กรกฏาคม 2556

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Chiangrai my sweet home --->o<--- แอ่วเจียงฮาย ไปได้ทุกฤดู

เทศกาลวันหยุดยาวมาถึงทีไร เราจะตื่นเต้นดีใจมากๆ เพราะจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน กลับไปหาแม่หาน้า หาญาติพี่น้องที่รัก กลับไปบ้านทีไรเราจะพาแม่และน้าไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ตลอดค่ะ แม่ชอบเที่ยว น้าชอบเที่ยว และเราก็ชอบเที่ยว ไปด้วยกันได้ค่ะ อิอิ

มาค่ะวันนี้เราจะพาไปเที่ยวบ้านของเราที่เชียงราย มาดูกันว่าเจ้าบ้านคนนี้จะพาไปเที่ยวชมมุมไหนของเชียงรายได้บ้าง

เชียงรายเนี่ย เป็นจังหวัดที่กว้างมากๆๆๆๆประกอบไปด้วยอำเภอมากมายไล่เลียงไม่หมด แต่ละอำเภอนี่ก็กว้างมากๆ ข้ามเขากันเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นเชียงรายจึงเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆสารภาพได้เลยว่าเราเองยังไปไม่ทั่วจังหวัดเลยค่ะ

ปกติหากเรากลับบ้านช่วงวันหยุดสิ้นปีและปีใหม่จะเป็นช่วงหน้าหนาวพอดีค่ะ เรามักจะพาแม่กับน้าขึ้นไปเที่ยวทางดอยตุงแม่ชอบดูดอกไม้สวยๆ ค่ะ และบนดอยตุงเนี่ยมีสวนแม่ฟ้าหลวงของสมเด็จย่าซึ่งเต็มไปด้วยไม้ดอกเมืองหนาวมากมายที่เรียกได้ว่าสวยมากๆ ไปตั้งแต่เด็กสิบขวบจนล่วงเลยมาหลายปี เราก็ยังไปอีกไม่เคยเบื่อเลย แต่โตแล้วขับรถไปเองได้ค่ะทางไม่ยาก

ปีใหม่ที่ผ่านมาได้พาแม่กับน้าไปเที่ยวอีกแต่ด้วยความที่ไปดอยตุงบ่อยแล้ว จึงลองชวนแม่กับน้าขึ้นไปเที่ยวบนดอยแม่สลองดูบ้างเราเองก็ยังไม่เคยไป แม่กับน้าก็ยังไม่เคยไปเคยแต่ขับรถผ่านทางแยกที่จะไปดอยแม่สลองที่อำเภอแม่จัน แต่ไม่เคยเข้าไปสักทีครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปเปิดหูเปิดตายังที่ใหม่ๆ บ้างค่ะ

เส้นทางที่คดเคี้ยวขึ้นเขาลูกแล้วลูกเล่าสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา มันทำให้เรารู้ว่าเราเข้ามาไกลมากและสูงมากแต่ก็ไม่รู้ไกลเท่าไหร่แล้ว ผู้โดยสารสูงวัยสองท่านเวียนหัวเอาการค่ะจนในที่สุดเราก็มาถึงที่หมายแรก




ไร่ชา 101เป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียงมาก มีอาณาเขตที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยไร่ชาสีเขียวสุดลูกหูลูกตาเรารีบหาที่จอดรถด้านหน้าไร่ชา กระดี๊กระด๊าชวนแม่กับน้าลงไปเที่ยวอารมณ์อยากถ่ายรูปนั่นเองค่ะ




เราตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเห็นไร่ชามาก่อนในชีวิตเลยจริงๆเคยเห็นแต่โฆษณาในทีวี ซึ่งสวยมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนอยู่ส่วนไหนของเชียงราย หรืออยู่จังหวัดไหน แต่ในวันนี้ที่ได้มายืนตรงนี้มันบรรยายไม่ถูก คือแบบตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ ดีใจ สดชื่นรื่นรมย์ (อ้าวไปใหญ่แล้ว)




แม่กับน้าเราก็ดูท่าทางชอบมากสองยายนี้ก็ชอบเที่ยวชอบไปเปิดหูเปิดตาเราเลยมักจะพาแม่กับน้าไปเที่ยวทุกครั้งที่มีโอกาสค่ะ เห็นแม่ยิ้ม เห็นแม่พูดคุยกับน้าอย่างมีความสุขเราก็มีความสุขค่ะ




