ลือสนั่น เมื่อมีการคาดการณ์ว่าหลักสูตรการเรียนการสอนฉบับใหม่ จะไม่มีวิชาเรียนรำไทยและนาฏศิลป์ไทยต่างๆ ประเด็นร้อนนี้ไปกระทบกระเทือนจิตใจของคนที่รักความเป็นไทยอย่างยิ่ง ดาราหลายๆ คนวิพากษ์วิจารณ์อย่างน่าคิด

อาทิ ตลกร้อยล้าน ตุ๊กกี้ ชิงร้อย สุดารัตน์ บุตรพรหม ได้โพสต์ผ่านไอจี tukky66 "ทั้งชีวิตผูกพันกับคำว่านาฏศิลป์ไทย จบมัธยมศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ จบระดับปริญญาตรี เอกนาฏศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทำงานที่แรกตำแหน่งนักแสดงบริษัทภูเก็ตแฟนตาซี จนมีทุกวันนี้ในชื่อ ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ด้วยการศึกษาที่มี ศิลปวัฒนธรรมไทย โอกาสทางการแสดงก็จะมีรำๆเต้นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ถือว่าชีวิตได้ดีเพราะเรียนรำมา มันคือพื้นฐานฉันบูชาและนับถือมาทั้งชีวิตอยากให้คนรุ่นใหม่มองเห็นคุณค่า เพราะนี่คือรากแท้ รากเหง้าของคนไทย ประเทศไทย (ร่วมคัดค้านการถอดวิชานาฏศิลป์ ออกจากหลักสูตรการศึกษาไทย)

"ถ้าไม่มีวิชานาฏศิลป์ในหลักสูตร นั่นคือการนับถอยหลังของเด็กไทยที่จะลืมรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย ยิ่งโลกมันก้าวไปข้างหน้าเรายิ่งต้องช่วยกันสืบสาน สั่งสม บ่มเพาะ อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้อยู่คู่ประเทศไทยให้ยาวนานที่สุด (คิดเยอะๆ นะคะ คนที่มีอำนาจในตรงนี้ )"

ส่วนนางเอกภาพยนตร์คนโขน ตรี นันทรัตน์ ชาวราษฎร์ นิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกนาฏศิลป์ไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็โพสต์ผ่านไอจี @threenantharat ว่า "ขอเป็นอีก 1 เสียง ขอบอกเลยว่าถ้าไม่มีนาฏศิลป์-ดนตรีไทย ไทยคงจะไม่เป็นไทยอย่างทุกวันนี้ แล้วที่ตรีได้ดีจนทุกวันนี้ก็เพราะนาฏศิลป์ไทย (ได้ไปเผยแพร่ตามประเทศต่างๆ ในโลก ได้รำถวายหน้าพระที่นั่งพระองค์ต่างๆ (เป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต) เป็นยุวทูตกรุงเทพมหานครสมัยประถมที่ศรีเอี่ยม สอบเข้าราชวินิตบางแก้วด้วยดนตรีไทย และมีโอกาสได้เรียนที่จุฬาฯ ก็เพราะนาฏศิลป์ไทย ได้แสดงหนังและละครก็เพราะเรามีความสามารถพิเศษด้านนาฏศิลป์ไทย ที่ตรีได้ดีทุกวันนี้ก็เพราะนาฏศิลป์นะคะ แล้วที่สำคัญที่สุดคนไม่เรียนตรงนี้ไม่รู้หรอกว่าเวลาไปแสดงที่ต่างประเทศในงาน festival ต่างๆ ที่ทั่วโลกมารวมกัน

"ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่เรียกความตื่นตาตื่นใจกับเครื่องแต่งกายที่ไม่มีชาติใดในโลกเหมือนแล้วได้เสียงปรบมือหลังแสดงเสร็จ และคำว่า "Bravo" ดังก้องในโรงละคร รู้ไหมว่าเราเป็นคนแสดงเราดีใจแค่ไหนที่ทำให้คนต่างชาติรู้จักและชื่นชอบวัฒนธรรมของเรา" ตรีเรียนรำตั้งแต่อนุบาลจนถึงปัจจุบันแล้วตั้งใจว่าจะสืบสานไปตลอดชีวิต อีกไม่นานตรีจะสอนเด็ก จะสอนน้อยคน ไม่อยากรวยแต่จะทำให้ได้ดี ให้ได้ช่วยกันสืบสานรากเหง้าของเราไว้ไม่ให้สูญหายไป สัญญาไว้ตรงนี้ ขอบคุณภาพจากพี่ @tukky66 พวกเราชาวนาฏศิลป์ขอคัดค้านการถอดวิชานาฏศิลป์ออกจากวิชาศิลปะ ช่วยกันนะคะพวกเรา"

หนูไม่รู้นะคะว่าใครเป็นคนคิดเรื่องการถอดถอนวิชานาฏศิลป์ออก เพิ่งรู้จากไอจีพี่ตุ๊กกี้ รู้ปุ๊บก็เซ็งปั๊บ คุณเป็นใครชั้นไม่รู้ แต่ชั้นอยากให้คุณดูภาพนี้ "ขนาดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังรำ" สืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย แล้วคุณเป็นใคร??? ถึงลืมรากเหง้าของตัวเอง นี่แหละคือสิ่งที่แสดงถึงความเป็นไทย คนวงการนาฏศิลป์ไทยอีกหลายหมื่นคนคงจะคัดค้านเช่นกัน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ศิษย์ที่รักนาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชา นาฏยศิลป์ไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส่วนนักแต่งเพลงชื่อดัง ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ก็โพสต์ลงเฟซบุ๊ก Nitipong Honark จิกกัดอย่างดุเดือดว่า "คุณ สพฐ. ครับ คุณอย่าทำให้ผมดราม่าเลย ผมก็รำคาญตัวเองตอนดราม่า แต่มันไม่ไหวครับ ช่วยมีรสนิยม ช่วยคิดถี่ถ้วน หรือไม่ก็ช่วยลาออกไปจากอิทธิพลของการศึกษาของประเทศด้วยเถิดครับ ผมเชื่อว่า พวกคุณนั่นแหละครับที่คิดแก้ปัญหาอะไรแบบนี้ แบบลิงแก้แห จนทำให้ลูกหลานของพวกผมและพวกคุณเนี่ย งงตึ้บ ไปดูเถิดครับ ไปดูงานต่างประเทศที่เอาเงินผมไปดูงานน่ะ...ช่วยไปดูเถิดว่า...ประเทศที่เจริญแล้วทางวัตถุ เศรษฐกิจ เขายังรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเขา แล้วเขาก็จะเอาความแข็งแรงของวัฒนธรรมเขามากินหัวเรานั่นแหละ

"คุณเป็นใครครับพี่ สพฐ. พี่กระทรวงศึกษาธิการ...ผมไม่ได้ดราม่านะครับ แต่ผมน้อยใจชะตาชีวิตน่ะ ช่วยวางแผนการศึกษาอย่างเข้าใจในทุกมิติด้วยได้ไหมครับ ขอโทษด้วย ที่ใช้ภาษาคุณ ผม เพราะ ฉันคิดว่าพ่อขุนรามฯ ก็ไม่ได้ทรงหยาบคายอันใด ฉันไปมาเกือบทั่วโลกแล้ว...ยืนยันเพราะเห็นกับตา...ไม่มีประเทศที่เจริญดีงามประเทศไหน ที่คิดจะลดบทบาทของอัตลักษณ์ของตัวเอง

เขา มีแต่จะสร้างให้อัตลักษณ์ตัวเอง แข็งแรง แล้วส่งไปแทรกซึมประเทศที่อาจจะมีอัตลักษณ์ดี แต่คนที่รับผิดชอบนั้น เบาปัญญา..จึงปล่อยให้เขามายึดพื้นที่

 ผมกราบขอโทษพวกคุณด้วยนะครับ...ที่ขอแสดงความเห็นขัดแย้ง...

โกรธเกรี้ยว ขอกระทืบบาทหน่อย"

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง ภาวิช ทองโรจน์ ประธานหลักสูตร และผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ถึงประเด็นร้อนที่มีข่าวลือว่าจะมีการนำรำไทยต่างๆ ออกจากหลักสูตรการเรียนการสอนของเด็กไทย

จะมีการถอดวิชานาฏศิลป์ออกจากหลักสูตร "ไม่จริง ผมได้ยินได้เห็นเหมือนว่ามีการโพสต์ลงทางโซเชียลมีเดีย ผมพยายามโพสต์ชี้แจงไปเหมือนกันนะ แต่โพสต์ไม่ขึ้น คงมีคนเซ็นเซอร์ แปลกดีเหมือนกันเรื่องนี้ส่งๆ ต่อกันจนกลายเป็นเรื่องจริง (หัวเราะ)" ยืนยันว่าไม่มีการถอดวิชารำไทยออกจากหลักสูตรแน่นอน? "(รีบพูด) ไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครคิดอย่างนั้นเลย ไม่มีใครประสงค์อย่างนั้นเลย อีกอย่างเราก็ยังไม่ได้ประกาศหลักสูตรออกมาเลย บอกเลยว่าจะมีกลุ่มวิชาเลือกพวกนี้มากกว่าหลักสูตรเดิมอีกคือ ให้โอกาสเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ และด้านดนตรี ได้มีสิทธิ์เลือกเรียนได้มากขึ้นด้วย เพื่อจะทำให้ค้นหาตัวเองได้ง่ายขึ้น อย่างเกาหลีเขากำหนดให้เด็กเรียนดนตรีของชาติเขา 6 อย่างเลย" ไทยเราจะเอาตามสิ่งดีๆ ของเกาหลีในเรื่องนี้บ้างมั้ย กำหนดไปเลยชัดๆ? "ต้องคุยกัน ต้องประชุมกันอีกหลายรอบ ตอนนี้เรายังไปกำหนดอย่างนั้นไม่ได้หรอก อีกอย่างครูด้านนี้เราก็ยังมีน้อย ต้องเร่งผลิตครูกันอีก"

