Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 

ครั้งแรกของช้างต้น กับ น้ำตกไทรโยคน้อย กาญจนบุรี





วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2556

week ที่ผ่าน ๆ มาฝนตกรบกวนจิตใจเราหลายวันทำงาน และเลยเถิดมาถึงวันหยุดอันแสนสั้นของเราด้วย แต่ธรรมชาติมันก็เป็นของมันแบบนี้ จะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตลอดฤดูฝนงั้นรึ (ไม่เอาน่ะ อย่าคิดเยี่ยงนั้น) เราเคยมีประสบการณ์การท่องเที่ยวช่วง Green Season มาแล้ว ปีที่แล้วไปกระบี่ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากมาย แม้จะเป็นสถานที่เดิม เกาะเดิม จังหวัดเดิม แต่เชื่อมั้ยว่าสิ่งที่เห็นไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เคยไป ต้องไปเห็นเองกับตา แต่จะบอกได้ประโยคสั้น ๆ ว่า "สวย สดชื่น ชุ่มฉ่ำ"

Green Season ปีนี้ไม่ได้กลับไปเพราะติดภารกิจมากมาย งานรุมเร้า แต่ก็ไม่วายจะวางแผนเที่ยวใกล้ ๆ เราเลือกที่จะปักหมุดที่เมืองกาญจน์...หลังจากดู program ท่องเที่ยวของการรถไฟฯ แล้ว เราเลือกจะไปเที่ยวน้ำตก สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบน้ำตกนัก (ไม่มีเหตุผลว่าทำไมไม่ชอบ อาจเพราะหลงรักการท่องเที่ยวทะเลมากกว่า) แต่ครั้งนี้เราตั้งใจแน่วแน่มากว่าจะไปน้ำตก และยังเป็นทริปน้ำตกครั้งแรกของช้างต้นด้วย เอาน่ะ ลองไปสักครั้ง ไปดูน้ำตกช่วง Green Seson ว่าจะสวย ชุ่มฉ่ำได้ขนาดไหน ดีกว่านั่งเบื่อ ๆ อยู่บ้าน....ในที่สุดเราก็ได้จุดหมายปลายทางแล้ว

..........น้ำตกไทรโยคน้อย จังหวัดกาญจนบุรี..........



ไปเที่ยวกับการรถไฟฯ ไม่ต้องไปสนใจเวลาออก เวลาถึง ก็อย่างที่รู้ ๆ ว่ารถไฟไทยเป็นยังไง เอาเป็นว่าถึงเร็วก็ดี ถึงช้าก็ได้ไม่เป็นไร ขออย่างเดียว พาช้านไปให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย และส่งช้านกลับโดยสวัสดิภาพก็แล้วกัน
(เพราะช่วงนี้มีข่าวรถไฟตกรางไม่เว้นแต่ละวัน)



แอบกระซิบเวลาออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงสักนิดนึง จริง ๆ ตาม program รถต้องออกจากสถานี 6.30 น. แต่แค่จะออก มันก็ late ซะแล้ว ฉะนั้นตารางเวลาตาม program
ลืมมันไปได้เลย late ตลอดทริปแน่นอน





ก็ไหน ๆ ทุกวันชีวิตเราก็สุดแสนจะเร่งรีบอยู่แล้ว วันนี้ก็ปล่อยชีวิตให้มันดำเนินไปอย่างเชื่องช้าดูบ้างจะเป็นไร ฉึกฉัก ฉึกฉักไป เดี๋ยวก็ถึง สองข้างทางของทริปนี้คงมีอะไรให้เราได้ดูได้เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์การเดินทางบ้างล่ะ ส่วนช้างต้นไม่ต้องห่วง หนุ่มน้อยได้เลือดนักเดินทางจากแม่มาเต็ม ๆ (จากประสบการณ์ที่พาไปตะลอนออกทะเล เที่ยวเกาะ มาสองทริปติด ๆ กัน จะเดินทางทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ he ไปได้หมด) แค่ทริปนี้ต้อง inform กันมากนิดนึงว่าเราอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางนาน แต่จุดหมายปลายทางของเราคุ้มค่ากับเวลาที่เราต้องแลกแน่นอน (inform ไปโชว์รูปน้ำตก สะพานข้ามแม่น้ำแคว ทางรถไฟเลียบหน้าผา ซึ่งถือเป็น highlight ของทริปนี้ก็ว่าได้ พร้อมเสบียงที่จัดเต็มไม่อั้น แค่นี้ก็เอาช้างต้นอยู่แล้ว)

ตลอดการเดินทางจะมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟร่วมโบกี้ไปกับเรา แจ้งกำหนดการต่าง ๆ นัดแนะเวลา ร่วมถึงสั่งข้าวเย็น ของฝาก เบ็ดเสร็จในทีมนี้



จากกรุงเทพฯ รถไฟจะแวะจอดที่สถานีนครปฐมประมาณ 40 นาที ให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อของกิน หรือจะไปกราบพระที่องค์พระปฐมเจดีย์ก็ยังทัน





ออกจากสถานีนครปฐม จุดต่อไปจะไปจอดที่สะพานข้ามแม่น้ำแควประมาณ 15 นาที ให้เราลงไปเดิน ๆ ถ่ายรูป (คนเยอะมาก) จากนั้นกลับมาขึ้นรถไฟ เพื่อนั่งข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแคว (Highlight ของทริปอีกนั่นแหละ)











