|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เลี้ยง 'ไส้เดือน' กำจัดขยะสด ทางออกปัญหาสู่รายได้ชุมชน : โดย ... สุวรรณี บัณฑิศักดิ์
เลี้ยง 'ไส้เดือน' กำจัดขยะสด ทางออกปัญหาสู่รายได้ชุมชน : โดย ... สุวรรณี บัณฑิศักดิ์
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันปัญหาขยะล้นเมืองเกิดขึ้นในทุกชุมชน ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ลงตัว โดยเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีก็ไม่ต่างไปจากชุมชนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาการกำจัดขยะมายาวนาน ซึ่งมีปริมาณขยะในแต่ละวันเฉลี่ย 120-130 ตันต่อวัน มีทั้งขยะสดและขยะแห้ง โดยขยะบางส่วนต้องใช้วิธีการฝังกลบอาศัยพื้นที่นอกเมือง ขณะที่บางส่วนก็ทำการคัดแยกเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่หรือที่รู้จักในรูปของกระบวนการรียูสและมีจำนวนไม่น้อยนำไปแปรเปลี่ยนสภาพหรือกระบวนการรีไซเคิล แม้ว่าจะมีระบบการคัดแยกบริหารจัดการดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ทั้ง 100% จึงจำเป็นต้องหาแนวทางกำจัดทางอื่น
ด้วยสภาพปัญหาขยะที่เกิดขึ้นและนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ภายใต้การบริหารของ "ธีระกิจ หวังมุทิตากุล" นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้สำนักงานการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จัดทำโครงการเลี้ยงไส้เดือนดินกำจัดขยะ โดยได้ทดลองนำไส้เดือนดินสายพันธุ์แอฟริกา คัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์การกำจัดขยะสดแล้วแปรสภาพมาเป็นปุ๋ยเสริมรายได้ให้ชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
"การเลี้ยงไส้เดือนดินเพียงแค่นำพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนมาเลี้ยงประมาณ 1 กก.หรือประมาณ 700 ตัวในต้นทุนที่ไม่สูงมาก นำมาขยายพันธุ์ได้หลายเท่าตัวหรือเป็นเพียงการลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ประโยชน์คุ้มค่า โดยไส้เดือนดิน 1 กก.สามารถกำจัดขยะสดได้ถึง 1 กก.หรือมากกว่านั้นและสามารถนำดินและปัสสาวะของไส้เดือนดินจากการเลี้ยงไส้เดือนไปแปรสภาพเป็นปุ๋ยชีวภาพขายได้ราคาดีอีกต่างหาก"
ธีระกิจ อธิบายอีกว่า ขณะนี้เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีเพิ่งเริ่มเลี้ยงไส้เดือนดินมาได้กว่า 1 เดือนแล้ว จำนวน 18 บ่อเลี้ยง ใช้ไส้เดือนดิน 20 กก.ทุกวันนำขยะสดให้ไส้เดือนไม่ต่ำกว่า 20 กก.ซึ่งได้ผลในระดับหนึ่ง เพราะสามารถกำจัดขยะสดในปริมาณที่มากและตั้งเป้าไว้ว่าหากโครงการนี้สำเร็จจะสามารถลดปริมาณขยะได้ไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 60-70 ตันต่อวันอย่างแน่นอน ที่สำคัญดินจากการเลี้ยงไส้เดือนและปัสสาวะของไส้เดือนสามารถนำมาแปรสภาพเป็นปุ๋ยขายได้อีกตันละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้มีตลาดรองรับเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการเลี้ยงไส้เดือนดินนั้น ศุภลักษณ์ พรมแก้ว นักวิชาการสุขาภิบาล สำนักงานการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อธิบายว่า กระบวนการเลี้ยงไส้เดือนดินที่จำเป็นต้องนำพ่อแม่พันธุ์สายพันธุ์แอฟริกานั้น เนื่องจากมีระบบการย่อยสลายดินที่ดี ซึ่งจะกินขยะสดเป็นอาหารหลัก จากนั้นย่อยสลายดินให้เป็นปุ๋ย สามารถไปใช้ผสมกับดินทำเป็นปุ๋ยขายได้ และชุมชนสามารถนำไปเลี้ยงได้ทำรายได้ให้ชุมชนได้อีกมาก โดยอายุของไส้เดือนประมาณ 3-4 เดือน และการเลี้ยงไส้เดือนเมื่อโตเต็มที่ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีความต้องการขยะสดเพิ่มขึ้นอีก แต่ทั้งนี้การให้อาหารไส้เดือนดินต้องเป็นขยะสดที่ไม่มีเศษน้ำแกงเผ็ด เพราะจะมีภาวะเป็นกรด ไส้เดือนดินจะไม่กิน
"มั่นใจได้เลยว่าไส้เดือนดินสามารถช่วยกำจัดขยะสดในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีได้ดีอย่างแน่นอน ที่สำคัญคนในชุมชนมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง แม้ว่าปัจจุบันนี้จะเป็นเพียงการทดลองเลี้ยงไส้เดือนดินที่ในบริเวณสถานที่ว่างและมีความเหมาะสมของโรงฆ่าสัตว์ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยชาวบ้านคนไหนต้องการไปศึกษาสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา" ศุภลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
นับว่าเป็นนวัตกรรมทางธรรมชาติที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีริเริ่มทำและหวังเป็นแบบอย่างให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาขยะ โดยที่ไม่มีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด
----------
(หมายเหตุ : เลี้ยง 'ไส้เดือน' กำจัดขยะสด ทางออกปัญหาสู่รายได้ชุมชน : โดย ... สุวรรณี บัณฑิศักดิ์)
Create Date : 26 เมษายน 2555 |
Last Update : 26 เมษายน 2555 6:02:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2729 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|