ยูโด..อีกซักครั้งในปี 2012..





ห่างหายจากเรื่องยูโดไปได้พักใหญ่ .. วกกลับไปดูบล็อกเก่าที่เล่าเรื่องยูโดนี่มันเกือบสองปีเีชียว!!!  คงเป็นเพราะตั้งแต่นักกีฬาของเราย้ายไปเรียนมัธยมต้นแล้วบทบาทของพ่อแม่ก็ลดลงไป  เนื่องจากชมรมของเด็กมัธยมต้นเค้ารับผิดชอบตัวเองกัน  เวลาไปแข่งก็ไปกันเองนัดเวลาที่จุดนัดพบแล้วขี่จักรยานไปกันเป็นทีม  ถ้าไปไกลหน่อยก็จะนั่งรถครูกับผู้ปกครองบางคนไป  แต่ส่วนมากจะตระเวณไปกันเอง..


พ่อแม่ก็เลยไม่ได้เกาะขอบสนามไปด้วยเหมือนช่วงตอนเรียนประถม  นานน้านถึงจะมีโอกาสไปดูเค้าแข่งซักครั้งนึง  พ่อมันไ้ด้ไปดูบ่อยกว่าแม่เพราะมีบางครั้งที่ต้องขับรถขนบรรดานักกีฬาไปแข่ง  ไม่มีที่ว่างให้ก้นแม่มันจ่อมติดรถไปด้วยหรือไม่บางครั้งแม่มันก็ติดทำงานไม่สามารถไปดูการแข่งขันได้  มีคราวนี้ที่เป็นวันหยุดพอดีของแม่มันเลยไ้ด้ไปดู


การแข่งขันครั้งนี้จัดที่ตัวอำเภอคุรุเม่  แม็ทช์ที่จัดที่นี่มักจะเป็นการแข่งขันที่เป็นทางการหน่อยเพราะเป็นระดับอำเภอ ไม่ใช่ระดับร.ร.ทั่วๆไปที่จัดๆกัน   เค้าจะจัดการแ่ข่งเป็นสองฤดูกาลคือฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง  ปีที่แล้วในการแข่งขันฤดูกาลใบไม้ผลิเจ้าตัวเล็กได้ที่สองของระดับชั้นปี   ส่วนปีนี้ในฤดูกาลเดียวกันได้ที่หนึ่ง  ได้มีชื่อลงหนังสือพิมพ์ประจำท้องถิ่นด้วย ตัดเก็บใส่ไฟล์ไว้เป็นผลงานของเจ้า่ตัวเค้าไป  .. ครั้งนี้เป็นการแข่งขันในฤดูใบไม้ร่วง 


บอกเล่าเก้าสิบกันเล็กน้อยว่า ณ เวลานี้ัอดีตนักกีฬาตัวน้อยของป้าโซ ไ้ด้เติบโตเป็นนักกีฬาหนุ่มน้อยๆ และสอยสายดำมาได้สำเร็จเมื่อต้นปีนี่เอง   ว่าจะ..ว่าจะเขียนเล่าเรื่องสายดำก็ยังผลัดมาเรื่อยตามประสาป้าโซจนลืมไปแล้วว่าจะเขียน  เล่ามาถึงตรงนี้เพิ่งระลึกชาติได้ว่าเออ..ยังค้างเรื่องนี้อยู่นี่หว่า


