เซียนปัญญา น้อยสา มองตลาดพระเครื่องในประเทศไทย

เซียนปัญญา น้อยสา มองตลาดพระเครื่องในประเทศไทย

เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานชมรมพระเครื่องจังหวัด นครพนมมาได้เพียง 5-6 เดือน สำหรับ "ปัญญา น้อยสา" หรือ "เซียนญา" วัย 55 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม เซียนญามีพื้นเพเป็นชาวนครพนม อาชีพเดิมเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ก่อนได้รับชักชวนมาเล่นการเมืองท้องถิ่น รั้งเก้าอี้ส.ท. ครองใจชาวบ้าน 3 สมัย เป็นตัวแทนประชาชนบริการชาวบ้าน

ประธานชมรมพระเครื่อง จังหวัดนครพนมย้อนอดีตให้ฟังว่า มีบ้านอยู่ใกล้วัดกลาง อ.เมือง เข้าออกวัด ขณะอายุ 7-8 ขวบเป็นลูกศิษย์รับใช้พระมหาจรัส อดีตเจ้าอาวาสสมัยนั้น ฝากตัวเป็นศิษย์เดินตามบิณฑบาต กินข้าวก้นกุฏิ ช่วงเวลาดังกล่าวได้ยินชื่อเสียงหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย พระเกจิวิปัสสนากัมมัฏฐาน พระเถระที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา ทั้งอยู่ใกล้วัดจึงได้ห้อยวัตถุมงคลเป็นเหรียญหลวงปู่จันทร์ รุ่น พ.ศ.2515 พร้อมเหรียญหลวงปู่มั่น เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ติดตัวสลับสับเปลี่ยนตามโอกาส

"เมื่อตอนที่ประธานชมรมพระเครื่อง คนก่อนหมดวาระและติดขัดในหน้าที่ราชการ สมาชิกในชมรมขาดหัวเรือ จึงมาเชื้อเชิญให้ผมเป็นประธาน แต่ชั่งใจอยู่นานก่อนตอบตกลง เพราะทนกระแสเรียกร้องไม่ได้ ประกอบกับมีใจรักเป็นทุนเดิม จึงต้องเข้าไปดูแลในภาพกว้าง"

เซียนญาระบุว่า เมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ได้รีบระดมพลสมาชิกในชมรมมานั่งปรึกษาหารือกัน ถึงแนวทางเดินไปข้างหน้า พร้อมทั้งมีความเห็นร่วมกันให้ปัดฝุ่นจัดทำตลาดนัดพระเครื่องขึ้นที่บริเวณ ร้านพีพีเนื้อย่าง (เดิม) มุมแยกถนนศรีเทพฯ ทางไปหมู่บ้านเอื้ออาทร เปิดแลกเปลี่ยนเช่าบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล พระบูชา

จากเดิมมีสมาชิก 40-50 ราย ปัจจุบันเพิ่มเป็น 200-300 ราย เปิดใหม่ยังไม่มีใครทราบ พอเขาเห็นเราทำจริง นำรถของตนเองแห่ประชาสัมพันธ์ ออกอากาศทางคลื่นวิทยุ เซียนพระและนักอนุรักษ์พระเครื่องจากต่างจังหวัด เช่น สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ บึงกาฬ หลั่งไหลนำแผงมาวางจนล้น จึงจัดเต็นท์โต๊ะเก้าอี้ ควักเงินส่วนตัวซื้อกาแฟ เลี้ยงข้าวเที่ยงฟรี ไม่เรียกเก็บคิดค่าเช่า แล้วแต่ใครจะมีน้ำใจช่วยตามความเหมาะสม ทุกคนจึงเริ่มรู้และมากันต่อเนื่อง ทุกวันที่ 17 ของเดือน เวลาตั้งแต่ 09.00-15.00 น. ทุกนัด

เซียนญากล่าวต่อว่า ย่างเข้าฤดูฝนเริ่มมีอุปสรรค พายุฝนฟ้าคะนอง พื้นที่คับแคบฝนสาดพระเครื่อง วัตถุมงคล อาจเปียกน้ำได้รับความเสียหาย จึงลงความเห็นว่าควรเปลี่ยนสถานที่ใหม่ เล็งไปที่ตลาดอินโดจีนชั้น 2 ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ที่จอดรถสะดวกสบาย แต่ต้องประสานกับผู้บริหารเทศบาลอีกครั้งว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่

"พวกเขาจะได้มาแลกเปลี่ยนทัศนะ เช่าบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล พระบูชา เรียนรู้ประวัติเกจิและเหรียญคณาจารย์ในด้านพุทธคุณ ฟื้นฟูอนุรักษ์วัตถุมงคลสายอีสานให้คงอยู่ ผมมองว่าแม้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันราคาข้าวของแพงก็จริง แต่อย่าลืมว่าพื้นฐานของชาวพุทธต้องการแสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ตลาดพระเครื่อง จึงมีบุคคลทุกชนชั้นแวะเวียนเข้ามา ซึ่งต่อไปจะมีกิจกรรมนำสมาชิกไปล่องเรือสังสรรค์ สร้างความเป็นมิตร ผ่อนคลายจากความตึงเครียด"

เซียนญากล่าวถึงวัตถุมงคลคล้อง ติดตัวว่า ห้อยรูปเหมือนหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นลอยน้ำ ได้มาจากวัดช้างให้ จ.ปัตตานี ขณะพาครอบครัวไปแวะทำบุญเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ศรัทธาในความเป็นสุดยอดพระเกจิแดนใต้ จึงอาราธนาติดตัว พร้อมกับสับเปลี่ยนห้อยเหรียญหลวงปู่จันทร์ พ.ศ.2515 เนื้อทองแดงรมดำ

"ผมตอกย้ำสมาชิกเป็นแนวทางเดียวกันว่า ทุกคนที่เข้ามาในวงการต้องซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ไม่หลอกลวง อย่าทำตัวเป็นนักต้มตุ๋น อย่านำวัตถุมงคลที่ไม่ได้ผ่านการปลุกเสกมาปั่นสร้างกระแส อย่าไปลักขโมยหรือหลอกลวงในสิ่งที่ได้มา มีปัญหาอะไรให้มาแจ้ง ขาดตกบกพร่องเราให้คำปรึกษาดูแลช่วยเหลือกัน เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี"

ประธานชมรมพระเครื่อง จ.นครพนม กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "จะเป็นพระรูปใดก็ตาม เป็นพระปูน พระเหรียญ เราเป็นชาวพุทธต้องเคารพนับถือศรัทธา ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งจะจุดธูปเทียนบูชาบอกกล่าว ย้ำเตือนสติให้มีสมาธิอยู่เสมอ"

คอลัมน์ มองอย่างเซียน

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2555		0 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2555 17:27:07 น.
Counter : 5304 Pageviews.
Share Tweet