|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
KISS GOODBYE [Chapter 9]
Titile: KISS GOODBYE [Chapter 9] Author: Angel Midori Genre: Romantic Drama Rating: PG Pairing: YooSu
======================================
แสงอบอุ่นที่ส่องสาดลอดผ่านกิ่งก้านของไม้ใหญ่จนเกิดเงาที่ทอดผ่านตกบนพื้นผิวถนน หากมองดูเผินๆ ภาพเหล่านี้ก็ดูคล้ายเป็นภาพวาดที่เกิดจากการสะบัดปลายพู่กัน ซึ่งมันก็ดูสอดคล้องกันดีกับภาพหมู่อาคารโบราณเบื้องหน้าที่ตกอยู่ในสายตาของคนมองตอนนี้
ถ้าย้อนกลับไปนึกว่าครั้งสุดท้ายที่นายแพทย์หนุ่มหยุดเวลาของตัวเองเอาไว้กับบรรยากาศที่สวยงามเช่นนี้เมื่อไหร่ ยูชอนแทบจะนึกไม่ออก
คยองจูไม่ได้ไกลจากบ้านเกิดของเขามากนักหากแต่ยูชอนไม่เคยได้เหยียบย่างมาที่เมืองเก่าแห่งนี้มาก่อนเลย และเมื่อได้ก้าวเข้ามายูชอนก็เริ่มรู้สึกหลงเสน่ห์ของมัน ที่นี่สงบ อบอุ่น และทำให้เวลาที่ก้าวเดินไปอย่างเร่งรีบของเขาเดินช้าลง
กิ่งไม้ในเขตวัดแห่งนี้ถูกประดับประดาไปด้วยเกร็ดหิมะที่ยังค้างไว้ ไม่ต่างจากยอดอาคารไม้โบราณพวกนั้น นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเดินสวนเขาเข้าไป หากแต่ยูชอน และเด็กหนุ่มข้างกายเลือกจะเดินแยกออกมาจากที่ตรงนั้น และบ่ายหน้าเดินไปยังสวนสาธารณะที่สงบเงียบกว่า
เคยมาเที่ยวแบบนี้มาก่อนไหม ยูชอนเอ่ยถามคนข้างกาย คนตัวเล็กจึงพยักหน้าตอบ เคยมาทัศนศึกษาฮะ
อ๋อ
ยูชอนครางรับในคอ ก่อนจะเดินพาจุนซูชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ
ผมเคยมาตอนช่วงที่ต้นเชอร์รี่กำลังออกดอก แถวนี้สวยมากนะฮะ
เหรอ น่าเสียดายนะ ตอนนี้อากาศหนาว มีแต่ต้นไม้แห้งๆ
จุนซูพยักหน้ารับคำก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณ เด็กหนุ่มนึกอยากจะให้คุณหมอได้เห็นความงดงามในช่วงที่ดอกเชอร์รี่สีชมพูอ่อนบานแข่งกันไปทั่วเมืองเก่าแห่งนี้ เพราะมันสวยงามราวกับภาพวาดโบราณก็ไม่ปาน
หากแต่จุนซูก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยชวน หรือขอให้คุณยูชอนพากลับมาอีกครั้งแน่ๆ ... แค่คราวนี้ก็ราวกับความฝันแล้ว
เอาไว้ว่างๆ ช่วงเมษา เรากลับมาอีกครั้งแล้วกัน
คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากสีสดนั้นราวกับรู้ว่าเด็กหนุ่มรู้สึกนึกคิดเช่นไร จุนซูได้แต่ยืนกระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความอึ้ง ที่ได้ยินคำพูดเหมือนชวนนั้น
มันราวกับฝัน หากแต่เป็นจริง...
คำชวนที่เหมือนคำสัญญา ว่าเขาและคุณยูชอนจะกลับมาด้วยกันอีกครั้ง คำชวนที่สร้างความหวังให้กับเด็กหนุ่ม ว่าคุณหมอจะไม่ทอดทิ้งเขาในเร็ววันนี้....
