It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
ทางการสโลวาเกียปฏิเสธการรับผู้อพยพชาวมุสลิมเข้าประเทศตามโควตาของสหภาพยุโรป (อียู)



ทางการสโลวาเกียปฏิเสธการรับผู้อพยพชาวมุสลิมเข้าประเทศตามโควตาของสหภาพยุโรป (อียู) โดยอ้างเหตุผลที่ว่าประเทศตัวเองไม่มี “มัสยิด” แม้แต่แห่งเดียวสำหรับให้ชาวมุสลิมประกอบศาสนกิจ

 รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงบราติสลาวา ซึ่งอ้างคำแถลงของอิวาน เมติก โฆษกกระทรวงมหาดไทยของสโลวาเกีย ระบุว่า ในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลสโลวาเกียพร้อมให้ความร่วมมือกับสหภาพยุโรป (อียู) ในการแบ่งเบาปัญหาผู้อพยพทั้งทางบกและทางเรือที่หลั่งไหลจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้ามาสู่อิตาลี และกรีซในเวลานี้ แต่สโลวาเกีย “ไม่สะดวก” ที่จะรับผู้อพยพที่นับถือศาสนาอิสลามเข้าประเทศ

       “จริงๆ แล้วรัฐบาลสโลวาเกียมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเหลือชาติเพื่อนบ้านของเราในยุโรปในประเด็นเรื่องผู้อพยพ และเราก็มีศักยภาพมากพอที่จะรับผู้อพยพเหล่านี้เข้าประเทศได้ถึง 800 คน ซึ่งมากกว่าโควตาที่ทางอียูจัดสรรให้เราถึง 4 เท่าตัว แต่ติดตรงที่ว่าประเทศของเราไม่มีมัสยิดแม้แต่แห่งเดียว ดังนั้นเราจึงไม่สะดวกที่จะรับผู้อพยพที่เป็นชาวมุสลิมเข้ามาในประเทศของเรา” โฆษกกระทรวงมหาดไทยของสโลวาเกียกล่าวต่อสื่อดังอย่างวอลล์สตรีท เจอร์นัล

       ทั้งนี้ ตามโควตาที่มีการจัดสรรกันแล้วนั้น สโลวาเกียจะต้องยอมรับผู้อพยพจำนวน 200 ราย จากทั้งหมด 40,000 รายจากอิตาลี และกรีซ แต่ท่าทีล่าสุดของทางการสโลวาเกียที่อาจเข้าข่ายเป็นการกีดกันทางศาสนาและเชื้อชาตินั้นกำลังสร้างความขุ่นเคืองให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูไม่น้อย

       ด้านแหล่งข่าวทางการทูตของอียูในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมระบุว่า การปฏิเสธรับผู้อพยพชาวมุสลิมเข้าประเทศของทางการสโลวาเกีย ด้วยเหตุผลว่าไม่มีมัสยิดในประเทศของตนอาจนำมาซึ่งปัญหาทางด้านกฎหมายและอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้ายซึ่งเป็นเรื่องที่ทางอียูไม่อาจยอมรับได้

       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการสโลวาเกีย เกิดขึ้นในขณะที่กำลังเกิดกระแสต่อต้านชาวมุสลิมอย่างใหญ่หลวงขึ้นในหลายประเทศทั่วยุโรปเนื่องจากความเชื่อของชาวยุโรปจำนวนไม่น้อยที่มองว่าชาวมุสลิมมักเป็นกลุ่มชนที่ชอบใช้ความรุนแรง ก่อปัญหาความไม่สงบ และมักมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งทั้งหลาย

       ทั้งนี้ อียูกำลังเผชิญกับวิกฤตการไหลบ่าของผู้อพยพซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นมากกว่า 107,500 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และในเดือนที่แล้วถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มีการบันทึกสถิติในปี 2008 เป็นต้นมาที่มีผู้อพยพจากตะวันออกกลาง และแอฟริกาไหลทะลักเข้าสู่แผ่นดินยุโรปเกิน 100,000 ราย

       ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติออกมาเปิดเผยในวันอังคาร( 18 ส.ค.) โดยระบุ เฉพาะสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเกือบ 21,000 ชีวิตเดินทางเข้ามาในกรีซ ประเทศสมาชิกยูโรโซนซึ่งกำลังถูกรุมเร้าด้วยวิกฤตหนี้สินและปัญหาทางเศรษฐกิจนานัปการ

       รายงานข่าวซึ่งอ้าง วิลเลียม สปินด์เลอร์ โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR ) ที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรียและอัฟกานิสถานเดินทางเข้ามายังกรีซเกือบ 21,000 ราย หรือคิดเป็นจำนวน “เกือบครึ่งหนึ่ง” ของยอดผู้อพยพทั้งหมด ที่เดินทางเข้ากรีซตลอดทั้งปี 2014

       โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมจากซีเรียและอัฟกานิสถาน เดินทางเข้ามายังแผ่นดินของกรีซรวมแล้วมากกว่า 160,000 คน

       ข้อมูลล่าสุดของยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวน 158,456 รายที่เดินทางข้าม “ทะเลอีเจียน” จากตุรกีมายังหมู่เกาะต่าง ๆ ของกรีซ ขณะที่อีก 1,716 รายเดินทางมาถึงกรีซ ด้วยการ “เดินเท้า”

       ทั้งนี้ มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้อพยพที่เดินทางมุ่งหน้ามายังกรีซนั้น จะเป็นชาวซีเรียที่อพยพหนีภัย “สงครามกลางเมือง”ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตน ขณะที่ผู้อพยพส่วนเหลือจะเป็นชาวอัฟกันและชาวอิรักเสียเป็นส่วนใหญ่

       การไหลบ่าของคลื่นผู้อพยพทั้งทางเรือและทางบกเข้าสู่ยุโรป กำลังกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งกับหลายประเทศโดยเฉพาะอิตาลีและกรีซ ซึ่งต้องแบกรับภาระในการดูแลผู้อพยพ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเหล่านี้เอาไว้มากที่สุด

       ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ทางสหภาพยุโรป (อียู) จะต้องเร่งหาทางรับมือและแก้ไขวิกฤตผู้อพยพนี้อย่างจริงจัง แทนการปล่อยให้ประเทศที่เป็นหน้าด่านอย่างกรีซและอิตาลีแบกรับภาระนี้เพียงลำพัง

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Cr: //goo.gl/krGrRj


Create Date : 08 กันยายน 2559
Last Update : 8 กันยายน 2559 11:19:15 น. 1 comments
Counter : 784 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: peepoobakub วันที่: 15 มีนาคม 2560 เวลา:15:50:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.