ฉันนั้นหรือ คือ กระบือใจดี

ชีวิตช่วงนี้ยุ่งกับงาน ยุ่งกับลูกๆ 4 ขา มีความสุขดี แต่ก็อีกนั่นแหละ ในความสุขย่อมมีทุกข์แสบๆคันๆปะปนอยู่บ้าง วันๆยุ่งอยู่แต่กับงานกับลูกค้า เรื่องสุขทุกข์ก็หนีไม่พ้นจาก 2 เรื่องนี้

สดๆร้อนๆวันนี้มีเรื่องให้โมโหควันออกหู ปกติแอนไม่เค้ยไม่เคยหงุดหงิดใส่ลูกค้า แต่กับรายนี้ขอซักที แล้วกรวดน้ำคว่ำขันลาขาดกันไปเลยจะดีกว่า ชีวิตคงดีขึ้นมากทีเดียว

ลูกค้ารายนี้ส่อแววยุ่งยากมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มาใช้บริการ

หนแรก
มาซื้อของเล่นแบบ Plush Toy ผ้าขนสีชมพูไปช่วงสายๆ พอช่วงเย็นโทรมาบอกว่าสีของเล่นติดขนที่ปากลูกเค้า(มอลทีสสีขาว) แอนก็วิตกจริต แต่ก็งงๆว่าขายไปเป็นหลายสิบชิ้นแล้วไม่เห้นมีใครเอากลับมาเคลม หรือ คอนเพลนว่าสีตกใส่ขนปาก ไม่รู้จะยังไงก็เลยให้เค้าเอามาให้ดูก่อน ปรากฎว่าขนปากก็มีสีชมพูแดงจางๆติดอยู่จริงๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงก็ให้เปลี่ยนเป็นอีกแบบนึงกลับไป

เอาเจ้าอันที่มีปัญหามาลองใช้ผ้าชุบน้ำเปียกๆจัดการถูๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังงั๊ยยังไงสีก็ไม่เห็นจะตก โอเคมันอาจจะเป็นที่กรดด่างของน้ำลาย เลยจัดการให้ลูกๆที่บ้านทดลอง ทั้งคิตตี้ ทั้งโคลลอน ทั้งจีจี้ เล่นกันมันส์สุดเหวี่ยงจนของเล่นดำ แต่ไม่เห้นมีตัวไหนสีติดขนปากซักตัว...น่าฉงนยิ่งนัก

แถมจะมาขอยืมจุกให้น้ำติดกรงของที่ร้านอีกแน๊...ของขายที่ร้านหมด อาทิตย์หน้าของถึงจะมารอหน่อยไม่ได้เหรอค๊า ชีก็เอาจริงเอาจังกับการขอยืมซะจริงๆ แล้วหมาลูกค้านู๋จะเอาอะไรกินน้ำล่ะคะคุณพี่ขา


หนที่สอง
คุณลูกค้าแวะมาเลือกซื้อของเล็กๆน้อยๆ บอกว่าอยากได้รองเท้าแต่กลัวลูกไม่ใส่ งั้นพี่ขอยืมไปลองใส่ก่อนได้มั๊ย ถ้าน้องไม่ใส่จะเอามาคืน ถ้าใส่เดี๋ยวมาจ่ายเงินเลย .... ฮ่วย ... ของซื้อของขายนะคะพี่ ใครจะให้หยิบยืม


หนที่สาม
พาลูกมาอาบน้ำด้วย วุดบอกราคาไป 200 บาท ชีต่อ "100 เดียวแล้วกันเคยอาบร้อยเดียว" ฮ่วย ... ค่าแชมพูแกลลอนละ 2พันกับค่าน้ำค่าไฟยังไม่คุ้มเลยค่าคุณพี่ งวดนี้ให้ลูกลองรองเท้ารุ่นใหม่ที่ร้าน ลองจนพอใจก็ซื้อไป พร้อมจุกให้น้ำติดกรง(ที่คอยมานาน) แล้วก็ของอีกจำนวนนึง ชีก็หยอดท้ายว่า ถ้ารองเท้าน้องไม่ใส่อีกขอเอามาเปลี่ยนเป็นของอย่างอื่นนะ รับรองว่าไม่ให้เปื้อนเลย เอ่อ...เอาจริงๆอ่ะ อีเราก็เห้นว่าซื้อมาหลายครั้งก็หยวนๆละกันรับปากไป คงไม่เอามาคืนหรอกมั๊ง ก็เห็นลองใส่ที่ร้านก็ใส่ดีนี่นา