และอย่างน้อยถ้าหากจะจากกัน จุนซูก็ยังมีเวลาที่จะตั้งตัว ถึงแม้จะเตรียมใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หากแต่ก็ยังอยากที่จะยื้อเวลาเอาไว้ให้นานที่สุด อยากที่จะพร้อมมากกว่านี้ อยากที่จะได้รับไออุ่นเนิ่นนานกว่านี้ อยากที่จะแข็งแรงมากกว่านี้ และขอให้เขามีช่วงเวลาดี ๆ กับคุณหมอเพื่อเอาไว้ระลึกถึง และจดจำมากกว่าที่เคยมี
เป็นอะไรมองฉันตาปริบๆ เชียว ปาร์คยูชอนหัวเราะพลางขยี้เรือนผมนิ่มของจุนซู ท่าทางของจุนซูนั้นชวนหัวเราะ และก็ดูน่ารักดี
เดินไปทางนั้นกันดีกว่า ฉันเห็นเหมือนมีจักรยานเช่า เราได้เช่าขี่เล่นกัน ปาร์คยูชอนเอ่ยก่อนจะเดินนำเด็กหนุ่มไป
จุนซูยืนมองแผ่นนั้นกว้างนั้นก่อนจะค่อยๆ วิ่งตาม เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปหมายคว้าแขนของคุณหมอที่กำลังซุกมืออยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ท
หากแต่เมื่อจุนซูนึกได้ เขาก็รีบดึงมือของตัวเองออก... จุนซูไม่กล้าจะดึงรั้ง ไม่กล้าจะไขว่คว้า ไม่กล้าไปยืนเคียงข้าง
เขาเลือกจะเดินตามหลังคุณยูชอนไปเรื่อย ๆ แทน
ที่ตรงนี้คงเหมาะกับเขามากกว่า
>>>Kiss Goodbye<<<
เสียงครางกระเส่าดังรอดผ่านจากลำคอเล็กกระตุ้นให้กายแข็งแรงยิ่งรู้สุขสม
ภาพของเด็กหนุ่มที่นอนก้มหน้าแนบกับพื้นเตียง จนอีกฝ่ายต้องประคองแก้มใส่ขึ้นมาเพื่อกดจูบกับริมฝีปากแดงระเรื่อนั้น เรียกร้องให้ยูชอนไสกายเข้าแนบชิดกว่าเดิม
ชายหนุ่มเกี่ยวประคองเอวคอดให้ยกสูงเพื่อให้เขาสามารถปรนเปรอรสรักให้สุขสมเท่าเทียมกัน และยิ่งถูกกระตุ้นด้วยการจมร่างเข้าไปแนบชิด เด็กหนุ่มก็ยิ่งจิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอน และกัดฟันลงกับหมอนใบโตเพื่อลดความรู้สึกเสียวซ่านจนหมุนมวลในช่องท้อง
ภารกิจรักดำเนินไปตามครรลอง และถึงมันจะเกิดขึ้นทุกวี่วันซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ทั้งคู่มาเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้ หากแต่มันก็ดูจะยังไม่เพียงพอ
เขาไม่รู้หน่ายจากการได้ลิ้มรสรักจากจุนซู และจุนซูเองก็รู้สึกสุขจากการกระทำที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้เกิดจาก...ความรัก...
อ๊า.......... เสียงครางในลำคอเหมือนเป็นสัญญาณบอกถึงจุดหมายปลายทาง หยดหยาดแห่งความรักทำให้ร่างเบื้องใต้อุ่นร้อนและเคลิ้มสุขไม่ต่างกัน
ยูชอนกดกายตัวเองแนบชิดก่อนจะละไล้ปลายจมูกลงกับพื้นหลังที่ชุ่มเหงื่อของจุนซู เขาพลิกกายเล็กขึ้นมา โดยที่อีกฝ่ายรีบเกี่ยวแขนกับร่างของเขาไว้เช่นกัน... ใบหน้าหวานใสขึ้นริ้วรอยแดงชาด จุนซูซุกหน้าลงกับอกชุ่มเหงื่อ คุณหมอยูชอนรับรู้ได้ว่าจุนซูกำลังแนบริมฝีปากเหนืออกของเขา เด็กคนนี้ชอบทำแบบนี้เสมอหลังจากจบกิจกรรมรัก
จูบที่อก และแนบหูเหมือนกับอยากฟังเสียงหัวใจ ..... คล้ายๆ กับเวลายามเช้าที่จุนซูมักแอบจุมพิตเขาอยู่เสมอ...
