It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

ถวิลหาอดีต เซี่ยงไฮ้ (ชัฟเฟิล)

วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ถนนทุกสายมุ่งสู่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีงาน Expo 2010 World's Fair เป็นแม่เหล็กยักษ์



วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ถนนทุกสายมุ่งสู่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีงาน Expo 2010 World's Fair เป็นแม่เหล็กยักษ์ และงานนี้ได้กลายเป็นกระแสสร้างความตื่นตัวในบ้านเรา เมื่อรัฐบาลไทยอาสาจะขอเป็นเจ้าภาพในอีก 10 ปีข้างหน้ากับเขาบ้าง

คนไทยเราคุ้นเคยกับชื่อ "เซี่ยงไฮ้" กันดี ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงรู้จัก "เซี่ยงไฮ้" ในฐานะยี่ห้อขนมเวเฟอร์ (ว่ากันว่า เป็นคู่แข่งกับขนมเวเฟอร์ยี่ห้อ "ปักกิ่ง" หวานกรอบ ชอบจริงๆ ...) นอกจากนั้น ยังมีก๋วยเตี๋ยวเส้นเซี่ยงไฮ้ ก่วยเตี๋ยวหลอดเซี่ยงไฮ้ ไปนถึงหนังซีรีส์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ทั้งเวอร์ชั่นเก่า

และใหม่

แม้กระทั่งหนังใหญ่เรื่อง Shanghai ยังต้องมาหาโลเกชั่นย้อนยุค ถ่ายทำกันถึงเมืองแปดริ้วเลยด้วยซ้ำ !


เมื่อเปรียบเทียบกับมหานครอื่นๆ ในจีน จัดได้ว่า เซี่ยงไฮ้ หรือ "ช่างไห่" สะท้อนถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมยุคใหม่ระหว่างจีนกับตะวันตกจนเกิดลักษณะเฉพาะตัว ดังปรากฏร่องรอยผ่านวิถีชีวิต แฟชั่น สถาปัตยกรรม ฯลฯ หรือแม้กระทั่งภาษาพูดของคนที่นี่ บางครั้งยังทำเอาคนจีนในมณฑลอื่นฟังแล้ว "อึ้งกิมกี่" คือไม่เข้าใจเหมือนกัน



ตั้งแต่ยุคอาณานิคม มหานครแห่งนี้ได้รับคลื่นความเจริญตะวันตกอย่างเต็มเหนี่ยว ตามประสาเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ จนได้ชื่อว่าเป็น "ปารีสตะวันออก" เซี่ยงไฮ้มาเติบโตสุดๆ อีกคราวในระยะหลัง โดยมีฐานะเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่ง เมื่อจีนเปิดประเทศและปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจให้เป็นสรีมากขึ้น ทำให้ทุกวันนี้ ใครๆ ก็อยากไปเยือน "เซี่ยงไฮ้" สักหน เพื่อชมความเจริญในรูปแบบต่างๆ


นอกจากต้นเมเปิลเก่าแก่ที่ฝรั่งเศสปลูกไว้เป็นอนุสรณ์ หรือจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมตามเขตเช่าเดิมของพวกฝรั่งแล้ว สัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้วันนี้ ยังประกอบด้วยหอไข่มุก ที่เป็นภาพสะท้อนความเจริญยุคใหม่ ส่วนใครที่สนใจร่องรอยอดีต อาจจะต้องเลาะเขตเมืองเก่าบริเวณสวน Yuyuan ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งยังคงสไตล์สถาปัตยกรรมจีนเอาไว้

แหล่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้กัน คือ ถนนหนานจิง ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนกับร้านค้าที่ตั้งเรียงราย โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ความสว่างของแสงไฟนีออนของที่นี่ เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่บ่งบอกความมีชีวิตของมหานครแห่งนี้


ในแวดวงดนตรี มีคนอย่าง จีน ร็อดมิช แต่งเพลง Shanghai Shuffle มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1924 แล้ว และต่อมา เพลงนี้ถูกนำมาบรรเลงในวงบิ๊กแบนด์ของ เฟล็ทเชอร์ เฮนเดอร์สัน ซึ่งจัดเป็นวงดนตรีบิ๊กแบนด์วงแรกๆ ในยุคสมัยของสวิง (Swing Era) โดยเวอร์ชั่นที่มีการบันทึกเสียงในปีถัดมานั้น มี หลุยส์ อาร์มสตรอง หนุ่มวัยย่างเบญจเพส ที่เพิ่งเข้าร่วมวงของ เฟล็ทเชอร์ ฝากไลน์โซโลที่จัดจ้านร้อนแรงเอาไว้ด้วย





จากชื่อเพลง Shanghai ในที่นี้ น่าจะหมายถึงเมืองเซี่ยงไฮ้แน่นอน ส่วน Shuffle ถือเป็นจังหวะดนตรีอีกรูปแบบหนึ่งที่พัฒนาขึ้นในเวลานั้น โดยการใช้ huffle ก็เพื่อสื่อถึงสไตล์ของเพลง เหมือนการใช้คำว่า Rag หรือ Blues ในยุคก่อนหน้านั้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าคนแต่งเพลง Shanghai Shuffle มีความฝังใจอันใดกับมหานครแห่งนี้ แต่พอจะอนุมานได้ว่า ณ เวลานั้น เมืองเซี่ยงไฮ้ น่าจะเป็น "สถานที่" ที่มีผู้คนพูดถึงอยู่พอสมควร อาจจะในฐานะสวรรค์อันเต็มไปด้วยแสงสีของดินแดนตะวันออก (ดังปรากฏในเพลง Shanghai ซึ่งเป็นคนละเพลงกับ Shanghai Shuffle ที่ถ่ายทอดเสียงร้องโดย ดอริส เดย์ ก็มีเนื้อความพูดถึงการเดินทางไปเยือนที่นั่น)

การหยิบเพลง Shanghai Shuffle มาฟังในห้วงเวลานี้ นับเป็นการมองย้อนอดีตความเปลี่ยนแปลงในรอบเกือบ 7-8 ทศวรรษของมหานครแห่งนี้ ที่บางคราวก็ให้อารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างจากการถวิลหาอดีตเท่าไหร่นัก


หากคุณอยากสัมผัสรสชาติแบบนั้น ขอแนะนำให้ไปฟังจากเว็บไซต์ Youtube (https://www.youtube.com/watch?v=a-1OAGBBQz0) เพื่อชมการเล่นเพลงนี้จากแผ่นครั่ง ณ ความเร็ว 78 rpm ซึ่งหาฟังได้ยาก แต่สำหรับคนที่มี perfect pitch หรือมีหูจับตัวโน้ตไม่แม่นๆ อาจจะรู้สึกรำคาญสักหน่อย เมื่อเสียงตัวโน้ตที่บรรเลงในเพลงนี้ ฟังแล้วสูงกว่าปกติพอควร สืบเนื่องมาจากคนเล่นตั้งรอบหมุนของมอเตอร์เครื่องเล่นแผ่นครั่ง เร็วกว่าปกตินั่นเอง.

Song: Shanghai Shuffle (1924)
Composer : Larry Conley & Gene Rodemich
Artists: Fletcher Henderson, Louis Armstrong, Bunny Berigan
Place : Shanghai, China
Time Zone : UTC + 8

-------------------------

โดย : อนันต์ ลือประดิษฐ์
.....//www.bangkokbiznews.com




 

Create Date : 15 กันยายน 2553
0 comments
Last Update : 15 กันยายน 2553 7:31:39 น.
Counter : 1966 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.