|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แอ่ว เจียงใหม่-เจียงฮาย ม่วนใจ๋ [ตอน2]
หลังจากเดินทางออกจากดอยสุเทพแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย จุดหมายต่อไปของเราเลยค่ะ
การเดินทางจากเชียงใหม่ไปเชียงราย ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ค่ะ ไปได้ 2 ทาง คือทาง อ.เวียงป่าเป้า กับอีกทาง คือ อ.ฝาง ค่ะ แต่คุณน้ำ แห่งม่อนฟ้าใส(รีสอร์ทที่เรากำลังจะไปพัก) แนะนำให้ไปคือ ทางเวียงป่าเป้าค่ะ
เนื่องจากว่าเส้นทางเวียงป่าเป้าถนนจะดีกว่า และก็ทางคดเคี้ยวน้อยกว่าทาง อ.ฝาง แต่ไม่ค่อยมีที่แวะเที่ยว แต่ถ้าทาง อ.ฝาง มีที่ให้แวะเที่ยวเยอะแยะเลยค่ะ ซึ่งมือใหม่อย่างเราเลือกที่จะเดินทางทางเวียงป่าเป้าค่ะ
แถมคุณน้ำยังแนะนำให้เราแวะทานพายที่ สวนจริณ ด้วยค่ะ(แถมยังย้ำว่า "แวะทานให้ได้นะคะ") แนะนำขนาดนี้แล้วมีหรอที่หน้าอย่างนี้จะพลาดได้ แค่นึกก็น้ำลายไหลแว้ว ^^
จริงๆแล้ว วันนี้เราตั้งโปรแกรมกันว่า จะแวะทานพาย ไปเที่ยววัดร่องขุ่น ช็อปปิ้งที่แม่สาย ทานมื้อเย็นที่เชียงแสน แล้วค่อยเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า รอบค่ำก็ไปดูนาฬิกาเปลี่ยนสี แล้วก็ไปเดินถนนคนเดินของเชียงราย
แต่ผิดแผนไปหน่อย(แต่ก็ไม่หน่อยอ่ะ..เยอะเลย) จริงๆ ถ้าจะไปตามแผนเราต้องออกจากเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้า แต่กว่าจะได้ลงจากดอยสุเทพก็ล่อไป 11.30 น. ละ
เลยเปลี่ยนแผนโดยตัดแม่สาย กับทานมื้อเย็นที่เชียงแสนออกจากโปรแกรม แต่ก็จะแวะทานพายสวนจริณ ก่อนไปวัดร่องขุ่น ...แต่แล้วก็อดกิน -.-" เพราะขับรถเลยทางเข้าซะงั้น ว่าจะกลับรถก็ไม่สะดวก เพราะเป็นทางเขาคดเคี้ยว กลับรถมั่วซั่วอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ อยากกินอ่ะ แต่ก็ได้แต่ทำใจ ไว้ขากลับเชียงใหม่อีกรอบค่อยแวะกินก็ได้(คราวนี้ล่ะ ไม่พลาดแน่)
เราเดินทางมาถึง วัดร่องขุ่น กันประมาณเกือบบ่าย 3 โมง แวะกินน้ำเงี้ยวแถวๆหน้าวัด รองท้องคนละชามก่อนเข้าไปชมวัด
ภาพแรกที่เห็นวัด ถึงกับร้องโอ้โหเลยค่ะ วัดอาร๊าย(แบบเสียงสูงปรี๊ด)สวยจริงๆเลย เคยเห็นแต่ในรูปถ่าย ได้มาเห็นของจริงกับตาแบบว่าอลังการงานสร้างมั่กมั่ก ยิ่งกระทบกับแสงแดดจัดๆ แล้วด้วย ตัววัดสะท้อนประกายระยิบระยับสวยงามมากเลยค่ะ
มาดูความอลังการของวัดร่องขุ่นกันได้เลยเจ้าค่า
รูปนี้ชอบมากเลยค่ะ ถ่ายตอนช่วงที่ไม่ค่อยเห็นคนเลย
