พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
30 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
'ไฮโปเธอร์เมีย' แช่แข็งเซลล์-กู้สมอง

'ไฮโปเธอร์เมีย' แช่แข็งเซลล์-กู้สมอง

รายงานพิเศษ



เมื่อใดก็ตามที่เราเกิดภาวะ "หัวใจหยุดเต้น" ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ หรือหากสามารถช่วยปั๊มหัวใจได้ทันเวลา แต่เลือดไม่สามารถไหลเวียนขึ้นไปหล่อเลี้ยง "สมอง" ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญได้ทันการ เซลล์สมองจะตายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น



ทั้งนี้มีนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาไม่ให้เซลล์สมองตายเนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้น และช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยให้พ้นจากสภาวะเป็นเจ้าหญิง/เจ้าชายนิทรา ที่เรียกว่า ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia) หรือเทคนิคการลดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งเป็นแนวทางรักษาที่แพทย์ใช้เพื่อกอบกู้สมองหลังเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น รวมถึงรักษาปัญหาโรคสมองอื่นๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นกับเซลล์สมอง

นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา





นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะวิกฤตทางสมอง โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายว่า การรักษาด้วยเทคนิคไฮโปเธอร์เมีย หรือการลดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อรักษาเซลล์สมองไม่ให้ถูกทำลายนั้น เลียนแบบมาจากหลักการเอาของแช่ตู้เย็น โดยสมองจะหยุดกระบวนการเสียหาย หรือเซลล์ถูกทำลาย ถ้าอุณหภูมิร่างกายลดลง



โดยทางการแพทย์จะลดให้เหลือ 33 องศาเซลเซียส ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ใช้อุปกรณ์ให้ความเย็นทางการแพทย์ อาทิ แผ่นแปะ ผ้าห่มให้ความเย็น หรืออาจใช้เทคนิคสอดสายเข้าหลอดเลือดดำ ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่นิ่งที่ 33 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง จากนั้นจะปรับเข้าสู่อุณหภูมิปกติของร่างกาย โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน





สำหรับเทคนิคการลดอุณหภูมิร่างกาย มีการศึกษาวิจัยและรักษาผู้ป่วยในบางประเทศมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ส่วนในเมืองไทยได้นำเทคนิคนี้มาใช้ประมาณ 4-5 ปี ซึ่งยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่สามารถรักษาด้วยวิธีไฮโปเธอร์เมียอยู่ไม่มาก



โดย นพ.สมบัติ ได้นำหลักการดังกล่าวเข้ามาสู่การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยแพทย์ ให้เห็นความสำคัญของการรักษาเซลล์สมองหลังจากกู้หัวใจได้อย่างต่อเนื่อง



"สิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก คือ วิธีไฮโปเธอร์เมีย ควรจะต้องดำเนินการทันที หลังจากปั๊มหัวใจกู้ชีพจรให้เต้นขึ้นมาได้ และการไหล เวียนเลือดกลับมาเป็นปกติ แต่บ้านเรายังมีความเข้าใจเรื่องนี้น้อยมาก จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ขยายวงกว้างในวงการแพทย์ ซึ่งการช่วยเหลือที่ถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแบบเจ้าหญิง/เจ้าชายนิทรา" นพ.สมบัติกล่าวในที่สุด



Create Date : 30 กันยายน 2556
Last Update : 30 กันยายน 2556 9:02:03 น. 0 comments
Counter : 1578 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.