สพธอ. เผยผลสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย พบโซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางสื่อสาร อัพเดทข้อมูล ข่าวสารของผู้ใหญ่ ด้านเยาวชนใช้เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก จี้ปรับปรุงความล่าช้าปัญหาหลัก...
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. เปิดเผยว่า จากการสำรวจประชาชนจำนวน 23,907 ราย พบว่าผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในปีนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากปี 2544 ที่มีจำนวนการใช้งานอินเทอร์เน็ต 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ในปีนี้พบว่าจำนวนการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยอยู่ที่ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ผู้อำนวยการ สพธอ. กล่าวว่า กว่า 50% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในโครงการฟรีไวไฟ (Free WiFi) รู้สึกพึงพอใจกับบริการดังกล่าว นอกจากนี้คนไทยยังเริ่มพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตจากศูนย์ไอซีทีชุมชน โดยกว่า 55% นิยมใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทั้งโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมากขึ้น จากเดิมที่มีการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีเท่านั้น เนื่องจากต้องการใช้ไลฟ์สไตล์แบบออนไลน์ตลอดเวลา ส่วนผลสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะช่วงเวลาหลักเลิกเรียนจนถึงค่ำ พบว่าส่วนใหญ่ใช้เพื่อความบันเทิงทั้งเล่นเกมออนไลน์และดาวน์โหลดสื่อบันเทิง ซึ่งนิยมใช้บริการตามอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง
นอกจากนี้ สพธอ.ยังได้สำรวจเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียของคนไทย พบว่ากว่า 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้โซเชียลมีเดียและส่วนใหญ่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งเฟซบุ๊กเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดของคนไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่นิยมใช้เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสาร อัพเดทข้อมูล ข่าวสาร ทั้งนี้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างเคยซื้อสินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดีย โดยผู้ชายมักเลือกซื้ออุปกรณ์ไอทีขณะที่ผู้หญิงจะซื้อเครื่องสำอางและเสื้อผ้า ด้วยมูลค่าการซื้อสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 บาทต่อครั้ง
ส่วนปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน พบว่าประเด็นความล่าช้าของการสื่อสารเป็นปัญหาอันดับแรกที่ผู้ใช้บริการพบและต้องการให้ปรับปรุง.