ลูกอม และ ตะกรุดลูกอม ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน
ลูกอม เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ลักษณะส่วนใหญ่ของลูกอมทำเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็ก ใช้อมเป็นเครื่องรางของขลัง เพื่อคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายในพจนานุกรม ท่านบัญญัติเอาไว้อย่างนั้น ส่วนลูกอม จะมีกำเนิดเกิดขึ้นมาแต่ครั้งใดนั้นไม่ทราบ และก็ยังค้นหาหลักฐานได้ไม่แน่ชัด แต่ผู้เขียนเข้าใจว่าคงเกิดจากการประดิษฐ์คิดแต่งนำเอาวัสดุอาถรรพณ์มาสร้างตามคติ ของท่านโบราณาจารย์ที่เห็นว่าดีงาม มิได้มีระบุไว้ในตำราแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ ในแวดวงนักนิยมสะสมเครื่องรางของขลังจึงปรากฏมีลูกอมสร้างด้วยวัตถุอาถรรพณ์ต่าง ๆ นานาสุดที่จะพรรณนาได้ ครบถ้วนในชั้นนี้ใคร่ขอเขียนเสนอแนะนำเฉพาะลูกอมซึ่งอยู่ในความนิยมเล่นหากันอย่างกว้างขวางเป็นอันดับแรกก่อน ลูกอมผง มีส่วนผสมของผงวิเศษซึ่งได้จากการเขียน ผงตามสูตรบังคับเช่น ผงปถมํ อิถิเจ มหาราช ตรีนิ สิงเห ผงพุทธคุณ และผงเกร็ดต่าง ๆ เป็นต้น ผงวิเศษต่าง ๆ เหล่านี้เป็นของดีที่สำเร็จในอิทธิอภินิหารย์ด้วตนเองมีพุทธานุภาพตามแต่ท่านคณาจารย์จะอธิษฐานจิตลงไปการเขียนผงวิเศษส่วนหญ่ก็เพื่อนำเอามาผสมผสานสร้างเป็นพระเครื่องเช่น พระผงสมเด็จวัดระฆัง วัดใหม่อมตรสของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นต้น การสร้างลูกอมผงนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลพลอยได้จากการสร้างพระเครื่อง คือเมื่อนำเอาผงวิเศษไปผสมผสานคลุกเคล้ากับตัวยึดเกาะและเนื้อหาสำคัญ เช่น ผงปูนหอย กล้วยน้ำว้า น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำมันตั้งอิ๊ว เมื่อเหลือจากการพิมพ์พระแล้วจึงนำเอามาปั้นเป็นลูกอม มีลักษณะเป็นลูกกลมเล็ก ๆ ใช้อม มีพุทธคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระพิมพ์เช่นกัน ลูกอมผงที่มีชื่อเสียงก็คือ ลูกอมของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ท่านนิยมสร้างเป็นลูกกลมมีขนาดเล็กประมาณเท่าปลายนิ้วก้อย สีออกไปทางน้ำตาลส่วนใหญ่ จะปิดทองมาแต่เดิม ส่วนลูกอมผงของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก อำเภอราชบูรณะ กรุงเทพมหานคร สร้างด้วยผงวิเศษผสมผงขี้ธูป สีออกขาวอมเทา (สีนกพิราบ) ลักษณะการปั้นไม่ค่อยจะกลมเท่าใดนักตามความเข้าใจว่าเป็นผงที่เหลือจากการสร้างพระพิมพ์ของหลวงพ่อในชุดพระสมเด็จพิมพ์พระคงและพิมพ์อื่น ลูกอมของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก มีชื่อเสียงโด่งดัง ในเชิงคงกระพันเป็นที่นิยมแสวงหากันมากจนกระทั่งสร้างไม่ทันแจก ท่านต้องให้ลูกศิษย์วัดไปเที่ยวเก็บก้อนกรวดมาปลุกเสกแจกต่างลูกอมก็มี