การกระทำซ้ำๆ ที่ยูชอนเคยชินกับมันไปเสียแล้ว
จุนซู
ฮะ เด็กหนุ่มขานรับด้วยเสียงแหบที่เป็นเอกลักษณ์
ง่วงหรือยัง
คิมจุนซูเลือกไม่ตอบด้วยคำพูด แต่เจ้าตัวใช้วิธีส่ายศีรษะเบาๆ แทน
ถ้าอย่างนั้นร้องเพลงให้ฉันฟังหน่อยซิ ชายหนุ่มนึกได้ว่าเมื่อกลางวันตอนที่ทั้งคู่ขี่จักรยานเที่ยวในเมืองด้วยกัน จุนซูร้องเพลงออกมา และเขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีน้ำเสียงที่ไพเราะน่าฟัง
อะไรนะฮะ
ร้องเพลงไง
เด็กหนุ่มส่ายหัววืดทันที ไม่ดีมั่งฮะ ผมร้องไม่เป็น
เมื่อกลางวันเธอยังร้องอยู่เลย ไม่ร้องแค่ฮัมก็ได้ฉันได้ยินเธอฮัมเพลงบ่อย ๆ
จะดีเหรอฮะ
ยูชอนพยักหน้า และรวบกอดจุนซูแน่นขึ้นไปอีก
ฉันอยากนอนแล้ว ร้องกล่อมฉันหน่อยแล้วกัน ปรกติเขาไม่เคยออดอ้อนคู่นอน ไม่เคยต้องฟังเพลงก่อนนอนให้หลับ เพราะเขาทำงานเหนื่อยจนหัวถึงหมอนก็หลับเองทุกครั้ง
หากแต่วันนี้หลังลิ้มรสความสุขจนอิ่มเอม เขากลับหลับยากกว่าที่เคย และนึกอยากอ้อนอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
ก็ได้ฮะ
ยูชอนยิ้มละไมจนขึ้นรอยบุ๋มที่แก้ม เสียงฮัมเพลงจากจุนซูกำลังกล่อมเขา ถึงแม้นจะไม่มีเนื้อร้อง แต่เสียงและท่วงทำนองกลับทำให้ยูชอนรู้สึกว่ามันไพเราะ ไพเราะแต่ก็เศร้า เขาคุ้นหูกับเพลงนี้ หากแต่นึกไม่ออก หรือเพราะความง่วงที่กำลังครอบงำจึงทำให้เขาหลงลืมไปว่าเพลงที่อีกฝ่ายบรรเลงให้เขาฟังแต่ผู้เดียวนั้นคือเพลงอะไร
>>>Kiss Goodbye<<<
ยานพาหนะคันหรูสีรัตติกาลค่อยๆ ขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่บริเวณลานจอดรถของคอนโดมีเนียมกลางใจเมืองของกรุงโซล
ห้องชุดที่เจ้าของรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองมัน เพราะมันมาจากหยาดเหงื่อ และแรงงานของเขา ในชีวิตของปาร์คยูชอน เขาไม่ได้นิยมซื้อของฟุ่มเฟือย หากแต่ซื้อของที่จำเป็น และมีเพียงไม่กี่อย่างที่นายแพทย์หนุ่มอนาคตไกลเลือกที่จะทุ่มเทจ่าย รถ คอนโด เสื้อผ้า และเซ็กส์
ปาร์คยูชอนกดปลดล็อกเปิดประตูเจ้าออดี้ซีดานคันหรู ก่อนจะพาตัวเองออกมายืนรอเด็กหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดสามวันที่ผ่านมา จุนซูรวบข้าวของตามหลังเขาออกมาด้วยท่าทีมึนงงเพราะเจ้าตัวหลับมาตลอดทาง เดี๋ยวขึ้นไปบนห้องก่อนแล้วกัน ยูชอนเอ่ยก่อนจะดึงกระเป๋าจากมือของจุนซูมาถือ เพื่อที่จะให้เด็กหนุ่มได้ใส่โอเวอร์โค้ทตัวหนาสะดวกขึ้น
นายแพทย์หนุ่มไม่ได้ยืนมองจุนซูต่อหากแต่เขาเลือกหันหลังเดินนำมา และเด็กหนุ่มก็รีบเร่งฝีเท้าตามด้วยความเคยชิน