หนที่สี่
ชีเอารองเท้ามาคืน พร้อมกับจุกให้น้ำ รองเท้าลูกไม่ใส่ จุกให้น้ำกินแล้วสำลัก เอ่อ...โทษใครก็คงไม่ได้เพราะอิชั้นเองที่เป็นกระบือใจดี ยอมให้ชีเปลี่ยนเอากางเกงยีนส์ กับ Jump Suit ไป (เกือบจะทะเลาะกับคุณตี๋วุด เพราะคุณตี๋วุดไม่อยากให้เค้ามาเปลี่ยนโดยเฉพาะจุกให้น้ำ ก็ชีเล่นบอกว่าชีเพิ่งไปเจเจมาได้โน่นนี่นั่นมาเยอะเลย วุดคิดว่าชีคงไปได้จุกให้น้ำที่ถูกกว่าของเราแล้วเอามาคืน...ช้านมันกระบือเองแหละ ฮึ่มมม) หวังใจเป้นอย่างยิ่งว่าจะไม่เอามาเปลี่ยนอีกแล้วนะคะ

ได้ยินชีบอกว่าได้โทรไปคุยเรื่องถ่ายภาพกะน้องโอแล้ว เราเลยรีบคุยกะโอว่าพี่คนนี้ต่อเก่งนะระวังหน่อยละกัน โป๊ะเชะได้เรื่องมากกว่าที่ควรรู้มาเลยทีเดียว...ฮึ่มมมม

โอเล่าว่า คุณพี่คนนี้ไปเจเจมาเมื่อวันอาทิตย์แล้วก็เกิดเหตุการณ์หยิบของติดมือจากร้านพี่คนนึงที่เรารู้จักมา แบบตั้งใจหรือไม่ก็บอกยากเพราะคุณเธอไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่กระทำ แม้ว่าจะถูกจับได้

แล้วก็รู้มาอีกว่า ชีไปสอยรองเท้าจากร้านพี่โหน่งอีกสีนึงมา ซึ่งอีรองเท้าคู่ที่ชีซื้อไปจากแอนก็ของพี่โหน่งนั่นแหละเอามาฝากขายที่ร้านแอน โดยที่หารู้ไม่ว่าร้านที่หล่อนไปชอปมาน่ะรู้จักกันหมดนะเค๊อะ

สรุปว่า ชีมาซื้อของร้านแอนวันศุกร์ ไปเจเจวันอาทิตย์ และ....หนที่สี่ก็เกิดขึ้น..งัยล่ะ และสรุปได้อีกข้อว่า แอน คือ กระบือใจดี

ยังเมาท์กันวงในว่าชีจะเอาของมาเปลี่ยนกะแอนอีกมั๊ย คุยกันยังไม่ทันจะขาดคำดี ชีก็มาค่ะคุณขา วันนี้นี่เองแหละที่มาของหนที่ห้า


หนที่ห้า
ล่าสุดวันนี้นี่เอง ชีเอากางเกงยีนส์กับ Jump Suit มาขอเปลี่ยนเป็นของอื่น(อีกแล้ว) งวดนี้ชั้นเลิกเปงกระบือใจดีแล้วย่ะ โมโหจากเรื่องหนที่สี่ สะตอเบอแหลแลกเอาของใหม่ไป ปล่อยให้กระบือใจดีนั่งเซ็งจิตอยู่เป็นนานสองนาน ตอนแรกชีไม่ยอมยังไงก็จะเปลี่ยนๆๆๆๆๆ วุดบอกไม่ได้แล้วพี่ เปลี่ยนมาหลายหนละ บัญชีทำงานไม่รู้เรื่องแล้ว มึนไปหมด ชีก็โบ้ยมาหาแอนว่าแอนบอกให้เปลี่ยนได้

ลูกบ้าหน้ามืดของอิชั้นเลยตอกหน้าชีไปเลยว่า ชั้นรู้นะยะว่าหล่อนไปซื้อรองเท้าใหม่มาแล้วเอาของเก่ามาเปลี่ยนกะชั้น อย่าคิดว่าชั้นโง่(อีก)นะเฟ้ย ชีก็โบ้ยไปว่าเอามาเปลี่ยนก่อนไปซื้ออันใหม่ บลาๆๆๆๆๆๆ

สรุป....ช้านไม่ให้เปลี่ยนว่ะค่ะ ชีเลยโมโหบอกว่างั้นทิ้งไว้นี่แหละเอาไปก็ใส่ไม่ได้ พูดย้ำอยู่ 2-3 หน วุดเลยบอก "แล้วแต่ละกัน" ชีเลยอึ้ง หอบลูกสะบัดบั้นท้ายไปแน่บ

โอเค...สิ้นสุดกันทีไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนนะคะคุณพี่ อิชั้นไม่เป็นกระบือใจดีอีกแล้วค่ะ





เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก คุณปะป๊าถอยรถยักษ์ชนรถติ๋วหลิวของแอนง่า...