ลูกอมสีเทาดำ เนื้อหยาบ ๆ ของ หลวงพ่อพริ้ง เมื่อคราวเปิดกรุที่วัด ยังพอมีและในแวดวงสนามพระเครื่องเคยเห็นอยู่บ่อย ๆ ส่วนราคาเล่นหาตักอยู่ราว ๆ เม็ดละหลายร้อยบาทยังมีลูกอมของหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร จังหวัดสมุทรสงครามลูกอมของท่าเป็นลูกอมชั้นดีอีกท่านหนึ่งการสร้างของท่านมีเอกลักษณ์เฉพาะคือสร้างด้วยวัสดุอาถรรพณ์ เป็นเนื้อผงสีออกน้ำตาลไหม้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดโตประมาณเท่าหัวนิ้วชี้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ มีหูร้อย หูทำด้วยลวดสังกะสีขมวดเป็นหูฝังอยู่ทุกลูกไป ผิดกับเขาอีกตรงมีหูลูกอมของท่าน ดีตรงเขี้ยวงาคงกระพัน ข้อพิจารณาลูกอมของหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร ประการแรกก็ดูความเก่าความแห้งของเนื้อหา ถัดลงมาก็คือร่องรอยการผุกร่อนของห่วงลวด (ซึ่งปิดเป็นเกลี่ยวอยู่ที่ด้านบน) แลลูกอมเนื้อผง อาจจะมีสร้างกันอยู่หลายคณาจารย์แต่หาเอกลักษณ์เฉพาะรายมาเป็นข้อสังเกตยังไม่ได้
ส่วนลูกอมชานหมาก ไม่มีใครแจ๋วเท่ากับของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา กรุงเทพมหานคร มีอยู่เฉพาะบรรดาลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น กรุณาอย่าไปอุตริหาเข้าเชียวนา จะโดนแหกตา ส่วนของจริงเขาหวงกันอย่างกับอะไรดีเอามาบอกกันพอเป็นที่รู้จักเท่านั้นและลูกอมดินเผาของหลวงพ่อแช่ม วัดดาก้อง จังหวัดนครปฐม ลูกอมของท่านนี้แปลกก็ตรงที่ใช้ดินท้องนาปั้นเป็นลูกกระสุนกลม ๆ ภายในมีกระดาษเขียนหัวใจพุทธมนต์บรรจุอยู่ แล้วเอาเข้าเตาเผาสีแดงอย่างกับสีหม้อดินใหม่ (สีอิฐ) สร้างแจกเป็นจำนวนมากเมื่อครั้งสงครามอินโดจีน ปรากฏว่ากระดาษภายในยังอยู่ปกติดี ไม่มีรอยไหม้เกรียมแม้แต่น้อย แสดงว่าของท่านใช้ได้ดีทีเดียว แม่แต่ลูกอมของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี ละก้อ ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทีเดียวแหละเพราะกิตติศัพท์ในพระเดช พระคุณท่านอาจารย์รูปนี้ดังหลายยิ่งตอนท่านฤๅษลิงดำ เขียนประวัติของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตอนท่านเป็นอาจารย์ด้านวิปัสสนาของหลวงพ่อปานแถมแทรก เกร็ดปาฏิหาริย์เกี่ยวกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ผู้เขียนเอารู้จักหลวงพ่อเนียมดี ก็อีตอนอ่านหนังสือประวัติหลวงพ่อปานนี้เหมือนกัน จะว่าดังไม่ดัง ดูได้จากยอดพระเครื่องเนื้อตะกั่วพิมพ์งบน้ำอ้อย และพิมพ์พระคงของท่าน แต่ถ้าพูดถึงลูกอมของท่านสร้างแปลก และมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองคือสร้างเป็นลูกกลม ๆ ขนาดค่อนข้างเขื่องสักหน่อย ประมาณปลายหัวนิ้วโป้งด้วยเนื้อตะกั่ว เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้สร้างพระเครื่องพิมพ์งบน้ำอ้อย