Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

KISS GOODBYE [Chapter 18]



Titile: KISS GOODBYE [Chapter 18]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG
Pairing: YooSu


======================================




ภาพของคนตัวเล็กเบื้องหน้า นั้นราวกับน้ำทิพย์ที่อาบรดในหัวใจของคุณหมอยูชอน เขารีบก้าวเท้าหมายที่จะไปหาคนที่ยึดครองหัวใจของเขา หากแต่แรงฉุดรั้งที่ต้นแขน กลับดึงสติรับรู้ของคุณหมอหนุ่มให้รู้ว่าภารกิจอะไรรอเขาอยู่



“ตามฉันมา” เสียงเข้มของผู้กองเพื่อนรัก ทำให้คุณหมอต้องก้าวเท้าตาม



ตอนแรกเขาอยากที่จะขอเวลายุนโฮเพื่อจะสะสางเรื่องส่วนตัวกับจุนซู แต่มาคิดดูอีกที หากยังไม่ทันคุยรู้เรื่องแล้วเขาต้องเข้ามาชี้ตัวผู้ต้องหา แล้วระหว่างนั้นจุนซูหนีไปจะทำเช่นไร แต่ถ้าระหว่างชี้ตัวอยู่ แล้วจุนซูกลับไปเสียก่อนล่ะ ความคิดวนเวียนอยู่ในหัวของนายแพทย์หนุ่ม และยังไม่ทันที่เขาจะต้องตัดสินใจ ผู้กองชองก็ช่วยเขาตัดสินใจเสียแล้ว



“ห้องนี้ล่ะ” นายตำรวจหนุ่มดันหลังเพื่อนรักเข้าไปยังห้องขนาดไม่ใหญ่มาก ที่ห้องนั้นถูกกั้นระหว่างที่ๆ นายแพทย์ยูชอนกับผู้กองยุนโฮยืนอยู่กับอีกด้านของห้องด้วยกระจกใส ซึ่งนายตำรวจย้ำบอกอีกครั้งว่าเป็นกระจกที่อีกด้านจะมองไม่เห็นพวกเขาสองคน ผู้กองยุนโฮอธิบายวิธีชี้ตัวอีกเล็กน้อยก่อนจะปล่อยชายจำนวน 5 คนเข้ามาในห้องนั้น ทุกคนถือป้ายบอกหมายเลข และเพียงแค่ไม่กี่วินาที นายแพทย์ยูชอนก็จำได้ทันทีว่า ชายหมายเลข 3 คือชายชาวจีนอดีตลูกค้าของเขา




ยูชอนจำเค้าโครงหน้านั้นได้ ทั้งจากความทรงจำ และรูปถ่ายจากแฟ้มระเบียนเวช หากแต่จุดสำคัญที่เขาพิจารณานั่นคือหลังมือที่มีแผลน้ำร้อนลวกขนาดใหญ่ประดับอยู่




“คนที่ 3 ฉันจำเขาได้แน่นอน” นายแพทย์ปาร์คยูชอนหันไปบอกกับผู้กองยุนโฮ นายตำรวจหนุ่มหันไปบอกลูกน้องของตนอีกที ก่อนที่จะลงบันทึกคำให้การในฐานะพยาน ยูชอนรีบจัดการเซ็นต์เอกสารอย่างรีบเร่ง รวมถึงรวบรัดตัดความกับเพื่อนสนิททันที เมื่อเรื่องที่เขาจะต้องทำหมดภารกิจแล้ว



ผู้กองยุนโฮได้แต่มองตามหลังเพื่อนรักด้วยความเคลือบแคลงสงสัย หากแต่ก็ไม่ได้ซักไซร้ถึงความผิดปรกติ เพราะตัวเองยังต้องจัดการกับผู้ต้องหาอยู่

>>> Kiss Goodbye<<<


“ผมไม่คิดเลยนะฮะ ว่าจะจับได้ง่ายๆ แบบนี้”


“อาจเพราะโชคดี แต่จริงๆ แล้วเพราะข้อมูลเราเพียงพอมากว่า การที่เราหาข้อมูลมาจนได้เบอร์โทรศัพท์ที่เจ้านี่ใช้จริงได้มันมีส่วนช่วยได้มาก ก่อนหน้านี้อี้หมินไม่เคยให้เบอร์ติดต่อใคร มีแต่จะขอเบอร์ไว้ แต่คราวนี้เจ้านี่คงไม่ได้คิดว่าเราจะสืบได้ผ่านทางคลีนิก แล้วยังไงมันก็ต้องให้เบอร์ที่ติดต่อได้กับคลีนิกอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะโทรนัดกันได้ยังไง”



“โชคดีที่เขาไม่เลิกใช้เบอร์ด้วยนะฮะ”


“อืม แต่นายพูดแต่ว่าโชคดี ๆ นายไม่คิดบ้างหรือไงว่าเป็นเพราะความสามารถของฉันกับยุนโฮ”



เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับคำพูดเหมือนน้อยอกน้อยใจนั้น หากแต่มองแล้วคนพูดเหมือนตั้งใจที่จะกวนเสียมากกว่า




“คิดซิฮะ เพราะคุณสองคน ถึงจับเขาได้ ผมต้องขอบคุณมากจริงๆ นะฮะ” คิมจุนซูยิ้มกว้างทั้งตาทั้งปาก โดยที่คนรับคำขอบคุณได้แต่หัวเราะ และโยกศีรษะเล็กนั้นเบาๆ



“เด็กโง่ นี่มันงานของพวกฉันนะ”


“เออ ขอโทษครับ” เสียงทุ้มดังขัดขึ้นในระหว่างการสนทนาของนายตำรวจหนุ่มกับผู้เสียหายตัวเล็ก ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้นพร้อมกัน หากแต่ความรู้สึกที่เห็นชายคนนั้นกลับต่างกัน



นายตำรวจนักสืบมองนายแพทย์เพื่อนสนิทของคู่หูด้วยความแปลกใจ หากแต่เด็กหนุ่มตัวเล็ก กลับมองด้วยสีนหน้าตกใจอย่างที่สุด



คุณยูชอน มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง นั่นคือเสียงสะท้อนที่ดังก้องในใจของจุนซู



“มีอะไรหรือเปล่า คุณหมอ” เสียงทุ้มห้าวของนายตำรวจหนุ่มเอ่ย หากแต่คนถูกถามไม่ได้มองไปที่คนถามเลย เขายังคงมองจ้องใบหน้าน่ารักของคิมจุนซูอยู่เช่นนั้น มองราวกับกลัวภาพเบื้องหน้าจะหายไป