เราถ่ายรูปให้แม่กับน้าหลายรูปเราว่ารูปถ่ายมันเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ ที่ได้จากการไปเยือนยังที่ต่างๆเพราะมันคือสิ่งหนึ่งที่ช่วยเก็บความทรงจำดีๆ ของเราไว้นะ เราว่าอย่างนี้เราจึงชอบถ่ายรูปมากๆ ถ่ายไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่ก้อถ่ายไปเรื่อยๆ ค่ะ ชอบนี่นา ^_^




ออกจากไร่ชา 101 แล้ว เราขับต่อไปเรื่อยๆ จริงๆ ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไปที่ไหนกันแน่ รู้เพียงแต่ว่าขับไปเรื่อยๆ เจออะไรน่าเที่ยว เจอป้ายท่องเที่ยวชี้ไปทางไหนก็เลี้ยวไปทางนั้นแหล่ะ 

พวกเราสะดุดตากับร้านชาร้านหนึ่ง เพราะเห็นต้นดอกบ๊วยมีดอกสีขาวสวยๆ บานเต็มต้น จนอดที่แวะเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้เลย  บอกตรงๆ ว่า ไม่เคยเห็นดอกบ๊วยมาก่อนเลย ช่างเป็นดอกไม้ที่สวยจริงๆ ดูเผินๆ แล้วเหมือนดอกซากุระเลยนะ แต่ไม่ใช่ค่ะ ดอกสีขาวแบบนี้เป็นดอกบ๊วยค่ะ

อ้อ ไม่ได้แวะถ่ายรูปสวยๆ เปล่าๆ นะ ที่ร้านนี้เค้ามีกาแฟร้อนๆ และโอวัลตินร้อนๆ ขายด้วย เลยให้แม่กับน้านั่งทานโอวัลตินร้อนๆ แก้หนาวไปก่อน เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพลินเลยค่ะ




สายแล้วแม่บ่นว่าเริ่มหิวค่ะ เลยขับรถต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแหล่งชุมชน หมู่บ้าน ร้านค้ามากมาย เราเลือกร้านนี้เป็นร้านสำหรับอาหารมื้อเช้าของเราค่ะ  สั่งอาหารง่ายๆ พวกขาหมู ผัดผัก ผัดหมี่ อาหารคนจีนทั้งนั้นเลย




มองไปบนยอดเขาจะเห็นพระธาตุสันติคีรีอยู่ลิบๆ ภาพที่เด็กๆ ชาวเขาเดินไปตามถนนเป็นภาพที่น่ามองจริงๆ เราว่ามันเป็นอะไรที่แบบ มีเสน่ห์มากๆ เลยนะ




ดอกนางพญาเสือโคร่ง.... นี่เป็นครั้งแรกอีกแล้วค่ะที่ได้มาเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งตัวเป็นๆ แบบนี้ เห็นใครต่อใครเขาพูดถึงดอกไม้สีชมพูแสนสวยนี้บนดอยแม่สลอง เราเองเป็นคนจังหวัดนี้แท้ๆ แต่กลับไม่เคยไป ไม่เคยเห็นเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ตื่นเต้นมากมาย ><




มันเป็นหนึ่งในแสนล้านสายพันธุ์ของดอกซากุระนั่นแหล่ะค่ะ แต่ที่เมืองไทยเราเรียกว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง สีสวยหวานมากๆ เลย แต่ดูไปดูมา เราว่ามันคล้ายๆ ดอกบ๊วยสีขาวๆ อยู่เหมือนกัน สงสัยจะเป็นพืชในตระกูลเดียวกันค่ะ นี่ถ้าย้อมสีให้เป็นสีชมพูทั้งหมดเราคงแยกไม่ออกแน่ๆ ว่าดอกไหนเป็นดอกบ๊วย ดอกไหนเป็นดอกนางพญาเสือโคร่ง ^^


เราขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงตลาดบนดอยแม่สลอง เจอป้ายหลักกิโลหลักนี้เข้าไป ไม่ถ่ายรูปไม่ได้แล้ว สงสัยจะเป็นภาพบังคับค่ะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงดอยแม่สลอง อิอิ




ที่ตลาดมีสินค้าพื้นเมืองขายหลายอย่างมาก เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะเพราะต้องคอยดูแม่กับน้าค่ะ คนเยอะกลัวจะเดินพลัดหลงกัน ชอบถั่วแดงกองนี้มาก สีสวยดี




