พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
"ต่าย"เล่นร้ายท้าทาย มองอนาคตทำเบื้องหลัง

"ต่าย"เล่นร้ายท้าทาย มองอนาคตทำเบื้องหลัง

ณัฐพร อินถา



ครองตัวโสดมาร่วม 7 ปี สำหรับพระเอกหนุ่ม "ต่าย-นัฐฐพนธ์" โดยเจ้าตัวเผยเหตุผลถึงการที่ยังไม่มีสาวใดเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจว่า

"รู้สึกว่ามีแล้วเครียดกว่า เหมือนบางทีมีแล้ว มันจะมีคนมาคาดหวังกับเรา เพราะผมจะ ไม่สามารถควบคุมเรื่องเวลาได้ บาง ทีมีงานด่วนลูกค้า มีประ ชุมวันนี้ก็ต้องรีบทำงาน ซึ่งสมมติเรามีนัดกันก็ต้องยก เลิกเพราะทำงาน"

"คือยังไงผมก็ต้องให้เรื่องความรับผิดชอบก่อน เพราะเรื่องกิน เรื่องไปเจอกัน เป็นแค่การเติมเต็มแค่เราสองคน แต่เรื่องงานยังมีชีวิตอีกหลายชีวิตที่เราต้องหล่อเลี้ยง อันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ แล้วเรารู้สึกว่าการที่ต้องยกเลิก การคาดหวังว่าจะต้องไปเจอกัน แล้วไม่ได้เจอ หรือไปทำอะไรให้เขาไม่ได้ในวันสำคัญของเขา สิ่งต่างๆ แบบนี้เรารู้สึกไม่อยากให้ใครมาคาดหวัง แต่ถ้าเรื่องงานนี้โอเคเลย มันจะมีคำตอบของมันไม่ใช่เรื่องอารมณ์ เชื่อว่าจริงๆ ถ้าเกิดว่าเราพร้อม เริ่มสร้างครอบครัว จะทำให้สามารถสร้างครอบครัวที่แข็งแรง แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมโอเคแล้ว แบบผมเป็นคนเสพติดงานนะ"

เหมือนปิดกั้นตัวเอง ต่ายยอมรับ "ก็มีนะ ปิดกั้นโดยไม่รู้ตัว คือมีแบบบางทีเจอคนแล้วคุยกันถูกคอ ดูพัฒนาการแล้วเริ่มจะพัฒนาไปได้ เราก็จะถีบตัวออกมา เพราะเรารู้ แบบเคยลองหลายครั้งแล้ว ช่วงแรกๆ คือเขาจะยังไงก็ได้ แต่พอมากขึ้นเขาจะไม่ยังไงก็ได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นบ่อย คือถ้ามันยังไงก็ได้อยู่เราก็รักษามันไว้ แต่ถ้ามันเริ่มไม่แล้วเราก็จะมีพื้นที่ของเรา ต้องรู้ว่ามันเต็มเท่านี้ คือเราพร้อมแค่มีเวลาแค่นี้"

ตอนนี้อายุ 33 ปีแล้ว ถึงแก่เวลาที่จะมีคนมาช่วยดูแลหัวใจแล้ว แต่พระเอกหนุ่มยืนยัน "แต่ผมอยู่เป็นโสดได้นะ ถ้า ณ วันนี้ตอบได้เลยว่าอยู่โสดได้ คือมันมีเรื่องงานมาให้คิดทุกวันนะ"

ถามถึงสเป๊กสาว ต่ายระบุว่า "ชอบคนทำงาน ชอบคนมองโลกในแง่ดี แค่นี้จบ"

แสดงว่าคนในวงการก็แทบจะไม่มองเลย "ไม่มอง คือจริงๆ ถ้าเจอก็มองนะ แต่แบบมันตอบไม่ได้นะ คือเรารู้สึกว่าผู้หญิงในวงการจะเหมาะกับผู้ชายที่มีฐานะสูง คือแบบเป็นคนปลูกฝังมายังไงไม่รู้ เรารู้สึกผู้หญิงที่อยู่ในวงการจะมีความสุขก็ต้องแต่งงานกับคนที่มีฐานะ ก็มีนางเอกหลายๆ คนที่แต่งงาน ส่วนใหญ่ก็ไปจบแบบนั้น แล้วมันดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แฮปปี้"