หลักสูตรใหม่จะได้ใช้เมื่อไหร่? "ยังบอกชัดไม่ได้ ผมก็เร่งอยู่ โครงสร้างน่าจะ 1 เดือนเสร็จ แล้วนำเรื่องไปประชุมกับสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะได้ใช้ในปีการศึกษาหน้า 2557 นี้ ก่อนหน้านี้เราใช้หลักสูตรของปี 2544 จนมาถึงปี 2551 ปรุงปรับเล็กน้อย จนปีนี้ 2556 มีการปฏิรูปหลักสูตร รื้อหมดเลย ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ดูอย่างหลายๆ ประเทศในอาเซียน ก็รื้อหลักสูตรการศึกษาเหมือนกัน" หลักสูตรใหม่ที่ดูแลนี้ ท่านรับผิดชอบมานานแค่ไหน? "ประมาณ 6-7 เดือน"

เด็กจะได้เรียนวิชาเกี่ยวกับนาฏศิลป์ และเอกลักษณ์ความเป็นไทยตั้งแต่ชั้นไหน? "ตั้งประถม 1 ถึง ม.6 เลย" สรุปพวกรำไทย นาฏศิลป์ไทยต่างๆ จะอยู่ในหลักสูตรหมวดไหน? "อยู่ในหมวดศิลปะ อย่าง ป.1-ป.3 จะอยู่ในชื่อศิลปะและพลานามัยเพื่อชีวิต ซึ่งศิลปะจะรวมทุกอย่าง ทุกๆ อย่าง ตั้งแต่วาดรูป ดนตรี นาฏศิลป์ ฯลฯ วิชาเหล่านี้มีแน่นอน" แล้วหลักสูตรพวกพุทธศาสนา การสร้างเด็กให้มีคุณธรรม จริยธรรม จะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วยหรือไม่? "มีอยู่แล้ว หลักสูตรการเรียนการสอนมันมีกระบวนเยอะมาก มีการออกแบบที่แยบยล หลักสูตรใหม่จะมีหลักสูตรนอกโรงเรียนมากขึ้น ยังต้องมีการประชุมกันอีกเยอะ เราไปบังคับให้เด็กเรียนในหลักสูตรอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องมีหลักสูตรนอกโรงเรียนมาเพิ่มด้วย อย่างหลักสูตรเก่าไม่กำหนดชัดเจน โรงเรียนไหนจะทำก็ได้หรือไม่ทำก็ได้ แต่หลักสูตรใหม่เราจะกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องทำ"

ด้าน ซี ชนัญชิดา ศิริโภคพัฒน์ นางแบบหน้าใหม่ (น่าจะ) มาแรงจากเวทีเกตเวย์สยามโมเดลไอดอล Gateway Siam Model idol 2013 ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กรุงเทพฯ กล่าวอย่างตรงไปตรงมาถึงการเรียนรำไทยว่า "เรียนรำไทยเหรอคะ ก็รู้สึกดีค่ะที่ได้เรียนพวกนี้ เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยเรา แต่บางครั้งก็น่าเบื่อนิดหน่อย (ยิ้ม) คือซีรำไม่ค่อยเป็น อย่างท่ายากๆ งี้ แต่โดยรวมชอบนะคะ รำของภาคอีสานเซิ้งๆ ก็สนุก รำเอื่อยๆ ซีเรียนมาตั้งแต่ประถมแล้ว อย่างเรามองเห็นว่ารำสวยดี แต่เวลารำจริงๆ ไม่ง่ายนะคะ ต้องเรียนทฤษฎีก่อน ต้องจำเยอะเหมือนกัน" จากที่ซีเรียนมาอยากให้เพิ่มตรงไหนอีก? "อยากให้มีกิจกรรมที่สนุกกว่านี้หน่อยค่ะ (ยิ้ม) เวลาเรียนแต่ละปีมีสองเทอม ก็จะมีเรียน ศิลปะ, รำไทย, ดนตรี สามอย่างนี้ก็จะวนอยู่อย่างนี้ เป็นวิชาบังคับที่ต้องเรียน"  แล้วถ้าสมมติว่าซีสนใจการรำ ที่โรงเรียนจะมีวิชาเลือกให้เรียนเพิ่มมั้ย? "มีค่ะ มีชมรมต่างๆ ให้เลือกเยอะอยู่ ที่โรงเรียนซีก็มีหลายคนสนใจรำไทย ก็ไปเข้าชมรมกัน เวลามีงานก็จะไปเป็นนางรำของโรงเรียนค่ะ".

ดี้ นิติพงษ์

ตุ๊กกี้

ตรี