ไม่ไกลจากตลาด เราก็ขับรถไปถึงวัดพระธาตุสันติคีรีจนได้ วิวจากบนวัดจะมองเห็นหมู่บ้านสันติคีรีได้ชัดเจน






ดอกไม้ดอกนี้ไม่รู้ชื่อดอกอะไรนะคะ แต่สวยดี สีชมพูหวานมาอีกแล้ว และแปลกตรงที่ว่าทำไมมันต้องห้อยหัวลงมาด้วยนะ เค้ามีแต่ชูช่อดอกขึ้นกัน เนอะๆ



ดอกสีขาวนี้ก็สวยค่ะ น่าจะดอกเดียวกับดอกสีชมพูข้างบน 




แม้จะเป็นหน้าหนาว แต่พอสายเข้าหน่อยอากาศกลับไม่หนาวเย็นอย่างที่คิด แต่ลมพัดเย็นสบายกำลังดีเลยค่ะ นั่งมองวิวตรงนี้แล้วเพลินเลย




เรากลับจากดอยแม่สลอง แต่ขากลับเราไม่ได้กลับทางเดิมค่ะ เพราะทางเดิมที่พวกเราขับรถเข้ามานั้น เส้นทางคดเคี้ยวเอามากๆ เลย แถมส่วนมากจะเป็นถนนบนช่วงเขาที่สูงชัน ค่อนข้างอันตรายค่ะ

คนที่ร้านอาหารแนะนำให้เรากลับไปอีกทางหนึ่ง เรียกว่าไปทางกิ่วสะไต เค้าบอกว่าทางนี้ไม่คดเคี้ยวและไม่ชันมาก ขับง่ายค่ะ ทางกิ่วสะไตนี้เมื่อขับไปเรื่อยๆ จะไปพบกับถนนสายหลักที่มาจากเชียงใหม่เข้าแม่จันค่ะ

ระหว่างทาง บังเอิญขับผ่านสวนท้อเล็กๆ ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นดอกท้อ เห็นเป็นดอกสีชมพูก็เข้าใจว่าเป็นดอกนางพญาเสือโคร่งซะงั้น




เราพยายามจะถ่ายรูปให้ชัด แต่ถ่ายได้ไม่ชัดเลยเพราะว่าต้นท้อเนี่ย ดันปลูกอยู่บนเนินเขาที่ชันมากๆๆๆๆ เดินเข้าไปถ่ายใกล้ๆ ไม่ได้เลย จะตกเขาตลอด เลยอยู่ไกลๆ แล้วซูมเอานะ  ภาพเลยเบลอมากๆ (แต่ยังกล้าอัพบล็อค???)




ดูไปดูมา เหมือนดอกซากุระ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอกบ๊วย คล้ายๆ กันหมดเลยใช่มั้ยล่ะคะ  ตอนแรกเราก้อแยกไม่ออก ต้องเอาภาพมาเทียบกันอย่างละเอียดเลย  คงจะเป็นพืชในตระกูลเดียวกันอ่ะเนาะ


นอกจากหน้าหนาวแบบนี้เราสามารถไปเที่ยวบนดอย สัมผัสอากาศเย็นๆ ได้แล้ว ขอบอกว่า เราไปเที่ยวน้ำตกมาอีก (เที่ยวน้ำตกหน้าหนาว???)

ค่ะ เราไปเที่ยวน้ำตกหน้าหนาว  น้าเราได้ฟังถึงกับหัวเราะว่า จะไปทำไมน้ำตกหน้าหนาว มีแต่คนเขาไปเที่ยวหน้าร้อนกัน

ไม่เป็นไร เราไม่อยากเหมือนใครอ่ะ เราอยากไปตอนนี้




((( เพิ่งหัดถ่ายรูปน้ำตกด้วยกล้องคอมแพ็คค่ะ พอได้ไหม?? )))




น้ำตกปูแกง เป็นน้ำตกที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอำเภอของเราเองเลยนะ แต่ว่า...... เราเพิ่งเคยไปที่นี่เป็นครั้งแรก

เอากะเขาสิ  อยู่ใกล้บ้านแค่ซาวโลค่ะ แต่ดันไม่เคยไป




น้ำตกปูแกงมีทั้งหมด 9 ชั้นค่ะ  ขอบอกว่าแต่ละชั้นเนี่ย เดินขาลากเลย ไกลมากๆ และทางเดินบางช่วงนี่เดินยากมากๆ ต้องลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ขรุขระ และเต็มไปด้วยต้นไม้เถาวัลย์มากมาย  (ทางยาก แต่ก้อยังจะไป)