การแข่งครั้งนี้เจ้าตัวเล็กขี่จักรยานไปกับเพื่อนเช่นเคย   ชมรมยูโดที่ร.ร.มัธยมเจ้าตัวเล็กปีนี้มีสมาิชิกน้อยมาก  มีม. 2 แค่สองคนคือเจ้าตัวเล็กกับเพื่อนผู้ชาย  ม. 3 ถึงจะยังมีอยู่แต่พวกพี่ๆเลิกเล่นไปแล้วเพราะต้องเรียนหนักเพื่อสอบแข่งขันเข้าม.ปลาย  ส่วนน้องใหม่ม. 1 ก็มีผู้ชายคนนึงที่เคยเล่นยูโดมาตอนประถมแต่เล่นๆหยุดๆ กับน้องผู้หญิงหน้าใหม่อีกสามคนที่ไม่เคยเล่นยูโดมาก่อนเลย มาเริ่มเอาที่ร.ร.มัธยมต้นนี่เอง สรุปว่าตอนนี้ที่เล่นยูโดอยู่มีผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 3 คน  การแข่งขันแบบทีมชายระหว่างร.ร.จึงเป็นอันพับทางชนะไปเนื่องจากมีสมาชิกแค่ 3 คนจาก 5 คนที่เค้ากำหนด  นอกจากจะชนะเค้ารวด 3 คนเรานี่ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะการแข่งแบบทีมแต่ละร.ร.ก็จะคัดเอาคนเก่งๆมาลงแข่ง  แต่ละคนรูปร่างก็ชนะเราไปแล้ว  การแข่งแบบทีมของเราส่วนมากจะจบลงที่ชนะหรือเสมอหนึ่งคน  แพ้สองคนแล้วก็ตกรอบไป  ทางเลือกที่เหลือก็คือแข่งแบบเดี่ยวหลังจากแบบทีมแพ้ไปแล้ว


ในวันนี้เจ้าตัวเล็กบาดเจ็บที่ข้อมือซ้นเล็กน้อยจากการแข่งแบบทีมในช่วงแรกแต่สามารถเลี้ยงตัวไว้ที่เสมอได้   อีกสองคนแพ้จึงทำให้ทีมตกรอบไป มารอแข่งอีกทีก็ตอนแข่งแบบเดี่ยว ซึ่งเจ้าตัวบอกไว้แล้วว่าคงสู้ไม่ได้ถนัดนักเพราะมือเจ็บ ชนะด้วยยูโคผ่านเข้าไปครั้งเดียว รอบต่อมาก็แพ้เพราะถอยมากไปจนพลาดหกล้มเองถูกปรับเป็นวะซะอะริหมดเวลาก็แพ้ไป


นานๆทีได้ดูลูกแ่ข่ง  รู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนไปเป็นเ้ข้มแข็งมากขึ้น ใจเย็น ไม่ผลีผลาม รอจังหวะที่จะเข้าท่า  รู้จักตัดสินใจที่จะรุกและรับ  ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องมาจากประสบการณ์นั่นเอง  กีฬาสามารถฝึกเค้าให้เป็นอย่างนี้ได้ทั้งๆที่เจ้าตัวบ่นเสมอว่าไม่ชอบกีฬาชนิดนี้ซึ่งพอถามเข้าจริงๆว่าเกลียดมันจริงๆรึ? เจ้ายูโดเนี่ย? ก็ตอบว่าไม่ไ้ด้เกลียดหรอก แต่เบื่อที่จะไปซ้อมโดยเฉพาะช่วงวันหยุดที่ยูโดเอาเวลาว่างจากการพักผ่อนอ่านการ์ตูนเล่นเกมของเค้าไปจนหมด  นอนตื่นสายก็ไม่ได้  เอาหละนะ.. ถ้ายูโดแย่งเวลาเค้าจากการหมกมุ่นเล่นเกมละก็  ป้าโซเห็นสมควรอย่างยิ่งให้เค้าได้ยุ่งๆกับการออกกำลังซะบ้าง   ได้ประโยชน์มากมายโดยเฉพาะการพัฒนาในวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตอย่างนี้   เด็กอื่นทั่วไปก็ยุ่งๆกับกิจกรรมทั้งเรียนทั้งกีฬาแบบนี้เหมือนกัน ใช่ว่าจะยุ่งแต่ลูกเราคนเดียวซะที่ไหน  วัยอย่างนี้พร้อมที่จะลุยกับอะไรๆได้หลายๆอย่างเพราะกำลังวังชามีเยอะ  แต่ก็มีช่วงวันหยุดบางช่วงที่ไ้ด้หยุดพักนะไม่ใช่จะตะบี้ตะบันซ้อมไปตลอด