ปะป๊านั่งอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วค่อยๆยิ้มบอกแอนนิ่มๆเนียนๆว่า

"ป๊าถอยรถชนรถนู๋ บังโคลนบุบนิดนึงลูก ฝนมันตกด้วยมืดด้วย ป๊ามองไม่เห็น แหะๆๆๆ"

ตอนนั้นเชื่อป๊าไง นิดเดียวคือนิดเดียว ฝนตกด้วย เดี๋ยวเช้าค่อยออกไปดูที่โรงรถ แต่แหม่....มาดูเข้าจริงๆแม่ยังส่ายหัวดิ๊กๆ แอนจะเปงลม เนี่ยนิดเดียวเหรอป๊า ขอยย้วยมาเลยง่า งืออออออ แม่บอกเดี๋ยวค่อยเอาไปเคลมทีเดียวเลย เผื่อจะมีรอยอะไรอีก(เพราะที่ผ่านมาแอนซวยกะเรื่องรถมาหลายครั้งง่ะเล็กๆน้อยๆทุกหน นั่งเฉยๆก็ซวยได้) ส่วนรถยักษ์ของป๊าไม่เปงไรเล้ยยยย ก็ช้างเหยียบมดนี่นา...งืออออ


ฮ่วย....ชีวิตคนละน๊อ จะมีความสุขอย่างเดียวได้ไง เหมือนพระท่านว่า มีหายใจเข้าก็ต้องมาหายใจออกเป็นธรรมดา...สาธุ




 

Create Date : 12 กันยายน 2550
3 comments
Last Update : 12 กันยายน 2550 20:26:17 น.
Counter : 1105 Pageviews.

 



****** สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยม ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ ***



 

โดย: หน่อยอิง 12 กันยายน 2550 21:02:22 น.  

 


คุณเธอเรื่องม๊ากได้ใจเจงๆน่ะ

 

โดย: p_tham 13 กันยายน 2550 0:01:58 น.  

 

มีหายใจเข้าก็ต้องมาหายใจออกเป็นธรรมดา...


ถูกต้องคร๊าบพี่แอน...
จเย็นๆเน้อ คิดไว้นะคะพี่แอน
เครียดมากเดี๋ยวติงกามาเยือนนา

คิดถึงนะคะ

 

โดย: yuki san 13 กันยายน 2550 0:05:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


~*Annie*~
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สาวแสนงอน ... ร่ำเรียนมาทางด้าน Food Science เคยใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาทำงานในสายงานนี้อยู่พักนึง แล้วขอหยุดพักไปเติมความรู้ให้กับสมองเพิ่มเติมตามความฝันของตัวเอง

หนุ่มขี้เหงา ... ร่ำเรียนมาทางด้านบริหารอุตสาหกรรม เคยเป็น Production Supervisor ให้โรงงานจิวเวลรี เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตในบริษัทผลิตอาหารเสริม

แต่ไปๆมาท่าไหนไม่รู้ หนุ่มขี้เหงากะสาวแสนงอนผันตัวเองมาเปิดร้าน grooming & pet shop ... ซะงั้น


....................


สาวแสนงอน ... รักการทำกับข้าว รักการรับประทาน(แต่ขี้เกียจออกกำลังกาย) รักการท่องเที่ยว รักหมาแมวมาก...มากจนเพื่อนคิดว่า...อีนี่เพี้ยน


หนุ่มขี้เหงา ... รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ มีนิสัยชอบเล่นกับหมาๆแมวๆของชาวบ้านมากๆจนพลิกผันตัวเองไปเป็น Groomer


....................


เรา คือ คนธรรมดาสองคนที่ดูยังไงก็ "แตกต่าง"

แต่ใครจะรู้ว่าเราสองคน คือ "ความเหมือน" ที่อยู่ใน "ความต่าง" ที่ต่างเติมเต็มให้แก่กันและกัน

เราสองคนกำลังจูงมือกันก้าวเดินไปตามทางของความฝัน
แม้ว่าทางที่ก้าวเดินไปจะมีอุปสรรคเราก็จะไม่ปล่อยมือที่กุมไว้ออกจากกัน

เราไม่อยากเป็นคนร่ำรวยเงินทอง
เราไม่อยากเป็นคนร่ำรวยชื่อเสียง

แต่....

เราอยากเป็นคนร่ำรวยความสุข
เราอยากเป็นคนร่ำรวยเสียงหัวเราะ

และ....
ขอแค่มีกันและกันแบบนี้.....ตลอดไป
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
12 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ~*Annie*~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.