สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีสั่ง รพ.มะการักษ์ เร่งเรียกคืนยาจากผู้ป่วยโรคความดันด่วน หลัง อภ.บรรจุยาโรคหัวใจสลับแผงกัน เบื้องต้นพบจ่ายยาดังกล่าวไปแล้ว 939 ราย โชคดีผู้ป่วยยังไม่มีอาการผิดปกติ...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ก.ย. 56 นพ.อภิชาติ รอดสม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหลังองค์การเภสัชกรรมบรรจุยาผิด และ รพ.มะการักษ์ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ได้สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยไป ว่า ตนได้รบทราบข่ววแล้ว จึงสั่งการไปยัง รพ.มะการักษ์ ให้เร่งดำเนินการแก้ไข โดยเรียกคืนยาทังหมดเพื่อนำส่งคืน เบื้องต้นทราบว่าได้เรียกกลับคืนมาไปประมาณ 30% แล้ว และกำลังติต่อผู้ป่วยเพื่อขอรับยาคืน รวมถึงยัดยาที่ถูกต้องไปเปลี่ยนให้ ซึ่งน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเร็วๆ นี้

ด้าน นพ.ธีระชัย คงเอี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการ รพ.มะการักษ์ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ทาง รพ.มะการักษ์ ได้สั่งยาลอตนี้มาจริง โดยทราบว่าเกิดความผิดพลาดขั้นตอนการบรรจุยาขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) โดยพบว่ามีการบรรจุยา Isosorbide Dinitrate 10 มิลลิกรัม ซึ่งใช้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ ลงในซองยา Amlodopine 5 มิลลิกรัม สำหรับรักษาโรคความดันโลหิต ซึ่งยาลอตหมายเลข F561217 ที่บรรจุผิดนั้น องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้กระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เช่น รพ.มะการักษ์ จ.กาญจนบุรี, รพ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ, รพ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ, รพ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี และ รพ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

ผอ.รพ.มะการักษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หยุดจ่ายยาลอตดังกล่าวทันที เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ผลจากการตรวจสอบพบว่า รพ.มะการักษ์ ได้สั่งซื้อยาลอตดังกล่าวมาจำนวน 2,000 กล่อง ซึ่งบรรจุกล่องละ 100 เม็ด รวม 200,000 เม็ด โดยเม็ดยาบรรจุอยู่ในแผงฟรอยล์ทึบ แผงละ 10 เม็ด โดยแพทย์ได้ทำการสั่งจ่ายยาไปให้กับผู้ป่วย จำนวน 939 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสูงอายุ รวมเป็นจำนวนเม็ดยา 66,600 เม็ด และได้เรียกคืนยาจากผู้ป่วยมาแล้วเกือบ 20,000 เม็ด โดยทางโรงพยาบาลเมื่อได้รับการแจ้งจาก อภ. ก็รีบดำเนนการแก้ปัญหาทันที โดยตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดตามผู้ป่วยที่ได้รับยาดังกล่าวไปรับประทาน เพื่อแจ้งให้หยุดรับประทานยาดังกล่าวทันที พร้อมกับให้นำยาที่ได้รับไปมาเปลี่ยนยาใหม่ไปรับประทาน

นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังได้โทรศัพท์ติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยรายใดมีอาการผิดปกติหลังจากรับประทานยาดังกล่าวเข้าไป เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน สำหรับยาลอตดังกล่าวที่ทางโรงพยาบาลได้เรียกคืนมาจากผู้ป่วย ขณะนี้ได้ส่งคืนยาลอตที่มีปัญหาให้กับองค์การเภสัชกรรมไปแล้ว และจะทยอยส่งคืนอย่างต่อเนื่อง.