สุดท้าย "ต่าย" เผยมุมมองความรักของตัวเองว่า "เป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับความรักของผมไม่จำเป็นต้องเป็นคู่รักอย่างเดียว เรารักกับงาน รักกับเพื่อนร่วมงาน รักกับผม กับน้อง คือจริงๆ เป็นเรื่องที่ดี ถ้าคุณไม่มีความรัก คุณจะไม่มีแพสชั่นอะไรเลย คือจะไม่มีความสุข"

"ความรักจะเป็นแรงผลักดันให้คุณทำแต่ละอย่างโดยที่คุณไม่รู้สึกเหนื่อย แต่มันจะรักในด้านใดก็แล้วแต่ว่าคุณจะให้ความรักเป็นสิ่งใดที่มันจะสำคัญ"



วัฏจักร

เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 15 ปี จนตอนนี้ อายุ 33 ปีแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม "ต่าย"นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า

"ผมอยู่วงการมา 18 ปี ที่ได้เลยคือพัฒนาการด้านการแสดง สมัยมัธยมฯ เริ่มจากงานโฆษณาก่อน แล้วก็มาได้เล่นหนังเรื่องแรก "ยุวชนทหาร" วันที่ถ่ายหนังเสร็จทางโมเดลลิ่งเรียกเข้าไปแคสติ้งละครของยูม่าก็เลยได้เล่นละครเรื่องแรก "คนของแผ่นดิน" แล้วก็ถ่ายทำละครมาเรื่อยๆ จนทางยูม่าดันให้เป็นตัวนำเล่นเป็นตัวหนึ่งเรื่องแรก "เลิฟสตรอว์เบอร์รี่" ส่วนใหญ่เป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่สนับสนุน"

"ทางยูม่าจะเหมือนครอบครัว อย่างอายุ(ยุวดี ไทยหิรัญ) พี่เอ๋(วิลักษณา) จะคอยสอนแอ๊กติ้งและเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯ จะคอยสอนเรื่องการแสดงตลอด แล้วก็มีอาเม้าท์(ชูชัย องอาจชัย) ที่เป็นผู้กำกับฯ ด้วย จริงๆ เขาก็ดูแลในชีวิตส่วนตัวเราด้วยนะ มีให้คำปรึกษาในการดำเนินชีวิต มีปัญหาอะไรก็คอยให้คำแนะนำ จนทุกวันนี้ก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด โชคดีที่ได้มาเริ่มกับที่ยูม่า"

ถือว่าครูคนแรกเป็นใคร "จริงๆ มีหลายท่าน อย่างพี่เอ๋-วิลักษณา ค่อนข้างสอนเรามากที่สุดเพราะอยู่กับแกเยอะ แล้วก็เคยเรียนกับพี่งัด (สุพล วิเชียรฉาย) ตอนก่อนเล่นหนัง แล้วก่อนเล่นละครก็เคยไปเรียนกับหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) จะมี 3 ท่านที่เราได้เรียนแอ๊กติ้งโดยตรง"

ก่อนหน้านี้ถือเป็นคนที่มีละครและข่าวเยอะ "มันควบคู่กัน ก่อนหน้านี้เยอะมากครับ หลายคนบอกว่าเป็นนักแสดงดีจะได้นู่นได้นี่ แต่จริงๆ ทุกอย่างมีทั้งสิ่งที่ได้และสิ่งที่เสีย อย่างความเป็นส่วนตัวก็ต้องเสียไป ส่วนเรื่องข่าวมีทั้งดีและไม่ดี แต่ก็เข้าใจ"

"อย่างตอนนี้ทุกอย่างก็น้อยลง มันเป็นยุค เป็นวัฏจักร เป็นเรื่องธรรมชาติ อาชีพมันเหมือนคนเห็นนานๆ ก็เคยชินครับ" ต่ายกล่าว



ความรับผิดชอบมาก่อนหัวใจ-ยอมโสด

ผูกขาดบทพระเอกมาตลอด ล่าสุดตัดสินใจชิมลางเล่นร้ายกับบท "ไกรกูณฑ์" หรือ "น้อย" ในละคร "ไฟในวายุ" ทางช่อง 3 พระเอก "ต่าย"นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช ก็ได้รับการกล่าวขวัญว่าเล่นร้ายได้ใจ

ทั้งสีหน้าแววตาที่ดูแล้วทิ้งคราบพระเอกแนวโรแมนติกคอมเมดี้ได้สนิท

วันนี้จังหวะที่เจ้าตัวว่างจากงาน เลยเจียดเวลามาพูดคุยทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว



ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้างกับการเล่นบทร้ายครั้งแรก

ต่าย - "โอเคนะ คนพูดถึงว่าได้เล่นบทร้ายดูเปลี่ยน หน้าดูร้ายจริงๆ ซึ่งเราฟังแบบนี้รู้สึกโอเคนะ แค่ออกไปวันแรกแล้วคนเห็นว่ามันดูเลว ในเรื่องมันจะค่อยๆ ร้าย มีแผนการ ตอนหลังมันไปฆ่าคนตายจริง มีแอบจิตนิดๆ ซึ่งได้เล่นแล้วโอเค บทค่อนข้างท้าทายมาก"



"ตอนแรกที่พี่ปิ่น (ณัฏฐนันท์) ติดต่อมาให้เล่นบทร้ายก็ดีใจนะ รู้สึกอยากลองเปลี่ยนเหมือนกัน เพราะหลังๆ ผมรับบทกุ๊กกิ๊กๆ น่ารัก โรแมนติกคอมเมดี้มาตลอด แล้วบทค่อนข้างซ้ำ ต้องทะเลาะกันก่อน สะดุดล้มหอมกัน มีรถชน ไลน์จะซ้ำอยู่ประมาณนี้ พอเราเจอบทที่ให้เราเล่นแบบเต็มๆ แล้วดราม่าด้วย ผมก็ โอเครับ เพราะตัวแสดงมันมีพัฒนาการ"



พอใจแค่ไหนกับผลงานเล่นร้ายเรื่องแรก

ต่าย - "รู้สึกแฮปปี้ประมาณ 90% สำหรับแต่ละซีนที่เล่นไป แต่อีก 10% ที่เหลือรอคนดู เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันโอเค แต่จริงๆ เราแสดงมาเพื่อให้คนดู ก็รอฟีดแบ็กจากคนดูว่าเขาชอบไหม มีคอมเมนต์ยังไง อินหรือเปล่ากับการแสดงของเรา ถามว่ายากไหม ก็ประมาณนึง"



กลัวไหมว่าจะมีแต่บทร้ายติดต่อมา

ต่าย - "ไม่นะ หลังๆ คือถ้าบทมันมันส์ มีอะไรให้เล่นเราก็เอา หรือจะให้เป็นพระเอกกุ๊กกิ๊กก็รับหมด อยากจะให้มีการแสดงหลายๆ อย่างออกมาให้คนได้ดู จะได้ไม่ยึดติด ส่วนเราจะสามารถมาเล่นเป็นพระเอกได้อีกไหมก็ต้องดูโอกาสจากช่องและจากผู้จัดว่าอันไหนตรงกับเราหรือเปล่า หรือเราควรจะเล่นอะไร ไม่ได้กลัวว่าคนจะติดภาพ เพราะรู้สึกว่าคนดูเปลี่ยนจากสมัยก่อน สังเกตนะบางทีตัวแสดงที่ดังไม่ใช่พระนาง จะเป็นตัวสองตัวสาม ตัวสีสัน บทนู้นนี้ หรือบทที่มีอะไรให้เล่นมากกว่า เดี๋ยวนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป"



ยังมีบทไหนที่อยากลองเล่นอีก

ต่าย - "บทฆาตกร ดูเป็นคนดีแล้วมาพลิกตอนท้าย ดูเป็นมิตรมาตลอดแล้วมาเฉลยตอนหลัง แบบมีตัดไปแล้วมีเฉลยแต่ละเหตุการณ์ที่เราต้องมาเล่นอีกแอ๊กหนึ่งด้วย คือทั้งเรื่องอาจจะเป็นแอ๊กชั่นเดียวมาตลอด มันดูท้าทายดี"



เหมือนมีช่วงนึงหายไปจากหน้าจอทีวี

ต่าย - "ครับ หายไปเพราะผมเปิดบริษัท Mojito Entertainment กำลังเข้าสู่ปีที่ 5 ก่อนหน้านั้นผมจะรับละคร 2 เรื่องมาตลอด เรื่องนึงไม่เกิน 5 เดือน ก็จะมีละครออกต่อเนื่อง"

"แต่ช่วงหลังเปิดบริษัทปุ๊บเราจะแจ้งแล้วก็ขออนุญาตทางช่อง 3 ว่าขอรับทีละเรื่อง คือครึ่งอาทิตย์ถ่ายละคร อีกครึ่งอาทิตย์ขอเข้าออฟฟิศถ่ายรายการตัวเอง แล้วจะมีละครช่วงหลังๆ ที่รับเรื่องเดียวแต่ถ่ายที 7-8 เดือน ก็ออกไม่ต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ งานมีมาเรื่อยๆ แต่เราเองด้วยอายุมากขึ้น ต้องทำงานอย่างอื่นปูฐาน มีงานอีกหลายอย่างต้องรับผิดชอบ"