“จุนซู ฉันขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงทอดอ่อนนั้นเป็นเหมือนคำตอบให้นายตำรวจหนุ่มต้องเลิกคิ้วมอง



และความทรงจำก็ย้อนขึ้นมาได้ว่า ศัลยแพทย์คนนี้เคยพูดว่าเขารู้จักกับจุนซู ซึ่งในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นจุนซูเดียวกันหรือเปล่า แต่คราวนี้คงยืนยันได้ว่าคนเดียวกัน และดูเหมือนการรู้จักกันจะไม่ใช่แค่รู้จักเฉยๆ ทั้งคู่คงมีเรื่องอะไรกันอยู่



ก็เพราะตอนนี้จุนซูมองคุณหมอยูชอนด้วยสีหน้าตกใจ ส่วนคุณหมอเองก็ทอดสายเศร้าเสียขนาดนั้น



“จุนซู” ชเวซึงฮยอนสะกิดเด็กหนุ่มข้างกายเสียจนสะดุ้ง เจ้าตัวเล็กรีบหันมามองเขาทันทีด้วยท่าทีตกใจ


“คุณหมอเขาถามว่าจะคุยกับเขาได้ไหม นายจะคุยไหม หรืออะไรยังไง มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า” ผู้กองชเวไม่ได้ถามคนจุนซูคนเดียวแน่ๆ เพราะเจ้าตัวกวาดตามองทั้งคู่เหมือนอยากจะได้คำตอบ




“แค่นิดเดียวจริงๆ ที่จะคุย ขอร้องล่ะ” คุณหมอหันมาจ้องตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นด้วยแววตาขอร้อง เด็กนหุ่มกัดริมฝีปากเหมือนชั่งใจ ก่อนจะเหลือบหันไปมองนายตำรวจข้างกาย




ท่าทางแบบนั้นมันทำให้ ปาร์คยูชอนหวั่นใจ เขาหวั่นใจตั้งแต่เห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งคู่อยู่แล้ว และยิ่งจุนซูทำทีเหมือนว่าการตัดสินใจทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับผู้กองชเว เขาก็ยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้น




เขาไม่รู้ว่าฐานะระหว่างทั้งคู่คืออะไร แค่ตำรวจผู้ดูแลคดี กับผู้เสียหาย หรือมากกว่านั้น แม้ภายในใจจะทักท้วงว่า แค่เวลาไม่นานจุนซูคงไม่ได้มีใครมาทดแทนเขาได้ แต่ในหัวใจมันก็กลัว มันกลัวไปเสียทุกสิ่งอย่าง ที่จะนำพาจุนซูไปจากเขา



“ผมขอไปคุยธุระกับคุณยูชอนก่อนแล้วกันนะฮะ แล้วผมคงกลับไปทำงานเลย” เสียงแหบหวานที่ยูชอนคิดถึงเอ่ยบอกนายตำรวจหนุ่ม และเมื่อปาร์คยูชอนได้ยิน เขาก็แทบจะกลั้นความสุขที่ล้นออกมาจากสายตาไม่ได้


>>>Kiss Goodbye<<<


ความเงียบเข้าครอบงำระหว่างทั้งคู่ในยามที่ปาร์คยูชอนเดินตามเด็กหนุ่มตัวเล็กออกมาจากอาคาร มันไม่ได้เหมือนดั่งนิยายที่เมื่อพบกันแล้วจะเจอแต่ความสวยงาม เพราะการพบกันหลังการเจอกันครั้งสุดท้ายที่แยกด้วยน้ำตา มันยากนักที่ใครจะเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นมาได้


จุนซูเดินนำจนพ้นตึก แล้วเจ้าตัวก็เลี้ยวไปหยุดยืนบริเวณลานจอดรถเล็ก ๆ ด้านหน้าของตึก จุนซูเหลือบมองคุณหมอที่เดินตามมาหยุดยืนข้างๆ เขา ด้วยหัวใจที่เต้นรัว ใบหน้าที่คิดถึง นั้นปรากฏอยู่ข้างหน้า จุนซูตอบไม่ได้ว่าความยินดี กับความเจ็บปวดอันไหนมันมีอิทธิพลมากกว่ากันในยามนี้



“มีอะไรหรือเปล่าฮะ” จุนซูพยายามควบคุมน้ำเสียง เพื่อจะเอ่ยถามไปก่อน จุนซูไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะเจอกับอะไร




คุณหมอยูชอนอ้ำอึ้งอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยคำพูดราวกับตัดพ้อ “เธอทำไมไม่รับสายฉัน ฉันตามหาเธอแทบแย่กว่าจะได้เจอ”




“ตามหาผมทำไมฮะ” คำถามนั้นทอดน้ำเสียงด้วยความน้อยใจจนจับได้


“ฉันเป็นห่วงเธอ ฉันติดต่อเธอไม่ได้เลยนะจุนซู อยู่ดีๆ เธอก็หายไป จะไม่ให้ฉันห่วงเธอได้ยังไง”



คุณหมอเอ่ยพลางก้าวเข้ามาประชิดตัว และเอื้อมจับมือเล็กเอาไว้ ทั้งท่าทาง สีหน้า และน้ำเสียงมันทำให้คนฟังแทบใจอ่อนฮวบได้ไม่ยากเลย



จากที่เคยคิดว่าตัวเองไม่สำคัญ แต่ในสิ่งที่คุณหมอแสดงออกอยู่ตอนนี้จุนซูรู้สึกว่าตัวเองสำคัญขึ้นมา




หากแต่มาสำคัญในยามนี้จะเกิดประโยชน์อะไร เพราะคุณหมอก็มีคนสำคัญที่ต้องดูแลอยู่





“การที่ผมหายไป คุณยูชอนก็น่าจะรู้นะครับว่าทำไม ผมกับคุณเราไม่ควรเจอกันอีกแล้ว คุณกำลังมีครอบครัว คุณก็บอกเองว่าเราไม่ควรเจอกันอีก ซี่งการที่ผมทำแบบนี้มันก็ดีกับทั้งผมและคุณ” เด็กหนุ่มพยายามที่จะไม่มองหน้าคู่สนทนา แม้แต่ในยามที่ตัวเองกล่าวประโยคนั้น และเมื่อพูดจบจุนซูก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากเล็กเพื่อสะกดกั้นอารมณ์ที่กำลังล้นทะลักเข้ามา




“ขอโทษ ฉันขอโทษที่บอกกับเธอแบบนั้น แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าการที่ไม่ได้เจอเธอ ฉันทุกข์ทรมานแค่ไหน”