ระหว่างการแข่งขันน้องผู้หญิงม.1 เกิดการบาดเจ็บเพราะล้มไม่ถูกท่า  โดยเอามือไปยันไว้กับพื้นตอนล้มทำให้กระดูกข้อมือร้าว   ครูยูโดที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดจัดการเอาผ้าพันข้อมือยึดไว้แล้วคล้องสะพายแขนไว้กับคอ จากนั้นก็พาไปรพ.  ในการแข่งขันเช่นนี้มักจะมีหน่วยปฐมพยาบาลเตรียมพร้อมไว้ตลอดเพราะเป็นกีฬาที่ค่อนข้างอันตราย  พลาดพลั้งจนถึงกับเสียชีวิตก็มีมาแล้ว


ยูโดเป็นกีฬาที่สมควรจะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ยังเด็กๆ  เพราะความยืดหยุ่นของร่างกายจะดีกว่ามาเริ่มตอนโตๆ  พื้นฐานของกีฬาที่สำคัญมากก็คือการฝึกท่าล้มให้ถูกต้อง  เพราะบางครั้งเป็นการทุ่มคู่ต่อสู้ทั้งตัวลงกับพื้นซึ่งถ้าการล้มไม่ถูกต้องมีสิทธิ์กระดูกแขนขาแม้กระทั่งคออาจจะหักได้  ท่า่ล้มที่ต้องฝึกมีทั้งล้มไปข้างหน้า ข้า่งหลัง ด้านข้าง การม้วนตัวต่างๆ เวลาล้มต้องฟาดแขนตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงไปถึงฝ่ามือเพื่อเป็นการลดความรุนแรงของการล้ม


การเริ่มฝึกฝนยูโดตั้งแต่เด็กๆ  จะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีเพราะจะผ่านประสบการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการล้มแล้วล้มอีก เจ็บแล้วเจ็บอีก การแพ้การชนะ  ขวัญกำลังใจในการต่อสู้ การควบคุมอารมณ์   แรกๆนี่ป้าโซไม่เห็นความแตกต่างในเรื่องนี้นัก แต่พอเจ้าตัวเล็กเข้าสู่ชั้นมัธยมก็เห็นความแตกต่างระหว่างเด็กที่เข้าฝึกยูโดแต่เล็กและเด็กที่เพิ่งเข้ามาฝึกเอาตอนโต   การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมักจะเป็นกับเด็กฝึกใหม่มากกว่าเด็กเก่ารวมถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บด้วย 


ยูโดเป็นกีฬาพื้นฐานของการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเองด้วยมือเปล่า  คนตัวเล็กๆถ้ารู้จักท่ายูโดสามารถจับคนตัวใหญ่กว่ามากๆทุ่มได้สบาย  มันเป็นดาบสองคมเหมือนกันในการฝึกฝนกีฬาชนิดนี้คือถ้าฝึกโดยคนที่พื้นฐานนิสัยไม่ดี  เกะกะระรานอันธพาล  ก็จะกลายเป็นอาวุธไปทำ้ร้ายคนอื่นได้แทนที่จะไว้ใช้ป้องกันตัวเองเท่านั้น   มีตัวอย่างเด็กที่เล่นยูโดเก่งตั้งแต่ชั้นประถมยันมัธยมต้น   พอโตเข้าสู่ชั้นมัธยมปลายกลายเป็นขาโจ๋  ย้อมหัวทอง เจาะหู พฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี  ทางสมาคมยูโดต้องให้ออกจากกิจกรรมเพราะความประพฤติไม่เหมาะสม  ดังนั้นครูฝึกกีฬาชนิดนี้จึงต้องระมัดระวังปลูกฝังแนวทางที่ดีงามให้กับเด็ก  บางครั้งก็ต้องเข้มงวดจัดๆ 


เมื่อเรียนเข้าสู่ระดับสูงจะมีเทคนิคยูโดที่เป็นไม้ตายในการทำ้ร้ายคู่ต่อสู้ให้หมดทางสู้เรียกว่า  "ชิเมะวะสะ"   คือการรัดส่วนของร่างกายให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ เช่น แขน ขา จะทำให้คู่ต่อสู้เจ็บจนต้องตบเบาะยอมแพ้ เพราะ้ถ้าไม่ยอมแพ้มีสิทธิ์ถูกบิดจนมือ แขน ขา หักได้ในที่สุด  ที่ร้ายที่สุดคือการรัดคอให้หมดอากาศหายใจจนถึงขั้นหมดสติและอาจตายได้  กรรมการที่ตัดสินต้องดูแลการแข่งขันอย่างใกล้ชิด  ต้องมีไหวพริบฉับไวในการตัดสินหยุดการแข่งขันเพราะท่าอันตรายเหล่านี้บางครั้งคนถูกกระทำอาจคิดว่าตัวเองสามารถแก้ไข้ได้  แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถแก้ไขได้และเมื่อถึงเวลานั้นแล้วก็ไม่มีสติช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป 


