It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ คือ





+ หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ คือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุขนั้น ก็คืออยู่กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด

��+ ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
     ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตา กรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น

��+ อริยสัจ 4 คือ สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบและบอกไว้ด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
     แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า "ความสุข" เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด "ความทุกข์" ได้แล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้น


��+ อุปสรรคของความสุข ก็คือแรงปรารถนาและตัณหา
     คนเราจะมีความสุขไม่ขึ้นอยู่กับว่า "มีเท่าไร" แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา "พอเมื่อไร"
     ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามี หรือเราได้...

��+ ดังนั้น วิธีจะมีความสุข อันดับแรกต้อง "หยุดให้เป็น และ พอใจให้ได้"
     ถ้าเราไม่หยุดความอยากของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตามหลายสิ่งที่เรา "อยากได้" แล้วนั่นมันเหนื่อย และความทุกข์ก็จะตามมา...


��+ ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุข คือ การมองทุกอย่างในแง่บวก
     ชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้องเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดี
     ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราต้องเริ่มด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก
     เพื่อใจเราจะได้เป็นบวกคิดถึง แต่สิ่งที่เรากระทำสำเร็จแล้วในวันนี้ และสิ่งดีๆที่เราได้กระทำ

��+ ข้อต่อมา คือ "การให้"
     หมายรวมถึง การให้ในรูปแบบสิ่งของหรือเงิน ที่เรียกว่าบริจาค และการให้ความเมตตากรุณาต่อกันและกัน รวมถึงการให้อภัยทั้งตัวเองและผู้อื่น
     สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ทำให้เรามีแต่ความสุข....


��+ การปล่อยวางให้ได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด
     จำไว้ว่ามันจะโดนเวลาพัดพามันไปจากเรา ไม่ช้าก็เร็ว
     เราจะผ่านพ้นไปได้... และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
     เรา ทุกคนต้องได้ผ่านบททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...

��+ ทำตนเองให้สดใส ด้วยการยิ้มให้ตนเอง
     ทำคนอื่นให้สดใสได้ ด้วยการยิ้มให้เขา
     การยิ้มไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่สามารถสร้างความสดใสได้เป็นอันมาก ทำให้เราเป็นสุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง อยู่แค่ที่ใจของเรานี่เอง
     ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก


��+ การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก
     เพราะเวลาเขาด่าว่าเราเพียงไม่ถึงนาที เขาอาจจะลืมไปแล้วด้วย
     แต่เรายังคงจดจำ ยังเจ็บใจอยู่... นี่เราฉลาดหรือโง่กันแน่

��+ การบ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วมีปัญหา ไม่รู้จะบ่นหาอะไร
     เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร
     ทำไมต้องเศร้าหมอง... ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ


��+ อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิต
     แม้จะฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธไม่ได้ แต่การฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธบ่อยสามารถกระทำได้ โดยฝึกให้เป็น ผู้รู้จักให้อภัยให้ได้

��+ การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา
     การชอบพูดถึงความดีของเขา คือ ความดีของเรา
     การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือ ความไม่ดีของเรา

��+ การโทษผู้อื่นแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่การโทษตนเองสามารถแก้ไขได้
     แก้ตัวไม่ได้ช่วยอะไร แต่แก้ไขช่วยให้ดีขึ้น

��+ การนอนหลับเป็นการพักกาย การทำสมาธิเป็นการพักใจ
     คนส่วนใหญ่พักแต่กาย ไม่ค่อยพักใจ


��+ รู้จักทำใจให้รักผู้บังคับบัญชา รู้จักทำใจให้รักลูกน้อง รู้จักทำใจให้รักเพื่อนร่วมงาน สวรรค์ก็อยู่ที่ทำงาน
     เกลียดผู้บังคับบัญชา เกลียดลูกน้อง เกลียดผู้ร่วมงาน นรกก็อยู่ที่ทำงาน

��+ การที่เรายังต้องแสวงหาความสุข แสดงว่าเรายังขาดความสุข
     แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสุขได้เอง ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาที่ไหน


��+ ความอ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน นั้นดี.... อ่อนข้อให้เขาบ้างก็ยังดี แต่... อ่อนแอนั้น ไม่ดี
     ในการคบคน ศิลปะใดๆ ก็สู้ความจริงใจไม่ได้
     จงประหยัด "คำติเตียน" แต่อย่าตระหนี่ "คำติชม"

��+ การอภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย

��+ ถ้าคิดทำความดี ให้ทำได้ทันที
     ถ้าคิดทำความชั่ว ให้เลิกคิดทันที ถ้าเลิกคิดไม่ได้ ก็อย่าทำวันนี้ ให้ผลัดวันไปเรื่อยๆ

��+ ถึงจะรู้ร้อยเรื่องพันเรื่อง ก็ไม่สู้รู้เรื่องดับทุกข์
     โลกสว่างด้วยแสงไฟ ใจสว่างด้วยแสงธรรม
     แสงธรรมส่องใจ แสงไฟส่องทาง

��+ "ผู้สนใจธรรม สู้ผู้รู้ธรรมไม่ได้
     ผู้รู้ธรรม สู้ผู้ปฎิบัติธรรมไม่ได้
     ผู้ปฎิบัติธรรม สู้ผู้ที่เข้าถึงธรรมไม่ได้"...


��+ "มีทรัพย์มาก ย่อมมีความสะดวกมาก
     มีธรรมะมาก ย่อมมีความสุขมาก"...

��+ "เมื่อก่อนยังไม่มีเรา เราเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก
     จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่"...


Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2558 10:52:55 น. 0 comments
Counter : 1426 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.