|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สามส้าง..ณาปนสถานพื้นบ้านถิ่นใต้
Free TextEditor
สามส้าง หรือ ร่มไฟ คือฌาปนสถานชั่วคราวที่สร้างขึ้นสำหรับเผาศพเฉพาะราย อาจสร้างขึ้นในวัด ในป่าช้า หรือบางท้องถิ่น สร้างขึ้นในบริเวณบ้านก็มี เป็นคตินิยมที่มีมาก่อนที่จะมีเชิงตะกอน ครั้นเมื่อมีประเพณีเผาศพ ที่เชิงตะกอนเกิดขึ้นแล้ว มีบางคนไม่ปราถนาจะใช้เชิงตะกอนเป็นที่เผาศพของผู้ที่ตนเคารพนับถือ ยังคงนิยมทำ สามส้าง หรือ ร่มไฟ เป็นที่ทำการฌาปนกิจด้วยถือคติว่า ผู้ตายแต่ละคนย่อมต่างกรรมต่างวิบากกัน จึงไม่ควรเผาศพซ้ำรอยให้แปดเปื้อนกัน
ลักษณะของสามส้างประกอบด้วยเสาไม้กลม (ไม้สด) ๔ ต้น (นิยมใช้ไม้ไผ่ หรือ ไม้หมาก หรือไม้เหลาชะโอน)ปักเสาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้โคนเสาห่างกันประมาณ ๓-๔ เมตร แต่ละเสาสูงเท่ากัน ประมาณว่าให้สูงเลยเปลวไฟขึ้นไป (บางท้องถิ่นกำหนดให้สูง ๔ วา ๒ ศอก) ให้ปลายเสาเอนเข้าหากันเล็กน้อย คล้ายเสาเมรุ ปลายเสาใช้ไม้ตีเป็นเชิงชาย และเหนือเชิงชายทำเป็นเพดานหรือหลังคา โดยใช้ผ้าสีขาวอย่างบางหรือเสื่อ หรือไม้ไผ่สาน รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสไว้สำหรับบังร่มไฟหรือกันร่มไฟ และด้วยเหตุนี้บางท้องถิ่นจึงเรียกสามส้างว่า “ร่มไฟ”
จากพจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ ปี ๒๕๒๕ มีการระบุไว้ว่าคำว่า สามส้าง พบมีใช้ในท้องที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส
ในขณะที่คำว่า ร่มไฟ พบมีใช้ในท้องที่จังหวัดปัตตานี และยะลา
ภาพจากงานศพของคุณทวดเจ้าของBlog เองครับ
สามส้างตามลักษณะที่กล่าวมาแล้วเป็นแบบสามัญ ถ้าเป็นสามส้างสำหรับเผาศพผู้มีเกียรติ มีสกุลดี อาจเสริมสร้างให้พิสดารออกไป เช่นมีราชวัติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ารั้วไก่ ล้อมรอบเพื่อเป็นเขตปริมาณฑลไว้อีกชั้นหนึ่ง หรือที่เชิงชายอาจตกแต่งด้วยลายไทยแทงหยวกและพวงดอกไม้เป็นต้น สามส้างจะต่างกับเมรุตรงที่สามส้างไม่ทำเป็นยอดแหลม หรือเป็นยอดมณฑป และไม่มีฐานแต่วางโลงเหนือกองฟืนที่วางซ้อนกันเป็นชั้นๆ ( ซึ่งนิยมวางฟืนให้มีจำนวนชั้นเป็นเลขคี่ ถ้าเป็นเลขคู่ถือว่าเป็นอัปมงคล)
สาเหตุที่เรียกว่าสามส้าง มีความคิดเห็นต่างกันและเชื่อกันเป็นหลายแนว แนวหนึ่งเชื่อว่าผู้ริเริ่มทำสามส้าง ชื่อนายสามจึงเรียกว่า สามส้าง แนวหนึ่งว่า เดิมทีมีชาย ๓ คนช่วยกันทำคนละเสาเป็น ๓ เสา และอีกเสาหนึ่งต่างร่วมกันทำ จงเรียกตามจำนวนผู้ทำครั้งแรกว่า สามส้าง อีกแนวหนึ่งว่าผู้เริ่มสร้างชื่อสุวรรณสาม สร้างขึ้นเพื่อดผาศพบิดาของตน จึงเรียกว่าสามส้าง (อาจหมายถึงสุวรรณสามชาดก)
ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวอธิบายตามที่ได้เล่าสืบต่อๆกันมา ส่วนอีกแนวความคิดหนึ่ง อธิบายโดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาว่า เหตุที่เรียกว่าสามส้าง ก็เพราะ สร้างขึ้นตามคติธรรม เป็นบุคลาธิษฐาน เพื่อเตือนให้ผู้ที่จะไปเผาศพได้เตือนสติว่า คนธรรมดาตายแล้วย่อมเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน ๓ ภพเท่านั้นคือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ (บ้างว่าคือ นรก มนุษย์ สวรรค์) ซึ่งเรียกการวนเวียนเสวยวิบากตามความหยาบและความประณีตแห่งกรรมนั้นๆว่า “สังสารวัฏ ๓” หรือ วัฏวน๓ หรือ “สามสร้าง” น้อยคนนักที่จะไปถึงภพที่ ๔ คือ นิพพาน หรือ โลกุตรภพ ด้วยเหตุนี้ ผู้คิดทำที่เผาศพจึงคิดหาวิธีการให้เป็นปริศนาธรรม โดยให้สร้างเป็น ๔ เสาแต่ให้เรียก “สามสร้าง” (สามส้าง) เสา ๓ ต้นแรกแทนภพทั้งสาม ซึ่งทุกคนเรียกขานกันทั่วไป ส่วนเสาที่ ๔ คือนิพพานนั้น จะถึงได้ รู้ได้ แต่เฉพาะพระพุทธองค์ และสาวกบางองค์เท่านั้น แนวความคิดที่อาศัยหลักธรรมบางกลุ่มยังอธิบายแตกต่างกันไปว่า สามส้าง คือ สังสารวัฏ ๓หรือ วัฏวน ๓ คือ กิเลสตัณหาอุปาทาน กรรม (การกระทำ) และวิบาก (ผลจากการกระทำ)
เป็นที่น่าสังเกตว่าคำ “สามส้าง” ใกล้เคียงกับคำสันสกฤตว่า “ศมฺศาน” ซึ่งตรงกับคำ “สุสาน” ของภาษาบาลี ตามประเพณีนิยมของชาวใต้ ศพที่จะเผาโดยทำเป็นสามส้างนั้น ต้องเป็นศพผู้สูงอายุ และมีคุณธรรม ไม่นิยมทำเพื่อเผาศพเด็ก หรือศพคนหนุ่มสาว ในบางท้องถิ่น เชื่อว่าถ้าสามารถเลือกสถานที่ที่ใกล้จุดศูนย์กลางของป่าช้าได้ จะทำให้บุตรหลานของผู้ตายมีโชคลาภร่ำรวยขึ้น ก่อนก่อสร้างสามส้างจะต้องทำพีขอขมาเจ้าที่เจ้าทางเสียก่อนและต้องมีเครื่องเส้นสรวงด้วย โดยปกติเมื่อเผาเสร็จแล้วจะไม่มีการรื้อถอนสามส้าง คงปล่อยไว้จนกว่าจะผุพังไปเอง และสามส้างแต่ละอันจะใช้เผาศพเพียงศพเดียวเท่านั้น (สธ.พ.)
ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1929 โดย Dr. J. Baum นักปักษิณวิทยาชาวเชค ที่ได้เดินทางมาเมืองสงขลา และได้บันทึกภาพถ่ายนี้ไว้
ที่มา เนื้อหา: สถาบันทักษิณคดีศึกษา. ๒๕๒๙. สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๒๙. พิมพ์ครั้งที่ ๔ มูลนิธทักษิณคดีศึกษา.๒๕๒๕.พจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ พุทธศักราช ๒๕๒๕ คนโบราณ. บันทึกขนำริมทุ่งปลักเหม็ด (//plugmet.orgfree.com/sk_dialect_4-4-0.htm#sor-sua) เข้าถึงเมื่อ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๔
Create Date : 06 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 6 สิงหาคม 2554 18:11:27 น. |
|
4 comments
|
Counter : 5100 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หม่องวิน มอไซ IP: 158.108.150.249 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:10:50:08 น. |
|
|
|
โดย: พอย (เพชรพญานาค ) วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:22:00:40 น. |
|
|
|
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:2:54:18 น. |
|
|
|
โดย: วีระนันท์ IP: 49.229.193.207 วันที่: 7 มกราคม 2567 เวลา:17:47:18 น. |
|
|
|
| |
|
|