|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงพยาบาลของเรา
หลังจากที่ป้าต้องเข้ารับการรักษาด้วยการฉายแสง คุณหมอให้ฉายตรงจุดที่ปวด คือ หัวใหล่ซ้าย และ สะโพกซ้าย เพื่อบรรเทาอาการปวด แต่ว่า ตรงจุดกำเนิดของมะเร็ง ก็คือตับเนี่ย ยังไม่ได้รักษาเลย คุณหมอให้ส่องกล้องดูกะเพราะอาหาร กะ ลำไส้ใหญ่ ว่ามันมีมะเร็งอีกมั่งมั้ย เฮ้อ ส่องกล้อง ก็ไม่ใช่อยู่ ๆ จะไปส่อง ต้องงดน้ำ งดอาหาร ล้างลำใส้ให้สะอาดด้วยการกินยาระบาย ถ่ายให้เป็นน้ำใส ๆ ถึงจะส่องได้ มันลำบากนะเนี่ย ถ้าคนแข็งแรงดีก็ว่าไปอย่าง...แต่การรักษาก็ต้องเป็นไป
อ.หมอ สั่งให้ฉายแสง 10 ครั้ง ติดต่อกัน ยกเว้นวันหยุดราชการ ดิฉันก็ต้องไป ร.พ.ทุกวัน หนุกหนานมาก แต่ฉายครั้งนึงก็แป๊บเดียว ประมาณ 10 นาทีเอง ก็ดีไปอย่าง แต่ถ้ารอหมอตรวจก็นานหน่อย .. จากการไป ร.พ.นะมันทำให้เรารู้ว่า คนเป็นมะเร็งเยอะมากที่ต้องเข้ารับการบำบัดด้วยการฉายแสง แล้วมีหลากหลายมาก เป็นที่ปาก เป็นที่สมอง เป็นที่เต้านม รังไข่ ลำไส้ โอ้ยสารพัด รังสีแพทย์เข้าจะตีเส้นตรงจุดที่เป็นด้วยหมึกเคมี เหมือนสีเมจิกสีดำ แล้วก็ประเมินว่าอาการแบบนี้จะใช้สารเคมีอะไร ระดับไหน ทุกอาทิตย์ก็จะพบ อ.หมอ ว่ามันมีผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า ต้องปรับความแรงของสารเคมีรึเปล่า..แล้วแต่ละคนนะต้องฉายไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ในรายที่มันสามารถตัดเนื้อร้ายตรงนั้นทิ้งไปได้...เฮ้อ ชีวิต
มันเหมือนโรคกรรม โรคเวรนะ เราว่า เพราะว่ามันไม่มีเชื้อโรค แต่มันเกิดจากการดูแลตัวเราเอง ซึ่งทุกวันนี้ เราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมาก ทั้งการกินอาหาร มลภาวะต่าง ๆ ซึ่งมันทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งไอ้ตัวนี้คือสารพิษ ทำให้เซลล์เราผิดปกติ กลายเป็นมะเร็งได้ เราเจอคนนึงแกเป็นที่ปาก กินอะไรไม่ได้เลย แล้วน้ำลายไหลตลอดเวลา ต้องคอยบ้วนทิ้ง เวลากิน เค้าต้องกินอาหารเหลว หมอจะเจาะตรงหน้าท้อง มีสายยางโผล่ออกมา ต่อตรงกับกะเพราะนะ วันนั้นแกจะกินยาพารา เพราะแกรู้สึกมีไข้ แกก็ขอน้ำเรากินแล้วให้ช่วยแกหน่อย คือ แกก็เอายาพาราใส่หลอดคล้ายเข็มฉีดยา เทน้ำ เขย่าให้มันละลาย แล้วก็ปล่อยให้มันใหลเข้าท้องไป เราก็คอยเทน้ำให้แก มันดูประหลาดมาก..น่าสงสาร แล้วก็ทรมานด้วย
เรากะน้องมองหน้ากันเลย ว่าเราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราต้องเริ่มดูแลตัวเองแล้วแหละ แถมเรายังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอีกตะหาก คือมันถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ เราไม่อยากเป็นตอนแก่ ๆ มันลำบากทุกอย่าง ทั้งงบประมาณส่วนตัว แล้วก็งบประมาณประเทศชาติ ป้าเรารักษามา 2 เดือน ใช้สิทธิบัตรทอง มันก็เบิกได้ทุกอย่าง เสียแต่ค่ารถ ถ้าต้องคิดเป็นเงินนะ เหยียบแสนแล้วล่ะ....แล้วถ้าเป็นกันเยอะอย่างนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษามันจะมหาศาลขนาดใหนวะเนี่ย.....
Create Date : 21 ตุลาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 15:53:11 น. |
Counter : 436 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หน่อย - ตั้ม (tumauto ) 21 ตุลาคม 2553 16:44:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: pangolin 21 ตุลาคม 2553 19:15:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
นครสวรรค์ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
แต่ก่อนชอบเขียนไดอารี่มาก ตั้งแต่สมัยอยู่ ม.ปลาย มี หลายเล่มทีเดียว เขียนตอนสมัยอยู่มหาลัยก็มี สนุกมากแต่ว่ามันหายไป ตอนย้ายหอ เสียดาย ไม่รู้หายไปใหน ติดไปกับเพื่อนคนไหนรึเปล่า ก็ไม่รู้ พอทำงานช่วงที่พึ่งจบใหม่ ๆ ก็เขียนอยู่หรอก ช่วงที่ชีวิตยังละอ่อนอยู่ชอบมากมันระบายความในใจดี แต่พออายุเริ่มมากขึ้น ความรับผิดชอบในหน้าที่การงานมากขึ้น เวลาว่างเริ่มลดลง เราก็ไม่ค่อยได้เขียนเลย คงเป็นเพราะตัวเองที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำดี ๆ และไม่ดีเยอะมาก แต่ก็ไม่บันทึกลงไป เสียดายเวลาที่ผ่านมา แต่วันนี้เราจะพยายามเรียกความทรงจำเก่า ๆ กลับคืนมามันอาจจะไม่ปะติดปะต่อ จะลองบันทึกในแบบใหม่ เก็บไว้อ่านเมื่อเวลามันผ่านไปจะได้ย้อนความทรงจำกลับมา....
|
|
|
|
|
|
|
|