Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

แอ่ว เจียงใหม่-เจียงฮาย ม่วนใจ๋ [ตอน2]

หลังจากเดินทางออกจากดอยสุเทพแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย จุดหมายต่อไปของเราเลยค่ะ

การเดินทางจากเชียงใหม่ไปเชียงราย ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ค่ะ
ไปได้ 2 ทาง คือทาง อ.เวียงป่าเป้า กับอีกทาง คือ อ.ฝาง ค่ะ
แต่คุณน้ำ แห่งม่อนฟ้าใส(รีสอร์ทที่เรากำลังจะไปพัก) แนะนำให้ไปคือ ทางเวียงป่าเป้าค่ะ

เนื่องจากว่าเส้นทางเวียงป่าเป้าถนนจะดีกว่า และก็ทางคดเคี้ยวน้อยกว่าทาง อ.ฝาง แต่ไม่ค่อยมีที่แวะเที่ยว
แต่ถ้าทาง อ.ฝาง มีที่ให้แวะเที่ยวเยอะแยะเลยค่ะ ซึ่งมือใหม่อย่างเราเลือกที่จะเดินทางทางเวียงป่าเป้าค่ะ

แถมคุณน้ำยังแนะนำให้เราแวะทานพายที่ สวนจริณ ด้วยค่ะ(แถมยังย้ำว่า "แวะทานให้ได้นะคะ")
แนะนำขนาดนี้แล้วมีหรอที่หน้าอย่างนี้จะพลาดได้ แค่นึกก็น้ำลายไหลแว้ว ^^

จริงๆแล้ว วันนี้เราตั้งโปรแกรมกันว่า จะแวะทานพาย ไปเที่ยววัดร่องขุ่น ช็อปปิ้งที่แม่สาย ทานมื้อเย็นที่เชียงแสน
แล้วค่อยเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า รอบค่ำก็ไปดูนาฬิกาเปลี่ยนสี แล้วก็ไปเดินถนนคนเดินของเชียงราย

แต่ผิดแผนไปหน่อย(แต่ก็ไม่หน่อยอ่ะ..เยอะเลย)
จริงๆ ถ้าจะไปตามแผนเราต้องออกจากเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้า
แต่กว่าจะได้ลงจากดอยสุเทพก็ล่อไป 11.30 น. ละ

เลยเปลี่ยนแผนโดยตัดแม่สาย กับทานมื้อเย็นที่เชียงแสนออกจากโปรแกรม
แต่ก็จะแวะทานพายสวนจริณ ก่อนไปวัดร่องขุ่น ...แต่แล้วก็อดกิน -.-" เพราะขับรถเลยทางเข้าซะงั้น
ว่าจะกลับรถก็ไม่สะดวก เพราะเป็นทางเขาคดเคี้ยว กลับรถมั่วซั่วอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้
อยากกินอ่ะ แต่ก็ได้แต่ทำใจ ไว้ขากลับเชียงใหม่อีกรอบค่อยแวะกินก็ได้(คราวนี้ล่ะ ไม่พลาดแน่)

เราเดินทางมาถึง วัดร่องขุ่น กันประมาณเกือบบ่าย 3 โมง
แวะกินน้ำเงี้ยวแถวๆหน้าวัด รองท้องคนละชามก่อนเข้าไปชมวัด

ภาพแรกที่เห็นวัด ถึงกับร้องโอ้โหเลยค่ะ วัดอาร๊าย(แบบเสียงสูงปรี๊ด)สวยจริงๆเลย
เคยเห็นแต่ในรูปถ่าย ได้มาเห็นของจริงกับตาแบบว่าอลังการงานสร้างมั่กมั่ก
ยิ่งกระทบกับแสงแดดจัดๆ แล้วด้วย ตัววัดสะท้อนประกายระยิบระยับสวยงามมากเลยค่ะ