มาถ่ายรูปคู่กันหน่อยนะ ว่าเรามาถึงวัดร่องขุ่นกันแล้ว
ส่วนประกอบต่างๆ ในวัดก็สร้างสรรได้สวยงามเข้ากันไปหมดเลยค่ะ
อันนี้เป็นขุมนรกค่ะ มีป้ายบอกว่าห้ามลงขุมนรกด้วย(แต่เอ๊ะ!! ใครเค้าอยากจะลงกันนะ)
หลังนี้สีทองเหลืองอร่ามเลยค่ะ แต่เป็นสุขานะคะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นห้องน้ำที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย(อยากมีแบบนี้ไว้ที่บ้านมั่งจัง อิอิ)
ขากลับไปลานจอดรถ เราก็แอบเห็นผู้ชายคนนึงหน้าเหมือน อ.เฉลิมชัย เลยแอบด้อมๆมองๆ อยู่ว่าใช่ตัวจริงรึเปล่า สรุปว่าเป็น อ.เฉลิมชัย ตัวจริงเสียงจริง เลยขอเข้าไปแช๊ะรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย อ. ก็กวักมือเรียกให้เข้ามาถ่ายรูปได้เลย ถ่ายเสร็จก็ยกมือขอบคุณ แล้ว อ. ก็พูดกลับมาว่า "ยินดีเจ้า" มาวัดร่องขุ่นทริปนี้ มีความสุขจริงๆเลย ได้เห็นทั้งผลงาน แล้วก็ได้เจอผู้ที่สร้างสรรผลงาน (แอบดีใจเล็กๆ ที่ได้เจอตัวจริงของ อ.เฉลิมชัย เพราะแอบชื่นชมผลงานของ อ. มานานแล้ว)
ตอนแรกเกือบจะอดถ่ายแล้วด้วย เพราะอ้ายบ่าวหงุดหงิดเนื่องจากอากาศร้อนมั่กมั่ก ก็พาลไม่ยอมไปถ่าย เลยบอกอ้ายบ่าวว่า อ.เฉลิมช้ย ตัวเป็นๆ ไม่ได้เจอได้ตามท้องถนนนะ เจอแล้วก็ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อยดีกว่า ,,,สุดท้ายปลื้มค่ะ ได้ถ่ายรูปคู่กับจิตรกรระดับประเทศ หุหุ
ระหว่างที่เรากำลังจะกลับ ทางวัดก็ได้ประกาศแจ้งว่า เหล่าเสื้อแดงได้ปิดแยกอะไรซักแยกนึงไว้ ทำให้เข้าตัวเมืองทางหลักไม่ได้ หากใครจะเข้าตัวเมืองก็ให้เลี่ยงโดยใช้เส้นทางอีกทางหนึ่ง
เราก็ขับรถไปตามทางที่เค้าบอกค่ะ ทางนี้จะตัดผ่านกลางเมืองเลย ที่รู้ว่ากลางเมือง เพราะรถติดมาก เค้าเล่นน้ำกันที่ถนนเส้นนี้ค่ะ ดูแล้วน่าสนุกดีจัง แต่ข้าเจ้า บ่ มั๊ก เล่นน้ำสงกรานต์ ก็ได้แต่นั่งมองเอาค่ะ
ขับมาเรื่อยๆ ก็เจอ 5 แยกพ่อขุ่นค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางแม่สาย ที่หมายของเราคือ ราชภัฎเชียงรายค่ะ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงที่พักค่ะ ที่พักของเราคืนนี้ก็คือ ม่อนฟ้าใส ค่ะ
บ้านพักที่ม่อนฟ้าใส เป็นบ้านที่สร้างจากดินค่ะ แต่ไม่เหมือนเหล่าบ้านดินที่ราชบุรีนะคะ คนละ Feel เลย
การตกแต่งของที่นี่ก็จะมีดินปั้นเป็นรูปต่างๆ เต็มไปหมดเลย ดูแล้วเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ทดี อย่างรูปปั้นสาวแม้วนั่งยองๆนี่ ดูก็รู้เลยค่ะว่าเป็นม่อนฟ้าใส
