจใคร เพราะมัวแต่ถ่ายรูปกันจ้าละหวั่น ใครยกกล้องขึ้นมาที จะมีคนแห่กันวิ่งไปอยู่หน้ากล้องโดยไม่ต้องเสียแรงเรียก (น่ากลัวมาก ๆ บริษัทนี้ )
ล่องเรือไปสักพัก ก็พบกับโทริสีแดงตั้งเด่นอยู่ไกล ๆ....ไกลจริง ๆ ถ่ายรูปแทบจะไม่ได้ เซ็งจิตชะมัดที่ต้องชื่นชมกันแบบไกล ๆ ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้ เพราะบริเวณนั้นพื้นใต้น้ำตื้น เรือไม่สามารถเข้าได้
โทริ หรือ ประตูโทริ คือทางเข้าของเทพเจ้า เป็นทางผ่านจากแดนมนุษย์ไปสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือศาลเจ้านั่นเอง อ่า มิน่า พวกมนุษย์บาปหนาอย่างบริษัทเราถึงเข้าไปใกล้ไม่ได้
ที่มาที่ไปของประตูโทรินี้ ตำนานญี่ปุ่นเล่าว่า เทพอะมาเตราสุ ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ เกิดนึกรำคาญน้องชายกวนประสาทของเธอ (เย้ เหมือนเราตอนนี้เลย) เลยหนีไปหลบอยู่ในถ้ำ แล้วเอาหินยักษ์มาปิดหน้าถ้ำพลางตัวไว้ ทำให้เกิดสุริยุปราคา ทั่วทั้งเมืองมืดมิด ผู้คนเริ่มกังวลว่าเธอจะไปแล้วไปลับ ไม่ยอมกลับออกมา ทีนี้ล่ะจะเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ทำไงดี
โชคดีที่เมืองนี้มีปราชญ์เฒ่า ซึ่งชี้แนะว่า ให้สร้างที่สำหรับนกเกาะ มีลักษณะเป็นเสาไม้ 2 ต้นและมีคานอยู่ด้านบนไว้ด้านหน้าถ้ำที่เทพอาทิตย์ซ่อนตัวอยู่ จากนั้นให้นำสัตว์ปีกทั่วทั้งเมืองไปปล่อยให้ยืนเกาะกันบนคานนั้น พอเจ้าพวกเป็ดไก่มาอยู่รวมกัน ก็ส่งเสียงดังช้งเช้ง สร้างความอยากรู้อยากเห็นให้คุณเทพฯ มาก จนต้องขยับหินออกเพื่อแอบดู (เอ๊ะ คุณเทพฯ นี่มีเชื้อไทยหรือเปล่า )
ลง lock ปราชญ์เฒ่า ซูโม่ยักษ์เข้าซีน เมื่อเห็นหินขยับออก ซูโม่ซึ่งซุ่มรออยู่แล้ว วิ่งเข้าไปผลักหินใหญ่ไปไกล ๆ ทำให้เทพอาทิตย์ต้องหลุดออกมาฉายส่องตามเดิม (อย่างเสียไม่ได้ หึ ๆ เสียรู้พวกมนุษย์ ) โลกจึงปลอดภัย และโทริก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองสืบแต่นั้นมา เย้
เพ้อไปได้สักพักก็ถึงฝั่ง
ลงเรือที่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ บริเวณท่าเรือมีร้านขายของฝากที่ระลึกและมีร้านค้าแบบญี่ปุ่น ๆ ฮาโกเน่เป็นเสมือนเมืองตากอากาศของญี่ปุ่น จึงมีบรรยากาศสวยงามแบบสงบ และน่าอยู่
I Love Hakone jung leyyyy
ร้านทำผมแบบญี่ปุ่นชนบท (จริง ๆ ก็คล้ายบ้านเราเนอะ)
คืนแรกเราพักกันที่โรงแรมที่มีออนเซน
ออนเซน หรือการอาบน้ำแร่ เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายสำหรับชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย ความจริงการอาบน้ำน่าจะเป็นกิจกรรมส่วนบุคคล เป็นการอาบน้ำแร่นี่กลับเป็นกิจกรรมที่เขาทำร่วมกัน หรือพูดง่าย ๆ อาบน้ำรวมกัน
ส่วนใหญ่รวมทั้งที่นี่จะเป็นการอาบน้ำรวมแบบแยกชายหญิง (555 ผิดหวัง) โดยที่คนที่เข้าไปจะต้องถอดเสื้อผ้าหมดทุกชิ้น โดยจากห้องแต่งตัวไปที่บ่อออนเซนจะห่างกันประมาณร้อยเมตร ซึ่งเป็นระยะมีลุ้น เขาจะมีผ้าผืนเล็ก ๆ กว้างประมาณคืบหนึ่งให้ ผ้านี้แหละที่จะช่วยเราได้ในระยะร้อยเมตรอันตรายนั้น (เพราะพอลงน้ำแล้วก็จะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เหมือนให้น้ำบัง) ผู้ชายจะได้เปรียบกว่าเพราะมีจุดไคลแม็กซ์แค่จุดเดียว แต่ผู้หญิงนี่ดิ ต้องเลือกเอาว่าจะใช้ผ้าผืนนั้นปิดจุดไหน
อันที่จริงถ้าต้องอาบน้ำรวมกับคนแปลกหน้าก็คงไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าอาบกับคนรู้จักกัน และอาบน้ำกับเพศเดียวกันจริง ๆ บางคนคงคิดว่าก็ไม่เห็นเป็นไร มีอะไรก็มีเหมือน ๆ กัน ไม่นับเรื่องคุณลักษณะ แต่บริษัทเราครึ่งนึงจะเป็นแบบเพศเดียวกันแค่ภายนอก เพราะฉะนั้น เมื่อเพื่อนเกย์สาวของเราเข้าไปในออนเซนแล้วเจอกลุ่มชายแท้ จึงรู้สึกเหมือน ได้ แต่เพื่อนชายแท้ของเราที่พอเห็นเพื่อนเกย์เดินมาก็รีบก้มหน้างุด ๆ จะรู้สึกว่าพวกมันได้ เสีย พรหมจรรย์ให้กับเกย์สาวของเราแล้ว (กรุณานึกถึงภาพที่ทั้งคู่ตื่นมาบนเตียงตอนเช้า เกย์สาวนั่งดูดบุหรี่ปุ๋ย ๆ สบายใจ ส่วนชายแท้นอนร้องไห้กระซิก ๆ )