“การที่เราเจอกัน ผมก็ทุกข์ทรมาน” คำตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือนั้นมันทำให้คนฟังใจหาย จุนซูสะบัดข้อมือของตัวเองทิ้ง และก้าวเดินหลบออกจากการมุมตึกตรงนั้นทันที เขาไม่อยากรู้ไม่อยากฟัง ไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งสิ้นในเมื่อการพบกันมันมีปลายทางที่มีแต่ความเจ็บช้ำ แล้วยังจะเจอกันอีกทำไม



หรือหากจะแค่เจอกันนั้นก็เพียงพอมากแล้ว เขาไม่อยากที่จะสานต่อสิ่งใด้อีก และอย่างน้อยการที่จุนซูได้รู้ว่าตัวเองสำคัญพอให้อีกฝ่ายตามหานั่นก็มากพอแล้ว หากแต่ไม่มากพอที่เขาจะย้อนกลับไปในทางเดิมอีก




“เธอจะไปไหน” ปาร์คยูชอนรีบวิ่งไปคว้าข้อมือเล็กนั่น และดึงไว้ จุนซูพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หันหน้ากลับไปมองใบหน้าของคนที่ตนรักและทำเหมือนกำลังอ้อนวอนเขาอยู่




“ไปทำงานฮะ ผมต้องรีบไปแล้วผมลางานไว้แค่ช่วงเช้า ปล่อยผมเหอะ”


“ถ้าอย่างนั้นฉันไปส่งให้” ตอนนี้ถึงแม้อาจจะยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แถมสถาที่ก็ไม่อำนวย แต่การที่เขาได้รู้ว่าอีกฝ่ายทำงานทำการอยู่ที่ไหน อาจจะช่วยให้เขารู้ว่าจุนซูเป็นอยู่ยังไง หรือพูดคุยปรับความเข้าใจได้ง่ายขึ้น




“อย่าเลยฮะ”




“ขอร้องล่ะ แค่ขอให้ฉันไปส่ง ฉันจะไม่ทำให้เธอลำบากใจมากกว่านี้” ยูชอนรู้และดูออกว่า จุนซูเองก็คงจะลำบากใจ และเสียใจกับสิ่งที่เขากระทำมาก แล้วเจ้าตัวก็พยายามใจแข็ง ฉะนั้นคุณหมอหนุ่มจึงไม่อยากจะรีบกดดันอีกฝ่ายมากนัก



จุนซูยืนนิ่งมองใบไม้ที่ค่อยๆ ร่วงหล่นจากต้น ความรัก และความเจ็บ นั่นราวกับเถียงกันอยู่ในอก

อยากอยู่ใกล้ อยากพูดคุย อยากเห็นหน้า
อยากละทิ้ง อยากลืม อยากตัดใจ



เหตุผลไหนจะมีอิทธิพลกับเขาที่สุด

“ก็ได้ฮะ”

>>>Kiss Goodbye<<<


ตั้งแต่นั่งรถด้วยกันมา มีเพียงประโยคบอกทางที่ออกจากปากเล็ก ๆ ของจุนซูเท่านั้น ที่ชายหนุ่มเจ้าของรถได้ยินเสียง เพราะหลังจากนั้นจุนซูก็ปิดปากเงียบมาตลอด



จนเมื่อรถยนต์คันหรูได้เลี้ยวเข้ามาใกล้บริเวณสวนสาธารณะซึ่งอยู่ในซอยด้านหลังของอาคารสำนักงานตำรวจ จุนซูถึงเอ่ยปากบอกให้คุณหมอยูชอนจอดรถแถวบริเวณนี้



เมื่อครั้งที่ยูชอนตามหาจุนซู เขาไม่ได้คาดคิดเรื่องร้านกาแฟในสวนสาธารณะเล็ก ๆ เช่นนี้เลย อาจเพราะเขาไม่เคยรู้ว่าด้านหลังอาคารนั้นจะมีสวนสาธาณะและชุมชนตั้งอยู่



“ขอบคุณมากฮะ ผมไปก่อนแล้วกันนะฮะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นมาก่อนจะก้มลงไปกดปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย หากแต่คุณหมอยูชอนกลับรีบเอื้อมมือคว้าแขนเล็ก ๆ นั้นไว้เพื่อจะหยุดไม่ให้อีกฝ่ายเปิดประตูรถได้



“ฉันขอโทษ”


คำพูดที่หลุดปากออกมานั้นมันทำให้คนที่จะเอ่ยห้ามต้องชะงัก พลางเลิกคิ้วสงสัย

คำขอโทษ คุณหมอขอโทษเรื่องอะไร



“ขอโทษที่ตลอดเวลาฉันใส่ใจเธอน้อยเกินไป ฉันควรจะใส่ใจสนใจเธอมากกว่านี้ และขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ ฉันรู้ว่าการที่ฉันช่วยตำรวจให้จับคน ๆ นั้นได้มันไม่อาจทดแทนในสิ่งที่ฉันควรกระทำให้กับเธอ แต่ฉันก็พยายามที่จะช่วยเหลือเธออย่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้”




คำพูดเหล่านั้นมันช่วยคลายความข้องใจให้กับจุนซูได้ทันทีว่าทำไมคุณหมอถึงได้มาอยู่ที่นี้ คุณหมอที่หมวดซึงฮยอนเล่าให้ฟังว่าเป็นเพื่อนกับหมวดยุนโฮ และช่วยให้ข้อมูล ต่างๆ ในการตามจับคน ๆ นั้นได้ ก็คือคนๆ เดียวกับคุณหมอปาร์คยูชอนที่เขารู้จักดี



โลกมันกลมเสียจนน่าหัวเราะจริงๆ



“ผมขอบคุณนะฮะ ที่ช่วยเหลือ และไม่จำเป็นเลยที่คุณจะต้องมาขอโทษผม”



“ไม่หรอกมันจำเป็น สิ่งที่ฉันทำกับเธอมันใจร้ายมากฉันรู้ ฉันไม่ควรที่จะทำให้เธอเสียใจ หรืออย่างน้อยตอนที่เราอยู่ด้วยกันฉันก็ควรจะทำดีกับเธอมากกว่านี้” ปาร์คยูชอนเอ่ยพลางรวบกุมมือของเด็กน้อยที่ก้มหน้าหลบสายตาของเขา เขาอยากถ่ายทอดทุกความรู้สึกจริงๆ ว่าเขาเสียใจแค่ไหน