ห้องที่เราพักเป็นห้องแบบ Executive ค่ะ ได้ราคาโปรโมชั่นจากงานไทยเที่ยวไทย ห้องนอนสวย กว้างดีด้วย Voucher ของม่อนฟ้าใส ดีมั่กๆอ่ะ ใช้ได้ทุกวันเลย ไม่มีวันหมดอายุด้วยนะ
ดูรูปภาพห้องนี้เต็มๆ ได้ที่ ที่หลับ ที่นอน (-_- )Zzz นะคะ
หลังจากนอนเล่นแล้วเผลอหลับกันไปหนึ่งงีบ ก็ตื่นมาพร้อมกับความหิว เลยอาบน้ำแต่งตัวกัน เพื่อจะออกไปหาข้าวกิน
ได้รับคำแนะนำร้านอร่อยจากคุณป้าเจ้าของรีสอร์ท ให้มาทานที่ร้านนี้ค่ะ ร้านตองตึง อาหารเหนือรสชาติท้องถิ่นแต๊ๆ ราคาไม่แพง
เดินเข้ามาภายในร้านตกแต่งด้วยต้นไม้เยอะเหมือนกันค่ะ ดูร่มรื่นดี
มีการแสดงพื้นเมืองของทางเหนือด้วย ทีแรกเกือบจะไม่ได้นั่งตรงโซนหน้าเวทีแล้ว เพราะว่าคนเยอะ มาโต๊ะนึงเป็นสิบเลย แต่เหมือนสวรรค์เป็นใจ เหลือโต๊ะน้อยๆ ไว้ให้เรานั่งแบบไม่ต้องจองด้วยค่ะ
อาหารที่สั่งในวันนี้ก็ยังคง Concept เดิมค่ะ สั่งอะไรก็ได้ที่เป็นอาหารเหนือ อุอุ
เมนูในมื้อนี้เลยได้แก๊... ชุดออเดิร์ฟเหมือนเดิม, แกงโฮ๊ะ, แกงฮังเล, แล้วก็ต้มยำปลาคังน้ำใส +ข้าวเหนียวอีก 1 กระติ๊บ
กับข้าวมื้อนี้เหมือนมื้อที่เชียงใหม่ 2 อย่าง หน้าตาก็ต่างกัน แถมความอร่อยก็ต่างกันด้วยค่ะ สรุปว่ารสชาติอาหารร้านนี้อร่อยค่ะ เช็คบิลออกมาประมาณ 400 บาท เห็นบิลแล้วตกใจ โอ้วแม่เจ้า!! ถูกจริงจริงด้วย...
ที่ร้านมีผ้าพื้นเมืองขายด้วยค่ะ สวยมากๆ ราคาก็ตามความวิจิตรของงานค่ะแต่ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่
ออกจากร้านตองตึง เราก็ไปต่อกันที่นี่ค่ะ ตลาดไนท์บาร์ซ่าเชียงราย
ส่วนใหญ่สินค้าที่นี่ก็จะเป็นสินค้าพื้นเมือง กับสินค้าแฮนเมด คล้ายๆถนนคนเดินของเชียงใหม่ แต่พื้นที่ในการให้เดินช็อปปิ้งมีไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ
ออกจากตลาดไนท์บาร์ซ่า ประมาณเกือบ 4 ทุ่ม เดินมาจะขึ้นรถก็นึกขึ้นได้ว่าลืมไปดูนาฬิกาเปลี่ยนสีไปซ๊ะสนิทเลย มองดูนาฬิกาอีก 5 นาที 4 ทุ่ม เอาวะ!! เผื่อไปทันรอบ 4 ทุ่ม
เลยลองถามทางจากคนแถวนั้นดูว่าหอนาฬิกา อ.เฉลิมชัย ไปทางไหน เค้าก็บอกทางให้ แถมบอกอีกว่า 4 ทุ่ม ไม่มีเปลี่ยนสีแล้วนะ -.-" จะเปลี่ยนสีก็แค่รอบ 1 ทุ่ม, 2 ทุ่ม แล้วก็ 3 ทุ่ม วันละ 3 รอบเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็เปิดไฟธรรมดา (พลาดอีกแล้วครับท่าน วัยรุ่นเซง...)
