เอไอเอส แจงกรณีไอโฟน 5 ระเบิดเมื่อ มี.ค. ยันมีการชดเชยเครื่องใหม่แก่ผู้เสียหายแล้ว พร้อมดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่...

หลังเกิดเหตุการณ์ไอโฟน 5 ระเบิด กับผู้ใช้ชาวไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมาตรฐาน ในการผลิต การตรวจสอบคุณภาพสินค้า รวมถึงกระบวนการจัดจำหน่าย ซึ่งในกรณีนี้ สินค้าดังกล่าวจำหน่ายโดยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในแวดวงโทรคมนาคม ทำให้ถูกหลายฝ่ายจับตามองว่าเอไอเอสมีมาตรฐานในการรับผิดชอบดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างไร

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทีมข่าวไอทีออนไลน์ พบว่าการรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่มือถือระเบิดนั้น ในฐานะตัวแทนจำหน่าย อาจไม่จำเป็นต้องชดเชยเครื่องใหม่แก่ลูกค้า หรือหากจำเป็นต้องชดเชยลูกค้าด้วยเครื่องใหม่ ตามขั้นตอนจะต้องรอผลการตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน ซึ่งหากพบว่าสาเหตุการระเบิดนั้นเกิดขึ้นจากความผิดพลาดซึ่งอยู่ภายใต้การรับประกัน ลูกค้าถึงจะได้รับการชดเชยด้วยการเปลี่ยนเครื่องใหม่ กรณีนี้จึงถือว่าในฐานะผู้ให้บริการรายใหญ่ เอไอเอสได้รับหน้าและดูแลลูกค้าด้วยการชดเชยเครื่องใหม่ให้อย่างทันควัน

โดย นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสทำงานกับผู้ผลิตอุปกรณ์ระดับโลกที่มีมาตรฐานของการผลิตอุปกรณ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล และเราเองก็ปฏิบัติตามขั้นตอนของมาตรฐานดังกล่าวทุกประการ อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น สิ่งที่เอไอเอสดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การเร่งตรวจสอบที่มาของปัญหาร่วมกับผู้ผลิตอุปกรณ์  และการดูแลลูกค้าเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับกรณีเครื่องมีปัญหาที่ผ่านมา เอไอเอสได้ดูแลลูกค้าเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้แถลงถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีไอโฟน 5 ระเบิด ว่าหลังจากที่สำนักงาน กสทช. ได้ส่งเครื่องไปตรวจสอบตามที่ บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) ระบุให้ไปตรวจสอบที่บริษัท แอคโพแนนท์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ล่าสุด พบว่าสาเหตุการระเบิดของไอโฟน 5 เครื่องดังกล่าวเกิดระเบิดเนื่องจากแบตเตอรี่ความร้อนสูงเกินกำหนด ซึ่งพบว่ามีสาเหตุจากสกรู หรือนอต ได้หลุดไปอยู่ใต้ถาดแบตเตอรี่ ทำให้เกิดการลัดวงจร โดยนอตที่พบไม่ใช่ส่วนประกอบเดิมของเครื่องไอโฟน 5 และยังพบว่านอตที่อยู่บนฝาเครื่องภายนอกของตัวโทรศัพท์ที่เป็นดาว 5 แฉกอยู่ผิดรูป แสดงให้เห็นว่าโทรศัพท์มีการถอดหรือเปิดเครื่อง

อย่างไรก็ตาม จากนี้ยังคงต้องติดตามว่าท้ายที่สุดแล้ว เรื่องดังกล่าวจะมีบทสรุปอย่างไร ผู้บริโภคจะได้รับการดูแลจากผู้ให้บริการในการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพเข้ามาจำหน่ายและให้บริการหรือไม่ นอกจากนี้ ในฐานะที่มีหน่วยงานเจ้าภาพอย่าง กสทช. จะทำให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรมได้หรือไม่ เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดกฎระเบียบขึ้น ภายหลังจากที่ต้องรอให้ต้องเกิดเหตุร้ายขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่งก่อน แบบที่ประเทศเรานิยมปฏิบัติกันอยู่ร่ำไป.