จนเมื่อถึงห้องชุดสีขาวสะอาด ยูชอนจึงวางกระเป๋าเป้ใบเล็กของจุนซู แล้วกระเป๋าของเขาลงบนโซฟา และถอดแจ็คเก็ตสีน้ำตาลที่สวมใส่มาโยนลวกๆ ลงไปกองรวมกัน เขาเดินเข้าไปในห้องนอนโดยที่เด็กหนุ่มทำได้แต่มองตาม เพราะไม่เข้าใจว่าปาร์คยูชอนชวนตัวเองขึ้นมาทำไม
หรืออยากจะให้อยู่ต่อ.... จุนซูสะบัดความคิดเข้าข้างตัวเองทิ้งและเลือกทรุดนั่งลงบนโซฟา พรางม้วนพับเสื้อแจ็คเก็ตของนายแพทย์หนุ่มที่กองไว้ให้เรียบร้อย
ในขณะที่จุดซูกำลังพับเสื้ออยู่ เขาก็รู้สึกเหมือนมีคนสะกิดที่ไหล่ เด็กหนุ่มหันไปจึงเห็นปาร์คยูชอนยืนอยู่ด้านหลังโซฟา และกำลังยื่นบางสิ่งให้กับเขา
สิ่งนั้นคือธนบัตร 10,000 วอนจำนวนหลายใบ
มองอะไรรับไปซิ
ให้ทำไมฮะ
ลืมเหรอ นี่ค่าตัวของเธอไง จุนซูสะดุดกึกกับคำพูดนั้น นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ยูชอนยื่นเงินให้กับเขาและพูดถึงมันตรงๆ ว่าให้จุนซูทำไม
เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนี ด้วยความน้อยใจ และละอาย
ผมไม่เอาฮะ
ทำไม
เพราะคุณยูชอนช่วยผมเรื่องใบรับรอง นายแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วสงสัยกับคำตอบของจุนซู
ไม่เอาน่า ฉันพาเธอไปเสียเวลากับฉันตั้งหลายวัน ถ้าเธอไม่รับฉันคงรู้สึกลำบากใจ
จุนซูหันหน้าไปมองยูชอนพลางกดริมฝีปากจนขึ้นรอย ความน้อยใจกำลังล้นทะลักจนท่วมอก คุณยูชอนคิดว่าที่เขายอมไปเที่ยวด้วย หรือยอมนอนด้วยนั้นก็เพื่อแลกเงินหรือ
ผมไม่อยากรับมันฮะ
อย่ามางี่เง่าแบบนี้จุนซู อยู่ดีๆ เธออยากจะมาทำโปรโมชั่นอะไรกับฉัน เธอต้องกินต้องใช้ แล้วยิ่งเธอบอกกับฉันว่าเธอไม่รับแขกคนอื่นแล้วฉันยิ่งควรจ่ายให้เธอสมน้ำสมเนื้อ ถ้าเธอไม่รับฉันจะรู้สึกลำบากใจมากนะ
คำพูดที่ทอดน้ำเสียงจริงจังนั้นทำให้เด็กหนุ่มยิ่งครุ่นคิด ความลำบากใจของคุณยูชอนคืออะไร ลำบากใจกลัวเขาไม่พอกินพอใช้ หรือลำบากใจกลัวว่าเขาจะเกาะติด หรือเริ่มสะดุดใจว่าเขาให้ภักดิ์ไปแล้วจนยอมที่จะปฏิเสธการรับเงิน
ถ้าคุณยูชอนรู้ จุนซูก็ควรจะดีใจ หากแต่บนความเป็นจริง ยิ่งอีกฝ่ายรู้ว่าเขาหลงรัก เส้นเชือกที่ผูกพันกันไว้คงถูกตัดขาดโดยทันที
มันเยอะไปฮะ จุนซูเอ่ยเสียงออดก่อนจะดันเงินคืนกลับไป หากแต่ยูชอนรีบรวบมือเล็กและจับเงินทั้งหมดยัดใส่ทันที
เธอตอบแทนฉันคุ้มค่าเงินเกินกว่าที่ให้อีก ถ้าอยากจะทำโปรโมชั่นก็เลือกตอบแทนให้ฉันอย่างอื่นดีกว่า ปาร์คยูชอนเอ่ยพลางยิ้มมีเลศนัย คนที่น้อยอกน้อยใจอยู่ได้ฟังประโยคพวกนั้นก็สงสัย
ให้ทำยังไงฮะ
นายแพทย์หนุ่มหัวเราะก่อนจะยีผมนิ่มจนยุ่ง ก็คืนนี้อยู่ต่อกับฉันอีกสักคืน ถือว่าแถม
