จอมคนแผ่นดินเดือด

หลังจากสติแตกไปสองสามวัน มาวันนี้ได้รับฟังความคิดเห็นทั้งจากรุ่นน้อง เพื่อน และพี่ๆอีกหลายคน ก็ต้องขอบคุณมากๆนะคะ มันอาจจะเป็นปัญหาโง่ๆที่เราบ้าไปจินตนาการไปก่อนก็ตามทีน่ะค่ะ แต่หลายๆคนก็ยังให้คำปรึกษาอย่างใจเย็น ทำให้ตัวไกลนั้นเย็นลงได้ และจะพยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด


มาวันนี้ขอทำตามสัญญาค่ะ ที่ว่าจะมีเอ่ยถึงหนังสือที่ประทับใจ เรื่องนั้นก็คือ จอมคนแผ่นดินเดือด ค่ะ




เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ หวงอี้ ซึ่งในขณะนี้มีออกมา 5 เล่ม โดยหนังสือจะวางขายทุกๆวันที่ 5 และวันที่ 15 ของเดือนค่ะ

โดยส่วนตัวแล้ว เคยหยิบจับงานของหวงอี้ผ่าน เรื่องมังกรคู่สู้สิบทิศ แต่ตอนนั้นยืมห้องสมุดอ่านค่ะ ผลก็คือ อ่านขาดๆตอนๆ ครบบ้างไม่ครบบ้าง สุดท้ายตัดใจเลิกอ่านดีกว่า ไม่มีตังค์ซื้อด้วย เยอะเกิน


แต่พอคราวนี้ทำงานแล้ว มีตังค์พอที่จะซื้อนิยายชุดๆแบบนี้มาอ่านโดยอาจจะต้องอดค่าขนมหน่อย ก็เอาวะ ซื้อสักชุดละกัน ก็มาเจอเอาเรื่องนี้เข้าน่ะค่ะ อยากอ่านหนังจีนกำลังภายในมานานแล้ว


เรื่องราวคราวๆ ขออ้างอิงจากข้อมูลบางส่วนในหนังสือจอมคนแผ่นดินเดือดเล่ม 1 ค่ะ


จอมคนแผ่นดินเดือด (เปียนฮวนฉวนซัว) ผลงานการประพันธ์ของ หวงอี้ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนวนิยายกำลังภายในที่มีเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์สุดอลังการ มีเค้าโครงเรื่องราวที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง และยิ่งใหญ่

ฝีมือการประพันธ์เรียกได้ว่าบรรลุถึงจุดที่หวงอี้ไม่เคยบรรลุมาก่อน!!!

และในระหว่างที่ต้นฉบับจีนเรื่องจอมคนแผ่นดินเดือดออกวางตลาดไม่ถึงสิบเล่ม ได้เกิดเรื่องแปลกพิเศษขึ้นในตลาดหนังสือจีน กล่าวคือมีฉบับก๊อบปี้ออกมา จนสำนักพิมพ์ของหวงอี้ต้องติดสติกเกอร์มุมด้านล่างหลังปกหนังสือทุกเล่มที่จัดพิมพ์จำหน่ายพร้อมกันที่ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลย์ พร้อมกับเรียกร้องให้แฟนนักอ่านอย่าได้อุดหนุนหนังสือก๊อบปี้ที่ลอบจัดพิมพ์ออกมา

สำหรับประเทศไทย จอมคนแผ่นดินเดือด (เปียนฮวนฉวนซัว) ทั้ง 22 เล่ม ได้รับการแปลโดย น.นพรัตน์ จัดพิมพ์โดย สยามอินเตอร์บุ๊คส์

จอมคนแผ่นดินเดือด อาศัยเหตุการณ์ยุทธการแม่น้ำเฝยสุ่ยเป็นการเปิดเรื่อง ซึ่งตรงกับช่วง ค.ศ. 383 โดยหวงอี้ได้จำลองสถานที่สมมุติแห่งหนึ่งชื่อว่าเมืองเปียนฮวน ตั้งอยู่ในเขตมณฑลอานฮุย ทางภาคตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่ และได้สร้างตัวเองสมมุติเป็นตัวดำเนินเรื่องคือ เอี้ยนเฟย

เอี้ยนเฟยมีสายเลือดของชาวฮั่นกับชนชาติหูอยู่ในร่างเดียวกัน และเติบโตขึ้นทางเหนือของประเทศ ทั้งยังมีการคบหากับบุคคลจริงในประวัติศาสตร์สองท่านคือ หลิวอวี้ กับทัวปากุย

ในจอมคนแผ่นดินเดือด หวงอี้ได้นำผู้อ่านย้อนกลับไปสู่อดีตกาลนานกว่าหนึ่งพันหกร้อยปีก่อน และได้ชุบชีวิตผู้นำชนเผ่าอนารยชนต่าง ๆ เช่น มู่หยงฉุย ชนเผ่าเซียนเปย เฮ่อเหลียนป๋อป๋อกลุ่มเถียนฝู่ชนเผ่าซวงหนู ตลอดจนผู้ยิ่งใหญ่แถบจิงโจวนามหวนเสียน และเทพศาสดาซุนเอิน ให้โลดแล่นอยู่บนหน้ากระดาษ ทำการต่อสู้ช่วงชิงเพื่อก้าวสู่ความเป็นใหญ่

ถึงแม้ว่าในยุคห้าชนเผ่าอนารยชนก่อกลียุค แผ่นดินจีนถูกเฉือนแบ่งเป็นแดนเหนือและใต้ เกิดการรบพุ่งไม่หยุดหย่อน กลับเป็นยุคทองของพุทธศาสนา มีการแกะสลักภาพจิตรกรรมในถ้ำศิลาหลงเหมิน นครลั่วหยาง

