Bloggang.com : Parnkung : (วิจารณ์ DVD) ซานต้าพาวส์ : หมาน้อยคริสมาสต์ ผู้นำความอบอุ่นมาสู่โลกภาพยนต์

(วิจารณ์ DVD) ซานต้าพาวส์ : หมาน้อยคริสมาสต์ ผู้นำความอบอุ่นมาสู่โลกภาพยนต์

Free TextEditor

ไม่รู้ว่าวิจารณ์ช้าไปไหม กับหนังคริสมาสต์ที่ผมดันมาดูเอาตอนวันคริสมาสต์ เอาจริงๆ เรื่องนี้ผมซื้อมากะว่าจะดูตอนวันคริสมาสต์อีฟพอดี แต่คอมดันโดนไวรัสแดร๊ก เลยเสียเวลาลงโปรแกรมและวินโดใหม่ จนทำให้ต้องรีบนอนเพราะดึกมาก เพราะผมต้องตื่นเช้าทำงานนั่นเอง ทำให้ผมต้องย้ายมาดูเอาวันนี้ (วันที่ 25)

เรื่องนี้ก่อนซื้อผมไม่รู้หรอกครับว่าหนังมันมีเนื้อเรื่องยังไง เกี่ยวกับคริสมาสต์ด้านไหน แต่แค่ผมเห็นน้องหมาหน้าปก และชื่อ Disney ผมคว้าตังค์ซื้อทันที ซึ่งอันนี้น่าเสียดายที่ไม่มีแบบ DVD สากลขาย มีแต่แบบเสียงไทยอย่างเดียวแทน

เนื้อเรื่อง

วันเกิดของซาน ต้าครอส เขาได้ของขวัญจากทูตคริสมาสต์ในนิวยอร์คเป็นตุ๊กตา และเขาได้ทำให้มันมีชีวิตด้วยพลังเวทย์มนต์ของคริษมาสต์ และมันก็ได้เป็นเพื่อนรักของซานต้า

ซานต้าเตรียมจะมาพบกับทูต คริสมาสต์ในนิวยอร์กและเยี่ยมเด็กๆ ก่อนถึงวันคริสมาสต์อีฟ จึงได้เดินทางไปนิวยอร์ค แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีโจรขโมยจี้เวทมนต์ไป ทำให้ซานต้าเสียความทรงจำ และต้องพลัดพลาดกับหมาน้อย พาวส์ ไป

เนื้อเรื่องจะโยงไปถึงสาวน้อยคนหนึ่งที่พ่อแม่เสียชีวิต จนเป็นเด็กกำพร้า ได้ถูกนำไปฝากกับคนที่รับดูแลเด็กกำพร้าจนกว่าจะมีคนมารับเลี้ยง ซึ่งก็ต้องเจอคนดูแลใจร้ายใจดำที่เกลียดวันคริสมาสต์เข้าไส้ด้วยครับ

ชะตากรรมของหนังเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ซื้อเต๊อะ ราคาเท่า VCD (เอาง่ายๆ เลยเนอะเพ่ =_=)

หมายเหตุก่อนวิจารณ์
- สำหรับคนที่ไม่รู้ วันคริสมาสต์อีฟคือวันที่ 24 ธันวาคม เป็นวันก่อนคริสมาสตร์ ซึ่งเที่ยงคืนวันนั้นจะเป็นเวลาที่ซานต้าจะเดินทางไปแจกของขวัญครับ

เอา หละ มาดูกัน จริงๆ เนื้อเรื่องมันไม่ได้มีแค่ตามหลังปกนะครับ มันมีเพิ่มขึ้นอีก เหตุการณ์หลักๆ จะถูกแบ่งออกเป็นสองเหตุการณ์ และเหตุการณ์ย่อยอีก 2 เหตุการณ์ และทุกอย่างก็จะลงล็อคและสัมพันธ์กันพอดี เรียกได้ว่า มันไม่ใช่แค่หนังคริสมาสต์ทำเงินหรือทำออกมาให้ทันตามเทศกาลแน่นอน เพราะความสนุกและเนื้อหาของหนังมีมากกว่าที่คิดครับ

แน่นอนว่าสำหรับ ผู้ใหญ่อย่างพวกเรา ยังไงก็ต้องเดาเนื้อเรื่องออกบ้าง และสามารถเดาตอนจบได้ทันที (มันคงไม่จบแบบ Sad END หรอก +_+) แต่สิ่งสำคัญของตัวหนังก็คือ สาระที่มากกว่าคำว่า "ศรัทธาในคริสมาสต์" แน่นอนว่าตัวหนังสะท้อนถึงผู้ใหญ่อย่างพวกเราด้วย หลายอย่างเลยแหละ

