|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
15 มกราคม 2555
|
|
|
|
วิธีการทำให้ไม่เจ็บระหว่างการคลอด ภาค 1.... Painless labor
......เด็กเอ๋ย ... เด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน......
สุขสันต์วันเด็กนะครับ พ่อแม่พี่น้อง ทุกท่าน วันนี้ผมก็กำลังคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ต้องรีบไปซะก่อน เพราะว่าตอนนี้ผมก็ได้ผ่านมาสู่ช่วง วัยเด็กตอนปลาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฮี่ ฮี่
เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ วันนี้ผมจะมานำเสนออะไรที่เกี่ยวข้องกับวันเด็กแห่งชาติกันสักนิสนึง ซึ่งก็เป็นวิธีการทำเด็ก...เอ๊ยยย พูดผิด วิธีการทำเด็ก ให้คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยที่คุณแม่ที่อดทนลำบากดูแลเจ้าลูกน้อยในครรภ์ถึง 9 เดือน จะได้รับความสบายมากที่สุด เท่าที่สถานที่นั้นจะสามารถอำนวยให้ได้ จะบอกว่าประเด็นนี้ สำคัญ มากนะครับ เพราะแต่ละโรงพยาบาล ในแต่ละพื้นที่ ก็ไม่สามารถที่จะอำนวยความสะดวกได้เต็มที่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง ดังนั้นเหนื่อสิ่งอื่นใด ผมก็ยังเชื่อในจิตวิญญาณของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องการให้ผู้ป่วย ปลอดภัย ที่สุดอยู่ดี วิธีการทำให้ไม่เจ็บระหว่างผ่าตัด ก็จะขึ้นอยู่กับสภาวะคนไข้เป็นหลักนะครับ ( อันนี้ขอพูดทุกแนวทาง ในแบบที่ศักยภาพของ โรงพยาบาลสูงสุดนะครับ) ผมจะแบ่งออกเป็นสองแบบนะครับ ได้แก่ 1. การคลอดแบบธรรมชาติ อันนี้เป็นวิธีปกติที่สูตินารีแพทย์นั้นใช้ในการคลอดเป็นส่วนใหญ่ เป็นวิธีที่ธรรมชาติบรรจงสร้างอย่างตั้งใจขึ้นมาให้กับมนุษยชาติ ( อันนี้พูดจริงๆนะครับ ถ้าได้ลองศึกษาในรายละเอียดดูจะพบว่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก ) ซึ่งโดยปกติแล้ว หมอสูติ ( ขออนุญาตย่อนะฮับ) จะฉีดยาทางสายน้ำเกลือให้กับคนไข้ (ในกรณีที่สามารถให้ได้โดยเด็กและแม่ปลอดภัย) เพื่อลดความเจ็บปวด และฉีดยาชาเฉพาะที่ให้ในขณะที่จะทำการคลอดและเย็บหลังจากการคลอดเสร็จสิ้นแล้ว ...... และวิสัญญีเรา ไปเกี่ยวอะไรด้วย ... อ่า .... ใครเคยได้ยินคำว่า การคลอดแบบลดความเจ็บปวด ( Painless labor)
การทำ Painless labor นั้น จะจำกัดในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมเท่านั้น ดังนั้นอาจจะต้องสอบถามกันก่อนนะครับ วิธีนี้จะคล้ายๆกับการบล็อคหลัง แต่จะใส่สายที่สำหรับฉีดยาชาไว้ที่หลัง เลย ข้อดีก็คือ คุณแม่จะแทบไม่เจ็บครรภ์ระหว่างการคลอดแบบธรรมชาติที่จะมีการหดตัวของมดลูกเป็นระยะๆ (ขอบอกเลยนะครับว่าการเจ็บครรภ์คลอดนั้น ไม่ใช่ความเจ็บแบบบ้านๆ ผมเคยเห็นคนไข้ที่เจ็บครรภ์คลอดแล้ว รักคุณแม่มากขึ้นมหาศาลเลย ) แต่คุณแม่จะยังสามารถเบ่งคลอดเองได้ ซึ่งเหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่อยากจะคลอดตามแบบที่ธรรมชาติสรรสร้างมา ข้อดีว่าไปแล้ว แต่ไปเป็นข้อเสียบ้าง การทำ painless labor นั้น มีงานวิจัยที่บอกว่า ความแข็งแรงของเด็กที่คลอดออกมานั้นไม่มีความแตกต่างกัน แต่อาจจะทำให้มารดานั้นคลอดช้าลงได้ เช่น ปกติ ถ้าปล่อยตามธรรมชาติหมดเลย อาจจะใช้เวลาประมาณ 4 ชม. แต่พอทำ painless labor แล้ว อาจจะยาวนานออกไปอีกประมาณ 1-2 ชม รวมทั้งยังเพิ่มโอกาสในการใช้เครื่องมือคลอด เช่น Forceps (อุปกรณ์ช่วยหลอด มีลักษณะคล้ายคีมขนาดใหญ่) หรือ vacuum ( เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องดูด) อีกด้วย
วิสัญญีแพทย์อย่างพวกเราก็มีหน้าที่ในการใส่สายที่หลัง คำนวนการให้ยาชาให้พอเหมาะกับช่วงเวลาที่แตกต่างกัีน ดูแลคุณแม่ให้ปลอดภัยและเฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้เห็นว่าวิสัญญีแพทย์นั้นสำคัญเพียงใดในการทำให้ไม่ปวดระหว่างคลอดวิธีการนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเรา ก็ยังไม่มีจำนวนมากเพียงพอในการรองรับความต้องการของคนไข้ทุกคน ดังนั้นก็อาจจะไม่มีบริการนี้ในบางโรงพยาบาลนะครับ สุดท้ายนี้ การที่จะทำหัตถการใดๆกับคนไข้ ก็ต้องขึ้นกับสองประเด็นหลักๆ ก็คือ ผู้ป่วย และ แพทย์ หากผู้ป่วยต้องการ แต่แพทย์บอกว่าอันตราย หรือไม่พร้อม ก็ต้องคิดกันดีๆ ส่วนถ้าผู้ป่วยไม่ต้องการ แต่แพทย์เห็นว่าจำเป็นต้องทำ อันนี้ผู้ป่วยต้องคิดหนักๆเลยนะครับ
ส่วนวิธีการต่อไป จะขอพูดต่อในภาค 2 นะครับ
Create Date : 15 มกราคม 2555 |
Last Update : 15 มกราคม 2555 23:23:59 น. |
|
4 comments
|
Counter : 6439 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: คุณครูพยาบาล IP: 161.200.101.221 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:10:32:42 น. |
|
|
|
โดย: Ooy1_chan วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:21:39:26 น. |
|
|
|
โดย: Pockaew IP: 202.28.179.5 วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:16:50:23 น. |
|
|
|
โดย: Po tae IP: 14.207.213.173 วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:20:12:43 น. |
|
|
|
| |
|
|
Fenopski |
|
|
|
|