“มีหลายเรื่องที่ฉันอยากรู้เกี่ยวกับเธอ ซึ่งในเวลาที่ฉันมีโอกาสที่จะได้รู้ แต่ฉันแกล้งทำเป็นละเลย พอมาตอนที่เธอไม่ได้อยู่ข้างฉันแล้ว ฉันก็ได้แต่เสียใจว่าในตอนนั้นทำไมฉันถึงไม่ถามเธอ” ยูชอนเอ่ยพลางเกี่ยวปลายนิ้วกับคางเล็ก ให้เจ้าของใบหน้าหวานเงยขึ้น ดวงตากลมของจุนซูตอนนี้มันวูบไหว ราวกับกำลังจะมีน้ำตา ยูชอนจึงโน้มร่างนั้นเข้ามาแนบอกของเขา



“มีความจำเป็นในชีวิตหลายอย่างที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้น และมีความจำเป็นหลายๆ อย่างที่ทำให้ฉันต้องตัดสินใจทำอะไรโดยต้องฝืนใจตัวเอง” ปาร์คยูชอนเกริ่นขึ้นมาลอย ๆ โดยที่มือนหนึ่งของเขาค่อยๆ ลูบผมนิ่ม ส่วนอีกมือก็ดึงรั้งเอวเล็กในชิดแนบกับอ้อมกอดของตัวเอง



คุณหมอหนุ่มเชื่อว่า การที่จะได้รับความไว้วางใจจากใคร เขาก็ต้องมอบความไว้วางใจคืนเช่นกัน และการที่จุนซูจะยอมเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟัง เขาเองก็ควรแลกด้วยการเปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่ายได้รู้ได้เข้าใจ



“ครอบครัวของฉันคุณพ่อกับคุณแม่ทำงานเป็นนักวิชาการในกระทรวงๆ หนึ่ง ฉันมีน้องชายอยู่คน เราห่างกันสามปี มันคงเป็นเรื่องปรกติที่พ่อแม่จะคาดหวังกับลูกชายโดยเฉพาะกับคนโต และนั่นคือสาเหตุที่ฉันเลือกที่จะเป็นหมอ พ่อแม่อยากให้ฉันเรียนหมอ เพราะเป็นอาชีพที่ดี ดีทั้งในแง่เพื่อสังคม ชื่อเสียงและเงินทอง ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนดีอะไรถึงเลือกจะเป็นหมอ และจริงๆ พ่อกับแม่ก็คาดหวังกับน้องชายของฉันไม่ต่างกัน แต่ยูฮวานเลือกจะทำให้สิ่งที่ตัวเองชอบ แต่พ่อแม่ไม่ได้ชอบ เขาไปทำงานเป็นช่างซ่อมรถแข่ง จริงๆ มันเป็นงานที่ดีมากนะท้าทายมาก ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้เจ้านั่นเข้าไปทำงานกับทีมรถแข่งชื่อดังของญี่ปุ่นแล้วด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่ก็ยังไม่รู้สึกว่ามันเป็นหน้าเป็นตา”

ปาร์คยูชอนหยุดจังหวะในเรื่องที่เขาเล่าพลางก้มมองคนที่อยู่ในอ้อมกอด จุนซูอิงตัวเองและแนบข้างแก้มฟังเขานิ่ง และเมื่อเห็นว่ายูชอนหยุดเล่าเจ้าตัวก็กลอกตาเงยขึ้นมองจนยูชอนต้องแอบยิ้มให้ อยากน้อยจุนซูก็ตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาต้องการที่จะบอก



“ฉันจึงกลายเป็นลูกที่พ่อแม่คาดหวังมาก และแน่นอนเรื่องที่ฉันมีรสนิยมทางเพศแบบนี้ ฉันบอกกับใครไม่ได้ พ่อแม่รู้ไม่ได้เพราะท่านคงต้องผิดหวังกับฉันมากแน่ๆ ฉันไม่เคยมีคนรักเพราะต้องคอยระแวดระวัง เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์จะมีผลกระทบกับครอบครัว สังคม และการงาน หากแต่มันไม่ใช่แค่นั้น แม่คาดหวังเรื่องชีวิตคู่ของฉันไว้สูงเหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตของฉันนั่นแหละ ฉันเรียนในโรงเรียนที่ดี มหาวิทยาลัยที่ดี ทำงานที่ดีมาตลอด ฉะนั้นคู่ครองจึงต้องเป็นคนที่เหมาะสมกัน ฉันอยากปฏิเสธเพราะฉันไม่ชอบผู้หญิงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ แม่หาคนมาดูตัวกับฉันจนแทบจะนับไม่ถ้วนได้ จนในที่สุดก็มาถึงลีจินอา” ปาร์คยูชอนถอดน้ำเสียงเบาหวิวเมื่อเอ่ยชื่อหญิงสาวที่เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตของเขา โดยที่เป็นการเกี่ยวพันที่เจ็บปวดอย่างไม่น่าเชื่อ และชื่อๆ นั้นก็ดูจะมีผลกระทบกับคนฟังเช่นกัน เพราะจุนซูถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อนั้น




“จินอาเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณแม่ เราสองคน อืมสามคนซินะรวมยูฮวานด้วย โตมาด้วยกัน ฉันรักจินอาเหมือนน้อง ฉะนั้นเมื่อพอเป็นจินอามันก็ยากที่จะปฏิเสธ และพูดตามตรงคือตอนนั้นที่ฉันรับที่จะแต่งงานฉันไม่รู้ใจตัวเอง” ปาร์คยูชอนเอ่ยพลางเกลี่ยปลายนิ้วกับแนวคางเล็ก และดันใบหน้าที่แนบกับอกให้ขึ้นมามองสบตากับเขา สบตาเพื่อจะได้เอ่ยคำที่เขาเก็บงำไว้แสนนาน หากแต่ไม่เคยพูดออกไป และแม้ยามนี้จะสายไปแต่เขาก็อยากที่จะพูด




“ไม่รู้ว่าฉันรักเธอไปแล้วจุนซู ฉันอาจเคยคิดว่าจะหักห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้รักใครได้ แต่ความรักบางทีมันก็มาโดยที่เราไม่ทันที่จะรู้ตัว ขอโทษที่ฉันรักเธอ แต่ไม่เคยทำให้เธอรู้”





หยดน้ำตาค่อย ๆ ไหลผ่านดวงตากลมใส ระเรื่อยมาจนถึงแก้มกลมขาว ปาร์คยูชอนค่อยๆ เกลี่ยหยดน้ำตานั้นเบาๆ และแนบริมฝีปากประทับเพื่อเก็บหยดน้ำตานั้น



จุนซูโน้มกอดร่างอุ่นนั้นจนแนบแน่น กอดจนได้กลิ่นกายหอมที่คิดถึง ถึงแม้คำว่ารักจะมาในเวลาที่สายไป แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ว่าความรักของเขาไม่ได้ด้อยค่า เพราะอีกฝ่ายก็รักเขาเช่นกัน