ที่โรงแรมนี้มีชุดยูกาตะให้แขกทุกคนใส่มาเดินเฉิดฉายในโรงแรม
วิธีใส่ยูกาตะต้องเอาซ้ายทับขวา เรื่องนี้ต้องจำไว้ให้มั่น คนญี่ปุ่นถือมากต้องใส่ให้ถูกต้อง เพราะถ้าขวาทับซ้ายเมื่อไหร่ คือการใส่ในพิธีงานศพ
โชคดีที่มีชุดนี้ให้ พอดีเข้ากับ theme งานแฟนซีที่บริษัทเราจัดในคืนนั้น โดยกำหนดให้ทุกคนแต่งแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น (โจทย์ยากมาก) บางคนบอกว่าแค่หน้าหนูก็กินขาดแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ อ้างแบบนี้ถือว่าผิดกฎ จริง ๆ ก็ไม่ต้องทำไรมากหรอก แค่ใส่ชุดยูกาตะที่โรงแรมให้ก็ผ่านเข้างานได้ แต่ถ้าใครอยากได้รางวัล ต้องแต่งแบบให้คนญี่ปุ่นอาย (แทน) ไปเลย
อันนี้เป็นตัวอย่างของกลุ่มที่ได้รางวัล (จริง ๆ คือได้รางวัลทุกคนแหละ ว้า โดนกรรมการหลอก) เราไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้หรอก ชุดกลุ่มเราน่ารักกว่านี้เยอะ อิอิ
ผ่านไป 2 ตอนแล้ว ยังไปไม่ถึงโตเกียวเลยนะเนี่ย (ถ้าไม่นับตอนมาถึงที่สนามบินนาริตะ) เล่าได้อืดมาก แต่ตอนหน้าหวังว่าคงก้าวยาวกว่านี้ (และอัพเร็วกว่านี้ )
The Wind by Cat Stevens
Create Date : 03 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2549 20:38:35 น. |
|
39 comments
|
Counter : 2986 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:19:41:08 น. |
|
|
|
โดย: Malee30 วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:20:51:57 น. |
|
|
|
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:21:05:46 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:21:25:11 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:21:42:11 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:23:33:43 น. |
|
|
|
โดย: rayasuree (Jeab) (rayasuree ) วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:23:56:58 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:0:50:38 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:0:55:39 น. |
|
|
|
โดย: StrayBird วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:13:15:54 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:15:27:23 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:0:59:58 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:17:01:16 น. |
|
|
|
โดย: สะเทื้อน วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:17:37:54 น. |
|
|
|
โดย: สะเทื้อน วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:17:42:49 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:20:48:17 น. |
|
|
|
โดย: สะเทื้อน วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:8:16:55 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:9:07:18 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:13:35:01 น. |
|
|
|
โดย: hunjang วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:8:04:38 น. |
|
|
|
โดย: สะเทื้อน วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:8:42:13 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:12:53:23 น. |
|
|
|
โดย: บิกวอร์ (bigwores ) วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:17:32:59 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:7:09:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ปล. ว่างๆ ไปฟังเพลงทำนองเพราะ แต่เนื้อหาแรงอย่างยิ่งได้ที่บล็อกผมเสมอนะครับ