ภูบักบิด เป็นภูเขาเล็ก ๆ ห่างจากตัวจังหวัดเลยไม่มากนัก เป็นภูเขาซึ่งอยู่เหนือฟากฝั่งของแม่น้ำเลย โดยมีตัวเมืองเลยอยู่ฟากฝั่งตรงกันข้ามหลวงปู่หลุย จันทสาโร (พรรษาที่ ๓๒) ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติภาวนาที่ "ภูบักบิด ชื่อ "ภูบักบิด นี้มีที่มาของชื่อค่อนข้าพิสดารอยู่ กล่าวคือ บนยอดภูแห่งนี้มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง เป็นถ้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์ยิ่ง เนื่องจากเป็นอาณาเขตของพวก "บังบด หรือภุมเทวดาสถิตอยู่(ภาพประกอบจากทาง Internet)ลักษณะของถ้ำบน "ภูบักบิด นี้ ปากถ้ำค่อนข้างเล็กแคบ
แต่เมื่อผ่านปากถ้ำเข้าไปแล้ว ภายในกลับกว้างขวางเวิ้งว้าง ผนังถ้ำเป็นรู เป็นซอกหลืบมากมาย อีกทั้งยังมีโพรงลึกอยู่โพรงหนึ่ง ชาวบ้านเรียกขานกันว่าเป็นโพรงของพญานาค หากใครนำเอามะพร้าวมาทิ้งลงในโพรงนี้ มะพร้าวจะไปโผล่ที่กุดป่องอย่างน่าอัศจรรย์ ที่เป็นเช่นนี้แสดงว่า ลึกล้ำจากปากโพรงลงไป คงจะมีสายธารน้ำไหลอยู่ใต้แผ่นดิน และสายธรน้ำไหลนี้ ย่อมซอกแซกทอดยาวไปทะลุถึงกุดป่องได้
เมื่อกาลก่อนนั้น... เล่ากันว่า... ภายในถ้ำมีสมบัติมีค่ามากมายมหาศาลของเทวดา ผู้มีศีลธรรม มีจิตบริสุทธิ์ยิ่ง สมบัติดังกล่าวเป็นเครื่องประดับล้ำค่าของโบราณ ประกอบด้วยแก้วแหวนเงินทอง สร้อยคอ สร้อยข้อมือ สร้อยสายสะพาย ปะวะหล่ำ กำไลแขน กำไลมือ สายสังวาล และเข็มขัดทอง เข็มขัดนาก เครื่องประดับเหล่านี้วางกองอยู่บนแท่นหินในถ้ำนอกจากเครื่องประดับล้ำค่าเหล่านี้แล้ว ยังมีพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปนาก และพระพุทธรูปเงินขนาดต่าง ๆ วางไว้บนชั้นหินหลายระดับ
แสดงให้เห็นว่าผู้เป็นเจ้าของสมบัติซึ่งเป็นคนโบราณ เป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับนำทองคำ นาก และเงินมาหล่อเป็นพระพุทธรูปเพื่อกราบไหว้บูชาชาวบ้านที่อยู่เชิงเขา ภูบักบิด ในสมัยก่อน มีสิทธิ์ขึ้นไปยืมเครื่องประดับมาแต่งกาย และนำพระพุทธรูปมาเคารพบูชาในงานบุญต่าง ๆ ได้เป็นการชั่วคราว
เมื่อเสร็จงานบุญแล้วก็จะนำเครื่องประดับและพระพุทธรูปไปคืนไว้ในถ้ำตามเดิม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันตรุษ สงกรานต์ วันสารท หรือวันที่มีงานบุญ งานมงคลต่าง ๆ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานบวช งานโกนจุก และงานแต่งงาน
ชาวบ้านทั้งหญิงและชายจะมีเครื่องประดับของมีค่าใส่กันแพรวพราวเวลาจะเข้าไปเอาเครื่องประดับในถ้ำศักดิ์สิทธิ์บนภูบักบิดนี้ มีกฎอยู่ ๒ ประการคือข้อแรก ผู้ที่จะเข้าไปเอาต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด แล้วเดินตัวเปล่า ๆ เข้าไป เหตุที่ต้องทำเช่นนั้น คงถือเอาความบริสุทธิ์ของใจเป็นสำคัญ คือจะไม่เอาเครื่องประดับชิ้นหนึ่งชิ้นใดซุกซ่อนไว้ในเสื้อผ้าที่ใส่ กฎข้อนี้ต้องกระทำเหมือนกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย เด็ก หรือคนแก่ข้อต่อมา คือ ให้หยิบเครื่องประดับไปได้แค่หนึ่งกำมือเท่านั้น
จะเอามากไปกว่านี้ไม่ได้ผู้คนในสมัยก่อนเป็นคนมีศีลมีธรรมประจำใจ ไม่มีความละโมบโลภมาก เมื่อหยิบยืมเครื่องประดับไปใช้สมประสงค์แล้วก็จะรีบนำมาคืนไว้ที่เดิม เพราะถือว่าเป็นของกลาง ไม่ใช่สมบัติของตนหรือของใครทั้งสิ้น
ถ้ำบังบดที่หลวงปู่หลุยเผชิญพญานาค
ต่อมา... มีบางคนเกิดความโลภ อยากได้เครื่องประดับของมีค่ามาเป็นของตน เข้าไปยืมเครื่องประดับในถ้ำแล้วก็ไม่ยอมนำไปคืน ยักยอกทุจริตเก็บไว้เป็นสมบัติของตนเสียดื้อ ๆ การกระทำเช่นนี้จึงเท่ากับจงใจเจตนาผิดศีลข้ออทินนาทาน คือ ลักขโมยทรัพย์ของผู้อื่น เครื่องประดับจำนวนมากมายก็ลดน้อยลงไปเรื่อย อีกทั้งทองคำอันสุกปลั่งวาววับเริ่มหมองคล้ำดำลงไปคล้ายกับทองเหลือง
มีหลายถ้ำเลยนะครับ ที่มีของมีค่า ต่อมาคนโลภได้ไปไม่นำมาคืน ถ้ำบางที่ปิดเองได้ด้วย
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog