ดร.วสุนันท์ ชุ่มเชื้อ
คุณแม่ลูกสาม บัว-ปัทมน อดิเรกสาร สุริยะ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูกในสไตล์คุณแม่ช่างเลือกที่เข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก ในกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านโภชนาการจากอาหารนมที่ มีส่วนผสมของดีเอชเอสูง โฟร์โมสต์ สคูล สมาร์ท ดีเอชเอ 5 เท่า ที่บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น โดยเชิญ ดร.วสุนันท์ ชุ่มเชื้อ จากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมแบ่งปันข้อมูลขั้นตอนการพัฒนาสมองของลูกตั้งแต่ 0-12 ปี
บัว-ปัทมน บอกเล่าเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้มีความสุขว่า นับตั้งแต่ลูกคลอดออกมา ทุกวินาทีที่เติบโตสมองของลูกจะพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การมอง การส่งเสียง การร้อง รูปแบบการตอบสนองจากแม่ แม้แต่การโอบอุ้ม หอม กอด ล้วนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ก่อให้เกิดการต่อเชื่อมของใยประสาทในสมอง เป็นรูปแบบการเรียนรู้ของเด็กตามธรรมชาติ พ่อแม่ต้องส่งเสริมศักยภาพตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนของโภชนาการนั้นสำหรับ ลูกวัยเบบี้นมแม่มีประโยชน์ด้านโภชนาการต่อลูกมากที่สุด ตัวเธอเลี้ยงลูกสาวทั้งสามคนด้วยนมแม่และเลือกนมผสมร่วมด้วย จนลูกโตถึงวัยที่สามารถดื่มนมจากกล่องในขวบปีที่ 2 เธอก็เลือกนมที่มีส่วนผสมของดีเอชเอสูง 5 เท่าเป็นอาหารประจำวันอีกอย่างหนึ่งของลูก เพื่อให้มั่นใจว่าสมองของลูกจะได้รับสารอาหารที่มีส่วนช่วยให้สมองได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ โดยลูกทุกคนจะชอบดื่มนมกันวันละ 3-4 กล่อง
ในส่วนของนักวิชาการ ดร.วสุนันท์ ชุ่มเชื้อ ได้ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่เกี่ยวกับการเสริมสร้างพลังฉลาดให้สมองน้อยๆ ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพนั้น ทำไปเพื่ออะไร คำตอบคือ เพื่อสร้างการเรียนรู้เชิงบวกและเสริมทักษะชีวิตให้เด็กมีกระบวนการรู้คิด ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตให้เขาเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอีก 15-20 ปีข้างหน้า กระบวนการรู้คิดไม่ใช่เรื่องของไอคิว แต่เป็นกระบวนการคิดที่พ่อแม่ส่งเสริมได้จากอาหารที่เด็กต้องได้รับโภชนาการที่มีคุณค่าอย่างครบถ้วน และกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการ ดร.วสุนันท์ยังระบุด้วยว่า ใน 6 ปีแรกของเด็ก การเลี้ยงดูจะต้องเน้นให้เกิดสารสื่อประสาทขึ้นในสมองให้มากที่สุด และพ่อแม่ต้องกระตุ้นพัฒนาการด้วยพฤติกรรมหรือกิจกรรม เช่น การเล่นบทบาทสมมติ และใช้การเล่านิทานเป็นเทคนิคพัฒนาพื้นฐานอารมณ์ พัฒนาประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว พัฒนาการรับรู้ตนเอง โดยให้เด็กรู้จักอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุการณ์มากระทบกระบวนการรู้คิดจะเกิดการเชื่อมโยงความคิดและจินตนาการ โดยปรากฏออกมาเป็นบทสรุปตอนจบของนิทานตามความคิดของเด็ก
กิจกรรมโฟร์โมสต์ สคูล สมาร์ท ดีเอชเอ 5 เท่า ส่งเสริมความรู้โภชนาการเพื่อพัฒนาศักยภาพสมองให้เด็กมีพลังเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด ยังได้จัดทำคู่มือในชื่อ 5 Steps การเรียนรู้สู่พลังสมองลูก บ่งชี้เคล็ดลับสำคัญสร้างพลังสมองลูก 5 ด้านและฮาวทูสู่การพัฒนาสมองลูกแต่ละช่วงวัย เพื่อส่งเสริมกระบวนการรู้คิด ซึ่งเป็นทักษะที่ควรฝึกให้เกิดขึ้นสำหรับเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบัน โดยสามารถดาวน์โหลดฟรีคู่มือ 5 Steps การเรียนรู้สู่พลังสมองลูก ได้ที่ facebook.com/foremostmomtalk