It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
ภัทรกัป

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้มีพระจักษุ มีพระสิริ พระสิขีพุทธเจ้า ผู้ทรงอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั่วหน้า ขอนอบน้อมแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ผู้ทรงชำระกิเลส มีความเพียร พระกกุสันธพุทธเจ้า ผู้ทรงย่ำยีมารและเสนามาร พระโกนาคมนพุทธเจ้า ผู้มีบาปอันลอยแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์ พระกัสสปพุทธเจ้า ผู้พ้นพิเศษแล้วในธรรมทั้งปวง และขอนอบน้อมแด่พระอังคีรสพุทธเจ้า ผู้เป็นศากยบุตร

บทความ Articles > ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for People






  •      การนั่งสมาธิ(Meditation)เจริญภาวนา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดทั้งต่อตัวของเราเอง และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหนทางอันประเสริฐที่จะทำให้เราได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกภายใน คือ เข้าถึงพระรัตนตรัย ซึ่งมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกๆ คนในโลก เพียงแต่ไม่รู้วิธีการที่จะปฏิบัติให้เข้าถึง ถ้าหากว่าปฏิบัติให้ถูกวิธี จะสามารถเข้าถึงได้ทุกคน ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ เพราะพระรัตนตรัยหรือพระธรรมกาย เป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรมของทุกๆ คน เป็นกายอมตะรอคอยทุกๆ คนที่มีใจหยุดนิ่งดีแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันต์ผู้รู้ทั้งหลาย ต่างเข้าถึงกายธรรมอรหัตด้วยการทำใจหยุดนิ่ง ทำให้ท่านปลดเปลื้องทุกข์ทั้งมวลได้ เสวยเอกันตบรมสุขล้วนๆ อย่างเดียว ฉะนั้น การทำใจหยุดนิ่งตามหลักพุทธวิธี จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต ได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในกันทุกคน

มีวาระพระบาลี ที่ท่านให้เราได้สวดสรรเสริญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

                         “วิปสฺสิสฺส นมตฺถุ   จกฺขุมนฺตสฺส สิรีมโต
                           สิขิสฺสปิ นมตฺถุ    สพฺพภูตานุกมฺปิโน

     ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้มีพระจักษุ มีพระสิริ พระสิขีพุทธเจ้า ผู้ทรงอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั่วหน้า ขอนอบน้อมแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ผู้ทรงชำระกิเลส มีความเพียร พระกกุสันธพุทธเจ้า ผู้ทรงย่ำยีมารและเสนามาร พระโกนาคมนพุทธเจ้า ผู้มีบาปอันลอยแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์ พระกัสสปพุทธเจ้า ผู้พ้นพิเศษแล้วในธรรมทั้งปวง และขอนอบน้อมแด่พระอังคีรสพุทธเจ้า ผู้เป็นศากยบุตร”

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระบรมโพธิสัตว์ที่สั่งสมบุญบารมีจนเต็มเปี่ยม แล้วได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณโดยชอบด้วยพระองค์เอง คือ เมื่อพระองค์ได้เข้าถึงกายธรรมแล้ว เกิดธรรมจักษุ เห็นแจ้งด้วยธรรมจักษุ และรู้แจ้งด้วยญาณทัสสนะของธรรมกาย ได้ตรัสรู้อริยสัจ ๔ เห็นว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมา ต่างมีความทุกข์เป็นพื้นฐาน แล้วมองเห็นต่อไปว่า สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์นั้นคือตัณหา ตั้งแต่กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ทำให้เวียนวนอยู่ในสังสารวัฏไม่รู้จักจบสิ้น

  •      การจะดับต้นเหตุแห่งทุกข์ต่างๆ เหล่านี้ได้ ใจต้องหยุด ซึ่งท่านเรียกว่า นิโรธ ซึ่งแปลว่า หยุดหรือดับ ถ้าหยุดใจได้ ความทะยานอยากทั้งหลายก็หมดสิ้นไป ที่ใจยังไม่หยุด เพราะว่ายังมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น   เมื่อยังไม่สมปรารถนาก็ดิ้นรนไขว่คว้าเรื่อยไป หยุดใจได้เมื่อไร ก็หยุดการเวียนว่ายตายเกิด ตัดภพตัดชาติกันเลยทีเดียว แล้วหนทางที่นำไปสู่การดับทุกข์ที่เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทานั้น ต้องอาศัยมรรคมีองค์ ๘ ตั้งแต่สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ  เมื่อมรรคมีองค์ ๘ ประกอบกันถูกส่วน ก็เกิดเป็นดวงปฐมมรรค ซึ่งเป็นต้นทางนำไปสู่อายตนนิพพาน

