สำนักงานป.ป.ช. โต้ทักษิณกรณีกล่าวหามีบุคลากรรีดเงิน 600 ล้าน ล้มคดีซุกหุ้นภาคแรก เรียกร้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนพร้อมแจ้งความเอาผิด เนื่องจากคดียังไม่หมดอายุความ...
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงกรณีตามที่มีข่าวแพร่หลายในสื่อมวลชน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์มายังเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวอ้างว่า เมื่อปี 2542 มีคนของสำนักงาน ป.ป.ช. ชื่อนายแอ๊บยื่นข้อเสนอขอเงิน 600 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีซุกหุ้นนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและเสียหายอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ของสำนักงาน ป.ป.ช. และกระทบต่อความรู้สึกของบุคลากรของสำนักงาน ป.ป.ช. ตลอดเวลาที่ผ่านมา บุคลากรทุกระดับปฏิบัติงานโดยปราศจากแรงกดดันจากฝ่ายใดทั้งสิ้น และยึดมั่นการทำงานอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงตามกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ข้อมูลพยานหลักฐานที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องทำให้สังคมเห็นชัดว่า สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลาง เป็นธรรม และเป็นที่พึ่งของประชาชน อันเป็นจุดยืนในการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และบุคลากรของสำนักงาน ป.ป.ช. ทุกคน
สำนักงาน ป.ป.ช. เห็นว่า ข้อมูลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อ้างว่า คน ป.ป.ช. เรียกเงิน 600 ล้าน เพื่อช่วยเหลือคดีซุกหุ้นนั้น ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถึง 2 สมัย ซึ่งสามารถดำเนินคดีกับบุคคลนั้นได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ข้อหาเจ้าพนักงานทุจริตตามมาตรา 149 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่ก็หาได้กระทำไม่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เวลาปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่หมดอายุความ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมสามารถนำพยานหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ไปเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือคดีซุกหุ้นได้เช่นกัน แต่กลับไม่ดำเนินการ จึงขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยข้อมูลให้กระจ่างแจ้งต่อสาธารณชน โดยมอบหมายให้ทนายความแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเอาผิดกับบุคคลดังกล่าว หากนิ่งเฉยไม่ดำเนินคดีย่อมมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157