|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องอ่านเล่น กับ 'ปราย พันแสง
Some see the glass as half-empty, some see the glass as half-full. I see the glass as too big. George Carlin เรื่องอ่านเล่น โดย ปราย พันแสง
ข้อดีหลัก ๆ ข้อหนึ่งของ bloggang รวมถึงโครงการ LIF คือการได้เปิดโลกทัศน์ ทั้งโลกใหม่ที่ไม่เคยเห็น โลกเก่าที่เราเคยผ่าน หรือโลกเดิมในมุมที่เปลี่ยนไป
หนังสือเล่มนี้ก็เหมือนกัน เรื่องอ่านเล่น ที่ยืมมาจากคุณพุดน้ำบุศย์ อ่านแล้วก็ทำให้เราได้ขุดอดีตขึ้นมาอีกครั้ง อดีตนั้นได้แก่...
ตัวนักเขียนคุณ ปราย พันแสง รู้จักเธอครั้งแรกในมติชนสุดสัปดาห์ เป็นหนึ่งในคอลัมน์ที่อ่านประจำ (พูดถึงแล้วก็รักนิตยสารเล่มนี้จริง ๆ เลย เพราะมีนิตยสารอยู่ไม่กี่เล่มในประวัติศาสตร์การอ่านของเราที่รู้ว่าเปิดมาปุ๊บจะไปคอลัมน์ไหนบ้าง เดี๋ยวนี้อ่านแบบสะเปะสะปะ เปิดไปเรื่อย)
ตอนนั้นคอลัมน์ของเธอเหมือนเป็นไกด์นำทาง จะอ่านหนังสือเล่มไหนดี หนังเรื่องไหนน่าดูบ้าง หรือเพลงอะไรที่ให้ความหมายดี ๆ
แต่ช่วงใหญ่ ๆ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ติดตาม (หลัง ๆ ไม่ค่อยได้อ่านมติชนสุดฯ แล้วด้วย) จนกระทั่งได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และกลับไปค้นหาสิ่งที่พลาดไปกับเธอ จนเจอ blog ของคุณ ปราย ที่นี่
จริง ๆ ในหนังสืออ้างอิงถึงเว็บ www.bookcyber.com ซึ่งเหมือนแต่ก่อนเป็นเว็บปักหลักของ 'ปราย แต่ไม่รู้ยังไง เราหาเธอไม่เจอ ไป blog เธอเลยง่ายกว่า
Blog ของเธออ่านเพลินเหมือนอ่าน เรื่องอ่านเล่น เหมือนนั่งคุยกับเพื่อนที่รอบรู้และมีมุมมองเฉพาะตัว เธอยังทำหน้าที่ไกด์บันเทิงได้เป็นอย่างดี ยิ่งอ่านยิ่งเพลินและยิ่งชอบเธอมากขึ้นทุกที....
ความหลังอีกอย่างหนึ่งที่นึกออกเมื่ออ่านเล่มนี้จบ คือการจด ตอนเด็ก ๆ เวลาอ่านหนังสือเล่มไหน จะชอบจดประโยค หรือคำพูดที่โดนใจสะสมไว้ในสมุดบันทึก เวลาผ่านไปนาน ๆ กลับไปเปิดอ่านแล้วเพลินชะมัด เหมือนนั่งดูสิ่งที่เราคิดและรู้สึกในช่วงเวลาที่ผ่านมา บางความคิดก็เหมือนเดิม แต่กับเรื่องเดิม ๆ บางเรื่อง ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป
เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะไม่ค่อยมีเวลามากพอจะมานั่งจดอะไรแบบนี้ และส่วนใหญ่มีอะไรจะพิมพ์ลงคอม พิมพ์ลง blog เนี่ยแหละ เคยพยายามนั่งนึกว่าครั้งสุดท้ายที่เขียนอะไรยาว ๆ ลงในกระดาษ มันนานแค่ไหนแล้ว
จนพอได้อ่านเล่มนี้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือ อยากเขียนประโยคดี ๆ สวย ๆ ลงในสมุดบันทึกจัง ว่าแล้วเราก็หาสมุดบันทึกมานั่งจด ๆๆๆ ซึ่งที่เป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ ปราย จะหาประโยคเด็ดที่โดนใจมาแทรกไว้ในทุกบททุกตอนที่เธอเขียน สร้างแรงบันดาลใจในการลอกเก็บไว้ได้เป็นอย่างดี
ว่ากันถึงตัวหนังสือ เรื่องอ่านเล่น ส่วนที่ชอบจะอยู่ที่ 75% แรกของเล่ม ส่วน 25% หลังนั้นส่วนใหญ่เป็นกระทู้ บางข้อความก็เคยผ่านตาทาง forward mail เลยรู้สึกเฉย ๆ
ตอนที่ชอบเป็นพิเศษคือ สามสิ่งในชีวิตที่ไม่ควรปล่อยให้แตกหัก คุณ ปราย อ่านเจอมาว่า มีอยู่สามสิ่งในชีวิตที่เราต้องคอยระวังไม่ให้แตกหัก คือ ของเล่น หัวใจและคำมั่นสัญญา สองอย่างหลังเป็นอันเข้าใจ แต่อย่างแรกนี่สิ งงๆ เลยต้องมีการตีความ ซึ่งก็ได้เห็นมุมมองหลาย ๆ แนว อันสุดท้ายถูกใจคุณ ปราย ที่สุดและถูกใจเราเช่นกัน
เขาบอกว่า ของเล่น เป็นสิ่งที่คนอื่นให้เรา ส่วน หัวใจ เป็นของเรา และ คำมั่นสัญญา เป็นสิ่งที่เราให้กับคนอื่น ซึ่งแต่ละสิ่งเป็นพันธะสัญญาเหมือนกัน อาจจะแตกต่างกันที่วุฒิภาวะเท่านั้น
ตอนเราเป็นเด็ก ได้รับของเล่นเป็นพื้นฐานแรกของการฝึกความรับผิดชอบ ถ้าเรารักษาไว้ได้ วันข้างหน้า เราก็จะระวังรักษาหัวใจไว้ได้
สำคัญที่สุดก็คือ...ถ้าเรารักษาหัวใจไว้ได้อีก เราก็จะสามารถรักษาคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้กับคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน
อีกอันที่ชอบมากคือตอนที่พูดถึงหนังสือ How It Begins and How It Ends? ซึ่งเป็นเรื่องสั้นที่พูดถึงผู้ชายคนนึงที่ไม่เคยได้ดูละครเวทีจนจบ จะขาดไป 10 นาทีสุดท้ายเสมอ เป็นความรันทดอย่างหนึ่งของเขาที่ไม่เคยรู้ว่า โอดิปุส ได้สารภาพความผิดร้ายกาจในตอนจบหรือเปล่า ส่วน ออสวัลด์ อัลวิงค์ หายจากโรคเพราะยาเพนนิซิลินหรือไม่ แฮมเล็ตล่ะ ได้ค้นพบว่า เป็น ดีกว่า ไม่เป็นอย่างไร (555 เราก็ไม่รู้อะ แต่ไม่รู้สึกรันทดเพราะไม่เคยดูเลย)
จนวันหนึ่ง เขามาเจอเพื่อนคนนึงที่ทรมานด้วยโรคของ ความไม่รู้ เช่นกัน แต่เป็นความไม่รู้ในสิ่งตรงข้าม คือเพื่อนไม่เคยได้ดูละครตอนเริ่มเรื่องเลย เพื่อนได้ดูคิงส์เลียซึ่งตาบอดและคลุ้มคลั่งตอนที่กำลังโอบนางคอร์ดีอยู่ในวงแขน แต่ไม่มีวันรู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า 2 คนนี้เป็น soul mate กันอย่างแท้จริง พวกเขามีเรื่องพูดคุยกันได้ตลอดทั้งชีวิต และเรื่องที่อีกฝ่ายคุยให้ฟังก็เป็นเรื่องที่แปลกใหม่เสมอสำหรับอีกคนหนึ่ง
ชอบมากตอนนี้ อ่านแล้วอยากไปหาต้นฉบับมาอ่าน (ทั้ง ๆ ที่รู้เรื่องหมดแล้ว)
สรุป "เรื่องอ่านเล่น" เล่มนี้ทำให้เราเกิดการกระทำบางอย่าง (ค้นหาและคัดลอก) และทำให้รู้จักอะไรใหม่ ๆ อีกไม่น้อย
ขอบคุณเจ้าของ (คุณพุดน้ำบุศย์) อีกทีละกันค่ะ เดี๋ยวจะเอาไปคืนละ
Create Date : 19 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 19 ตุลาคม 2549 13:55:17 น. |
|
33 comments
|
Counter : 965 Pageviews. |
|
|
|
โดย: PANDIN วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:10:52:31 น. |
|
|
|
โดย: Fay (ibafay ) วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:13:41:56 น. |
|
|
|
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:13:44:31 น. |
|
|
|
โดย: Malee30 วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:14:22:11 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:16:47:42 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:17:17:49 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:20:59:28 น. |
|
|
|
โดย: Dark Secret วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:22:40:25 น. |
|
|
|
โดย: จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก >>>>>>>>>>>> (renton_renton ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:0:11:26 น. |
|
|
|
โดย: grappa IP: 58.9.185.34 วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:6:19:28 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:6:37:57 น. |
|
|
|
โดย: สะเทื้อน วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:7:11:14 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:7:39:19 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:12:58:33 น. |
|
|
|
โดย: Fay (ibafay ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:16:40:12 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:16:50:31 น. |
|
|
|
โดย: ไอ้คนนี้ที่ซื้อเล่มแปลไทยมาอ่าน ---------- > (renton_renton ) วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:0:59:12 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:7:48:32 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า IP: 203.170.228.172 วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:8:22:36 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:12:35:31 น. |
|
|
|
โดย: keyzer วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:15:58:39 น. |
|
|
|
โดย: StrayBird วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:19:21:58 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:21:46:38 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:44:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|