     จากนั้นพระพุทธองค์อาศัยใจหยุดนิ่งตามเห็นธรรมเข้าไปตามลำดับ ตั้งแต่เห็นดวงธรรมต่างๆ ภายใน เห็นกายในกาย จนเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วเข้ากายธรรมในกายธรรม ตั้งแต่กายธรรมโคตรภู จนกระทั่งเข้าถึงกายธรรมอรหัต ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระสัพพัญญูผู้รู้แจ้งโลกทั้งปวง และที่พระพุทธองค์ได้นามว่า สัพพัญญูพุทธเจ้า เพราะได้บรรลุธรรมกายอรหัตนี่แหละ จึงทำให้มีญาณทัสสนะกว้างขวาง รู้เห็นได้ครอบคลุมไปหมด

  •      พระบรมโพธิสัตว์ผู้ได้บรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้านั้น ไม่ใช่มีเพียงพระองค์เดียว ๒ พระองค์ ๑๐ พระองค์ หรือ ๑๐๐ พระองค์เท่านั้น แต่มีเป็นล้านเป็นอสงไขยพระองค์ ท่านจึงใช้คำว่านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ที่ตรัสรู้ไปแล้วมีมากกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ แล้วยังมีที่จะลงมาตรัสรู้อีกนับพระองค์ไม่ถ้วน บางท่านอาจเข้าใจว่า เรามีพระพุทธเจ้าคือ พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว มีเยอะแยะมากมาย เฉพาะกัปของเรานี้ที่เรียกว่า ภัทรกัป มีถึง ๕ พระองค์

     * เริ่มตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ ทรงอุบัติขึ้นในสมัยที่มนุษย์มีอายุ ๔๐,๐๐๐ ปี บางท่านอาจไม่เชื่อ เพราะปัจจุบันใครมีอายุถึง ๑๐๐ ปี นับว่าอายุยืนที่สุดแล้ว สมัยก่อนดินฟ้าอากาศบริสุทธิ์ มนุษย์มีจิตใจดีงาม ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ทำให้มนุษย์มีอายุยืน ไม่เหมือนปัจจุบันบรรยากาศโลกมีแต่มลภาวะเป็นพิษ ทั้งควันพิษ น้ำเน่า อากาศไม่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น การจะให้อายุยืนเป็นหมื่นๆ ปีจึงเป็นไปได้ยากมาก

  •      พระพุทธองค์ทรงบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ เพราะสมัยนั้นเขายกย่องกันว่า ตระกูลพราหมณ์สูงสุด มีผู้ให้ความเคารพนับถือมากที่สุด เวลาตรัสรู้ก็บำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นซึกเพียง ๗ วัน ก็ได้บรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า เพราะท่านสั่งสมบุญบารมีมามาก เวลาประชุมพระอรหันตสาวกก็มีมากถึง ๔๐,๐๐๐ รูป เมื่อมีอายุยืนมากพระพุทธองค์ก็สามารถเทศน์โปรดสรรพสัตว์ให้บรรลุธรรมกันได้มากมาย สมัยนั้นผู้ที่ยังไม่หมดกิเลส ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ก็มาก นรกประหนึ่งว่าจะร้างกันเลยทีเดียว

     หลังจากที่พระกกุสันธพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน กัปก็ไขลงเรื่อยๆ คืออายุมนุษย์ค่อยๆ ลดลงมา ถึงยุคสมัยที่มนุษย์มีอายุ ๓๐,๐๐๐ ปี พระโกนาคมนพุทธเจ้า ก็ทรงอุบัติขึ้นเป็นองค์ที่สอง พระองค์ทรงอุบัติในตระกูลพราหมณ์ และตรัสรู้ใต้ควงไม้มะเดื่อ เทศนาแต่ละครั้งก็มีผู้ตรัสรู้ธรรมตามนับไม่ถ้วน ประชุมสาวกครั้งหนึ่ง ก็มีเหล่าพระอรหันต์มากถึง ๓๐,๐๐๐ รูป