1

มาดูความอลังการของวัดร่องขุ่นกันได้เลยเจ้าค่า

1

1

1

รูปนี้ชอบมากเลยค่ะ ถ่ายตอนช่วงที่ไม่ค่อยเห็นคนเลย

1

มาถ่ายรูปคู่กันหน่อยนะ ว่าเรามาถึงวัดร่องขุ่นกันแล้ว

1

ส่วนประกอบต่างๆ ในวัดก็สร้างสรรได้สวยงามเข้ากันไปหมดเลยค่ะ

1

อันนี้เป็นขุมนรกค่ะ มีป้ายบอกว่าห้ามลงขุมนรกด้วย(แต่เอ๊ะ!! ใครเค้าอยากจะลงกันนะ)

1

1

1

1

1

1

หลังนี้สีทองเหลืองอร่ามเลยค่ะ แต่เป็นสุขานะคะ
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นห้องน้ำที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย(อยากมีแบบนี้ไว้ที่บ้านมั่งจัง อิอิ)

1

ขากลับไปลานจอดรถ เราก็แอบเห็นผู้ชายคนนึงหน้าเหมือน อ.เฉลิมชัย เลยแอบด้อมๆมองๆ อยู่ว่าใช่ตัวจริงรึเปล่า
สรุปว่าเป็น อ.เฉลิมชัย ตัวจริงเสียงจริง เลยขอเข้าไปแช๊ะรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย
อ. ก็กวักมือเรียกให้เข้ามาถ่ายรูปได้เลย ถ่ายเสร็จก็ยกมือขอบคุณ แล้ว อ. ก็พูดกลับมาว่า "ยินดีเจ้า"

มาวัดร่องขุ่นทริปนี้ มีความสุขจริงๆเลย ได้เห็นทั้งผลงาน แล้วก็ได้เจอผู้ที่สร้างสรรผลงาน
(แอบดีใจเล็กๆ ที่ได้เจอตัวจริงของ อ.เฉลิมชัย เพราะแอบชื่นชมผลงานของ อ. มานานแล้ว)

1

ตอนแรกเกือบจะอดถ่ายแล้วด้วย เพราะอ้ายบ่าวหงุดหงิดเนื่องจากอากาศร้อนมั่กมั่ก ก็พาลไม่ยอมไปถ่าย
เลยบอกอ้ายบ่าวว่า อ.เฉลิมช้ย ตัวเป็นๆ ไม่ได้เจอได้ตามท้องถนนนะ เจอแล้วก็ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อยดีกว่า
,,,สุดท้ายปลื้มค่ะ ได้ถ่ายรูปคู่กับจิตรกรระดับประเทศ หุหุ

1

ระหว่างที่เรากำลังจะกลับ ทางวัดก็ได้ประกาศแจ้งว่า เหล่าเสื้อแดงได้ปิดแยกอะไรซักแยกนึงไว้
ทำให้เข้าตัวเมืองทางหลักไม่ได้ หากใครจะเข้าตัวเมืองก็ให้เลี่ยงโดยใช้เส้นทางอีกทางหนึ่ง

เราก็ขับรถไปตามทางที่เค้าบอกค่ะ ทางนี้จะตัดผ่านกลางเมืองเลย ที่รู้ว่ากลางเมือง เพราะรถติดมาก
เค้าเล่นน้ำกันที่ถนนเส้นนี้ค่ะ ดูแล้วน่าสนุกดีจัง แต่ข้าเจ้า บ่ มั๊ก เล่นน้ำสงกรานต์ ก็ได้แต่นั่งมองเอาค่ะ

ขับมาเรื่อยๆ ก็เจอ 5 แยกพ่อขุ่นค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางแม่สาย
ที่หมายของเราคือ ราชภัฎเชียงรายค่ะ

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงที่พักค่ะ ที่พักของเราคืนนี้ก็คือ ม่อนฟ้าใส ค่ะ

1

บ้านพักที่ม่อนฟ้าใส เป็นบ้านที่สร้างจากดินค่ะ แต่ไม่เหมือนเหล่าบ้านดินที่ราชบุรีนะคะ คนละ Feel เลย