ท่าอันตรายเหล่านี้ถูกห้ามใช้ในระดับประถม  เมื่อเข้าสู่ชั้นมัธยมสามารถใช้ได้  ดังนั้นน้องม.1 ที่เพิ่งหลุดจากชั้นประถมมาจึงอาจถูกรุ่นพี่ใช้ท่าชิเมะวะสะกระทำให้เห็นอยู่ในบางครั้ง   ถือว่าเป็นประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งน้องใหม่ต้องเรียนรู้ซึ่งต่อไปก็จะหลบเลี่ยงได้เอง   ป้าโซละกลัวนักกลัวหนาที่เจ้าตัวเล็กอาจถูกกระทำด้วยท่าไม้ตายเหล่านี้ สั่งแล้วสั่งอีกว่าถ้าเลี่ยงไม่พ้นต้องเผชิญกับท่านี้อย่าดันทุรังสู้ ให้ตบเบาะยอมแพ้ทันที  ให้เราเซฟไว้ดีกว่าไปเสี่ยงอันตราย  เจ้าตัวบอกไม่ต้องห่วงแม่.. เท็ตซึก็ไม่อยากเจ็บไม่อยากตายเหมือนกันSmiley


เคยเห็นจะๆตาอยู่หนสองหนกับคนที่ถูกชิเมะวะสะ   เด็กในชมรมยูโดมิซูม่านั่นแหละเป็นรุ่นพี่เ้จ้าตัวเล็กปีนึง  พอเข้าชั้นม.ต้นก็ถูกรุ่นพี่ชมรมอื่นเข้าท่านี้  ด้วยความที่ตัวเองแข็งแกร่งมาตลอดจึงนึกว่าจะสามารถดิ้นหลุดพ้น  แค่เวลาผ่านไปไม่กี่เสี้ยววินาทีเด็กเริ่มมีอาการเหมือนปลาถูกทุบหัวเปี๊ยบ  คือแขนขากระตุกๆ  กรรมการต้องสั่งหยุดการแข่งขัันแล้วเข้าจับสายรัดเอวเด็กยกตัวขึ้นเขย่า  ตบหลังให้เด็กสามารถหายใจได้  ภาพนั้นติดตาป้าโซอย่างสยองนึกว่าถ้าเป็นลูกเราใจแม่คงหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม   พอเจ้าตัวเล็กเข้าชั้นมัธยมก็เคยเผชิญกับท่าเหล่านี้ เจ้าตัวบอกว่าถ้ายังอยู่ในสภาวะที่สามารถแก้ไขได้เค้าก็พยายามดิ้นให้หลุด  แต่ถ้าเห็นว่ายังไงก็ไม่ไหวแน่ก็จะตบเบาะยอมแพ้  สิ่งเหล่านี้เจ้าตัวคนเล่นเท่านั้นจะสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง 


เอ็นทรี่นี้ไม่มีรูปมาฝากขอเลื่อนไปเป็นเอ็นทรี่หน้านะจ๊ะ..  อัพตอนนี้มาประก๊าดดดว่ากลับมาประจำการเหมือนเดิมแล้วจ้า  ขอให้มีความสุขทุกท่านแล้วพบกันใหม่ .. สวัสดีค้าาาา..Smiley






 

Create Date : 09 ตุลาคม 2555
14 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 10:07:13 น.
Counter : 3689 Pageviews.

 

โหดดีเนอะ ยูโด

 

โดย: เ จ้ า ช า ย น้ อ ย 9 ตุลาคม 2555 10:20:04 น.  