น้ำตกปูแกงเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย เป็นน้ำตกที่มีการทับถมของหินปูนที่มากับน้ำ ทำให้เกิดหินงอกหินย้อยและถ้ำมากมายบริเวณน้ำตก และน้ำใสมากๆ เลยล่ะค่ะ




เดินเหนื่อยมากๆ จำไม่ได้แล้วว่าเดินมาถึงน้ำตกชั้นไหนบ้าง นั่งพักเหนื่อยบนขอนไม้ใหญ่ๆ ยังเก็บภาพได้อีก อยากฝึกถ่ายรูปน้ำตกให้สวยๆ แต่ยังถ่ายได้แค่นี้อยู่เลย

ต้นไม้ในป่านี้ ล้วนเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีแต่ต้นสูงๆ ทั้งนั้น ภายในป่าอากาศเย็นมากๆ  และแน่นอนเลยว่า น้ำตกนี้ เย็นมากๆ ยิ่งกว่าน้ำที่อยู่ในตู้เย็นอีกค่ะ

(( ก็ดันมาเที่ยวน้ำตกหน้าหนาว แล้วยังเป็นน้ำในป่าอีก น้ำถึงได้หนาวเย็นมากๆ ))






จริงๆ ก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนเลยนะคะที่เดินเข้าไปเที่ยวน้ำตกเหมือนๆ กับเรา หลายคนที่เดินสวนทางกันออกมาบอกว่า ชั้นสุดท้ายสวยมากๆ ต้องไปถึงให้ได้นะ  ทำให้เรามีกำลังใจที่จะเดินไป ซึ่งขอบอกว่าจริงๆ เหนื่อยมากๆๆๆๆ จะถอดใจถอยหลังกลับหลายรอบแล้วล่ะค่ะ

สงสัยอาการเหนื่อยจะเป็นผลที่มาจากตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้น 555








ถึงแล้วค่ะ น้ำตกชั้นที่ 9 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของน้ำตกปูแกง ระยะทางที่เดินเข้ามาต้องเรียกว่าหลายกิโลเลยล่ะค่ะ แต่ก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดจนได้

น่าแปลกค่ะ หน้าหนาวเป็นหน้าแล้งแท้ๆ แต่ในป่าลึกแบบนี้กลับมีน้ำไหลตลอดทั้งปี 




ด้วยความเหนื่อย แขนเริ่มล้า มือเริ่มสั่น ถ่ายภาพน้ำตกได้ไม่ค่อยนิ่งแล้วค่ะ เพราะใช้มือถ่ายโดยไม่มีขาตั้งกล้องด้วย ภาพอาจจะเบลอนิดหน่อยนะคะ

แต่ความสวยของน้ำตก ของจริงที่เห็นด้วยตาเปล่า สวยกว่านี้แน่นอนค่ะ




นี่ถ้าเป็นหน้าร้อน น้ำจะต้องเยอะกว่านี้แน่ๆ เลยเราว่านะ

บริเวณนี้เป็นลานกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงค่ะ พื้นหญ้าเรียบเนียนสีเขียวสดใส เหมาะกับการมาตั้งแคมป์ที่สุดเลย ตอนกลางวันอากาศก็ไม่ร้อนค่ะเพราะมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาตลอดทั้งวันเลย






นอกจากน้ำตกปูแกงแล้ว เชียงรายยังมีน้ำตกที่สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่ง ถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเชียงรายเลย ตามมาค่ะ เดี๋ยวเราพาไป




น้ำตกขุนกรณ์ อยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเชียงราย มีความสูงถึง 70 เมตรค่ะ น้ำเยอะมากๆ (นี่แน่ใจนะว่าหน้าแล้ง??)