การตกแต่งของที่นี่ก็จะมีดินปั้นเป็นรูปต่างๆ เต็มไปหมดเลย ดูแล้วเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ทดี
อย่างรูปปั้นสาวแม้วนั่งยองๆนี่ ดูก็รู้เลยค่ะว่าเป็นม่อนฟ้าใส

1

ห้องที่เราพักเป็นห้องแบบ Executive ค่ะ ได้ราคาโปรโมชั่นจากงานไทยเที่ยวไทย ห้องนอนสวย กว้างดีด้วย
Voucher ของม่อนฟ้าใส ดีมั่กๆอ่ะ ใช้ได้ทุกวันเลย ไม่มีวันหมดอายุด้วยนะ

ดูรูปภาพห้องนี้เต็มๆ ได้ที่ ที่หลับ ที่นอน (-_- )Zzz นะคะ

1

หลังจากนอนเล่นแล้วเผลอหลับกันไปหนึ่งงีบ ก็ตื่นมาพร้อมกับความหิว เลยอาบน้ำแต่งตัวกัน เพื่อจะออกไปหาข้าวกิน

ได้รับคำแนะนำร้านอร่อยจากคุณป้าเจ้าของรีสอร์ท ให้มาทานที่ร้านนี้ค่ะ
ร้านตองตึง อาหารเหนือรสชาติท้องถิ่นแต๊ๆ ราคาไม่แพง

1

เดินเข้ามาภายในร้านตกแต่งด้วยต้นไม้เยอะเหมือนกันค่ะ ดูร่มรื่นดี

1

มีการแสดงพื้นเมืองของทางเหนือด้วย
ทีแรกเกือบจะไม่ได้นั่งตรงโซนหน้าเวทีแล้ว เพราะว่าคนเยอะ มาโต๊ะนึงเป็นสิบเลย
แต่เหมือนสวรรค์เป็นใจ เหลือโต๊ะน้อยๆ ไว้ให้เรานั่งแบบไม่ต้องจองด้วยค่ะ

1

อาหารที่สั่งในวันนี้ก็ยังคง Concept เดิมค่ะ สั่งอะไรก็ได้ที่เป็นอาหารเหนือ อุอุ

เมนูในมื้อนี้เลยได้แก๊...
ชุดออเดิร์ฟเหมือนเดิม, แกงโฮ๊ะ, แกงฮังเล, แล้วก็ต้มยำปลาคังน้ำใส +ข้าวเหนียวอีก 1 กระติ๊บ

กับข้าวมื้อนี้เหมือนมื้อที่เชียงใหม่ 2 อย่าง หน้าตาก็ต่างกัน แถมความอร่อยก็ต่างกันด้วยค่ะ
สรุปว่ารสชาติอาหารร้านนี้อร่อยค่ะ เช็คบิลออกมาประมาณ 400 บาท เห็นบิลแล้วตกใจ โอ้วแม่เจ้า!! ถูกจริงจริงด้วย...

1

1

ที่ร้านมีผ้าพื้นเมืองขายด้วยค่ะ สวยมากๆ ราคาก็ตามความวิจิตรของงานค่ะแต่ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่

1

ออกจากร้านตองตึง เราก็ไปต่อกันที่นี่ค่ะ ตลาดไนท์บาร์ซ่าเชียงราย

1

ส่วนใหญ่สินค้าที่นี่ก็จะเป็นสินค้าพื้นเมือง กับสินค้าแฮนเมด คล้ายๆถนนคนเดินของเชียงใหม่
แต่พื้นที่ในการให้เดินช็อปปิ้งมีไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ

1

1

ออกจากตลาดไนท์บาร์ซ่า ประมาณเกือบ 4 ทุ่ม เดินมาจะขึ้นรถก็นึกขึ้นได้ว่าลืมไปดูนาฬิกาเปลี่ยนสีไปซ๊ะสนิทเลย
มองดูนาฬิกาอีก 5 นาที 4 ทุ่ม เอาวะ!! เผื่อไปทันรอบ 4 ทุ่ม

เลยลองถามทางจากคนแถวนั้นดูว่าหอนาฬิกา อ.เฉลิมชัย ไปทางไหน
เค้าก็บอกทางให้ แถมบอกอีกว่า 4 ทุ่ม ไม่มีเปลี่ยนสีแล้วนะ -.-"
จะเปลี่ยนสีก็แค่รอบ 1 ทุ่ม, 2 ทุ่ม แล้วก็ 3 ทุ่ม วันละ 3 รอบเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็เปิดไฟธรรมดา
(พลาดอีกแล้วครับท่าน วัยรุ่นเซง...)