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายกับคำพูดนั้น มันเป็นคำพูดล้อเล่นที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ หากแต่มันบาดใจคนฟังนัก.... ค่าของคิมจุนซูอยู่ที่ไหน เขาเป็นแค่เครื่องมือตอบแทนความสุข และอีกฝ่ายก็มองว่าตัวเขาไม่ต่างจากการหยิบจับซื้อของเช่นนั้นหรือ
หรือเขาควรจะโทษตัวเองที่มัวแต่งมงายกับความรักที่ไม่มีทางไขว่คว้า จึงเลือกวิธีโง่เง่า ที่มีแต่จะทำให้เจ็บปวดทบทวีเพื่อดึงรั้งความสัมพันธ์นี้เอาไว้
เขาไม่มีสิทธิโกรธคนที่เขารัก ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธตัวเอง
ก็ได้ฮะ
.... ปาร์คยูชอนเลิกคิ้วกับคำตอบนั้นก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
บ้าน่าฉันล้อเล่น เธอกลับไปได้แล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานไม่ใช่เหรอ นี่ก็เย็นแล้วกลับไปพักผ่อนเหอะ ฉันเองก็ว่าจะนอนพัก อยู่กับเธอก็ไม่ได้พักพอดี คำพูดเหมือนเอื้ออาทรหากแต่ก็ยังแฝงนัยยะล้อเล่นในเรื่องที่อีกฝ่ายนึกอับอาย
ยูชอนขยี้เรือนผมที่เขาชอบสัมผัสอีกครั้งก่อนจะเดินหิ้วกระเป๋าของเขากลับเข้าไปในห้อง ถ้าจะกลับล็อคประตูด้วยล่ะ ฉันขออาบน้ำก่อน ยูชอนหันมาบอกก่อนจะพาตัวเองเข้าไปยังห้องนอน เขาเหลือบมองจุนซูอีกครั้งก็เห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังลุกขึ้นแล้วเหวี่ยงกระเป๋าเป้ขึ้นหลังของตน
เขารู้ดีว่าที่เอ่ยเหมือนล้อเล่นนั้น หากแต่จริง ๆ แล้วเขายังอยากรั้งเด็กหนุ่มเอาไว้ เขารู้สึกโหยหาร่างกายน่าทะนุถนอม และยังอิ่มเอมกับช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน แต่ท่าทีบางอย่างของจุนซูมันทำให้เขารู้สึกแปลก สายตาตัดพ้อที่มองมา หรือคำพูดที่แทรกไว้ด้วยน้ำเสียงผิดหวัง มันทำให้ยูชอนเริ่มไม่เข้าใจจุนซู
ฉะนั้นการทิ้งระยะให้ห่างกันไว้เช่นเดิมดูจะดีกว่าในยามนี้
หากแต่ในยามที่คุณหมอหนุ่มกำลังตกภวังค์ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ฉุดรั้งเขากลับมา เสียงเรียกเข้าที่เขาเลือกจากค่ามาตรฐานของโทรศัพท์ราคาแพง หากแต่เจ้าเสียงนี้มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าเลือกจะใช้ด้วย
พ่อ แม่ ยูฮวาน และจินอา
และเมื่อเขาจ้องมองที่หน้าจอ ชื่อของ ลีจินอาก็โดดเด่นอยู่บนนั้น ชื่อทีฉุดรั้งเขาสู่โลกแห่งความจริงที่มิอาจเลี่ยงหนีได้
ฮัลโหล
พี่ยูชอนอยู่ที่ไหนคะตอนนี้ เสียงใสที่ส่งมาจากปลายสายทำให้ผู้รับต้องครุ่นคิดกับคำตอบ เขาควรจะตอบความจริง หรือหาวิธีเลี่ยงหลบไปก่อน
พี่คะ ตกลงพี่กลับเข้าโซลมาหรือยังคะ
กลับมาแล้วอยู่คอนโด ชายหนุ่มเลือกที่จะตอบความจริง เพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าจินอาโทรมาทำไม