ขณะเดียวกันปรมาจารย์ตักม้อ (ท่านโพธิธรรม) เดินทางมาจากชมพูทวีป จาริกเข้าสู่ประเทศจีน และก่อตั้งวัดเส้าหลิน (เสี้ยวลิ้มยี่) บนยอดเขาเส้าซื่อฟง ภูเขาซงซาน ดังนั้นภาพปกของจอมคนแผ่นดินเดือด จึงเป็นภาพเหมือนของโบราณวัตถุและศิลปกรรมในยุคดังกล่าว

“ในบรรดาผลงานของหวงอี้ เรื่องจอมคนแผ่นดินเดือด นับเป็นเรื่องที่ใช้ภาษาลึกที่สุด แปล-เรียบเรียงยากที่สุด วางเค้าโครงใหญ่ที่สุด พลังลมปราณลึกล้ำที่สุด ศัตรูคู่ต่อสู้มีฝีมือคู่คี่ที่สุด ฉากสงครามสมจริงสมจังที่สุด สมกับที่เป็นงานเขียนของผู้นำโลกนวนิยายกำลังภายในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างแท้จริง” น.นพรัตน์ ระบุ



คำเปิดใจของ หวงอี้

“ราวหนึ่งปีก่อน ตอนที่ผมจากลา (เขียนแล้วเสร็จ) “จอมคนแผ่นดินเดือด” ได้มีโอกาสพักปากกาไปได้ชั่วระยะหนึ่ง ในระหว่างนั้นผมก็ยังถือโอกาสกลับไปท่องเที่ยว (อ่าน) เขตฉนวนแดนเถื่อนอีกครั้ง ซึ่งให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดดี”

“เรื่องราวของ “จอมคนแผ่นดินเดือด” อาจเป็นความฝันครั้งวัยเยาว์ของผม ในยุคที่ลุ่มหลงนิยายกำลังภายในอย่างยิ่ง สถานที่แห่งนั้น เป็นที่รวมของเหล่าเดนคน อยู่ร่วมกันด้วยกฎเกณฑ์เฉพาะ ทำให้กลายเป็นสถานที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก เป็นทั้งที่ที่ป่าเถื่อนและตกต่ำอย่างที่สุด แต่ก็เป็นที่ ๆ ทุกคนฉีกทำลายหน้ากากที่บดบังความจริงต่อกัน และใช้ชีวิตได้ดังใจประดุจเผาผลาญเชื้อเพิลงแห่งชีวิตจนลุกโชน”

“เขตฉนวนแดนเถื่อน จึงเป็นทั้งแดนสนทยาที่เต็มไปด้วยไฟสงคราม เป็นทั้งพื้นที่เสี่ยงภัยที่เต็มไปด้วยโอกาสให้ฉกฉวย”

เรื่องราวของ “จอมคนแผ่นดินเดือด” จะไม่หยุดอยู่แค่นิยาย แต่จะโลดแล่นดำเนินต่อในโลกแห่งการ์ตูน ซึ่งผมได้ผ่านตามาแล้วอย่างน้อยสองตอน ต้องยอมรับว่ามันเป็นผลงานสร้างสรรคค์ ชนิดดิบและเถื่อนอย่างได้ใจจริง ๆ แล้วเจอกันใน “จอมคนแผ่นดินเดือด” ฉบับการ์ตูนครับ

หวงอี้ ผู้ประพันธ์




ความรู้สึกหลังอ่านจบ

เริ่มแรกของเรื่องจะเป็นการกล่าวถึงค่ายผู้นำพรรคต่างๆ ความแตกแยกของกลุ่มชนหลังสมัยสามก๊ก เป็นความละเมียดละไมของผู้ประพันธ์ที่ค่อนข้างมีการวางโครงเรื่องยอดเยี่ยม สะท้อนให้เห็นแนวคิดของตัวบุคคล แผนอุบายทางการเมือง รวมถึงหลักพิชัยสงครามต่างๆที่สอดแทรกเข้ามาพร้อมๆกัน โดยเฉพาะการเขียนสไตล์แผนซ้อนกลไปเรื่อยๆ ทำให้คนอ่านเริ่มตามไม่ทันว่าสุดท้ายเรื่องราวจะหยุดอยู่ที่ตรงจุดไหน นับเป็นกลการเขียนที่อ่านเข้าไปแล้ว คนอ่านขอคารวะหนึ่งจอกเลย รู้สึกโง่ขึ้นมาทันทีที่อ่านจบ พร้อมๆกับความรู้สึกโหยหาที่จะอ่านเล่มต่อไป (เด็ดขาดจริงๆ ไม่เคยมีอารมณ์อย่างนี้นานแล้วนะ หลังจากอ่านเรื่องเพชรพระอุมาจบไปเมื่อเกือบสิบปีก่อน ตอนเรียนม.3)

หากใครชอบเรื่องราวแนวบู๊ๆ หนังสือกำลังภายใน เรื่องนี้เป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดค่ะ ทั้งสนุก ทั้งลึกซึ้ง ทั้งประเทืองปัญญา อ่านได้เลยค่ะ แต่ระวังทุนทรัพย์จะจางนะคะ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างยาวค่ะ ไกลนั้นเองแทบจนตอนคำนวนเงินที่จะซื้อให้ครบเซ็ท T_T

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549 Last Update : 7 ธันวาคม 2550 9:21:53 น. Counter : 1821 Pageviews.		41 comments
Share Tweet