แต่ไม่เป็นไร ไม่เปลี่ยนสีก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไปดูว่า จะสวยตระการตาขนาดไหนก็พอละ
ขับรถมาถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้น ก็คือ หอนาฬิกา อ.เฉลิมชัย นั่นเอง
ดูจากรูปก็ว่าอลังการแล้ว บริเวณของหอนาฬิกานั้นแสงสีเหลืองอร่ามไปทั่วบริเวณเลย

1

เห็นแล้วก็รู้สึกประทับใจในตัว อ.เฉลิมชัย เพิ่มขึ้นไปอีก ที่ไม่ได้ละทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัย
แต่นำความสามารถของตนเองมาพัฒนาให้ จ.เชียงราย ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม
เพราะทั่วจังหวัดเชียงราย จะมีกลิ่นอายศิลปะของ อ.เฉลิมชัย เต็มไปหมด

1

หลังจากชมความงามของหอนาฬิกากันซักพัก เราก็กลับที่พักค่ะ

ตื่นเช้ามาอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท แล้วบอกลา ม่อนฟ้าใส
เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยัง แม่สาย หรือตลาดท่าขี้เหล็ก แหล่งช็อปปิ้งค่ะ

การเดินทางไปแม่สายก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ค่ะ

แต่ก่อนอื่น!! ต้องแวะทำใบผ่านแดนกันที่ ที่ว่าการ อ.แม่สาย กันก่อนค่ะ
โดยเตรียมบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ พร้อมเงินคนละ 30 บาท
มากี่คนก็รวบรวมเอกสารทั้งหมดไปทำคนเดียวก็ได้ค่ะ(ไม่ต้องไปกันทั้งหมด)

พอทำใบผ่านแดนเรียบร้อยแล้ว เราก็ดิ่งตรงไปยังแม่สายกันเลยค่ะ
มาถึงประมาณเกือบ 10 โมง
ก็มองหาที่จอดรถว่าจะจอดตรงไหนดี พอดีได้ข้อมูลจากคุณน้ำว่า ให้หาที่รับฝากรถ
เอาแบบที่ไม่ต้องฝากกุญแจรถ... ก่อนเข้าไปจอดก็ให้ถามก่อนว่าต้องกุญแจไม๊ ถ้าฝากก็ไม่จอดงิ
ค่าจอดรถก็ประมาณ 40 บาท ค่ะ

เอาล่ะ ที่จอดรถก็ได้แล้ว ขาดก็แต่...ยังไม่ได้ใช้บริการของตลาดแม่สายเลย O_o"
แต่เนื่องด้วยช่วงสงกรานต์เลยไม่กล้านำกล้องลงไปด้วย เลยไม่มีรูปที่แม่สายมาฝากเพื่อนๆ เลยค่ะ
แต่ก็ดีแล้วแหละที่ไม่ได้เอากล้องลงไป เพราะช่วงที่เดินผ่านระหว่างสะพานข้ามแดน
มีเด็กขอทานพม่า เอาขวดน้ำ ใส่น้ำมาสาดด้วย
แบบว่าส่วนตัวไม่ชอบเล่นน้ำสงกรานต์อยู่แล้ว เลยปัดขวดน้ำทิ้งเลยค่ะ
(แอบเสียมารยาทไปหน่อย แต่น้ำมันสกปรกนินา)

เราเสียเวลาช็อปปิ้งอยู่ที่แม่สายประมาณ เกือบ 5 ชม. มัวแต่เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ หากระเป๋าที่ถูกใจ

สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์(เรียกง่ายๆก็คือของปลอมอ่ะ)ทั้งนั้นแหละค่ะ

หลักๆที่เห็น ก็จะเป็นกระเป๋า+นาฬิกา+เสื้อ ก็อปค่ะ อยากได้เกรดไหนที่นี่มีให้คุณเลือกในราคาที่ย่อมเยาว์(กว่ากรุงเทพ)ค่ะ
ถ้าคุณผู้หญิงต้องการที่จะซื้อกระเป๋านะคะ อย่าลืมต่อนะคะ ต่อไป 50% เลย
อย่างกระเป๋ากุ๊ดจี่ที่อิชั้นไปสอยมา แม่ค้าบอกราคา 1600- แต่อิชั้นต่อมาได้ 800 ค่ะ

แล้วก็มีแผ่นซีดีก็อปปี้ 7 แผ่น 100 บาท / แว่นกันแดดอันละ 30-40 บาท กันไปเลย

อีกอย่างที่เห็นคนมุงกันทุกร้านก็คือ มือถือผลิตภัณฑ์ OTOP จากจีนค่ะ
เห็นอ้ายบ่าวแอบสนใจ iPhone อยู่ ก็เลยไปมุงกับเค้าบ้าง แต่ได้ยินแม่ค้าพูดว่า "สินค้าเหมือน iPhone 99%"
เราเลยจูงมากันออกมา แล้วกระซิบกันว่า แล้วมันจะเหลืออีก 1% ไว้ทำด๋อยอะไรวะเนี๊ย
แบบว่าถ้ามองด้วยสายตาเนี่ย เหมือนของจริง 100% เลย

มองนาฬิกาอีกทีถึงกับตกใจ โอ๊ะ! จะบ่าย 3 ละ มิน่าหล่ะ เมื่อยขาขะนาด

และแล้วก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ เพราะเราต้องเดินทางกลับไปนอนที่เชียงใหม่อีกคืน
ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น

ขากลับเราก็กลับทางเดิมค่ะ แต่เหมือนว่าอ้ายบ่าวจะเริ่มชำนาญทางมากขึ้น เข้าโค้งแต่ละทีไม่ต้องพึ่งเบรคเลยค่ะ
แต่คนนั่งข้างๆนี่สิ มือซ้ายก็ยึดที่มั่นไว้ มือขวาก็ถือยาดมค่ะ -.-"

และระหว่างทางเราก็ไม่ลืมที่จะแวะ ชิมพายสวนจริณค่ะ เย่ๆ ในที่สุดก็ได้แวะซื้อพายซะที
เสียดายที่ไม่ได้นั่งชมวิวที่ร้าน เพราะอ้ายบ่ายกลัวจะมืดซะก่อนที่จะถึงเชียงใหม่
เลยซื้อกลับมากินกันที่รีสอร์ทค่ะ
ตอนเดินเข้าไปซื้อก็ไม่รู้หรอกว่าจะกินอะไรดี เลยถามเค้าค่ะว่าอันไหนขายดี
คนขายเค้าบอกว่าขายดีทุกอย่างเลยค่ะ
งั้นเอาตัวท็อปของร้านละกันค่ะ เลยได้ พายมะพร้าว, พายลูกตาล แล้วก็พายบลูเบอรี่ มาอย่างละชิ้น
พร้อมกับ พายมะพร้วอีก 2 ชิ้น เอามาฝากพี่ฟ้ารุ่ง และคุณจ๋า แห่งบ้านรัตนัย
ที่ให้คำแนะนำ และดูแลเรามาเป็นอย่างดี

ขับรถมาถึงเชียงใหม่เกือบทุ่ม เข้าพักที่บ้านรัตนัยเหมือนเดิม
แต่คราวนี้เป็นห้องแบบ Superior ค่ะ

