It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

เซี่ยงไฮ้...ไม่ใช่ขนม.....

โดย : มานพ จันทรฯ




เซี่ยงไฮ้ยุคใหม่เป็นศูนย์กลางความเจริญในด้านต่างๆ ของภูมิภาค และเป็นเมืองที่ผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมทั้งจีนและตะวันตกได้อย่างกลมกลืน




นครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่งเสร็จสิ้นจากการเป็นเจ้าภาพจัดงาน The World Exposition Shanghai China 2010 หรือเรียกสั้นๆ ว่า World Expo 2010 ซึ่งดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ได้จำนวนมาก ทั้งคนชาติเดียวกันและต่างชาติ

เซี่ยงไฮ้ หรือ “ซังไห่” เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซีเกียง จัดว่าเป็นเขตปกครองพิเศษแบบเทศบาลนคร มีสถานะเทียบเท่ามณฑล แม้จะตั้งอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง แต่ก็ไม่ได้ขึ้นกับมณฑล การปกครองทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง



เดิมเมืองนี้เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศและเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการค้าขายระดับโลก มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นราว 20 ล้านคน


เซี่ยงไฮ้ยุคใหม่เป็นศูนย์กลางความเจริญในด้านต่างๆ ของภูมิภาค ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การลงทุน รวมถึง ด้านแฟชั่น และการท่องเที่ยว เป็นเมืองที่ผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมทั้งจีนและตะวันตกได้อย่างกลมกลืน โดยปรากฏให้เห็นในอาคารสถาปัตยกรรมในยุคอาณานิคมตามเขตเช่าเดิมของชาวตะวันตก ที่เรียกว่า “บันด์” (The Bund)




ย่านเก่าแก่ของเซี่ยงไฮ้หรือเรียกอีกอย่างว่า ย่านถนนซ่งชาน อยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ฝั่งตะวันตก จุดที่มีชื่อเสียงของย่านนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งโดยรอบเต็มไปด้วยอาคารที่มีลักษณะโดดเด่นของศิลปะแบบกอธิคบาโรค โรมาเนสก์ คลาสสิก และเรอเนอซองส์ ในขณะที่เขตเมืองเก่าบริเวณสวนยูหยวน (Yuyuan) ที่สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ยังคงรูปแบบอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีน ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ขายของที่ระลึกและศิลปะต่างๆ


นอกจากนั้นยังมีสถานที่ที่ผู้มาเยือนไม่ขาดสาย เช่น ถนนนานกิง สัญลักษณ์สำคัญของเซี่ยงไฮ้ มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมและการออกแบบ เป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยแหล่งร้านค้าสินค้าต่างๆ หนึ่งในย่านนั้นมีอาคารจินเหมาทาวเวอร์และอาคารเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน


อาคารสมัยใหม่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้อีกแห่งก็คือ หอไข่มุก (Oriental Pearl Tower) เป็นหอส่งสถานีโทรทัศน์ที่สูงสุดในเอเชีย และสูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ด้วยความสูงถึง 468 เมตร มีความโดดเด่นในการออกแบบ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นสู่หอสูงเสียดฟ้าได้ด้วยลิฟต์หกตัว เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของนครเซี่ยงไฮ้ ในระดับความสูงที่ 267 เมตร มีภัตตาคารหมุนหรูอยู่ในนั้นด้วย



หากสนใจประวัติศาสตร์ก็ควรไปเยือนพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Museum of History) ซึ่งนอกจากส่วนจัดแสดงที่แบ่งเป็น 10 ส่วนแล้ว ยังจัดนิทรรศการทางวัฒนธรรมทั้งในและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัสเหรินหมิน บนถนนเหรินหมินต้าเต้า


ในขณะที่อดีตบ้านพัก ดร.ซุน ยัต เซ็น (Sun Yat Sen Residence Former) บ้านเลขที่ 7 บนถนนเซียงชาน ที่ตั้งของอาคาร 2 ชั้นสไตล์ยุโรป บ้านของผู้นำการปกครองแบบประชาธิปไตยของจีน ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ


สำหรับชาวพุทธแล้ว วัดพระหยกขาว (White Jade Buddha Temple) ฝั่งตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้ เป็นเขตเมืองที่ทันสมัย มีวัดน่าเข้าไปสักการะและมีพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงเป็นพระพุทธรูปหยก สร้างขึ้นในปี 1882 เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ 2 องค์ มีความเป็นมาในอดีตที่น่าค้นหาอย่างยิ่ง

ความเจริญของเซี่ยงไฮ้ด้านหนึ่งก็เป็นอันตรายแก่ตัวเองอย่างเช่นที่ปรากฏในภาพยนตร์ Shanghai (2010) ย้อนไปในราวปี 1941 หลังทหารญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ สหรัฐ ส่วนหนึ่งยกพลขึ้นบกแผ่ขยายอำนาจเข้าสู่นครเซี่ยงไฮ้ เมืองซึ่งแบ่งเขตอิทธิพลทั้งญี่ปุ่นและชาติตะวันตก

พอล โซมส์ (จอห์น คูแซ็ค) สายลับสหรัฐซึ่งปลอมตัวเป็นนักข่าวเดินทางมายังเซี่ยงไฮ้เพื่อสืบหาเงื่อนงำการตายของเพื่อนรัก ที่นั่นเขาได้รู้จักกับสาวสวย แอนนา หลันติง (กงลี่) ภรรยาของ แอนโธนี หลันติง (โจว เหวินฟะ) หัวหน้าแก๊งมาเฟีย และพยายามเข้าถึงแอนโธนี ซึ่งจำใจสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้พันทานากะ (เคน วานาตาเบ) เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นที่เข้ามาสร้างอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้เพื่อความอยู่รอด


ภาพยนตร์บอกเล่าจุดมุ่งหมายของแต่ตัวละครซึ่งต่างก็มีเป้าหมายแตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็ผนวกเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครเข้าไป ให้ลึกลับซับซ้อนเพื่อให้น่าติดตามยิ่งขึ้น โดยได้นักแสดงแถวหน้าของเอเชียและนักแสดงฝั่งตะวันตกมาเป็นแม่เหล็ก

ความจริงภาพยนตร์ Shanghai ไม่ได้ถ่ายทำในเมืองเซี่ยงไฮ้แม้แต่น้อย เพราะนครเซี่ยงไฮ้หวั่นเกรงเรื่องภาพลักษณ์จึงไม่อนุญาต กองถ่ายจึงยกเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม สตูดิโอในไทยและสตูดิโอในอังกฤษแทน ซึ่งทำได้แนบเนียนหากไม่บอกก็ไม่รู้ และอาจทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกอยากไปสัมผัสเซี่ยงไฮ้ในย่านเก่าแก่ที่ยังหลงเหลืออยู่

รวมทั้งความทันสมัยของนครแห่งนี้ ณ ปัจจุบัน

City : Shanghai
Country : China
Population : 19,210,000
Film : Shanghai (2010)
Director : Mikael H?fstr?m
Cast : John Cusack, Yun-Fat Chow, Ken Watanabe, Li Gong



//www.bangkokbiznews.com




 

Create Date : 20 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 0:53:42 น.
Counter : 1973 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.