ปาร์คยูชอนซบใบหน้าลงกับเรือนผม พลางกล่าวกระซิบเบา ๆ กับคนในอ้อมกอด “ฉันอยากรู้เรื่องของเธอบ้างจะได้ไหมจุนซู เล่าให้ฉันฟังได้หรือเปล่า ถึงเรื่องต่างๆ ที่เธอเคยผ่านมา เรื่องต่างๆ ที่ฉันควรจะใส่ใจถามเธอ เรื่องต่างๆ ที่เธอต้องเผชิญกับมันด้วยความทุกข์พวกนั้น”




จุนซูนิ่งงันไปชั่วอึดใจก่อนจะพยักหน้าเบาๆ คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นหากแต่ก็ยังคงพิงกับอกของคุณหมอหนุ่มอยู่ ก่อนที่จะปล่อยน้ำเสียงแหบหวานนั้นออกมาเบาๆ เพื่อเล่าเรื่องของตัวเอง

“บ้านของผม คุณพ่อคุณแม่ทำไร่ชา ผมเป็นลูกคนเดียว ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ไม่ลำบาก” จุนซูค่อยๆ ควบคุมน้ำเสียงสั่นของตัวเองเล่าเรื่องราวช้าๆ เขาพยายามเรียบเรียงเรื่องราวในชีวิต โดยที่พยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาเมื่อคิดถึงวันวานที่เคยมีความสุข




ภาพต่างๆ ค่อยๆ ร้อยเรียงขึ้นมาในความทรงจำ และถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงเบา หากแต่คนที่รับฟังพลางคอยลูบผมของเขาอยู่ก็ยังได้ยิน




“แม่ของผมเป็นคนจีน แม่ตามญาติมาก็เลยมาเจอกับพ่อ ผมถูกเลี้ยงมาให้พูดได้ทั้งสองภาษา ซึ่งผมรู้สึกว่าผมเป็นคนพิเศษ ครอบครัวของเราอบอุ่นมาก จนเมื่อวันนึงตอนนั้นผมเรียนอยู่เกรดเก้า แม่กลับไปที่จีนแล้วแม่ก็พาลูกชายของป้ามาด้วย แม่บอกว่าพี่จะมาช่วยทำงานที่นี้ จะมาอยู่กับเรา ผมดีใจมาก เพราะผมกับพี่เคยเจอกันตอนเด็ก ๆ และผมก็อยากมีพี่ชาย การเป็นลูกคนเดียวบางทีมันก็เหงานะฮะ ตลอดเวลาพี่ก็เป็นพี่ที่น่ารักของพวกเรา ผมกับพี่สนิทกันมาก เราไปไหนมาไหนด้วยกัน กินนอนด้วยกัน ผมไม่รู้หรอกว่ามันมากเกินไปไหนกับความสนิท แต่ตอนนั้นผมมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่ จนผมเข้าไฮสคูล พี่ก็บอกกับผม” น้ำเสียงของจุนซูเริ่มขาดห้วง และคนตัวเล็กก็เริ่มกอบกุมนิ้วมือของตัวเองกับมือหนา ยูชอนค่อย ๆ รวบมือเล็กนั้นมาบีบเบาๆ เพื่อที่จะให้กำลังใจกับจุนซู





“พี่บอกผมว่า.... พี่รักผม รักไม่ได้รักแบบน้อง รักแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งรักคนอีกคน ผมสับสน แต่ก็รู้สึกดี เพราะผมก็รู้ว่าผมรักพี่ และเราก็แอบคบกัน เราคบกันมาเกือบปี ความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้ง” จุนซูเงียบอึ้งไปอีกครั้งหลังจากเอ่ยประโยคนั้น คำว่า ลึกซึ้ง ที่หลุดปากออกมา ปาร์คยูชอนรู้สึกว่าเจ็บหน่วงเมื่อได้ฟัง เขาเข้าใจว่าดีว่า คำว่าลึกซึ้งนั้นหมายถึงอะไร




จุนซูกับคนๆ นั้น คงมีอะไรกันแล้ว และมันก็คลายความข้องใจบางอย่างที่ยูชอนเคยสงสัย ว่าทำไมจุนซูถึงยอมนอนกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เพราะถ้าอ่อนเดียงสาไม่เคยผ่านคงไม่กล้าที่จะตัดสินใจแบบนั้นได้ง่ายๆ แน่ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็เฉลยความสงสัยอันยาวนานนั้นให้กับเขา


“แต่หลังๆ พี่ก็เริ่มเปลี่ยนไป เขามีเพื่อนมากขึ้น พี่เริ่มพูดบ่อยๆ ว่าอยากมาทำงานที่โซลมากกว่าทำไร่อยู่ที่ต่างจังหวัดแบบนั้น จนวันนึงพ่อประสบอุบัติเหตุรถชน มันไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่ก็ทำให้พ่อต้องนอนรักษาตัวอยู่ระยะหนึ่ง และตอนนั้นที่พี่เริ่มเป็นคนที่ดูแลทุกอย่างแทนพ่อ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นได้ยังไง แต่มารู้ตอนหลังว่า พี่หลอกให้แม่ซึ่งอ่านเกาหลีแทบไม่ค่อยได้เซ็นต์เอกสารเกี่ยวกับผลประโยชน์เรื่องเงินประกันให้กับเขา และก็ขโมยโฉนดเอาไปขายต่อ โดยปลอมลายเซ็นต์พ่อ เขาขโมยเอกสารประกอบสารพัดอย่างไปได้อย่างไรไม่รู้ แต่ก็คงเพราะพ่อกับแม่ไว้ใจเขา เราไม่ได้เก็บของเหล่านั้นเอาไว้ให้ดี เขาเลยเอาเอกสารพวกนี้ไปขายต่อได้ จนวันนึง คนที่ซื้อที่ต่อเขาก็มาไล่เรา โชคร้านนะฮะ ที่คนๆ นั้นเป็นพวกนักเลงด้วย แต่เราก็ไม่ไป และพยายามที่จะแจ้งความ แต่ไม่กี่วันพี่ก็มาตอนนั้นผมรู้ว่าสึกว่าพี่เปลี่ยนไปเยอะ เขาไล่พวกเรา เขาไม่เหมือนคนที่ผมเคยรัก เขาพูดจาแย่มาก ๆ เขาว่าพวกเราโง่ และเขาก็กลับไป หากแต่คืนนั้น บ้านเราก็ถูกเผา” จุนซูถอนหายใจอีกครั้ง และกดใบหน้าตัวเองลงกับเสื้อเชิ้ตของคุณหมอ ความอุ่นร้อนที่เสื้อทำให้ยูชอนรู้แล้วว่าจุนซูเริ่มร้องไห้ เขาลูบหลังจุนซูเบาๆ หากแต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่หยุดเล่าเรื่องราวต่อจากนั้น