แต่ไม่เป็นไร ไม่เปลี่ยนสีก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไปดูว่า จะสวยตระการตาขนาดไหนก็พอละ ขับรถมาถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้น ก็คือ หอนาฬิกา อ.เฉลิมชัย นั่นเอง ดูจากรูปก็ว่าอลังการแล้ว บริเวณของหอนาฬิกานั้นแสงสีเหลืองอร่ามไปทั่วบริเวณเลย
เห็นแล้วก็รู้สึกประทับใจในตัว อ.เฉลิมชัย เพิ่มขึ้นไปอีก ที่ไม่ได้ละทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัย แต่นำความสามารถของตนเองมาพัฒนาให้ จ.เชียงราย ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เพราะทั่วจังหวัดเชียงราย จะมีกลิ่นอายศิลปะของ อ.เฉลิมชัย เต็มไปหมด
หลังจากชมความงามของหอนาฬิกากันซักพัก เราก็กลับที่พักค่ะ
ตื่นเช้ามาอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท แล้วบอกลา ม่อนฟ้าใส เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยัง แม่สาย หรือตลาดท่าขี้เหล็ก แหล่งช็อปปิ้งค่ะ
การเดินทางไปแม่สายก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ค่ะ
แต่ก่อนอื่น!! ต้องแวะทำใบผ่านแดนกันที่ ที่ว่าการ อ.แม่สาย กันก่อนค่ะ โดยเตรียมบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ พร้อมเงินคนละ 30 บาท มากี่คนก็รวบรวมเอกสารทั้งหมดไปทำคนเดียวก็ได้ค่ะ(ไม่ต้องไปกันทั้งหมด)
พอทำใบผ่านแดนเรียบร้อยแล้ว เราก็ดิ่งตรงไปยังแม่สายกันเลยค่ะ มาถึงประมาณเกือบ 10 โมง ก็มองหาที่จอดรถว่าจะจอดตรงไหนดี พอดีได้ข้อมูลจากคุณน้ำว่า ให้หาที่รับฝากรถ เอาแบบที่ไม่ต้องฝากกุญแจรถ... ก่อนเข้าไปจอดก็ให้ถามก่อนว่าต้องกุญแจไม๊ ถ้าฝากก็ไม่จอดงิ ค่าจอดรถก็ประมาณ 40 บาท ค่ะ
เอาล่ะ ที่จอดรถก็ได้แล้ว ขาดก็แต่...ยังไม่ได้ใช้บริการของตลาดแม่สายเลย O_o" แต่เนื่องด้วยช่วงสงกรานต์เลยไม่กล้านำกล้องลงไปด้วย เลยไม่มีรูปที่แม่สายมาฝากเพื่อนๆ เลยค่ะ แต่ก็ดีแล้วแหละที่ไม่ได้เอากล้องลงไป เพราะช่วงที่เดินผ่านระหว่างสะพานข้ามแดน มีเด็กขอทานพม่า เอาขวดน้ำ ใส่น้ำมาสาดด้วย แบบว่าส่วนตัวไม่ชอบเล่นน้ำสงกรานต์อยู่แล้ว เลยปัดขวดน้ำทิ้งเลยค่ะ (แอบเสียมารยาทไปหน่อย แต่น้ำมันสกปรกนินา)
เราเสียเวลาช็อปปิ้งอยู่ที่แม่สายประมาณ เกือบ 5 ชม. มัวแต่เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ หากระเป๋าที่ถูกใจ
สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์(เรียกง่ายๆก็คือของปลอมอ่ะ)ทั้งนั้นแหละค่ะ
หลักๆที่เห็น ก็จะเป็นกระเป๋า+นาฬิกา+เสื้อ ก็อปค่ะ อยากได้เกรดไหนที่นี่มีให้คุณเลือกในราคาที่ย่อมเยาว์(กว่ากรุงเทพ)ค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงต้องการที่จะซื้อกระเป๋านะคะ อย่าลืมต่อนะคะ ต่อไป 50% เลย อย่างกระเป๋ากุ๊ดจี่ที่อิชั้นไปสอยมา แม่ค้าบอกราคา 1600- แต่อิชั้นต่อมาได้ 800 ค่ะ