ด้วยสายน้ำที่ไหลแรง และความใหญ่ของน้ำตก ยังไม่ทันได้เข้าใกล้น้ำตกมากนักก็มีแต่ละอองน้ำกระเซ็นเข้ามาใส่หน้า ประหนึ่งได้รับละอองน้ำแร่จากธรรมชาติ 555






นี่ขนาดหน้าแล้งน้ำยังแรงและเยอะขนาดนี้ เราคิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นหน้าร้อนหรือหน้าฝน น้ำจะแรงขนาดไหน เสียงน้ำตกดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณเลยค่ะ 

ทางไปน้ำตกไม่ยากค่ะ หากเจอวัดร่องขุ่นเมื่อไหร่ แสดงว่าเราใกล้จะถึงน้ำตกแล้ว จะมีป้ายบอกทางไปตลอดค่ะ 




เค้ามีแต่ภาพวัดร่องขุ่นตอนกลางวัน วัดสีขาว ตัดกับฟ้าสีใสๆ แต่มาชมความงามของวัดร่องขุ่นในยามตะวันลับลากันบ้างค่ะ  สวยไม่แพ้กัน (แต่น้อยส์เพียบ)




ชีวิตต่างจังหวัดที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความสุข ความสบายใจ ไม่ต้องทำอะไรเพื่อแข่งกับเวลาเหมือนชีวิตในเมืองหลวง

วันหนึ่งวัน เมื่อตะวันลับลาขอบฟ้า นั่นก็คือถึงเวลาที่ชาวบ้านจะต้องกลับเข้าบ้าน ทานข้าว และนอนหลับพักผ่อน เป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่สบาย

ภาพนี้เป็นพระอาทิตย์ตกดอยแถวบ้านค่ะ  เราชอบมองพระอาทิตย์ยามตกดิน แต่พระอาทิตย์ตกดินที่ไหนๆ ก็ไม่ทำให้เราสุขใจเท่าพระอาทิตย์ตกดอยที่บ้านเรา




นักท่องเที่ยวหลายคนชอบขึ้นไปเที่ยวเชียงรายในช่วงหน้าหนาว เพราะอีกเหตุผลหนึ่งคือ ดอกไม้เมืองหนาวค่ะ

ทุกๆ ปีช่วงปลายเดือนธันวาคม จะมีงานดอกไม้งามเมืองเชียงราย ซึ่งที่นี่เราจะได้เห็นทุ่งดอกทิวลิปสวยๆ และดอกไม้เมืองหนาวมากมายนานาชนิด

เรามักจะพาแม่กับน้าไปเที่ยวทุกปีค่ะ เพราะท่านทั้งสองชอบดอกไม้มากๆ เราเองก็ชอบค่ะ 








และในวันหนึ่ง เราก็ได้มีโอกาสเข้าไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ท่านว.วชิรเมธีได้สร้างไว้  ซึ่งที่นี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเรามากนัก เพื่อนบ้านหลายคนบอกว่าไปเที่ยวมาแล้วสวยดี เลยแนะนำให้เราลองไปดู

ไม่กี่กิโลจากบ้าน เราก็มาถึงที่นี่ค่ะ ไร่เชิญตะวัน




นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้ว นักท่องเที่ยวผู้มีใจศรัทธาหลายคนมักจะมาสวดมนต์ข้ามปีที่นี่ค่ะ

แต่หากมาหน้าฝน จะได้เห็นทุ่งนาที่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา มองไปแล้วเพลินตาสบายตาดีค่ะ เพราะบริเวณโดยรอบทั้งหมดส่วนมากเป็นทุ่งนาของชาวบ้าน และเป็นพวกสวนผัก ไร่ผลไม้ค่ะ ยิ่งได้ทิวเขาสวยๆ แบบนี้ด้วยละก็ ฟินเลย




เชียงรายเป็นเมืองหนาวก็จริง แต่เที่ยวได้ทุกฤดูนะคะ  แต่ละเวลาก็จะได้ความรู้สึกไปคนละแบบค่ะ  สัมผัสลมหนาวก็ต้องหน้าหนาว หากอยากเล่นน้ำตกเยอะๆ ก็ต้องหน้าร้อนค่ะ แต่หากใครชอบความเขียวขจีของภูเขาแล้วละก็ ต้องหน้าฝนเลยค่ะ


แอ่วเจียงฮาย ไปได้ทุกฤดูค่ะ

เจ้าบ้าน.. ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เจียงฮายตลอดเวลานะเจ้า...... 





Create Date : 10 กรกฎาคม 2556
Last Update : 11 กรกฎาคม 2556 22:10:53 น.
Counter : 5181 Pageviews.

2 comments
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 11 กรกฎาคม 2556 เวลา:4:30:50 น.
  
โดย: Angletaire วันที่: 18 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:16:52 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

My Phuphing
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]