“พวกเขาเผาบ้านของเรา มีผู้ชายคนหนึ่งคลุมหน้า เดินเข้ามาแล้วยิงพ่อกับแม่ต่อหน้าต่อตาผม เขาหันปืนมาหาผมตอนผมวิ่งไปถึงหน้าบ้าน ผมจำตาเขาได้ ผมจำรอยแผลที่มือของเขาได้ เขาคืออี้หมิน พี่ชายของผม คนรักของผม เขาฆ่าพ่อกับแม่ผม ผมวิ่งหนี วิ่งแล้วก็วิ่ง ผมไม่รู้ว่าทำไมอี้หมินถึงปล่อยผมมาได้ หรือเขาอาจจะตามผมไม่เจอผมก็ไม่รู้ ผมหนีมาจนมามาถึงสถานีตำรวจ ที่นั่นผมเจอผู้กองซึงฮยอน ผมหวังมาตลอดว่าตำรวจจะช่วยพ่อกับแม่ทัน แต่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีใครช่วยได้ ตอนนั้นผมแทบจำอะไรไม่ได้ มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เธอผ่านมันมาแล้วคนดี” ยูชอนกดปลายจมูกของตัวเองลงกับเรือนผมเพื่อปลอบใจคนที่ร้องไห้หนักขึ้นหลังจากเล่าเรื่องเหล่านั้น จุนซูโชคร้ายเหลือเกิน โชคร้ายที่มาเจอคนอย่างหลินอี้หมิน คนดีๆ อย่างจุนซู อย่างพ่อแม่ของจุนซูทำไมถึงได้โชคร้ายเช่นนี้กัน




จุนซูเงยหน้าขึ้นพลางปาดป้ายหยดน้ำตา และก็เริ่มเอ่ยเล่าเรื่องต่างๆ ที่ล้นออกมาจากความรู้สึก เขาอยากระบายอยากเล่า หากแต่คนที่เขาจำเป็นต้องเล่าให้ฟังก็ไม่ใช่คนที่เขาอยากจะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มอยากให้คุณยูชอนรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง




“หลังเหตุการณ์คืนนั้น ตำรวจก็ตามจับอี้หมินตามที่ผมให้การ ทางตำรวจสัณนิษฐานว่า ที่อี้หมินมาฆ่าพ่อกับแม่ นอกจากเรื่องที่ ๆ เขาอาจกลัวว่าเราจะไปฟ้องที่คืนได้ ก็อาจมีเรื่องเงินประกัน ที่เขาหลอกแม่เซ็นต์อีก แต่เพราะเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยก็เลยไม่ได้อะไร ส่วนเรื่องบ้านและที่ของเราก็ยังตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคนๆ นั้น เพราะตำรวจไม่มีหลักฐานว่าอี้หมินขโมยเอกสารไปจริง แต่ทางตำรวจก็แนะนำที่จะหาทนายให้ผมฟ้องร้องเรื่องนี้ แต่ตอนนั้นผมไม่สามารถเพราะผมป่วย ผมเป็นโรคซึมเศร้าจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และพอรักษาหาย ผมก็ได้ยินว่ามีคนเจอเขาที่โซล ผมเลยตัดสินใจลงมาตามหาเขาเองตามคำบอกเล่าของเพื่อนของอี้หมิน และผมก็เจอเขา อี้หมินทำงานที่ผับแถวๆ อีแทวอนตามที่เพื่อนคนนั้นบอก พอเขาเห็นผมเขาก็วิ่งหนี ผมโยนข้าวของทุกอย่างทิ้ง แม้แต่เจ็คเก็ตเพราะวันนั้นฝนตกหนัก ผมวิ่งตามเขา ตอนนั้นผมทำได้แค่นั้นจริงๆ วิ่งจนสุดแรง หากแต่เขาก็หายไปจากสายตาของผม ผมร้องไห้ ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น จนเมื่อคุณหยุดรถมาทักผม”





ทุกอย่างบรรจบลงที่คำ ๆ นั้น ค่ำคืนฝนตก เด็กหนุ่มในชุดเสื้อกล้ามที่ยืนร้องไห้ และชายหนุ่มที่เปิดประตูรถรับเด็กคนนั้นขึ้นมาบนรถ และโลกของทั้งคู่ก็มาพบกัน และเปลี่ยนโลกของกันและกันไปอย่างสิ้นเชิง


“ที่ผมเออออตามน้ำ ตามความเข้าใจของคุณว่าผมเป็นเด็กขาย เพราะตอนนั้นผมไร้ทางไปจริงๆ ที่โซลผมไม่มีใคร ผมเพิ่งมาถึงได้สองวันผมอยู่โรงแรม และผมก็ไม่ได้มีเงินมาก แต่ผมยังอยากตามเขาให้เจอผมไม่อยากกลับบ้านที่มันก็ไม่มีแล้ว ผมกลัวผมไม่อยากอยู่คนเดียว และตอนนั้นคุณก็ใจดีมาก ผมเลยยอมที่จะทำแบบนั้น หากต่อมาที่ผมไม่เคยบอกความจริงกับคุณ ก็เพราะผมกลัว กลัวเหลือเกินว่าถ้าคุณรู้ความจริงคุณจะทิ้งผม ไม่ติดต่อกับผมอีก ผมเลยต้องแกล้งทำเหมือนผมเป็นเด็กขายตัวต่อไป ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยทำแบบนั้น”


ปาร์คยูชอนได้ฟังคำสารภาพด้วยความรู้สึกเจ็บหนืบที่หัวใจ เขาเป็นคนที่บีบให้จุนซูต้องทำแบบนั้น จุนซูรักเขา จึงต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ให้เขาทิ้ง หากแต่เขาซึ่งมีความสุขกับสิ่งที่จุนซูมอบให้ เขาเองได้มอบอะไรคืนกลับไปบ้างกันเล่า




“ขอโทษ” คำพูดนั้นหลุดมาพร้อมเสียงสะอื้นจากปากคนสูงวัยกว่า ยูชอนเสียใจ และรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวที่แผ่ล้นออกมาจากร้านเล็กในอ้อมกอดเช่นกัน เขาขอโทษที่เขามีโอกาสมากที่สุดที่จะดูแลคนๆ นี้ คนที่บอกช้ำมากขนาดนี้ แต่เขากลับไม่เคยทำเลย