แล้วก็มีแผ่นซีดีก็อปปี้ 7 แผ่น 100 บาท / แว่นกันแดดอันละ 30-40 บาท กันไปเลย
อีกอย่างที่เห็นคนมุงกันทุกร้านก็คือ มือถือผลิตภัณฑ์ OTOP จากจีนค่ะ เห็นอ้ายบ่าวแอบสนใจ iPhone อยู่ ก็เลยไปมุงกับเค้าบ้าง แต่ได้ยินแม่ค้าพูดว่า "สินค้าเหมือน iPhone 99%" เราเลยจูงมากันออกมา แล้วกระซิบกันว่า แล้วมันจะเหลืออีก 1% ไว้ทำด๋อยอะไรวะเนี๊ย แบบว่าถ้ามองด้วยสายตาเนี่ย เหมือนของจริง 100% เลย
มองนาฬิกาอีกทีถึงกับตกใจ โอ๊ะ! จะบ่าย 3 ละ มิน่าหล่ะ เมื่อยขาขะนาด
และแล้วก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ เพราะเราต้องเดินทางกลับไปนอนที่เชียงใหม่อีกคืน ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น
ขากลับเราก็กลับทางเดิมค่ะ แต่เหมือนว่าอ้ายบ่าวจะเริ่มชำนาญทางมากขึ้น เข้าโค้งแต่ละทีไม่ต้องพึ่งเบรคเลยค่ะ แต่คนนั่งข้างๆนี่สิ มือซ้ายก็ยึดที่มั่นไว้ มือขวาก็ถือยาดมค่ะ -.-"
และระหว่างทางเราก็ไม่ลืมที่จะแวะ ชิมพายสวนจริณค่ะ เย่ๆ ในที่สุดก็ได้แวะซื้อพายซะที เสียดายที่ไม่ได้นั่งชมวิวที่ร้าน เพราะอ้ายบ่ายกลัวจะมืดซะก่อนที่จะถึงเชียงใหม่ เลยซื้อกลับมากินกันที่รีสอร์ทค่ะ ตอนเดินเข้าไปซื้อก็ไม่รู้หรอกว่าจะกินอะไรดี เลยถามเค้าค่ะว่าอันไหนขายดี คนขายเค้าบอกว่าขายดีทุกอย่างเลยค่ะ งั้นเอาตัวท็อปของร้านละกันค่ะ เลยได้ พายมะพร้าว, พายลูกตาล แล้วก็พายบลูเบอรี่ มาอย่างละชิ้น พร้อมกับ พายมะพร้วอีก 2 ชิ้น เอามาฝากพี่ฟ้ารุ่ง และคุณจ๋า แห่งบ้านรัตนัย ที่ให้คำแนะนำ และดูแลเรามาเป็นอย่างดี
ขับรถมาถึงเชียงใหม่เกือบทุ่ม เข้าพักที่บ้านรัตนัยเหมือนเดิม แต่คราวนี้เป็นห้องแบบ Superior ค่ะ
และอีกเช่นเคย ดูรูปภาพห้องนี้เต็มๆ ได้ที่ ที่หลับ ที่นอน (-_- )Zzz นะคะ
กลับมาถึงอาบน้ำเตรียมตัวพักกันก่อนค่ะ แต่ก่อนที่จะพักขอจัดการกับพายสวนจริณก่อนละกันนะ แบบว่าไม่เคยกินพายที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ สรุปว่าปลื้มค่ะ อร่อยมั่กมั่ก
พอเจอหน้าพี่ฟ้ารุ่ง พี่ฟ้ารุ่งก็กำลังทานอยู่เลย แล้วบอกว่าอร่อยกว่าของร้าน Love @ First Bite อีก (เราก็ไม่รู้อ่ะนะว่าอร่อยกว่ารึเปล่า เพราะไม่เคยลองของ Love @ First Bite) พี่ฟ้ารุ่งเลยถามว่าร้านอยู่ตรงไหน ก็ตอบพี่เค้าไปอ่ะค่ะ ว่าอยู่ตรง อ.แม่สรวย ทางไปเชียงราย แต่ถ้าไปจากเชียงใหม่ให้สังเกตดีๆ เด๋วจะเลยเอาได้
กินกันเสร็จก็นอนค่ะ ด้วยความเพลียก็เลยขี้เกียจออกไปกินข้าว แต่ที่ไหนได้ดันตื่นมาตอนเที่ยงคืนกว่า แถมหิวอีกต่างหาก
อ้ายบ่าวก็ตื่นมาพอดี เลยถามว่าหิวไม๊ ถ้าหิวจะพาไปกินไก่เที่ยงคืน เราก็พยักหน้า หงึกๆ แล้วอ้ายบ่าวก็ถามอีกว่าแล้วร้านปิดกี่โมง เราก็ตอบไปโดยที่กะๆเอาว่า ตี 4 มั๊ง!
