//www.kumarntalk.com/topic/280"คนในซอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรถผีสิงถ้าท่านมาจากสี่แยกสะพานควายไปทางลาดพร้าว ผ่านวัดไผ่ตันไปหน่อยก็จะถึงสามแยกที่เลี้ยวซ้ายไปตลาดอ.ต.ก. เลยไปอีกหน่อยก็คือพหลโยธิน ซอย 18 ติดกับกรมขนส่งทางบก...ซอยนี้ไปออกสุทธิสารซอย 15 ได้ หรือจะเลยไปออกวิภาวดี 3 ก็ได้
ไม่ต้องเลี้ยวไปไหนให้เสียเวลา เพราะตรงกลางเกาะใต้ทางด่วนรถไฟฟ้านั่นมีป้อมตำรวจจราจรโดดเด่นเป็นสง่าให้บรรดาตีนผีกับสิงห์มอเตอร์ไซค์ยำเกรง
เรื่องขนหัวลุกเกิดขึ้นที่นั่นแหละ!
เมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคม 2549 จู่ๆ ก็มีซากรถยนต์พังยับเยินแบบหักกลาง โผล่ขึ้นมาประดิษฐานใกล้ๆ ป้อมตำรวจ...ไม่ว่าใครๆ มองเห็นเข้าก็ต้องชะงักกึกหันกลับไปมองซ้ำเพราะมันน่ากลัว น่าสยดสยองใจเต็มที
ถามว่าอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นที่ไหน? กับรถพังแทบเป็นเศษเหล็กแบบนี้ ไม่ว่าคนขับหรือคนที่นั่งมาด้วยจะรอดชีวิตหรือเปล่าหนอ?
เหตุเกิดขึ้นที่ถนนวิภาวดีรังสิต ก.ม. 11 ใกล้ๆ นี่เอง!
ผลคือ ตายคาที่ 2 บาดเจ็บสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 คน ว่าแต่ตำรวจอุตริลากมาตั้งโดดเด่นอยู่ที่นั่นเพราะอะไร?
คำตอบคือ เพื่อเตือนใจพวกเมาแล้วขับ ชอบซิ่ง ชอบฝ่าฝืนกฎจราจรจะได้ฉุกคิดว่า ถ้าคึกคะนองหรือประมาท อาจจะพบจุดจบแบบรถคันนั้นก็ได้...หรือใครอยากจะไปอยู่ป่าช้าก่อนอายุขัยอันสมควรก็ตามใจ
เหนือซากรถยังมีเครื่องหมายโดดเด่นบนป้ายสีขาว ที่ตำรวจทำไว้ให้คิด
!!! ---
ชาวบ้านร้านช่องในละแวกนั้นมองเห็นแล้วมักเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว...ว่าจะไม่มองก็อดเผลอหันไปมองไม่ได้ ราวกับมีอะไรมาดึงดูดสายตาโดยไม่ได้ตั้งใจเลย!
คนที่อยู่ในซอย 18 ปกติก็ไม่อยากกลับบ้านกลางค่ำกลางคืนอยู่แล้ว...ไหนจะหวาดระแวงเจ้าพ่อโพธิ์ที่ยืนทะมึนอยู่กลางซอย เบียดเสียดกับกำแพงรั้วกรมขนส่ง...จะเฮี้ยนสุดๆ แค่ไหน ก็ขนาดไม่กล้าโค่นต้นโพธิ์ทิ้งเพื่อสร้างกำแพงก็แล้วกัน
ไหนจะโผล่ออกมาเจอซากรถที่รู้ๆ อยู่ว่าคร่าชีวิตมนุษย์ไปถึง 4 คนเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี่เอง...ไม่อยากเสียค่ามอเตอร์ไซค์เข้าซอย 10 บาทก็ต้องตัดใจควักเงินโดยดี
ถือคติว่า...เสียเงินดีกว่าโดนผีหลอก!
วันแรกๆ ที่มีซากรถน่าสะพรึงกลัวมาประดิษฐานอยู่ที่นั่นมีคนเห็นแสงไฟกะพริบวูบวาบ พอจ้องมองอีกทีก็หายไปแล้ว
คนแถววัดไผ่ตันเล่าว่าขับรถกลับบ้านตอนดึกๆ หันไปมองก็เห็นร่างดำๆ รุมล้อมอยู่รอบรถ ตำรวจจราจรอุบเงียบอยู่ในป้อม...ร่างเหล่านั้นหันมามองพลางโบกไม้โบกมือ เล่นเอาขนหัวลุกตั้ง มือไม้สั่นจนแทบจะขับรถกลับบ้านไม่ไหว
คนแถวข้างโรงแรม 24 ก็บอกว่าเคยผ่านมาตอนดึก ได้ยินเสียงแตรรถกดถี่เร็วนึกว่าโดนคันหลังบีบแตรไล่ มองทางกระจกหลังก็ไม่มี พอเสียงแตรดังขึ้นอีกทีก็นึกขึ้นได้...สะดุ้งโหยง เย็นวาบไปทั้งตัวบัดดล
มันดังมาจากรถผีสิงคันนั้นน่ะซี! เขาบีบแตรทักทายหรือเตือนสติด้วยความหวังดี...อย่ารีบร้อนไปตายเหมือนพวกเขาเลย
ยกมือไหว้ แตะเบรก...เล่าไม่อายว่าเกือบจะร้องไห้โฮ!
ทำไมวิญญาณทั้ง 4 จึงเฮี้ยนจัดขนาดนั้นล่ะ?
เมื่อนำซากรถมาไว้ที่นั่นได้ไม่นาน มีตำรวจประจำป้อมนายหนึ่ง นึกขลังอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ ได้จุดธูป 1 ดอกปักไว้ที่หน้าซากรถ พลางบอกกล่าวเสียงดังฟังชัดว่า
"ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินที่วัดไผ่ตันนะ! กินอิ่มแล้วก็ขอให้กลับมาอยู่ที่นี่ตามเดิม...ไอ้พวกตีนผีตีนปีศาจมันจะได้ยำเกรงเสียที!"
เท่านั้นแหละได้เรื่อง!!
เชื่อว่าวิญญาณทั้ง 4 ถูกจุดธูปเรียกร้อง ไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้เพราะควันธูปที่อวลกรุ่นสะกดไว้ เมื่อไปหาเครื่องเซ่นกินที่วัดไผ่ตันแล้ว จึงต้องกลับมา...สิงสู่อยู่ที่ซากรถน่าสยดสยองตั้งแต่นั้นมา
เวลาผ่านไปราว 3-4 เดือน รถผีสิงคันนั้นก็ถูกย้ายจากหน้าป้อมตำรวจไปแล้ว จะย้ายไปไว้ที่ไหนก็ ไม่มีใครแยแส ท่ามกลางความโล่งอกโล่งใจของผู้คนละแวกนั้น...เหลือแต่เรื่องขนหัวลุกเล่าสู่กันฟัง!