 

อ่านอย่างช้าๆ หวังว่าจะได้เห็นหนุ่มน้อยของป้าโซ แกร่งขึ้นตามวัย โอ้..ต้องรอบล็อกหน้าอีกหรือนี่ อย่าเพิ่งย้อมผมเจาะหูก่อนนะ คุณแม่ขอร้อง 555

สบายดีนะป้าโซ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 9 ตุลาคม 2555 13:16:28 น.  

 

อ่านแล้วครับ แล้วจะมารอดูภาพ ตอนต่อ.....

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 9 ตุลาคม 2555 13:42:55 น.  

 

อ่านสนุกเป็นความรู้ดีคะ ขอบคุณนะคะป้าโซอย่าลืมเขียนบ่อยๆ แอบเป็นแฟนป้าไม่ไ้ด้เล่นf เลยอดอ่านไปพักใหญ่ๆดีใจป้ากลับมาบ้านเก่าคะ

 

โดย: แอบลุ้น IP: 115.87.56.33 9 ตุลาคม 2555 20:26:01 น.  

 

อ่านอย่างตั้งใจ อ่านอย่างช้าๆครับ ได้ข้อมูลน่าสนใจ เป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้ ยินดีกับหลานชาย ที่มีสติใจเย็นทั้งตอนรุกและรับครับป้าโซ

 

โดย: yyswim 9 ตุลาคม 2555 21:21:15 น.  

 

แวะมาให้กำลังใจหลายค่าาา

 

โดย: เก่ง IP: 223.207.11.203 9 ตุลาคม 2555 22:01:52 น.  

 

โอ้วววววววว ป้าโซขาาา
ไม่มีรูปปรากรอบบบ ให้พักสายตามั่งเยยย อ่า
อิอิ
คิดถึงป้าโซมากกกค่ะ ม๊วฟๆๆ

 

โดย: ณ ปลายฉัตร 10 ตุลาคม 2555 8:36:06 น.  

 

มาแว๊ววววป้าโซ

เห็นบล็อกก่อนปิดเม้นท์ไปด้วย

การฝึกยูโด ทำให้น้องเข้มแข็งขึ้นพอ ๆ กับการที่เค้าได้โตเป็นผุ้ใหญ่เหรอคะ

ดีค่า

จะได้เอามังกรฝึกด้วยบ้าง อิอิ


แต่ก็นะ หากเกิดการบาดเจ็บเราก็ใจเสียจริง ๆค่าป้าโซ
คนเป็นพ่อเป็นแม่งี้ อยากให้ลูกเข้มแข็ง เพื่อวันหน้าต่อสู้กับโลกต่อไป



ภาพปลากรอบไม่มี เห็นทีต้องพกมาเอง 555+.






 

โดย: Rinsa Yoyolive 10 ตุลาคม 2555 11:40:52 น.  

 

บล็อกของป้าโซ .. เป็ฯ 1 บล็อกที่แบบว่ายาวแค่ไหน
ก็อยากอ่านค่ะ เพราะว่าเขียนเรื่องราวในนี้เหมือนกับความรู้
ข้อมูลที่เจอจริงๆ อ่านแล้วเพลินดีนะค่ะ อ่านไปอ่านมา
ไม่อยากให้จบเลยด้วยล่ะค่ะ เพราะว่าเขียนได้เพลินมากๆ ค่ะ

 

โดย: JewNid 10 ตุลาคม 2555 22:35:37 น.  

 

สมรม แปลว่ารวมมิตรหรือเปล่า?

น่าจะใกล้เคียงกันนะป้าโซ อย่างสวนสมรมนี่ หมายถึงปลูกผักหรือผลไม้หลายๆอย่างปะปนกันไป ทำให้เกษตรกรที่ทำสวนสมรม สามารถมีผลผลิตขายได้ทั้งปีเลย

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 11 ตุลาคม 2555 14:32:04 น.  