ดีจังเลยค่ะ จินอาอยากกินอาหารเยอรมัน ก็เลยนึกถึงพี่ อาหารเยอรมันเนี่ยต้องพี่ยูชอนเลย ไม่มีใครชอบเหมือนเราสองคนเลยนะคะ
อืม
จริงๆ ไอ้เรื่องอาหารเนี่ยเรารสนิยมไปทางเดียวกันอยู่แล้วเน้อ ชวนพี่ยูชอนทีไรไม่เคยผิดหวัง ตกลงพี่จะไปกับฉันไหมคะ จะได้ขับรถไปรับพี่เลย จินอาผ่านมาเส้นแถวคอนโดพี่พอดี
อืม เดี๋ยวพี่ไปรอข้างล่างแล้วกัน ชายหนุ่มรับคำเพราะเห็นว่าน้องสาวคนสวยคงอยากทานอาหารโปรดของทั้งเขา และจินอา ถ้าปฏิเสธไปก็กลัวจะทำให้ผิดหวัง และคำพูดของจินอามันกำลังสะดุดใจเขา รสนิยม หรือการใช้ชีวิตของเขากับจินอานั้นแทบจะไม่แตกต่างกัน หากจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันก็แทบจะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก.... มันก็แค่เปลี่ยนสถานะจากคนที่เหมือนพี่น้อง เป็นคู่ชีวิตก็แค่นั้น
หรือบางทีเพื่อตัดปัญหาเขาก็ควรจะคว้าจินอาเอาไว้
ปาร์คยูชอนสะบัดความคิดนั้นทิ้งเสีย เขายังไม่อยากเครียดกับเรื่องนี้ในเวลาที่ยังไม่มีใครกดดัน วันนี้ขอให้เขายังคงมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบพี่ชายของจินอาไปก่อน ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้วันหลังที่ต้องคิด
>>> Kiss Goodbye<<<
รถยนต์สีขาวไข่มุกคันกะทัดรัดเลี้ยวโฉบมารับนายแพทย์หนุ่มที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า กับกางเกงสแลคสีดำ เจ้าของรถสาวสวยส่งยิ้มทั้งตาทั้งปากให้ว่าที่คู่หมั่น หากแต่นายแพทย์ยูชอนเลือกแค่จะยิ้มบางๆ ตอบ
เราจะไปกินกันที่ไหน
มีร้านใหม่แนะนำค่ะ จินอาอ่านเจอในอินเตอร์เนท
อืม ยูชอนรับคำในลำคอก่อนจะลงนั่งพิงกับเบาะรถในท่าทางผ่อนคลาย เขาปล่อยให้คนชวนใช้สิทธิในการพาเขาไปลิ้มรสอาหารที่เจ้าตัวอยากไปชิมได้อย่างเต็มที่
หญิงสาวหันไปสนใจกับการขับรถ และกดเร่งเสียงเพลงที่เปิดค้างไว้ให้ดังกลบทำลายความเงียบ เพราะรู้ว่าคนที่เหมือนราวกับพี่ชายนั้นไม่ใช่คนช่างคุย
หากแต่เสียงเปียโนที่ดังพลิ้วไหวมาจากลำโพง มันกำลังกระตุ้นความทรงจำบางอย่างของยูชอน
เสียงอินโทรเพลงคุ้นหู ท่วงทำนองหวานเศร้าที่คุ้นเคย ใช่มันเป็นเพลงเดียวกับที่จุนซูดีดเล่นที่ร้านอาหารในโรงแรมซ้ำแล้วซ้ำอีกในวันนั้น
และยิ่งเมื่อดนตรีบรรเลงต่อไป ยูชอนก็รู้สึกเหมือนเคยได้ฟังมัน ทั้งๆ ที่วันนั้นจุนซูเล่นวนอยู่แค่ท่อนเดียว
เพลงนี้มันเป็นเพลงเดียวกับคนตัวเล็กชอบฮัม และเป็นเพลงเดียวกับที่จุนซูกล่อมเขาเมื่อคืน
หากแต่เมื่อยูชอนจับใจความทางภาษาจึงรู้ว่ามันไม่ใช่ภาษาเกาหลี หากแต่มันเป็นภาษาจีน