“ขอโทษทำไมฮะ” ปาร์คยูชอนก้มลง และจุมพิตที่ปากเล็กนั่นเบาๆ



“ขอโทษที่ปล่อยเธอให้อยู่ในโลกโหดร้ายแบบนี้คนเดียว ขอโทษที่ฉันน่าจะช่วยเธอได้เร็วกว่านี้ถ้าฉันใส่ใจเธอมากกว่าที่เคยทำ ฉันปล่อยเธอไว้ในโลกที่โหดร้าย ทั้งๆ ที่ฉันสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นได้ ขอโทษเหลือเกินจุนซู ทั้งๆ ที่ฉันอาจจะทำให้เธอตามจับคนๆ นั้นได้ตั้งแต่นานแล้วแท้ ๆ แต่เพราะนิสัยแย่ๆ ของฉันเธอถึงเพิ่งได้ตัวเขา”


ยูชอนกอดร่างนิ่มจนฝั่งลงกับร่างตัวเองหลังกล่าวขอโทษ และพวกเขาก็ร้องไห้ ให้กับวันเวลาที่ผ่านมานั้น ร่วมกัน วันที่เวลาที่แสนสุขหากแต่เจ็บช้ำ




ความผิดต่างๆ เริ่มโถมทับจนร่างของยูชอนแทบจะทรุด เมื่อเขาคิดย้อนกลับไป ไม่ใช่แค่เรื่องคนร้ายเท่านั้นที่เขาผิด หากแต่เขาปล่อยให้จุนซูผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเขายังมาทำร้ายหัวใจดวงเล็กดวงนี้อีก




หากแต่จากนี้ต่อไป เขาจะดูแล และทดแทนช่วงเวลานั้น เขาจะทำให้จุนซูมีความสุข เท่าที่มือสองมือของเขาจะทำได้ เขาจะไม่ปล่อยจุนซูไปจากมือของเขา เพราะยามที่จากกันยูชอนรู้ว่าเขาแทบอยู่ไม่ได้




“จากนี้ไปเธอจะไม่เจอเรื่องแบบนั้นอีก ฉันจะดูแลเธอเอง และจะดูแลให้ดีที่สุด” ยูชอนประสานดันตัวเด็กหนุ่มออกจากอ้อมกอด และจับใบหน้าให้ประสานสายตากับเขา มองกันและกัน เพื่อจะยืนยันคำพูดนั้น หากแต่คนฟังกลับไม่ได้มีความสุขเลยสักนิดที่ได้ฟัง





“แล้วภรรยาของคุณ”



“ฉันเลือกเธอ เพราะฉันมั่นใจว่าฉันจะทำให้เธอมีความสุขได้ หากแต่ฉันไม่สามารถทำให้จินอามีความสุขได้ ฉันกับจินอายิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งทรมาน เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ”





คำพูดที่ออกมาจากปากของคุณหมอ นั้นจริงจัง และเจ็บปวดยิ่งนัก มันน่ายินดีที่คนที่ตนรักเลือกเขา และเอ่ยปากที่จะมอบความสุขให้ แต่ความสุขของจุนซูกำลังจะต้องแลกด้วยความทุกข์ของคนอีกคน จุนซูจะทำเช่นไร




“ได้โปรดเชื่อฉัน อย่าหนีฉันอีกเลย การที่เธอทิ้งฉันไป มันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องระหว่างฉันกับจินอาดีขึ้น ได้โปรดอยู่ข้างฉันจุนซู”



คำขอร้องด้วยน้ำตามันกดทับความรู้สึกสับสนไปหมดสิ้น ทุกอย่างในหัวใจ มีเพียงเสียงขอร้องของคุณหมอ




และความรัก กับความใจอ่อนก็ทำให้จุนซูอยากที่จะทำตามคำขอร้องนั้น


++++++++++++++++++++++++++

มีคนบ่นเยอะว่าตอนที่แล้วจบได้หักจิตมาก 555 ถึงกับประชดก็มี ตอนนี้เลยอัดเต็มแบบแทบจะมีแค่คุณหมอกับจุนซูเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกตลอดเรื่องที่จุนซูน่าจะพูดยาวสุดแล้ว 5555

และเป็นการเฉลยปมต่างๆ ในตอนนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดตอนหน้าก็คงจะจบ (ผิดพลาดคือยาวจนต้องไปเพิ่มอีกตอน)


จากตอนที่แล้วปุ้มว่าจะทอร์คเรื่องจินอา แต่ก็ง่วงจนไม่ได้ทำ ตัวละครจินอาเป็นตัวละคร หนึ่งที่ปุ้มวางเอาไว้ให้เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ผู้หญิงที่มีความรัก หากเราตกหลุมรักใครสักคน และเมื่อมีโอกาสที่จะคว้าความรักที่ตัวเองต้องการมาไว้ได้ จึงเลือกที่จะคว้าไว้ทันที คนปรกติธรรมดา ถ้าวันดีคืนดีแม่พอไปดูตัวกับผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบ คงยากที่จะปฏิเสธ และยิ่งอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธด้วยแบบนี้ ฉะนั้นปุ้มมองว่าการตัดสินใจแต่งงานของจินอามีเหตุมีผลมากที่สุดแล้วล่ะ ยิ่งถ้าเทียบกับคุณหมอมีเหตุผลมากกว่าโขเลยด้วยซ้ำ 5555


เจอกันวีคหน้าค่ะ แล้วถ้าใครสนใจรวมเล่มเรื่องนี้ก็ไปได้อ่านวิธีการจองได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=angelmidori&month=16-04-2012&group=13&gblog=18





 

Create Date : 23 เมษายน 2555
5 comments
Last Update : 23 เมษายน 2555 2:27:18 น.
Counter : 843 Pageviews.

 

ต้องบอกว่าอ่านพาร์คนี้แล้วร้องไห้กับภูมิหลังของน้องจุนจังจริงๆเลยค่ะ น่าสงสารได้อีกอ่ะ น้ำตาไหลกันเลย
ตอนแรกก็งงว่าน้องจุนจังทำไมยอมตาหมอปาร์คง่ายๆกับเรื่องบนเตียงพอมาพาร์คนี้เฉลยแล้วก็ อ้อ!!! ใกล้จบแล้วหรอเนี่ย รู้สึกสนุกเวลาได้อ่านฟิคของคุณปุ้มค่ะ ถ้าเรื่องนี้จบแล้วคิดเขียนเรื่องใหม่เตรียมเอาไว้แล้วรึยังค่ะ ยังคงติดตามฟิคของคุณปุ้มนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยจ้า

 

โดย: -Killer Queen- IP: 124.121.158.83 23 เมษายน 2555 21:30:47 น.  

