ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน คาด สิ้นปี 56 นี้ มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือมากกว่า 89 ล้านเครื่อง คิดเป็นการเข้าถึงบริการกว่า 130% ของประชากรในประเทศ แต่ตลาดมือถือจะถึงจุดอิ่มตัว แต่โอกาสในการเติบโตมีอีกมาก พร้อมแนะผู้ให้บริการปรับวิธีเพิ่มรายได้จากผู้ใช้แท็บเล็ต...
นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์ด้านไอซีที บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก กล่าวว่า ในปีหน้าปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนรายได้ของผู้ให้บริการในตลาดโมบายล์ดีไวซ์ คือ การเติบโตของการใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันคนไทยจะมีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน แต่จำนวนโทรศัพท์ที่เป็นสมาร์ทโฟน รองรับการเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ ในปีนี้ยังมีเพียง 30% ของจำนวนโทรศัพท์มือถือทั้งหมดเท่านั้น โดยผลสำรวจของ ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่ในประเทศที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีสื่อสาร เช่น เกาหลีใต้ ที่ตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ไร้สายมีความอิ่มตัวสูง ยังมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เป็นจำนวนโดยประมาณ 85% ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และประเทศในแถบยุโรป มีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟน อยู่ที่ประมาณ 60% ของประชากรเท่านั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ด้านไอซีที บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน กล่าวอีกว่า ในส่วนของอุปกรณ์แท็บเล็ต (Tablet) ก็เป็นอีกหนี่งตลาดที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าในประเทศไทยจำนวนผู้ใช้งานแท็บเล็ตจะยังมีน้อย และมีอัตราการเติบโตไม่หวือหวามากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว รายได้ที่เกิดจากการใช้งานของผู้ใช้แท็บเล็ตต่อคน กลับมีสูงกว่ารายได้จากผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้งานแท็บเล็ตในประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือ ฟรอสต์ฯ คาดการณ์ว่า เมื่อสิ้นปี 2556 นี้ จะมีผู้ใช้ประมาณ 5 ล้านราย หรือ 7% ของประชากรทั้งหมด โดยการเติบโตของตลาดเครื่องแท็บเล็ตจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสิ่งที่ผลักดันการเติบโตนี้ คือความนิยมในการนำแท็บเล็ตมาใช้แทนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี
นอกจากนี้ "อีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญกับตลาดแท็บเล็ต คือรายได้ต่อผู้ใช้ที่เกิดจากการใช้งานบริการดาต้า รูปแบบต่างๆ หรือ ARPU (Average Revenue Per User) นั้น มีปริมาณสูงกว่าบนเครื่องสมาร์ทโฟน โดยรายได้เหล่านี้มาจากพฤติกรรมผู้ใช้งานแท็บเล็ตที่นิยมจ่ายเงิน เพื่อซื้อแอพพลิเคชั่นและส่วนเสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม หรือแอพพลิเคชั่นที่สร้างความสะดวกในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ผลสำรวจยังได้ชี้ให้เห็นว่า 66% ของรายได้โดยรวมจากการขายแอพพลิเคชั่นทั้งหมดนั้น มาจากแอพพลิเคชั่นที่รองรับระบบ iOS ของแอปเปิล และรายได้จากการขายแอพพลิเคชั่นบนแท็บเล็ตนั้น มีมากกว่าสมาร์ทโฟน ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว" นายธีระ กล่าว.