อัน นี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าผมนับถือพุทธและไม่ได้เป็นคริสต์ แต่ก็ชื่นชอบเทศกาลคริสมาสต์เป็นพิเศษ ทำไมนะเหรอ เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน ช่วงเวลาของครอบครัว และวันที่เราจะได้เห็นเด็กๆ มีความสุขกัน ตัวหนังถึงแม้ว่าจะแกมบังคับว่า อืม ถ้าคุณอยากสนุกกับเทศกาลคริสมาสต์ คุณต้องเชื่อในคริสมาสต์นะ แต่ตัวของหนังก็แอบแทรกไว้เหมือนกันว่า "ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน จะเชื่อรึไม่เชื่อ แต่ขอให้รู้ว่ามีคริสมาสต์ก็เพียงพอแล้ว" ก็พอ

รูป แบบการดำเนินเรื่องของหนังนั้นมันทำให้ผมนึกถึงหนังการ์ตูนดิสนีย์ไม่มีผิด เพี้ยน ดำเนินเรื่องเรียบง่าย มีคนใจร้ายใจดำ และมีร้องเพลงระหว่างเรื่อง ซึ่งอันนี้แอบเสียดายนิดๆ ที่เรื่องนี้บทเพลงไม่ได้มีร้องเสียงไทย เพราะมันจะทำให้เด็กๆ ที่ดูเข้าใจเนื้อเพลงมากขึ้น (พี่ MVD เล่นไม่มีซับบรรยายเนื้อเพลงเลย) แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมาฟังเพลงก่อนสุดท้ายในหนัง เพราะว่าเพลงเพราะมาก และเพลงดังกล่าวก็ได้เอามาใส่ในตอนจบด้วย ลองไปเปิดฟังในยูทูปก็ได้ครับ เพลงเพราะจริงๆ

คำว่าซานต้าครอสนั้น ก็คือ ตัวแทนจากชายชราที่มีจิตใจอ่อนโยน ชอบหัวเราะและทำให้เด็กๆ มีความสุข ในหนังนั้นสื่อออกมาว่า มันไม่จำเป็นต้องเป็นซานต้าตัวจริงที่จะทำให้เด็กๆ มีความสุข แต่เป็นใครก็ได้ "ที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับเด็กๆ" เพราะซานต้าครอสตัวจริง เขาก็ไม่จำเป็นต้องมีเวทมนต์หรือเทคโนโลยวิเศษ เขาก็ทำให้เด็กๆ มีความสุขได้

ในเนื้อเรื่องนั้นจะมีสองสามีภรรยาที่ มารับมรดกจากปู่ของเขา (แอบสปอยนิด ปู่ของเขาที่เสียชีวิตเป็นเพื่อนของซานต้าและเป็นคนส่งของขวัญตุ๊กตาหมาให้ ซานต้านะแหละ แต่เอ๊ะ มันก็ไม่เหมือนสปอยเลยมั้งแบบนี้) โดยเงื่อนไขของปู่ของเขามีข้อแม้ว่า ต้องเปิดร้านนี้ให้ได้กำไรมากกว่าทุนในวันคริสมาสต์ แล้วร้านจะเป็นของเขา (ในหนัง ทนายบอกนะจ๊ะ ไม่ใช่วิญญาณปู่มาบอก) ซึ่งตัวสามีนั้น เป็นเจ้าของธุรกิจบริษัทบัญชี ซึ่งในหนังไม่ได้บอกรายละเอียด แต่เขากลับมองว่า ร้านแบบนี้มันเก่า สู้วีดีโอเกม หรือเกมออนไลน์ไม่ได้ จะทำกำไรได้อย่างไร

ในมุมมองนี้ ผมเจอจังๆ กับตัวเองเลยครับ เพราะว่าตัวเองก็ทำงานและเป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนกัน แน่นอนว่าคนที่ทำงาน ใครๆ ก็ต้องอยากได้กำไร อยากได้งานที่สามารถทำแล้วได้เงินมากกว่า จนอาจไม่สนใจมองสิ่งที่ "มีค่ามากกว่าเงิน" ซึ่งในเรื่อง ภรรยาของเขาเป็นคนแนะนำและชักชวนให้ช่วยกันเปิดร้านให้ดีที่สุดสำหรับวันคริ สมาสต์ ซึ่งในร้านของพวกเขา มีแต่ของเล่นเก่าๆ ย้อนยุค (มั้งนะ เพราะในหนังไม่ได้บอกรายละเอียด) ซึ่งหมายความว่า ภรรยาของเขาไม่ได้สนใจเรื่องกำไรนัก

