It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เมื่อญี่ปุ่นเปิดสงคราม

โดย ...ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช

ทองแถม นาถจำนง

เปลี่ยนบรรยากาศเป็นเรื่องประวัติศาสตร์กันบ้าง
ผมหยิบหนังสือ “ฉากญี่ปุ่น” ของ พลตรี ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช มาอ่าน ได้ความรู้มากครับ

แต่รู้สึกลำบากที่จะตัดตอนใดตอนหนึ่งมาทำเป็นบทความสั้น ๆ
อ่านไปอ่านมา ก็ตัดสินใจเลือกตอนที่ญี่ปุ่นจะทำสงครามกับฝรั่ง


ตอนนั้นญี่ปุ่นยึดแมนจูเรียนานแล้ว และก็บุกเข้าไปในประเทศจีนอย่างเต็มที่ เรื่องนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับสหรัฐอเมริกา

ญี่ปุ่นไม่ยอมถอยออกจากจีน

สหรัฐอเมริกาก็ไม่ยอมที่จะปรองดองกับผู้ที่ตนเห็นว่าเป็นผู้รุกราน
หนทางที่จะระงับสงครามถึงทางตัน นายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือเจ้าโคโนเอจึงลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2484 นายพลเอกโตโจได้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน

พลตรี ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนเล่าไว้ว่า

“ความจริงญี่ปุ่นมิได้โจนเข้าสู่สงครามครั้งนั้นโดยปราศจากความยั้งคิด คณะทหารซึ่งบัดนี้ได้เข้าคุมอำนาจการปกครองโดยเด็ดขาดแล้ว

ได้คิดการล่วงหน้าเกี่ยวกับการทำสงคราม และผลประโยชน์ที่พึงจะได้รับโดยรอบคอบ

คณะทหารรู้ดีว่าสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฮอลันดา มีกำลังทหารอันอ่อนแออยู่ในตะวันออกและแปซิฟิคภาคตะวันออก

และคณะทหารก็รู้ดีด้วยว่าตนมีกำลังมากพอที่จะส่งกองทัพเข้ายึดเมืองขึ้นของอังกฤษและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียอาคเนย์ได้โดยง่ายดาย

เมื่อได้เข้ายึดครองประเทศเหล่านี้แล้ว ญี่ปุ่นก็หวังว่าจะได้โลหะต่าง ๆ และน้ำมัน ตลอดจนวัตถุดิบอื่น ๆ

ซึ่งประเทศญี่ปุ่นต้องการอยู่เป็นอย่างยิ่งในขณะนั้น การได้มาซึ่งวัตถุเหล่านี้จะทำให้ญี่ปุ่นกลับมีกำลังแข็งแรงขึ้นโดยรวดเร็ว สำหรับประเทศรุสเซียในขณะนั้นก็กำลังรบสู้กับเยอรมันอยู่ และเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างหนัก อังกฤษก็กำลังตกอยู่ในภาวะคับขันที่สุดแห่งสงคราม เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถจะป้องกันดินแดนของตนในตะวันออกได้ ส่วนอเมริกานั้นก็คงไม่กล้าจะรวมกำลังส่วนใหญ่ไว้ในภาคแปซิฟิค ตราบใดที่เยอรมันยังมิได้แก้สงครามในยุโรป


ญี่ปุ่นถือเอาโชคชะตาของเยอรมันในสงครามนั้นเป็นเครื่องตัดสินโชคชะตาของตน ถ้าหากเยอรมันชนะสงคราม ญี่ปุ่นก็ปลอดภัยและมีแต่จะรุ่งเรืองต่อไป แต่ถึงแม้เยอรมันจะแพ้สงคราม

การต่อสู้ของเยอรมันก็จะกระทำให้ข้าศึกของญี่ปุ่นนั้นต้องเสียกำลังไปอย่างมากมาย และอาจจะให้เวลาแก่ญี่ปุ่นที่จะทำสงครามให้เสร็จในประเทศจีน พร้อมทั้งเวลาที่จะสร้างอาณาจักรทางเศรษฐกิจและทางทหารอันยิ่งใหญ่ขึ้นในทวีปเอเชีย


การตัดสินใจของญี่ปุ่นที่จะเข้าสงครามครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดดี่ยวที่สุด แต่ญี่ปุ่นก็คาดคะเนสิ่งต่าง ๆ ผิดไปหลายอย่าง


ในประการแรก ญี่ปุ่นเชื่อมั่นในความกล้าหาญและในความสามารถต่าง ๆ ของตน ตลอดจนเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นจนเกินไป

นอกจากนั้นญี่ปุ่นก็ยังประมาทฝรั่งจนเกินไปอีกด้วย เพราะปรากฏความจริงทีหลังว่า ฝรั่งมิได้อ่อนแออย่างที่ญี่ปุ่นนึก


ส่วนประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นเมืองขึ้นฝรั่งอยู่ในเอเชียนั้น ญี่ปุ่นได้คาดคะเนไว้ว่าคงจะให้ความร่วมมือแก่ตนเป็นอย่างดียิ่ง เมื่อตนได้ขับฝรั่งออกไปจากประเทศเหล่านั้น แต่ในข้อที่ญี่ปุ่นก็คาดคะเนผิดไปอีก เพราะคนในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียมิได้ให้ความร่วมมือหรือความสนับสนุนแก่ญี่ปุ่นเท่าที่ญี่ปุ่นได้คาดหมายไว้