ทางรถไฟสายมรณะ ขบวนรถไฟเลาะเลียบหน้าผาไปเรื่อย ๆ ซ้ายมือเป็นแม่น้ำแคว



ขวามือเป็นหน้าผา เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ ช่วงที่รถไฟแล่นผ่านเส้นทางช่วงนี้จะแล่นช้ากว่าปกติ จนเราสามารถเอื้อมมือออกไปแตะที่หน้าผาและอธิษฐานสิ่งที่อยากได้ (เป็นความเชื่อมั้ง) แต่เราก็เอื้อมมือออกไปแตะกะเค้าเหมือนกันนะ (เชื่อด้วย ไม่เสียหายซะหน่อย ลองดู )



และนี่คือโบนัสของการเที่ยวช่วง Green Season ต้นไม้ใบไม้เขียวชะอุ่ม เห็นแล้วสดชื่นเย็นตา ลดดีกรีความร้อนไปได้เยอะเลยล่ะ



เกือบ 70% ของการเดินทางของเรา ต้องมุดป่าเกือบตลอดเส้นทางจนถึงสถานีปลายทาง "สถานีน้ำตก" ก็บ่ายสองโมงกว่าแระ (เดินทางนานมาก...กก) จากสถานีน้ำตก นักท่องเที่ยวต้องลงจากขบวนรถไฟ แล้วนั่งรถสองแถวต่อ (คนละ 10 บาท) เพื่อไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย หรือจริง ๆ จะเดินไปก็ได้แต่ก็ไกลอยู่นะ เราปล่อยให้คนอื่น ๆ เค้าไปกันก่อน สองคนแม่ลูกยังมีแก่ใจแวะร้านกาแฟตรงสถานี สั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว นั่งพักแป๊บนึงแล้วค่อยไปต่อ)



ไปถึงน้ำตกไทรโยคน้อยปุ๊บ ช้างต้นก็ทวงสัญญาปั๊บเลย จะเล่นน้ำให้ได้ แต่เราไปกันสองคน ลูกต้องเล่นคนเดียว he ก็สามารถ แถมสนุกด้วย อย่างที่บอกตอนต้น



น้ำตกช่วง Green Season สวยแบบนี้ คุ้มค่ากับการเดินทางมาถึง สวยเกินที่เด็กน้อยจะห้ามใจไหว


ทริปนี้เป็นครั้งแรกของช้างต้นกับการเที่ยวน้ำตก สายน้ำตกลงมากระทบโขดหิน เย็นชุ่มฉ่ำ น้ำน่าเล่นเป็นที่สุด แม่ก็เกือบจะห้ามใจไม่ไหว ถ้าไม่ติดว่ามีสัมภารกสำคัญ ๆ ที่ติดตัวมาล่ะก็ โดดน้ำเล่นเหมือนกันแหละ



ที่นี่มีเด็ก ๆ มาเล่นเยอะเหมือนกัน การรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี เจ้าหน้าที่อุทยานจะเดินตรวจพร้อมส่งเสียงแจ้งเตือนเมื่อมีใครเล่นพิเลนกระโดดน้ำตกจากด้านบนลงมา เพราะมีเด็ก ๆ เล่นน้ำอยู่ด้านล่างเต็มไปหมด แต่มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งที่อยากให้ปรับปรุง อยากให้มีจุดทิ้งขยะมากกว่านี้หน่อย เห็นว่าถังขยะไม่พอใส่ คนที่ทิ้งก็อยากจะทิ้งแต่ไม่มีถังจะใส่ก็วางไว้ข้าง ๆ ถังที่เต็มแล้วนั่นแหละ ถ้าปรับตรงนี้ได้ก็คงดี นอกนั้นโดยรวมก็ถือว่าดีแล้วในระดับหนึ่ง น้ำค่อนข้างใสสะอาด





ปล่อยให้น้องช้างเล่นน้ำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เล่นไปพักไปเพราะน้ำเย็นฉ่ำจริง ๆ (ก็น้ำมาจากในป่าหนิเน๊อะ)





ก่อนกลับ เราแวะไปทักทายหัวรถจักรไอน้ำที่พักผ่อนอยู่ที่นี่ เป็นหัวรถจักรตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้ใช้งานแล้ว พักผ่อนตลอดกาล สภาพจึงโทรม ๆ แต่ก็ดูเก๋ classic ถ้าเทียบกับอีกหัวรถจักรที่นำมาวิ่งในโอกาสพิเศษ (ทริปอยุธยาที่เพิ่งไปนานเมื่อเดือนสิงหาคม) คันนั้นสวย เท่ห์ ดูหล่อเพราะได้รับการบำรุงรักษาตลอด แต่ทั้งสองหนุ่มก็คงผ่านช่วงเวลาสงครามโลกมาเหมือน ๆ กัน







นักท่องเที่ยวทุกคนกลับมาพร้อมกันที่สถานีน้ำตกเกือบ 4 โมง ทริปนี้จึงต้อง skip จุดสุดท้ายคือสุสานทหารพันธมิตร เพราะเค้าปิด 5 โมงเย็น ขบวนรถไฟของเราไปไม่ทัน (เจ้าหน้าที่แจ้งไว้แล้วตอนต้นแล้วว่าอาจจะไม่ทัน จะทันได้ไง ก็พี่เล่นออก late ซะตั้งแต่เริ่มทริปนี่คะ)

ขากลับจากสถานีน้ำตก ผ่านสถานีถ้ำกระแซ ลัดเลาะริมหน้าผากันอีกรอบ





ก่อนที่ขบวนรถไฟนี้จะแล่นยาว พาเรากลับบางกอก ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพตอน 3 ทุ่มเกือบครึ่ง (กำหนดการจริง จะต้องถึงกรุงเทพฯ ประมาณทุ่ม 40) แต่ก็อย่างที่บอก ส่งช้านถึงบ้านปลอดภัยเป็นใช้ได้






 

Create Date : 19 ตุลาคม 2556
0 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2556 22:50:52 น.
Counter : 1924 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


angel-touch
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add angel-touch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.