หนังได้เอาตรงจุดนี้จี้จุดเรา อีกอย่าง นั่นก็คือคำว่าครอบครัว ทำไมนะเหรอ เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่สามีภรรยา หรือคู่กิ๊กกับคู่แฟน ทั้งสองคนจะต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และบ่อยครั้งที่ความเห็นไม่ตรงกัน มันจะกลายเป็นความขัดแย้งจนทำให้เกิดการทะเลาะกัน หย่าร้าง แม้แต่ฆ่ากัน แต่ถ้าเรา ยอม หรือ ปรับความเข้าใจ ด้วยเหตุผล ความปรารถนาดี ความอ่อนโยน โดยไม่ยึดอารมณ์มาเกี่ยวข้อง ก็จะสามารถปรับความเข้าใจกันได้ และตรงจุดนี้ในหนังสามารถเป็นตัวอย่างให้กับคู่รักได้ โดยเฉพาะคู่รักวัยรุ่น

มาดูทางฝั่งเด็กกำพร้าบ้าง เนื่องจากเป็นหนังเด็ก เลยทำให้เรื่องไม่ดราม่ามากนัก (เพราะความเป็นจริง รับรองว่าโหดกว่าในหนังแน่) แต่เมื่อผมดูแล้ว แรกๆ ผมยังเฉยๆ แต่พอดูไปดูมา มันเริ่มรู้สึกอยากลุกขึ้นปฏิวัติบ้านเด็กกำพร้าซะเลย แล้วพอฉากนั้นผ่านไป ผมมานั่งคิด นี่ตูดูหนังเด็กแล้วจริงจังขนาดนี้เลยเหรอวะ ? ซึ่งตรงนี้หนังยังแอบสอดแทรกสาระให้เราอีกอย่าง ผมจะบอกแค่อย่างเดียวเพราะถ้าบอกมากกว่านี้มันจะสปอยไปแล้ว

ตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยถูกทำอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบ เช่น คุณอยากได้ของเล่นนี้ แต่พ่อแม่ไม่ซื้อให้ หรือ คุณโดนพ่อแม่ดุ เพราะเสียงดังหรือชอบร้องเพลงใช่ไหมครับ ตรงนี้เรามองมุมกลับบ้าง ในฐานะที่ทุกคนโตกันแล้ว และเมื่อมาเจอเหตุการณ์ในหนัง มันทำให้เราคิดได้ว่า "เหมือนเราย้อนดูตนเอง" จึงทำให้หนังต้องการสื่อว่า ครอบครัวที่ดี ต้องไม่บังคับเด็ก และต้องมอบความสนุกสนานให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กมีรอยยิ้มและมีความสุข

การถ่ายทำเรื่องนี้ได้มีการถ่าย ส่วนที่ยากอยู่สองส่วน นั่นก็คือ นักแสดงเด็ก และเอาน้องหมาเอามาเล่นด้วย ซึ่งนับได้ว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมทั้งคู่ สามารถทำให้เด็กเล่นออกมาสมบทบาท ถึงบางฉากจะดูจืดๆ ทื่อๆ แข็งๆ ไปบ้าง แต่ก็นับว่าทำได้ดี ที่ผมรู้สึกแหม่งๆ ก็คือตรงการทำเอฟเฟคหมาเพื่อให้มันพูดได้ (เรื่องนี้หมาพูดได้ครับ) ยังไม่เนียนเท่า Cats & Dogs 2 ตามความคิดของผม (ก็เล่นดู Cats & Dogs 2 ตั้ง 8 รอบ =_=) สังเกตหน้าปกของหนัง จะมีหมาโผล่ออกมาด้วยสองตัว ตัวซ้ายสุดกับขวาสุด ซึ่งในหนังแม้ว่าจะไม่มีบทเด่นสำคัญ แต่ก็เอามาโผล่ข้ามฉาก ประมาณว่า เรื่องมันมาขนาดนี้แล้วเอ็งจะโผล่มาทำเพื่อ? อะไรประมาณนี้ แต่ผมคิดว่าสำหรับเด็กคงไม่สนใจหรอกมั้ง

การดำเนินเรื่องและเสียง เพลงประกอบสะเทือนอารมณ์เด็กได้เป็นอย่างดี แต่ต้องยํ้าว่าไม่ใช่เด็กเกรียนนะครับ (เพราะขนาดผมยังสะเทือนอารมณ์ตามไปด้วยเลย) ฉากสนุกสนานก็ทำให้ปากผมยิ้มได้ ฉากไหนลุ้นก็ทำให้ผมต้องเอาใจช่วยตัวละคร ถึงมันจะไม่เท่ากับหนังแอ็คชั่นแบบอื่น แต่สำหรับเด็ก รับรองว่าสามารถสะกดอารมณ์เด็กๆ ได้ตลอด อย่างที่ผมบอก เนื้อหาของหนังเรื่องนี้มีมากกว่าเรื่องย่อในปกหลังกล่อง มันสนุกมากกว่าที่คิดครับ

