พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
13 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
เดินหน้าสภาปฏิรูปประเทศ

เดินหน้าสภาปฏิรูปประเทศ

รัฐบาลผ่าทางตันการเมือง-ออกแบบประชาธิปไตย

เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยในอนาคต

นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรฯ ผู้ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ไปเทียบเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ทุกสี เข้าร่วมเวทีหาทางออกจากความขัดแย้ง เปิดมุมมองกับ “ทีมข่าวการเมือง” ถึงเจตนารมณ์ของนายกฯ และรัฐบาลถึงข้อเสนอตั้งสภาปฏิรูปการเมือง

ขณะนี้มีการกระจายความรับผิดชอบ ใช้ทุกวิถีทางประสานงาน ทาบทามฝ่ายต่างๆเข้าร่วมเวทีดังกล่าวทั้งหมดแล้ว โดยมีบุคคลสำคัญที่จะต้องไปเชิญและหลายฝ่ายตอบรับเข้าร่วมโดยไม่ต้องไปเชิญ  แต่คู่ขัดแย้ง 2 กลุ่มใหญ่ คือพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังไม่ตอบเข้าร่วม

ผมเชื่อว่าสุดท้ายหลังจากพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจบหรือหลังจากสภาปฏิรูปการเมืองเริ่มต้นไประยะเวลาหนึ่ง  อาจจะกลับเข้ามาร่วมเวทีหาทางออกให้ประเทศ

ทางด้านกลุ่มอื่นๆที่เป็นคู่ขัดแย้งเห็นต่างกับแนวทางของรัฐบาล เช่น กลุ่มอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่ององค์กร มาในฐานะตัวบุคคล เชื่อว่าจะเข้าร่วมโดยไม่ยาก กองทัพก็อยู่ในข่ายต้องเชิญมาร่วม แต่จะเชิญภายหลังจากตั้งสภาปฏิรูปการเมือง

ตัวแทนกลุ่มอำมาตย์ ที่ฝ่ายตรงข้ามมองว่าเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและอดีตนายกฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นคู่ขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเชิญเข้าร่วมเวทีอย่างไร นายวราเทพ บอกว่ารัฐบาลไม่ได้ดูที่รายชื่อ

แต่ดูบุคคลที่ตำแหน่งอยู่ในข่ายที่จะต้องเชิญทั้งหมด อาทิ อดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภา หัวหน้าพรรคการเมือง กลุ่มที่มีความขัดแย้ง นักวิชาการ ภาคเอกชน เครือข่ายภาคธุรกิจ บางท่านอาจมีข้อจำกัดด้านคุณสมบัติ เช่น ประธานองคมนตรี องคมนตรี

บางท่านมีข้อจำกัดส่วนบุคคล เช่น คุณอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ท่านทักษิณมีข้อจำกัดด้านการเข้าร่วมประชุม อาจร่วมประชุมโดยแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางอื่น เพราะท่านเห็นด้วยในเรื่องนี้ อยากเห็นบ้านเมืองสงบ ท่านพูดเสมอว่าอยากให้คิดถึงภาพรวม อย่าไปคิดถึงท่าน

วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีเงื่อนไขให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไปก่อนถึงเข้าร่วมเวที ทางออกประเทศไทย นายวราเทพ บอกว่ารัฐบาล บริหารประเทศจำเป็นต้องทำหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน จะต้องแยกให้ชัดเจนถึงสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ขอให้มองในมิติการแก้ไขปัญหาในทุกๆด้าน

อย่ามองทุกอย่างเป็นเงื่อนไข  ฝ่ายค้านจะสบายใจขึ้นถ้าพิจารณาทบทวนว่าสิ่งที่รัฐบาลเชิญชวนมาร่วมหาทางออกให้คนในชาติมากกว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล ฉะนั้นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ยังต้องพิจารณาวาระที่ 2 วาระที่ 3 เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมให้ผ่านไปได้ง่ายๆ

หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่สบายใจกฎหมายฉบับนี้จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือไปช่วยเหลือนิรโทษกรรมคนใดคนหนึ่งหรือระดับแกนนำ ก็สามารถควบคุมในชั้นการแปรญัตติไม่ให้มีเนื้อหาเปลี่ยนแปลง

หรือเมื่อเวทีนี้เดินหน้าไปได้ระยะ 1-2 เดือน พรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น เปลี่ยนแปลงหรือต้องการให้เนื้อหามีความชัดเจนมากขึ้น ก็นำมาพูดคุยในสภาปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกให้ประเทศในอนาคต รับรองมันมีผลแน่ต่อการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ มันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

เพราะวันนี้คนที่เสนอกฎหมายไม่ได้หมายความว่าจะต้องประกาศใช้เป็นกฎหมายถึงจะสำเร็จ ถ้าสภาปฏิรูปการเมืองมีแนวทางอื่นที่ทำแล้วมีผลดีกว่าเดิม มีการดูแลประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม

เชื่อมั่นว่าภายในเดือน ส.ค.นี้จะนัดหารือเป็นครั้งแรก เมื่อเริ่มต้นแล้วจะสำเร็จแค่ไหนขึ้นอยู่ที่ทุกฝ่ายต้องลด ละ เลิกทิฐิ ลดเงื่อนไขต่างๆ ทุกคนต้องปล่อยวาง คิดถึงอนาคตว่าวันนี้จะทำอะไรให้บ้านเมืองบ้าง

และขึ้นอยู่ที่สภาปฏิรูปการเมืองว่าบุคคลที่เข้าร่วมมีใครเป็นที่ยอมรับของคณะทั้งหมด จะทำให้การหารือมีประสิทธิภาพ มีข้อสรุปทางออกของประเทศที่ชัดเจน เป็นข้อสรุปที่ประชาชนหรือสังคมส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับโดยปริยาย แต่เราไม่อยากเห็นข้อสรุปที่ได้มาต้องนำกลับไปทำประชามติสอบถามประชาชนอีกจะได้ไม่เสียเวลา

วันนี้รัฐบาลต้องเดินไปข้างหน้าโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีแนวคิดเป็นฝ่ายกำหนดแนวทางสภาปฏิรูปการเมือง เพียงแค่ นายกฯ เป็นผู้ริเริ่มเปิดเวทีดังกล่าว หลังจากนั้นอาจจะขอไม่เข้า ไปมีส่วนร่วมในการ แสดงความคิดเห็น

เพื่อต้อง การให้ทุกฝ่ายมีอิสระแสดงความคิดเห็น อยากเห็น ผู้ที่มาร่วมเวทีเป็นฝ่ายกำ– หนดแนวทาง ดังนั้นใน อนา– คตไม่สามารถตอบได้ว่าสภาปฏิรูปจะเสนอแนวทางปฏิบัติอย่างไรบ้าง

รัฐบาลถูกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกล่าวหาว่าเรื่องนี้ดำเนินการช้าไป เป็นแค่ปาหี่ สร้างภาพ ซื้อเวลา นายวราเทพ บอกว่ามันช้าไป รัฐบาลซื้อเวลาหรือไม่ มุมมองอย่างนี้ห้ามกันไม่ได้ รัฐบาลจะไม่ไปโต้ตอบเพราะต้องการเดินไปข้างหน้า อยากเห็นทุกฝ่ายช่วยกันคิดในลักษณะนี้ อยากลองเปิดโอกาสให้กระบวนการดำเนินการไปก่อน

ตอนนี้มี 2 สเต็ป สเต็ปแรกต้องการให้สภาปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้น จะได้มีประเด็นหัวข้อพูดคุย ขณะนี้เมื่อเห็นรายชื่อผู้ที่เข้าร่วมพอมีความหวังอยู่ ถือว่าเป็นความสำเร็จขั้นต้น หากมีกลุ่มพันธมิตรฯ พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจะทำให้โครงการนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

สเต็ปที่สองเมื่อแผนดำเนินการผลสรุปสุดท้ายออกมาชัดเจน หาทางออกให้สังคมไทย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมืองในอนาคต เป็นความสำเร็จที่คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับ

ถึงเวลานั้นไม่ต้องห่วงว่าใครจะเข้ามาร่วมหรือไม่ กระแสสังคมจะบีบให้คนเหล่านี้เข้าร่วมโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะหากเป็นพรรคการเมืองจะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ มันมีผลกระทบต่อคะแนนนิยมต่อพรรคการเมือง

“ทีมข่าวการเมือง” ถามว่าผลสรุปของสภาปฏิรูปการเมืองต้องการแค่ปฏิรูปการเมืองหรือปฏิรูปโครงสร้างประเทศไทย นายวราเทพ บอกว่า รัฐบาลต้องการปฏิรูปการเมืองเป็นหลักก่อน หากดำเนินการสำเร็จ การแก้ไขปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมจะตามมา

กรอบเวลาของสภาปฏิรูปการเมืองก็มีความสำคัญมาก ระยะเวลาที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 1 ปี บวก ลบ ถ้าเร็วกว่านี้ยิ่งดี บางเรื่องถ้ามีแนวคิดที่สมบูรณ์ก็ส่งให้ฝ่ายที่รับผิดชอบไปดำเนินการได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้สภาปฏิรูปการเมืองสรุปภาพรวมทั้งหมดก่อน

เช่น จะต้องแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย เร่งแก้ปัญหาประชาชนที่เดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สภาปฏิรูปการเมืองก็ส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมืองไปดำเนินการแก้ไข ไม่ต้องรอผลสรุปในภาพรวมของสภาปฏิรูปการเมือง

หรือสภาปฏิรูปการเมืองอาจเห็นว่าระยะทำงานมีจำกัด จะต้องกำหนดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข เช่น ปัญหาความขัดแย้ง การวางกฎระเบียบ กติกาของสังคม การแก้ไขกฎหมาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องอะไรที่เกิดจากความไม่เข้าใจจากสาเหตุใดก็ตามจะหมดไปโดยเร็ว

รัฐบาลยุบสภาฯก่อน สภาปฏิรูปการเมืองจะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างไร นายวราเทพ ออกตัวทันทีว่า รัฐบาลไม่ยุบสภาฯ ในเร็ววันนี้ เหลือระยะเวลาบริหารประเทศอีก 2 ปี แต่สภาปฏิรูปการเมืองใช้ระยะเวลาดำเนินการจนได้ข้อสรุปไม่น่าจะเกิน 1 ปีหรือเร็วกว่านั้น ทันก่อนที่รัฐบาลหมดวาระ

และการยุบสภาฯ ไม่ใช่อุปสรรค ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากเปิดเวทีครั้งแรกแล้วสำนักนายกฯ เห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องออกระเบียบ ตั้งงบประมาณก็ต้องทำ เพื่อให้สภาปฏิรูปการเมืองอยู่ต่อไป

มีคำถามว่าหากไม่มีสภาปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นมา อีก 1-2 ปีประเทศไทยจะมีสภาพเป็นอย่างไร ขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นรุนแรงเหมือนในหลายประเทศที่ลุกเป็นไฟ เกิดการเผชิญหน้ากัน เพราะทุกวันนี้หลายคนใช้ชีวิตตามปกติ

เมื่อเป็นเช่นนี้ถามว่าจำเป็นต้องมีสภาปฏิรูปการเมืองหรือไม่ ไม่มีจะเกิดอะไรขึ้น มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และขึ้นอยู่กับทุกคน มันอาจจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรืออาจจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ก็ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องมีสภาปฏิรูปการเมืองดีกว่าไม่มี เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขอประกาศย้ำจุดยืนว่ารัฐบาลจริงใจดำเนินการตั้งสภาปฏิรูปการเมือง นายกฯ ต้องการทำวันนี้ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้เป็นมรดกความขัดแย้งตกสู่ลูกหลาน

ผลสรุปไม่ได้หวังผล 100% ถึงจะดำเนินการ แม้สำเร็จเพียง 1% ก็ต้องทำ.




Create Date : 13 สิงหาคม 2556
Last Update : 13 สิงหาคม 2556 3:13:06 น. 0 comments
Counter : 1085 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.