It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 พฤศจิกายน 2559
 
All Blogs
 
▶▶▶ ยี่เป็งอินเตอร์ "จากวัฒนธรรมล้านนา สร้างศรัทธาระดับโลก"



ก่อนจะมาเป็นยี่เป็งอินเตอร์นั้น ได้มีวัฒนธรรมท้องถิ่นแห่งล้านนา ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า พันปี ทุกๆปีเมื่อถึงเทศกาลยี่เป็งฯ ชาวล้านนา จะมาสร้างบุญพร้อมกับมีกิจกรรม จุดประทีปบูชาในสิ่งที่ ประเสริฐสุดคือพระรัตนตรัย โดยมีจุดประทีปถวายเป็นพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ในรูปแบบและความเชื่อต่างๆ เช่น การถวายประทีป



บนพื้นดิน :
โดยใช้ผางประทีป (วัสดุเป็นถ้วยดินเผา ใส่เทียนและใส้)จุดตามพื้น หน้าพระเจดีย์ พระพุทธรูป ฯลฯ


บนพื้นน้ำ :
โดยทำเป็นกระทง รูปแบบต่างๆเช่นกระทงธรรม ลอยบนผิวน้ำ ฯลฯ


บนท้องฟ้า :
จุดโคมไฟลอย บูชาพระเขี้ยวแก้ว บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ฯลฯ ซึ่งโคมไฟนี้ เป็นการจุด เพื่อบูชาสิ่งอันเนื่องด้วยพระรันตนตรัย จึงทำด้วยความตั้งใจ ทำอย่างดี จึงเป็นโคมที่ดีเป็นพิเศษ ไปอยู่ที่ไหนก็เป็นสิริมงคล แก่ที่นั้นๆ


ปกติโดยทั่วไป ชาวล้านนาก็จะต่างคนต่างทำ ตามกำลังแห่งความพร้อมในชุมชนนั้นๆ
เมื่อธุดงคสถานล้านนา บุญสถานสร้างคนดี และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น


ได้เกิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2529 ได้เล็งเห็นคุณค่าทางวัฒนธรรมอันดีงาม ของชาวล้านนา สมควรที่จะรักษาให้ลูกหลานและหมู่ชน ได้สืบทอด และประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ จึงได้เชิญหน่วยงานในพื้นที่มาร่วมปรึกษา ร่วมคิดร่วมทำ โดยมีอำเภอสันทราย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โรงเรียนสันทรายวิทยาคม โรงเรียนห้วยเกี๋ยง ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ ศูนย์วิจัยยาสูบ ไร่ประพัฒน์และบุตร กลุ่มแม่บ้านสันทราย กำนันผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์กัลยาณมิตร
ล้านนา และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นมีองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหาร


เทศบาลตำบลแม่โจ้ ฯลฯ ได้เริ่มกันจัดงาน"ยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา"ตั้งแต่ ปี2531 เริ่มจากเล็กๆและมีการพัฒนาขึ้นทุกปี จากผู้ร่วมงานระดับร้อย สู่ระดับพัน ระดับหมื่นและหลายหมื่น 
โดยแต่ละครั้ง จะได้รับความสนใจจากชาวต่างประเทศ มากขึ้นทุกปี สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคคือการสื่อสารในเรื่องภาษา ดังนั้น คณะกรรมการจัดงาน จึงเห็นควร จัดเป็นรอบของชาวไทย 1 รอบ และชาวต่างประเทศ 1 รอบ หลังจากนั้นเป็นต้นมา จึงมีการจัดงานยี่เป็งอินเตอร์ขึ้น ต่อเนื่องมาทุกปี เริ่มจากระดับ ร้อย สู่ระดับพัน ปัจจุบันมามาก กว่า 6,000 คน 


สำหรับการจุดโคมไฟลอย บูชาพระเขี้ยวแก้ว บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ฯลฯ ซึ่งโคมไฟนี้ เป็นการจุด เพื่อบูชาสิ่งอันเนื่องด้วยพระรันตนตรัย จึงทำด้วยความตั้งใจ ทำอย่างดี จึงเป็นโคมที่ดีเป็นพิเศษ ยิ่งโคมที่ใช้ ในงานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา และยี่เป็งอินเตอร์ นับว่าเป็นความโชคดี ที่มีการทำวิจัยทดลอง ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โดยตั้งชื่อว่า"โคมธรรมชัย" โดยทดลองว่าขนาดหรือรูปแบบไหน ที่ปลอดภัย คือขึ้นไปแล้ว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็จะสู่ชั้นบรรยากาศ ก็จะดับเพราะเชื้อเพลิง ซึ่งทำจาก กระดาษม้วนที่ชุบเทียนหมด จึงลอยไปตามแรงลม หากบังเอิญ ไปหล่นที่บริเวณบ้านใครก็แสดงว่าบ้านนั้น มีความเป็นสิริมงคล มีโชคมีลาภ 