 

หวัดดีครับคุณน้องปร้า

นึกว่าจะได้เห็นรูป "ยูโดสายดำ" ของหลานชาย
อ่านๆไปถึงได้รู้ว่า...เจ้ากีฬาชนิดนี้น่ะ เสี่ยงเอาเรื่องเหมือนกานเนอะ
รู้งิ..จ้างก็ไม่เล่น (นี่คือนิสัยลุงดิ่ง..ผู้ไม่เล่นกีฬาเรย)
เพราะตอนเด็กเล่นฟุตบอลโดนเตะเอ็นขาด ปวดฉอหอเรยน้องปร้า
เจ้าลูกชายคนโตผมเหมือนกัน
ไปเล่นสะเก๊ตแป๊บเดียว..กลับมากระดูกข้อมือร้าวซะแล่ว

เอิ่ม ได้ฟังว่าหลานชายโตขึ้น ใจเย็น รู้จังหวะ ไม่ผลีผลาม
นี่แหระ...น่ายินดีเนาะ
สบายใจยิ่งขึ้น...ที่เค้าบอกว่า...
"ไม่ต้องห่วงแม่.. เท็ตซึก็ไม่อยากเจ็บไม่อยากตายเหมือนกัน"

น้องปร้าหายหน้าไปโดยไม่มีเหตุผลจริงๆเหรอ?
สงสัยไปติดเกมอะรัยมาละม้าง
สันนิษฐานแบบนี้เพราะว่า...พวกบ้านผมไปปลูกผักรีดนมวัวจนงอมแงม

พี่ดิ่งเพิ่งงานซา...หายเฮดไป 4-5 วัน เหมือนกาน
ไปแระ...กู๊ดลัคครับน้องปร้า

 

โดย: Dingtech 11 ตุลาคม 2555 21:44:27 น.  

 



กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แกกองกิเลส ทำตนให้เป็นคน

 

โดย: aew_ IP: 49.48.134.166 13 ตุลาคม 2555 14:41:11 น.  

 

รู้สึกว่าอันตราย บางครั้งคนที่โดนอาจรู้สึกว่าไหว แต่แค่แวบเดียวอาจหลับไปแล้วก็ได้ เท่าที่อ่านรู้สึกว่าน่ากลัวดีเหมือนกัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 13 ตุลาคม 2555 15:12:36 น.  

 

สวัสดีจ้ะคุณป้าโซ

สิ่งสำคัญที่สุดของยูโดคือร่างกายต้องแข็งแกร่งด้วยครับ มือแขนเท้าขาต้องมีพละกำลังมาก ๆและกล้ามเนื้อต้องมีความอดทนใช้แรงได้นาน ๆสำหรับท่าปล้ำกับพื้น

ท่าทุ่มนอกจากต้องฝึกฝนให้คล่อง ใช้อย่างมีสติปัญญาแล้วก็แรงละครับกับความเร็ว

สมัยหนุ่มที่ผมเล่นอยู่ บางครั้งเรารู้ว่าเขาจะเข้าท่าไม้ตายแล้วแต่ความแข็งแรงของเขามากกว่าเรา เวลาเขาเข้าท่าเขาจะกริ๊ปเราไว้แบบแน่นเป๊ะ ไม่สามารถหนีไปไหนได้แล้วเข้าท่าโป้งเดียวจอด

ถ้าเป็นท่ายูโดทั่วไปบางทีเราก็หนีรอดได้ มีอยู่ท่าหนึ่งหากจำไม่ผิดคืออูชิมาตะ เขาจะหันหลังเข้าหาเราแล้วจาระเข้าฟาดหางเข้ากลางหว่างขา จริง ๆจะฟาดเข้าพับในแต่ทางปฏิบัติมันเข้ากล่องดวงใจทุกที ก็ต้องยอมให้มันเหวี่ยงอิโป้งละครับ ไม่อย่างนั้นกล่องแตกแน่ 555

ลองถามเจ้าตัวเล็กดูจะรู้ด่ีจ้ะ สำคัญหากมีคนฝึกที่่ดี สอนเทคนิคและความแข็งแกร่งของข้อมือที่กริ๊พคู่ต่อสู่ให้อยู่ได้ละก็ บวกหาท่าไม้ตายของตัวและฝึกให้ชำนาญ ยูโดไม่ยากครับถ้าเข้าใจ
หลบงานมาเยี่ยมแว๊บ แว๊บยามดึกครับ



 

โดย: find me pr 16 ตุลาคม 2555 22:11:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ป้าโซ
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]




สวัสดีค่ะ ..

ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น

เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ป้าโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.