สรุปว่าคืนนั้นเราก็ไปโจ้มื้อดึกกันที่ร้านไก่เที่ยงคืนค่ะ
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่าไปถึงร้านประมาณตี 1 ก็เข้าไปต่อแถวเพื่อที่จะทานในร้าน เพราะแถวจะแบ่งเป็น 2 แถวค่ะ อีกแถวจะเป็นแบบซื้อกลับบ้าน ต่อแถวประมาณ 10 กว่านาที ก็ได้โต๊ะนั่งละ
รอซักแปปก็มีคนมารับออเดอร์ค่ะ แต่แบบว่าไม่มีเมนูให้อ่าน แต่เมนูอยู่ที่ปากคนขายค่ะ แล้ว She ก็พูดได้ไวมากๆ พูดจบตบท้ายด้วยว่า จะสั่งอะไรดีคะ พร้อมหน้าบึ้งๆ เราเลยสั่งเมนูที่มองจากโต๊ะอื่นๆ แล้วก็จากที่จับใจความได้จาก "เมนูปากแม่ค้า" เอาค่ะ
ซึ่งก็ได้แก่ ไก่ทอด 2 ชิ้น น้ำพริกหนุ่มผักต้ม ไข่ต้ม 2 ฟอง เนื้อทอด ไส้หมูทอด ข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ
ระหว่างรอก็มีคนกรุงเทพมาต่อคิวอีกหลายคิว ซักพักเราก็ได้ยินแม่ค้า(คนที่รับออเดอร์) ตะโกนว่า "วันไม่รับลูกค้าแล้วของหมด" เราแหงะดูนาฬิกาบอกเวลา ตี 1.30 โอ้วแม่เจ้า ขาย ชม. ครึ่ง ของหมดแล้ว คนที่กำลังจะมาต่อคิวก็หงอยเลย เพราะส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพทั้งนั้น
ทานเสร็จก็เรียกเช็คบิล เช็คบิลมา 160 กว่าบาท ราคาก็โอเคพอรับได้กับความอร่อยที่ไม่มากเท่าไหร่ (แต่เราว่าไก่ทอดหาดใหญ่แถวบ้านอร่อยกว่านะ แต่ที่นี่จะได้ Feel แบบว่าสนุกๆ มากกว่า)
กลับถึงบ้านรัตนัยตอนตี 2 ได้ แวะถ่ายรูปยามค่ำคืนกันอีกซักหน่อย(ดูซิ! ตี 2 มันยังมีอารมณ์มานั่งถ่ายรูปอีก)
ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้า ก่อนจะเข้าตลาดวโรรส ไปซื้อของฝาก
แล้วกลับมานอนเอาแรงก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพกัน
ในที่สุดก็เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ,,, การเดินทางในทริปนี้ถือว่าสนุก และมีความสุขมากๆ เลยค่ะ
แต่ที่สำคัญสุดก็คือคนที่ไปด้วยค่ะ จริงๆไปที่ไหนก็ได้ ถ้าได้ไปกับคนที่เรารัก ก็มีความสุขทุกที่แหละค่ะ
"ไปไหนก็ได้ที่ไปกับตะเอง มีความสุขทุกที่แหละ" (หุหุ จำมาจากอ้ายบ่าวอีกที)
ขอบคุณหมีอ้วนนะคะ...ที่พาอินู๋ไปเที่ยวอีกแล้ว
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยรูปวันฟ้าใส จากบ้านรัตนัยคะ
Create Date : 25 เมษายน 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2552 18:47:07 น. |
Counter : 2844 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: G_lonely2@hotmail.com IP: 58.9.122.147 30 กรกฎาคม 2552 13:10:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเจียงฮาย IP: 118.173.224.197 21 เมษายน 2553 22:37:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงหลำ หาดใหญ่ IP: 183.88.120.251 3 กรกฎาคม 2553 13:33:53 น. |
|
|
|
|
|
|
<%--ใส่พื้นหลัง BG--%>
<%--ลบพื้นหลังและลบกรอบสีขาว BG--%>
<%--เปลี่ยนสี Scrollbar--%>
<%--Set Bullet--%>
<%--Set กล่องคอมเม้น--%>
<%--เปลี่ยนรูป My FriendFlock--%>
<%--เปลี่ยนรูป หลังไมค์--%>
<%--เปลี่ยนรูป Rss Feed--%>
<%--คลิ๊ก MOUSE ขวาแล้วไม่มีอะไรขึ้นมาเลย--%>
<%--เปลี่ยนรูปหัวใจ (Login ท้ายชื่อใน Comment)--%>
<%--โค้ดเปลี่ยนรูปถังขยะ ( ลบ Comment, ลบ Blog )--%>
<%--โค้ดเปลี่ยนรูปกระดาษ ปากกา ( แก้ไข Blog ) --%>
<%--โค้ดป้องกันการยืดของหน้าบล็อค จากการใส่รูปใน Comment ใหญ่เกินไป--%>
<%--โค้ด Emotions สำเร็จรูป แบบที่เราใช้อยู่ (เจ้าลิงน้อย น่ารักมากๆค่ะ) --%>
|
|
|
|
|
|
|