บริษัท Mojito Entertainment นี่ทำอะไรบ้าง

ต่าย - "ผลิตรายการโทรทัศน์ครับ มีรายการ "เดอะ กิฟวิ่ง" (The Giving) ช่วยเหลือสังคม ออกอากาศทางช่อง 5 บ่าย 3 โมง ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ และรายการ "คลับบานเย็น" ทางช่อง 9 ทุกวันพุธ เวลาบ่ายโมง เป็นรายการสำหรับกลุ่มครอบครัวกลุ่มแม่บ้าน แล้วก็มีทำพีอาร์บ้าง อีเวนต์บ้าง ค่อนข้างครบวงจร"



เป็นยังไงบ้างกับการมาจับงานเบื้องหลัง

ต่าย - "มันรู้สึกว่ามีอะไรให้เราพัฒนาเยอะ เรื่องความรับผิดชอบ การบริหารงาน ปกติเราไปแสดงจะรับผิดชอบแค่ตัวเรา ไปทำหน้าที่เราให้เสร็จ แต่นี่เราต้องดูทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนวันสุดท้าย จนเสร็จ จะยากกว่ากัน ทำให้รู้สึกว่าชีวิตยังอีกไกล โลกมันเปลี่ยนไปมันรวดเร็ว เราต้องรอดู ช่วงรอดูก็ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้องค์กรเดินต่อ"



ปีนี้บริษัทจะมีผลงานอะไรใหม่ๆ ให้ชมบ้าง

ต่าย - "ถ้าจะพัฒนาก็อยากจะทำละคร แต่ต้องดูความพร้อม แค่วางแผนไว้เฉยๆ อีกไกล แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้ทำให้กับหลายๆ ช่อง แต่ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดกับแต่ละผู้จัดแต่ละเจ้าที่ประมูลช่องได้ ตอนนี้พยายามเคลียร์งานออฟฟิศให้เรียบร้อยและคงต้องเข้าไปคุย แต่เรื่องแรกถ้าสามารถเลือกได้อยากจะทำให้ทางช่อง 3 แต่ก็ต้องแล้วแต่โอกาสทางผู้ใหญ่ด้วย อันนี้เป็นแค่ไอเดีย ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะให้โอกาสไหม ต้องดูเรื่องความพร้อมด้วย"



กับชีวิตในวงการบันเทิงที่ผ่านมามีส่วนช่วยในงานตรงนี้ไหม

ต่าย - "เยอะครับ ทุกครั้งที่เราทำอะไรทุกคนก็พร้อมจะเปิดรับและให้โอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ที่เดินเข้ามา ก็เป็นสิ่งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องผลงานแล้วว่าเราจะรักษาโอกาสที่เขาหยิบยื่นให้เราครั้งแรก ให้มันมีครั้งที่สอง ที่สาม และต่อๆ ไปยังไง มันโอเคกับการที่จะนับหนึ่งได้เร็วกว่าคนอื่น แต่ในการนับสอง สาม สี่ ผมว่ามันเท่ากัน"



วางอนาคตไกลๆ ไว้ยังไง

ต่าย - "คงทำบริษัทให้ดีที่สุด แล้วถ้าโตอีกหน่อยอยากทำรีสอร์ตเล็กๆ เพิ่ม เพราะอายุเรามากขึ้นแล้ว อีกหน่อยอาจจะไม่ได้อยู่เบื้องหน้าแล้ว แต่ยังไม่เร็วๆ นี้นะ น่าจะ 5-6 ปี ถามว่าทุกวันนี้สุดหรือยังกับงานเบื้องหน้า ยังนะ ผมยังอยากจะอยู่กับมัน การไปถ่ายละครมันสุขนะ เราได้เล่น ได้พัฒนาการ ทุกอย่างมันไปเองเรื่อยๆ ทำให้เราแฮปปี้ ไม่ได้เครียดกับมัน"

ถ้ามีความสุขอย่างนี้เชื่อว่าก็ยังมีผลงานแสดงมาให้แฟนๆ ได้ชมกันอีกนาน



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2557 7:34:10 น. 0 comments
Counter : 1124 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.