ดังนั้นหากเป็นโคมที่ใช้ในงานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชาและยี่เป็งอินเตอร์ จึงเป็นโคมที่มาตรฐาน ในงานจะใช้แต่โคมนี้เท่านั้น ห้ามบุคคล
นำมาจากภายนอก มาจุดกันเอง คือจะมี รปภ.คอยตรวจก่อนเข้างานอย่างเข้มงวด จึงทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยในระดับสูง 
มีแต่สิ่งที่น่าห่วงคือประชาชนทั่วไป ทำและปล่อยกันเอง ตามชุมชนนั้นๆทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย 


ซึ่งคงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องสอดส่องดูแลร่วมกับผู้นำชุมชน


ผลที่ได้จากยี่เป็งอินเตอร์คือ เป็น การเผยแพร่ วัฒนธรรมไทยในดินแดนล้านนา เป็นการสร้างภาพลักษณ์อันดีให้ประเทศไทย เพราะภาพที่เกิดเป็นภาพแห่งความสงบร่มเย็น นำมาซึ่งความสนุกสนานเพลิดเพลิน บันเทิงใจ และมีความสุข จากการได้ดูการละเล่นพื้นเมือง ทานอาหารเมือง ได้นั่งสมาธิ(Meditation) ก่อนลอยโคม นับว่าเป็นการ เผยแพร่ภาพลักษณ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ประยัดสุดคือ ไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐ เพราะมีใจของการให้เป็นต้นทุน ประโยชน์สูง คือเมื่อทุกคนมาแล้วมีความสุข ก็อยากมาอีก และไปบอกต่อ จะเห็นได้ว่า ตอนนี้ยอดจองมาร่วมงานเดิมรับแค่3,000 คน แต่ยอดต้องการกว่า6,000 คน ใครจองช้าต้องใช้คำว่าเสียใจ และเสียดาย ข้ามปีเลยทีเดียว 



เป็นที่น่าเสียดาย การที่ภาคเอกชน ทำอะไรดีๆเป็นการช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ ประเทศชาติ ได้อย่างหาศาล แต่ยังไม่สามารถจะทำให้ภาครัฐและบุคคลบางท่าน เข้าใจได้ทั้งหมด จึงเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้ง การเดินไปข้างหน้าระดับหนึ่ง
การทำความดี ทุกคนควรมีสิทธิ์และใช้สิทธิ์บนพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญ 


เมืองไทยเรามีจุดดีหลายอย่าง ที่มีคุณค่า และสามารถเพิ่มมูลค่าให้ประเทศได้เป็นอย่างดี คือเรามีวัฒนาธรรมอันงดงาม ที่มีรากเง้า มาจากพระพุทธศาสนา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันยากที่จะแยกออกจากกันได้ ทำให้ ใครก็ตามเมื่อมาถึงเมืองไทย ต่างได้รับความประทับใจในบุคคล ศิลปะวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า หากรู้จักใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เรียกได้ว่า "ใช้โอกาส สร้างโอกาส"


และ หากใครจะแสดงความรักชาติ จงอย่าพยายาม "ทำโอกาส ให้เป็นวิกฤต"
มาเถิด เรามาช่วยกันสรรสร้างไทย ให้เจริญ เริ่มจากจับดี มีความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมคนดี ใครทำความดีแม้เพียงน้อยนิด ช่วยกันให้กำลังใจให้มาก เพื่อบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักสามัคคีด้วยธรรม เมืองไทยเหมือนครอบครัวใหญ่ หากเราไม่รัก สามัคคีกัน แล้ว จะให้ชาติไหนเขามารักเรา 


ชาติไหนก็ตามหากคนในชาติ แตกความสามัคคี ก็มีแต่ความหายนะ รออยู่ ดังเช่นเป็นข่าวในต่างประเทศ สุดท้ายประเทศล่มจม ไม่มีใครอยู่ได้ เมื่อถึงวันนั้น จะร้องเพลงชาติ ให้ใครฟัง
หากทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือร่วมใจกัน ก็คงสร้างความเจริญให้ประเทศชาติ ได้มากขึ้น ภาครัฐทำโดยหน้าที่ เอกชนทำด้วยใจ หากร่วมมือร่วมใจ ชาติไทยมีแต่เจริญ 
"เอวัง ก็ด้วยประการฉะนี้!"
Cr:Chanjit Boonyopakorn
เส้นทางบุญ
@Pathofboon
______________________
เครดิต Dhammakaya.news


Create Date : 16 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2559 23:13:36 น. 0 comments
Counter : 1396 Pageviews.

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.