  •      ต่อมาเมื่อยุคสมัยที่มนุษย์มีอายุ ๒๐,๐๐๐ ปี พระกัสสปพุทธเจ้า ก็เสด็จอุบัติขึ้นเป็นองค์ที่ ๓ องค์นี้ก็บังเกิดในตระกูลพราหมณ์เหมือนกัน เวลาปรารถนาจะออกบวช เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ คือ ปราสาททั้งหลังจะลอยขึ้นไปในอากาศทันที แล้วลอยไปลงในป่าใหญ่ บางองค์เสด็จออกด้วยยานพาหนะ คือ ช้างบ้าง ม้าบ้าง ซึ่งแล้วแต่ความปรารถนา และบุญบารมีที่สั่งสมมา

     พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ได้ไม่กี่วันก็ได้ตรัสรู้ธรรมใต้ต้นไทร เวลาประชุมสาวกมีพระอรหันตขีณาสพมากถึง ๒๐,๐๐๐ องค์ หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว อายุมนุษย์เริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ จนถอยลงมาเหลือเพียง ๑๐๐ ปี คือ ยุคสมัยของเรานี่เอง สมัยนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรา คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นเป็นองค์ที่ ๔

  •      พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทรงประสูติในตระกูลกษัตริย์ แล้วออกผนวชด้วยม้ากัณฐกะพร้อมด้วยนายฉันนะ ได้บำเพ็ญเพียรภาวนาใช้เวลานานที่สุด คือ ๖ พรรษา จึงได้ตรัสรู้ธรรมใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์หรือที่เรียกว่าต้นโพธิ์ สร้างบารมีมา ๔ อสงไขยแสนมหากัป เวลาประชุมสาวก มีพระอรหันตขีณาสพ ๑,๒๕๐ รูป มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นอัครสาวกเบื้องขวาและเบื้องซ้ายตามลำดับ ทรงมีพระชนมายุเพียง ๘๐ พรรษาเท่านั้น ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน

     พระพุทธเจ้ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง คือ พระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งพวกเราคงคุ้นชื่อนี้กันดี ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัทรกัปนี้ เมื่อมนุษย์ยุคนี้มีอายุเสื่อมถอยลงไปเหลือ ๑๐ ปี แล้วค่อยๆ เจริญขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นช่วงกัปไขขึ้นจนถึงยุคที่มนุษย์มีอายุอสงไขยปีมนุษย์ จากนั้น อายุขัยของมนุษย์ก็จะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ ๘๐,๐๐๐ ปี เวลานั้นแหละ พระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก กว่าจะถึงเวลานั้นก็เป็นเวลาอีกยาวนานมาก

     พระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์นี่แหละ ถือว่าเป็นช่วงที่อยู่ในภัทรกัป บางกัปมีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติมาเพียง ๑ พระองค์ บางกัป ๒ พระองค์บ้าง ๓ พระองค์บ้าง แต่จะไม่เกิน ๕ พระองค์ บางยุคบางสมัยไม่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดเลย กัปนั้นกลายเป็นสุญญกัปไป โลกว่างเปล่าจากพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องถือว่าเป็นยุคมืดกันเลยก็ว่าได้ 

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ที่มาตรัสรู้ ก็เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติและธาตุธรรม เหมือนดวงอาทิตย์อุทัยที่ให้ความสว่างไสวแก่สรรพสัตว์และสรรพสิ่ง  ดังนั้น ท่านจึงเป็นผู้ที่เราควรนอบน้อมถึง และยึดพระองค์เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป การจะนอบน้อมระลึกนึกถึงพระพุทธองค์ให้ได้ดีที่สุด คือ การนำใจมาหยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เอาใจหยุดไว้ที่ตรงนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะพบพระธรรมกายภายใน ซึ่งเป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรม เข้าถึงตรงนี้ได้จะพบพระพุทธเจ้า เพราะทุกๆ พระองค์ต่างตรัสรู้ด้วยธรรมกาย  ดังนั้น ถ้าเข้าถึงธรรมกายได้เมื่อไร จึงจะได้ชื่อว่า ส่งใจไปถูกตัวจริงของพระพุทธเจ้า ขอให้ทุกๆ ท่านหมั่นเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ทำใจให้หยุดนิ่งจนกว่าจะเข้าถึงพระธรรมกายกันทุกๆ คน


  • พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี

  • นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๑๓ หน้า ๑



ขอบคุณภาพและบทความ //www.dmc.tv/


Click :TOP




Create Date : 26 มกราคม 2556
Last Update : 26 มกราคม 2556 6:17:59 น. 0 comments
Counter : 1284 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.