ญี่ปุ่นได้เริ่มสงครามด้วยการจู่โจมมิให้ข้าศึกได้ทันรู้ตัว เช่นเดียวกับที่ได้เคยทำมาแล้วกับประเทศรุสเซีย เมื่อ พ.ศ 2441 ญี่ปุ่นได้ส่งกองทัพอากาศเข้าโจมตีทิ้งระเบิดอ่าว ที่เกาะฮาวาย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ 2484 และได้ทำลายกองทัพเรืออเมริกันซึ่งอยู่ ณ ที่นั้นลงเป็นอันมาก


เมื่อกองทัพเรืออเมริกันภาคแปซิฟิคถูกญี่ปุ่นทำลายลงโดยทันทีเช่นนี้ ญี่ปุ่นก็สามารถจะโจมตีเมืองขึ้นของฮอลันดาในเอเชีย เมืองขึ้นของอังกฤษ ตลอดจนประเทศอื่น ๆ ในเอเชียได้โดยง่าย ดังที่ได้ทราบกันอยู่แล้ว


ถึงแม้ว่าการโจมตีอ่าวเพิล ที่เกาะฮาวายจะเป็นความสำเร็จทางทหารอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นก็ตามที แต่การโจมตีนั้นได้ทำให้ชาวอเมริกันซึ่งมีกำลังแตกแยกกันอย่างหนักในทางความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่สหรัฐควรจะเข้าสู่การสงครามหรือไม่ ได้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และตั้งปณิธานที่จะต่อสู้สงครามไปจนได้ชัยชนะ ทั้งในยุโรปและในเอเชีย ชาวอเมริกันได้พร้อมใจกันจับอาวุธเข้าสู่สงครามโดยเจตนาอันแข็งแกร่งที่จะทำลายทั้งญี่ปุ่นและเยอรมันมิให้เหลือได้


สหรัฐได้สร้างกำลังรบขึ้นทุกทางด้วยความรวดเร็วอย่างที่ญี่ปุ่นคาดไม่ถึง อเมริกาได้สร้างกองทัพเรือขึ้นใหม่ และได้สร้างกองทัพอากาศอันมีกำลังมหาศาลซึ่งกำลังกองทัพอากาศของญี่ปุ่นไม่มีทางที่จะสู้ได้ ครั้นแล้วสหรัฐอเมริกาก็ได้ส่งทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือไปยันญี่ปุ่นไว้ในภาคแปซิฟิค ภายในฤดูร้อนของ พ.ศ 2485 อเมริกันก็รับญี่ปุ่นอยู่ทุกทางในแปซิฟิค และภายใน พ.ศ 2486 อเมริกันก็เริ่มเป็นฝ่ายรุก


เมื่อญี่ปุ่นต้องกลับเป็นฝ่ายรับ ทหารญี่ปุ่นได้ต่อสู้กับข้าศึกด้วยความกล้าหาญและเสียสละอย่างยิ่งยวด ทหารเหล่านี้ได้รับการอบรมมาเป็นเวลานานให้เชื่อถือว่าการยอมแพ้แก่ข้าศึกนั้นเป็นการเสียเกียรติอย่างยิ่งใหญ่แก่ตระกูลของตน และผู้ที่ยอมแพ้แก่ฝรั่งนั้นจะถูกฝรั่งทรมาน และในที่สุดก็จะถูกฝรั่งฆ่าตาย ด้วยเหตุนี้ทหารญี่ปุ่นในสนามรบทุกแห่งจึงต่อสู้กับข้าศึกจนถึงคนสุดท้าย ไม่มีใครยอมแพ้ แม้แต่พลเรือนญี่ปุ่นในบางกรณีก็ตัดสินใจที่จะเลือกความตายมากกว่าที่จะยอมแพ้แก่ข้าศึก แต่ความกล้าหาญเสียสละของญี่ปุ่น ตลอดจนความไม่กลัวตายของญี่ปุ่นนั้นหาได้ทำให้ญี่ปุ่นได้ชัยชนะไม่ เพราข้าศึกคืออเมริกามีอาวุธและกำลังต่าง ๆ ที่เหนือกว่าญี่ปุ่นอย่างมากมาย


อเมริกาได้รุกเข้ามาตลอดด้านแปซิฟิคได้กลับเข้ายึดเกาะฟิลิปปินส์คืนจากญี่ปุ่น และในที่สุดก็ได้ขึ้นตั้งกองทัพอยู่บนเกาะโอกินาวา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ภายใน พ.ศ 2488 ภาวะต่าง ๆ ในญี่ปุ่นก็แสดงให้เห็นได้เป็นแน่นอนแล้วว่าญี่ปุ่นต้องแพ้สงครามโดยไม่มีปัญหา



..........

Credit : //www.siamrath.co.th/



Create Date : 17 กันยายน 2553
Last Update : 17 กันยายน 2553 21:59:45 น. 0 comments
Counter : 1001 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.