และอีกเช่นเคย ดูรูปภาพห้องนี้เต็มๆ ได้ที่ ที่หลับ ที่นอน (-_- )Zzz นะคะ

1

1

กลับมาถึงอาบน้ำเตรียมตัวพักกันก่อนค่ะ แต่ก่อนที่จะพักขอจัดการกับพายสวนจริณก่อนละกันนะ
แบบว่าไม่เคยกินพายที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ สรุปว่าปลื้มค่ะ อร่อยมั่กมั่ก

พอเจอหน้าพี่ฟ้ารุ่ง พี่ฟ้ารุ่งก็กำลังทานอยู่เลย แล้วบอกว่าอร่อยกว่าของร้าน Love @ First Bite อีก
(เราก็ไม่รู้อ่ะนะว่าอร่อยกว่ารึเปล่า เพราะไม่เคยลองของ Love @ First Bite)
พี่ฟ้ารุ่งเลยถามว่าร้านอยู่ตรงไหน
ก็ตอบพี่เค้าไปอ่ะค่ะ ว่าอยู่ตรง อ.แม่สรวย ทางไปเชียงราย แต่ถ้าไปจากเชียงใหม่ให้สังเกตดีๆ เด๋วจะเลยเอาได้

1

กินกันเสร็จก็นอนค่ะ ด้วยความเพลียก็เลยขี้เกียจออกไปกินข้าว
แต่ที่ไหนได้ดันตื่นมาตอนเที่ยงคืนกว่า แถมหิวอีกต่างหาก

อ้ายบ่าวก็ตื่นมาพอดี เลยถามว่าหิวไม๊ ถ้าหิวจะพาไปกินไก่เที่ยงคืน
เราก็พยักหน้า หงึกๆ แล้วอ้ายบ่าวก็ถามอีกว่าแล้วร้านปิดกี่โมง เราก็ตอบไปโดยที่กะๆเอาว่า ตี 4 มั๊ง!

สรุปว่าคืนนั้นเราก็ไปโจ้มื้อดึกกันที่ร้านไก่เที่ยงคืนค่ะ

แต่เรื่องมันมีอยู่ว่าไปถึงร้านประมาณตี 1 ก็เข้าไปต่อแถวเพื่อที่จะทานในร้าน
เพราะแถวจะแบ่งเป็น 2 แถวค่ะ อีกแถวจะเป็นแบบซื้อกลับบ้าน
ต่อแถวประมาณ 10 กว่านาที ก็ได้โต๊ะนั่งละ

รอซักแปปก็มีคนมารับออเดอร์ค่ะ แต่แบบว่าไม่มีเมนูให้อ่าน แต่เมนูอยู่ที่ปากคนขายค่ะ แล้ว She ก็พูดได้ไวมากๆ
พูดจบตบท้ายด้วยว่า จะสั่งอะไรดีคะ พร้อมหน้าบึ้งๆ
เราเลยสั่งเมนูที่มองจากโต๊ะอื่นๆ แล้วก็จากที่จับใจความได้จาก "เมนูปากแม่ค้า" เอาค่ะ

ซึ่งก็ได้แก่ ไก่ทอด 2 ชิ้น น้ำพริกหนุ่มผักต้ม ไข่ต้ม 2 ฟอง เนื้อทอด ไส้หมูทอด ข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ

ระหว่างรอก็มีคนกรุงเทพมาต่อคิวอีกหลายคิว
ซักพักเราก็ได้ยินแม่ค้า(คนที่รับออเดอร์) ตะโกนว่า "วันไม่รับลูกค้าแล้วของหมด" เราแหงะดูนาฬิกาบอกเวลา ตี 1.30
โอ้วแม่เจ้า ขาย ชม. ครึ่ง ของหมดแล้ว
คนที่กำลังจะมาต่อคิวก็หงอยเลย เพราะส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพทั้งนั้น

ทานเสร็จก็เรียกเช็คบิล
เช็คบิลมา 160 กว่าบาท ราคาก็โอเคพอรับได้กับความอร่อยที่ไม่มากเท่าไหร่
(แต่เราว่าไก่ทอดหาดใหญ่แถวบ้านอร่อยกว่านะ แต่ที่นี่จะได้ Feel แบบว่าสนุกๆ มากกว่า)