เพลงนี้เพลงอะไร เขาเอ่ยถามลอยๆ ขึ้นมา คนเปิดเพลงจึงเหลือบมองด้วยความสงสัยกับคำถาม
Kiss Goodbye ค่ะ
เพลงจีนเหรอ
ค่ะ เพลงของหวังลีฮอมไงคะ เพราะใช่ไหมล่ะ แต่ฉันชอบเพลงอื่นของเขามากกว่า Forever Love แทรคต่อไปอ่ะคะ ลีจินอาอธิบายด้วยรอยยิ้มสดใส หากแต่มันไม่อาจดึงความสนใจของคุณหมอยูชอนได้
เธอดีดเปียโนเพลงนี้ได้ไหมจินอา
Kiss Goodbye เหรอคะ
อืม
ก็พอได้ค่ะ เคยดีดสักหนสองหน พี่สนใจหรือคะ ฉันน่าจะยังเก็บโน้ตเพลงนี้ไว้อยู่
ถ้าอย่างนั้นเธอส่งให้พี่ทางอีเมล์คืนนี้ได้ไหม ปาร์คยูชอนถามด้วยความกระตือรือร้น
ได้ซิคะ
คำตอบของลีจินอามันทำให้ชายหนุ่มฉาบรอยยิ้มบนสีหน้าทันที เขานึกอะไรบางอย่างได้ในระหว่างที่กำลังฟังเพลง และอยากที่จะทำมันให้เป็นจริง.... เขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะจินตนาการถึงเรื่องที่เขาหมายจะทำในอนาคต
TBC. ...............................................................
เหมือจะทิ้งช่วงไปนานที่สุดตั้งแต่ลงฟิคเรื่องนี้มา ช่วงปีใหม่มีภารกิจมาก เลยเพิ่งว่างที่จะเขียน ตอนนี้สต๊อกก็ใช้หมดแล้วแต่ละตอนอาจไม่ถี่เหมือนแต่ก่อนนะคะ
ขอบคุณสำหรับคำชม และดีใจที่ชอบกับฉากเข้าพระเข้านางของปุ้ม 555 ส่วนตัวชอบอ่านบทอัศจรรย์ในเชิงเปรียบเทียบสวยงาม ก็เลยเอานิสัยนี้มาใช้กับงานของตัวเอง และการได้รับรีแอคที่ดีก็ปลื้มใจค่ะ
เรื่องนี้คนอ่านคงเหวี่ยงอารมณ์กับคุณพระเอกมากๆ คือทั้งรู้สึกรัก และหมั่นไส้ไม่ได้ดั่งใจปนๆ อยู่ ช่วงนี้ก็พยายามรักพี่พระเอกมากๆ ไปก่อนแล้วกันนะคะ ><
เปิดเพลงคลอฟังไปเรื่อยๆ ระหว่างอ่านจะได้ฟิล เพราะตอนแต่งเขาก็เปิดเพลงนี้กล่อมไปด้วย
Kiss Goodbye - Wang Lee Hom
//youtu.be/XI28y463BfI
|
|
Create Date : 08 มกราคม 2555 |
Last Update : 8 มกราคม 2555 13:15:28 น. |
|
5 comments
|
Counter : 706 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ใบไม้ IP: 110.168.186.96 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:16:48:43 น. |
|
|
|
โดย: -Killer Queen- IP: 58.11.198.144 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:4:09:41 น. |
|
|
|
โดย: mayu IP: 182.232.242.31 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:23:29:49 น. |
|
|
|
โดย: loveyoosu IP: 125.25.126.118 วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:2:02:34 น. |
|
|
|
โดย: myjun IP: 124.122.78.154 วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:15:03:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|