 

พี่ปุ้มคะ

อ่านพาร์นี้จบ กุ๋ยอยากบอกว่า เต็มอิ่มมากๆค่ะ ณ จุดนี้ต้องขอแว้บงานมาเม้นจริงๆ

เป็นพาร์ทที่หลายๆอย่างมันเฉลยออกมาแล้ว ดีใจที่ทุกอย่างจบอย่างสวยงามอย่างที่ควรจะเป็น ดีใจที่คุณหมอกล้าเผยความจริงในใจซักที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหัวใจหรือเรื่องครอบครัวก็ตาม ชอบประโยคนึงของพี่ปุ้มที่บอกว่า... ในเมื่ออยากได้ความไว้วางใจจากใคร เราก็ต้องให้ความไว้วางใจกับเขาก่อน.. อันนี้เป็นเรื่องจริงมากๆค่ะ แต่กรณีของคุณหมอ กุ๋ยมองว่า โชคดีที่จุนซุเขาใจอ่อนยวบตั้งแต่คุณหมอวิ่งตามแล้วค่ะ 555+ ไม่งั้นถึงคุณหมอจะพร่ำพรรณานาแค่นั้น จุนซูก็ไม่แลหรอกค่ะ เพราะจุนซูยังรักคุณหมออยู่เสมอ แต่จุนซูก็ตระหนักดีว่า จะให้พรากคุณหมอมาอยู่กับตัวก็คงไม่เหมาะสม ยอมห่างไปจะดีกว่า

เรื่องจริง ถ้าคนที่เป็นมือที่สามคิดได้แบบจุนซูคงจะดี แต่เพราะตามคาแรคเตอร์ของเรื่องนี้ ด้วยนิสัยและพฤติกรรมของจุนซูเป็นคนคิดบวกอยู่แล้ว ทำให้การถ่ายทอดอารมณ์และความคิดของจุนซูดูละมุนมาก และเพราะจุนซูเป็นคนดี การแย่งชิงจึงไม่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น

ในมุมกลับกัน คุณหมอก็โชคดีที่ผู้หญิงที่ตัวเองเลือกมาเป็นภรรยาทั้งรูปสมบัตรพร้อมและคถณสมบัติ กิริยามารยาทพร้อมจริงๆ เพราะถ้าตอนหน้าคือตอนจบ คงเดาได้ว่าจินอาคงยอมปล่อยมือพี่ยูชอนแน่ๆ แต่มันก็เกี่ยวเนื่องมาจากการปูทางของพี่ปุ้มด้วยว่า จินอาเธอรู้และเข้าใจตั้งแต่ต้นว่า พี่ยูชอนยอมแต่งงานด้วยสาเหตุอะไร เพราะหน้าที่การงาน ความเหมาะสม แต่ไม่ใช่เพราะรัก .. ซึ่งตามนิสัยของจินอาคงไม่ดื้ด้านและดึงดันที่จะยื้อพี่ยูชอนอยู่กับตัวต่อไปแม้เขาไม่รักและไม่เลือก

เรื่องนี้ คนที่ดชคดีที่สุดคงไม่พ้นคุณหมอยูชอน ที่คนข้างกายสองคนเป็นคนดีที่พร้อมจะเสียสละและยอมเข้าใจทั้งคู่ ไม่งั้นเรื่องคงบานปลายและเป็นตามแนวตลาดน้ำเน่า ตบตีแย่งชิงกันสุดฤทธิ์สุดเดช

ถ้าอ่านเฉพาะพาร์ทนี้ จะรู้สึกเหมือนว่าเป็นเรื่องที่เหมือนจะเบาๆ ไม่มีดราม่าเท่าที่ควร แต่ถ้าอ่านจริงๆทั้งหมดถือผ่านมานี่ดราม่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ แต่เพราะการบรรยายอารมณ์และความรู้สึกของพี่ปุ้มในแต่ละตัวละครในพาร์ทนี้ มันชัดเจนและมีเหตุผลสอดคล้องกันหมด กุ๋ยจึงคิดว่า การจบแบบนี้เป็นอะไรที่สวยงามและสะท้อนความเป็นจริงที่รับได้ว่า มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านอย่างอิ่มเอมใจทุกครั้งนะคะ ^^

จะเป็นกำลังใจให้กับฟิคทุกเรื่องของพี่ปุ้มค่ะ ^^

ปล.ยังไม่ได้ไปโอนเงินเลย แต่มั่นใจว่าซื้อเล่มนี้แน่ๆค่ะ

กุ๋ย ^^

 

โดย: rainna IP: 58.8.131.142 23 เมษายน 2555 21:43:33 น.  

 

ตอนนี้แบบว่าสะใจมากเลยค่ะ
เต็มอิ่มสุดๆไปเลย นึกว่าตัวเองเป็นจุนซู(เกี่ยว?) T.T
คุณหมอเปิดใจพูด อ่านแล้วแบบน้ำตาร่วง


ดีใจด้วย เศร้าใจไปในตัวด้วยเหมือนกันค่ะ
คุณหมอรักจุนซู คุณหมอพูดออกมาแล้ว
โอยยยยยยย ... อยากจะกรีดร้อง
ลุ้นมานาน ในที่สุดก็ได้รู้แล้ว คุณหมอตอนนี้หล่อมาก~


เห็นว่าใกล้จะจบแล้ว ใจหายเลยค่ะชอบเรื่องนี้มากๆ
ประทับใจสุดๆค่ะ เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วรักคู่้ยูซูเลย
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่แต่งได้สนุกและถูกใจมากขนาดนี้
สู้ๆๆๆค่ะ ถ้ามีเรื่องใหม่อีกก็จะตามอ่านแน่นอนค๊า ^^

 

โดย: deemo IP: 124.121.252.135 24 เมษายน 2555 6:27:54 น.  

 

เศร้ากับเรื่องราว แต่ดีใจที่ทั้ง2คน เปิดใจพูดคุยกันทุกอย่าง รอติดตามอยู่นะค่ะ

 

โดย: domeno IP: 202.28.62.245 24 เมษายน 2555 12:28:40 น.  

 

อ่านจบแล้วปลื้มมมมมมมมมม~
ยิ้มทั้งน้ำตาเลย..ในที่สุดคุณหมอก็พูดออกมาได้ซะทีนะ..รัก...
ถึงจะมาพูดเอาตอนนี้แต่เชื่อว่าเมื่อต่างคนต่างเปิดใจกันแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องดีขึ้น...ถ้าเพียงจุนซูจะอยู่เคียงข้างคุณหมอต่อไป
ไม่รู้ว่าน้องจะใจแข็งรึป่าวน้า~

 

โดย: loveyoosu IP: 125.27.164.165 25 เมษายน 2555 1:19:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.