1

กลับถึงบ้านรัตนัยตอนตี 2 ได้
แวะถ่ายรูปยามค่ำคืนกันอีกซักหน่อย(ดูซิ! ตี 2 มันยังมีอารมณ์มานั่งถ่ายรูปอีก)

1

1

ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้า ก่อนจะเข้าตลาดวโรรส ไปซื้อของฝาก

1

แล้วกลับมานอนเอาแรงก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพกัน

1

1

ในที่สุดก็เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ,,,
การเดินทางในทริปนี้ถือว่าสนุก และมีความสุขมากๆ เลยค่ะ

แต่ที่สำคัญสุดก็คือคนที่ไปด้วยค่ะ จริงๆไปที่ไหนก็ได้ ถ้าได้ไปกับคนที่เรารัก ก็มีความสุขทุกที่แหละค่ะ

"ไปไหนก็ได้ที่ไปกับตะเอง มีความสุขทุกที่แหละ" (หุหุ จำมาจากอ้ายบ่าวอีกที)

ขอบคุณหมีอ้วนนะคะ...ที่พาอินู๋ไปเที่ยวอีกแล้ว


ปิดท้ายทริปนี้ด้วยรูปวันฟ้าใส จากบ้านรัตนัยคะ

1




 

Create Date : 25 เมษายน 2552
4 comments
Last Update : 26 เมษายน 2552 18:47:07 น.
Counter : 2844 Pageviews.

 

ภาพสวยมากเลยเจ้าค่ะ

 

โดย: ผู้หญิงเหงา..เหงา 30 เมษายน 2552 16:48:58 น.  

 

น่าเที่ยวมากเยย

รูปที่ถ่ายมาสวยมากมาย

ถ้ามีโอกาส แระ มีตัง อยากไปมั้งจัง

 

โดย: G_lonely2@hotmail.com IP: 58.9.122.147 30 กรกฎาคม 2552 13:10:09 น.  

 

ยินดีด้วยค่ะ ดิฉันเป็นคนเชียงรายยังไม่มีโอกาศได้เที่ยวพักผ่อนแบบนี้เลย อิจฉามั่ง-มั่ง

 

โดย: คนเจียงฮาย IP: 118.173.224.197 21 เมษายน 2553 22:37:10 น.  

 

คิดถึงเมืองเชียงฮาย และสหายที่นั่น
ผู้คนน่ารักครับ
แล้วจะกลับไปเยือนนะ

 

โดย: ลุงหลำ หาดใหญ่ IP: 183.88.120.251 3 กรกฎาคม 2553 13:33:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แมวน้อยกับหมีอ้วน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<%--ใส่พื้นหลัง BG--%> <%--ลบพื้นหลังและลบกรอบสีขาว BG--%> <%--เปลี่ยนสี Scrollbar--%> <%--Set Bullet--%> <%--Set กล่องคอมเม้น--%> <%--เปลี่ยนรูป My FriendFlock--%> <%--เปลี่ยนรูป หลังไมค์--%> <%--เปลี่ยนรูป Rss Feed--%> <%--คลิ๊ก MOUSE ขวาแล้วไม่มีอะไรขึ้นมาเลย--%> <%--เปลี่ยนรูปหัวใจ (Login ท้ายชื่อใน Comment)--%> <%--โค้ดเปลี่ยนรูปถังขยะ ( ลบ Comment, ลบ Blog )--%> <%--โค้ดเปลี่ยนรูปกระดาษ ปากกา ( แก้ไข Blog ) --%> <%--โค้ดป้องกันการยืดของหน้าบล็อค จากการใส่รูปใน Comment ใหญ่เกินไป--%> <%--โค้ด Emotions สำเร็จรูป แบบที่เราใช้อยู่ (เจ้าลิงน้อย น่ารักมากๆค่ะ) --%>
Friends' blogs
[Add แมวน้อยกับหมีอ้วน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.