ความรู้คือประทีป
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
สามส้าง..ณาปนสถานพื้นบ้านถิ่นใต้

Free TextEditor

สามส้าง หรือ ร่มไฟ คือฌาปนสถานชั่วคราวที่สร้างขึ้นสำหรับเผาศพเฉพาะราย อาจสร้างขึ้นในวัด ในป่าช้า หรือบางท้องถิ่น สร้างขึ้นในบริเวณบ้านก็มี เป็นคตินิยมที่มีมาก่อนที่จะมีเชิงตะกอน ครั้นเมื่อมีประเพณีเผาศพ ที่เชิงตะกอนเกิดขึ้นแล้ว มีบางคนไม่ปราถนาจะใช้เชิงตะกอนเป็นที่เผาศพของผู้ที่ตนเคารพนับถือ ยังคงนิยมทำ สามส้าง หรือ ร่มไฟ เป็นที่ทำการฌาปนกิจด้วยถือคติว่า ผู้ตายแต่ละคนย่อมต่างกรรมต่างวิบากกัน จึงไม่ควรเผาศพซ้ำรอยให้แปดเปื้อนกัน


ลักษณะของสามส้างประกอบด้วยเสาไม้กลม (ไม้สด) ๔ ต้น (นิยมใช้ไม้ไผ่ หรือ ไม้หมาก หรือไม้เหลาชะโอน)ปักเสาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้โคนเสาห่างกันประมาณ ๓-๔ เมตร แต่ละเสาสูงเท่ากัน ประมาณว่าให้สูงเลยเปลวไฟขึ้นไป (บางท้องถิ่นกำหนดให้สูง ๔ วา ๒ ศอก) ให้ปลายเสาเอนเข้าหากันเล็กน้อย คล้ายเสาเมรุ ปลายเสาใช้ไม้ตีเป็นเชิงชาย และเหนือเชิงชายทำเป็นเพดานหรือหลังคา โดยใช้ผ้าสีขาวอย่างบางหรือเสื่อ หรือไม้ไผ่สาน รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสไว้สำหรับบังร่มไฟหรือกันร่มไฟ และด้วยเหตุนี้บางท้องถิ่นจึงเรียกสามส้างว่า “ร่มไฟ”



จากพจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ ปี ๒๕๒๕ มีการระบุไว้ว่าคำว่า สามส้าง พบมีใช้ในท้องที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส



ในขณะที่คำว่า ร่มไฟ พบมีใช้ในท้องที่จังหวัดปัตตานี และยะลา





ภาพจากงานศพของคุณทวดเจ้าของBlog เองครับ


สามส้างตามลักษณะที่กล่าวมาแล้วเป็นแบบสามัญ ถ้าเป็นสามส้างสำหรับเผาศพผู้มีเกียรติ มีสกุลดี อาจเสริมสร้างให้พิสดารออกไป เช่นมีราชวัติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ารั้วไก่ ล้อมรอบเพื่อเป็นเขตปริมาณฑลไว้อีกชั้นหนึ่ง หรือที่เชิงชายอาจตกแต่งด้วยลายไทยแทงหยวกและพวงดอกไม้เป็นต้น สามส้างจะต่างกับเมรุตรงที่สามส้างไม่ทำเป็นยอดแหลม หรือเป็นยอดมณฑป และไม่มีฐานแต่วางโลงเหนือกองฟืนที่วางซ้อนกันเป็นชั้นๆ ( ซึ่งนิยมวางฟืนให้มีจำนวนชั้นเป็นเลขคี่ ถ้าเป็นเลขคู่ถือว่าเป็นอัปมงคล)


สาเหตุที่เรียกว่าสามส้าง มีความคิดเห็นต่างกันและเชื่อกันเป็นหลายแนว
แนวหนึ่งเชื่อว่าผู้ริเริ่มทำสามส้าง ชื่อนายสามจึงเรียกว่า สามส้าง
แนวหนึ่งว่า เดิมทีมีชาย ๓ คนช่วยกันทำคนละเสาเป็น ๓ เสา และอีกเสาหนึ่งต่างร่วมกันทำ จงเรียกตามจำนวนผู้ทำครั้งแรกว่า สามส้าง
อีกแนวหนึ่งว่าผู้เริ่มสร้างชื่อสุวรรณสาม สร้างขึ้นเพื่อดผาศพบิดาของตน จึงเรียกว่าสามส้าง (อาจหมายถึงสุวรรณสามชาดก)


ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวอธิบายตามที่ได้เล่าสืบต่อๆกันมา ส่วนอีกแนวความคิดหนึ่ง อธิบายโดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาว่า เหตุที่เรียกว่าสามส้าง ก็เพราะ สร้างขึ้นตามคติธรรม เป็นบุคลาธิษฐาน เพื่อเตือนให้ผู้ที่จะไปเผาศพได้เตือนสติว่า คนธรรมดาตายแล้วย่อมเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน ๓ ภพเท่านั้นคือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ (บ้างว่าคือ นรก มนุษย์ สวรรค์) ซึ่งเรียกการวนเวียนเสวยวิบากตามความหยาบและความประณีตแห่งกรรมนั้นๆว่า “สังสารวัฏ ๓” หรือ วัฏวน๓ หรือ “สามสร้าง” น้อยคนนักที่จะไปถึงภพที่ ๔ คือ นิพพาน หรือ โลกุตรภพ ด้วยเหตุนี้ ผู้คิดทำที่เผาศพจึงคิดหาวิธีการให้เป็นปริศนาธรรม โดยให้สร้างเป็น ๔ เสาแต่ให้เรียก “สามสร้าง” (สามส้าง) เสา ๓ ต้นแรกแทนภพทั้งสาม ซึ่งทุกคนเรียกขานกันทั่วไป ส่วนเสาที่ ๔ คือนิพพานนั้น จะถึงได้ รู้ได้ แต่เฉพาะพระพุทธองค์ และสาวกบางองค์เท่านั้น แนวความคิดที่อาศัยหลักธรรมบางกลุ่มยังอธิบายแตกต่างกันไปว่า สามส้าง คือ สังสารวัฏ ๓หรือ วัฏวน ๓ คือ กิเลสตัณหาอุปาทาน กรรม (การกระทำ) และวิบาก (ผลจากการกระทำ)


เป็นที่น่าสังเกตว่าคำ “สามส้าง” ใกล้เคียงกับคำสันสกฤตว่า “ศมฺศาน” ซึ่งตรงกับคำ “สุสาน” ของภาษาบาลี ตามประเพณีนิยมของชาวใต้ ศพที่จะเผาโดยทำเป็นสามส้างนั้น ต้องเป็นศพผู้สูงอายุ และมีคุณธรรม ไม่นิยมทำเพื่อเผาศพเด็ก หรือศพคนหนุ่มสาว
ในบางท้องถิ่น เชื่อว่าถ้าสามารถเลือกสถานที่ที่ใกล้จุดศูนย์กลางของป่าช้าได้ จะทำให้บุตรหลานของผู้ตายมีโชคลาภร่ำรวยขึ้น
ก่อนก่อสร้างสามส้างจะต้องทำพีขอขมาเจ้าที่เจ้าทางเสียก่อนและต้องมีเครื่องเส้นสรวงด้วย
โดยปกติเมื่อเผาเสร็จแล้วจะไม่มีการรื้อถอนสามส้าง คงปล่อยไว้จนกว่าจะผุพังไปเอง และสามส้างแต่ละอันจะใช้เผาศพเพียงศพเดียวเท่านั้น (สธ.พ.)



ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1929 โดย Dr. J. Baum นักปักษิณวิทยาชาวเชค ที่ได้เดินทางมาเมืองสงขลา และได้บันทึกภาพถ่ายนี้ไว้



ที่มา
เนื้อหา: สถาบันทักษิณคดีศึกษา. ๒๕๒๙. สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๒๙. พิมพ์ครั้งที่ ๔
มูลนิธทักษิณคดีศึกษา.๒๕๒๕.พจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ พุทธศักราช ๒๕๒๕
คนโบราณ. บันทึกขนำริมทุ่งปลักเหม็ด (//plugmet.orgfree.com/sk_dialect_4-4-0.htm#sor-sua) เข้าถึงเมื่อ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๔

free counters




Create Date : 06 สิงหาคม 2554
Last Update : 6 สิงหาคม 2554 18:11:27 น. 4 comments
Counter : 5100 Pageviews.

 
เข้ามารับความรู้ครับ ขอบคุณมาก ๆ สำหรับสิ่งดี ๆ ครับ


โดย: หม่องวิน มอไซ IP: 158.108.150.249 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:10:50:08 น.  

 


โดย: พอย (เพชรพญานาค ) วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:22:00:40 น.  

 


โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:2:54:18 น.  

 
เกิดมาตอนเด็กผ่านป่าช้าเผาศพมีเสาสูงฯมีมุ้งคลุมไว้มองที่ฐานไฟมีกองไฟเผาศพวังเวงมากบ้านนอกกันดานสมัย50ปีก่อน


โดย: วีระนันท์ IP: 49.229.193.207 วันที่: 7 มกราคม 2567 เวลา:17:47:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Oceanophila
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน... ปัจจุบันคือรากฐานของอนาคต..
Friends' blogs
[Add Oceanophila's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.