ฉากเอฟเฟคต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ บางฉากเหมือนแข็งๆ แต่หลายฉากก็ทำได้เนียนสวยงามสไตล์ของดิสนีย์ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเอคเฟคอะไรมากมาย มีมาแบบหอมปากหอมคอ เพราะตัวหนังนั้นจะเน้นไปที่คนแสดงมากกว่าครับ

เอาหละ ที่เหลือได้เวลาสับแล้ว ขอเริ่มจากเนื้อหาตัวหนังก่อน ผมไม่ขอเอ่ยเรื่องของพล็อตเรื่องที่เดาง่ายเพราะมันเป็นหนังครอบครัวเน้น เด็กดู แต่ตัวหนังนั้นเหมือนจะเชียร์ชาวคริสต์มากไปหน่อย เชียร์ให้ทุกคนต้องหลงรักคริสมาสต์ มันไม่ผิดหรอกครับที่จะทำเนื้อหาออกมาแบบนั้น แต่สำหรับคนที่นับถือศาสนาอื่นที่อาจไม่ได้จริงจังหรือชื่นชอบในเทศกาล คริสมาสต์มากอาจรำคาญก็ได้ ซึ่งตรงนี้จะเกิดขึ้นราวๆ 3 - 4 ฉากในเรื่อง แต่กรณีนี้ ใครที่นับถือคริสต์จะเข้าใจเป็นอย่างดีครับ

อย่างที่สอง ก็คือ แม้ว่าตัวหนังจะสอดแทรกเนื้อหาสาระในเนื้อเรื่องออกมาจนผู้ใหญ่ของเราดูแล้ว เข้าใจ 100 % ทันทีเมื่อดูรอบแรกจบ แต่ไม่ได้เฉลยหรือบอกให้ชัดเจนกว่านี้สำหรับคนดูเด็กๆ ซึ่งเด็กๆ อาจจะได้ดูสนุกสนานและเข้าใจเนื้อหาแค่ 75 % แต่ก็ไม่ได้เข้าใจถ่องแท้ 100 % ยิ่งไม่ได้เป็นเด็กนับถือคริสต์แล้วยิ่งแล้วใหญ่

ประการที่สาม ตัวหนังยังขาดเหตุผลอยู่ จริงอยู่ที่ความสมจริงในหนังเรื่องนี้ไม่ได้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้น (ไม่นับเรื่องที่ซานต้าครอสมีจริงและมีเวทมนต์นะครับ) ซึ่งหลายๆ ฉากผมเห็นแล้วยังเอ๊ะใจประมาณว่า เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้ การขาดความสมจริงส่วนนี้จะทำให้ตัวเรื่องไม่สมบูรณ์ 100 % เด็กดูแล้วอาจไม่สังเกต แต่ผู้ใหญ่ดูแล้วอาจจับจุดได้แน่นอน

ประการ สุดท้าย อันนี้ส่วนตัว ผมสอบถามพนักงานของบูมเมอร์แรงแล้วกลับพบคำตอบว่าเรื่องนี้ไม่มีแบบสากล ซึ่งผมไม่รู้นะครับว่าหนังเรื่องนี้เก่าหรือใหม่ แต่น่าจะมีแบบสากลมาบ้าง เพราะฉากในเรื่องนี้สวยๆ งามๆ มาก ถ้าผมมีเงิน ผมซื้อบลูเรย์ไปแล้วนะครับบอกไว้ก่อน และอยากให้มีซับแปลเนื้อเพลงมาให้สักหน่อย

เรื่องนี้ผมไม่ขอตอบโจทย์ นะครับ เพราะมันเป็นหนังเด็กๆ หนังครอบครัวที่เน้นดูเอาสนุกเป็นหลัก ผมบอกได้แค่ว่า ซื้อแบบ DVD จะดีที่สุด เพราะภาพสวยงามมาก (จะดีมากถ้าซื้อแบบสากลมาเก็บไว้) มันเป็นหนังที่ทำให้ในหัวใจของผมอบอุ่นและมีความสุขที่สุด มันทำให้ผมมีรอยยิ้ม และมันคือหนังคริสมาสต์ที่ยอดเยี่ยมในใจของผมครับ

คะแนน - 8.4 / 10.00

ความสมเหตุสมผลของเรื่องนี้
เวทมนต์ของคริสมาสต์จะเกิดขึ้นได้ - ถ้าคุณมีศรัทธาในคริสมาสต์

ขอให้ทุกคนมีความสุขในช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี 2010 ครับ

Create Date : 26 ธันวาคม 2553

Last Update : 26 ธันวาคม 2553 17:08:28 น.

0 comments

Counter : 1300 Pageviews.