และพิมพ์พระคงนั่นแหละ อีกเนื้อหนึ่งสร้างด้ายเนื้อเมฆพัด ผิดดำสนิทเป็นมันวาว ข้อสังเกตที่สำคัญก็คือ ตรงกลางลูกอม มีรอยบุ๋มลงไป เรียกกันว่า “ลูกอมมีสะดือ” ลูกอมนอกจากจะมีการสร้างด้วยเนื้อผง ตะกั่วเมฆพัด ดังกล่าวมาแล้วยังมีสร้างด้วยวัสดุอาถรรพณ์ชนิดอื่น ๆ อีก น้ำตาเทียนชัย ในการพุทธาภิเศกปั้นเป็นลูกอมนิยมว่าเป็นของดี ขี้ผึ้งนำมาลงอักขระเลขยันต์ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกปั้น เป็นลูกอม ๆ ลักษณะลูกอมเรียกว่า “นวด” ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชั้นดีอีกประการหนึ่ง นวดหรือลูกอมขี้ผึ้งที่แสวงหากันมากก็คือ ลูกอมขี้ผึ้งของหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมรณภาพไปแล้ว ปัจจุบัน หลวงพ่อครู ปริสุทโธ แห่งวัดสระแก้ว จังหวัดนครราชสีมา พระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในด้านการตอกฝังตะกรุด เป็นเอกอุดมในด้านอยู่ยงคงกระพัน และท่านได้สร้างลูกอมขี้ผึ้งอยู่บ้างเหมือนกัน แต่มีแจกเฉพาะลูกศิษย์ลูกหา ถ้าผู้อ่านท่านศรัทธาอยากจะได้ไว้คุ้มตัวเดินทางผ่านไปขอท่านบ้างก็ได้ขออย่างเดียวอย่าว่าผมบอกก็แล้วกัน ลูกอมท่านคณาจารย์นิยมสร้างกันมากก็คือ ลูกอมลบถม ซึ่งส่วนมากนิยมลง (อักขระเลขยันต์) ถมในแผ่นตะกั่ว ซึ่งสะดวกสบายกว่าวัสดุชนิดอื่น วิธีลบถมก็คือหล่อตะกั่วให้ละลายแล้วเทในถาดขนมปาดหน้าให้เรียบแล้ว จึงนำมารจารลงอักขระเลขยันต์ตามถนัดหรือตามพระยันต์ ที่ได้เล่าเรียนมาลงไปภาวนาไปจนเต็มเนื้อที่แล้วก็ใช้ลูกสะบ้าขัดทับลงไปให้เรียบแล้วจึงลงใหม่กระทำอยู่เช่นนี้ไปจนกว่าจะเห็นว่าลงจงดี แล้วให้ลองเอาใส่กระทะหลอมไฟดูถ้าดีถึงเกณฑ์สุดจะหลอม ไม่ละลายนั่นแหละ ท่านอาจารย์จะนำเอามากล่อมเป็นลูกกลม ๆ มีน้ำหนักประมาณ 1 บาท เรียกว่าลูกอมสะกด แจกตามบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและเพื่อความสะดวกในการร้อยเชือกห้อยแขวนคอหรือคาดเอว ท่านจะเจาะรูตรงกลางมีชื่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลูกสะกด” ลูกสะกด เนื้อตะกั่วลบถมของเก่าเคยมีผู้ขุดพบตามกรุหรือเจดีย์เก่า ๆ สมัยอยุธยามีคราบขุมสนิมจับแดงไปหมดแสดงว่า ท่าโบราณาจารย์สมัยโบราณนิยมสร้างกันมากลูกสะกดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เสาะแสวงหากันมาก คือลูกสะกดวัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) เป็นชนิดสร้างด้วยเนื้อชิน เงิน และเนื้อเมฆสิทธิ์ (เป็นอโลหะประเภทเดียวกันกับเนื้อเมฆพัด ตกแตกจะมีสีออกเขียวแบบปีกแมลงทับ ขัดผิวออก เนื้อภายในจะขาววับอย่าง สีเงินยวง และผิวจะกลับเขียวในเวลา 2 – 3 ชม.) ตามความเข้าใจเนื้อเมฆสิทธิ์นี้เป็นท่านอาจารย์สมัยก่อนสร้างเอาไว้มาในสมัยนี้ ไม่ปรากฏว่าพระอาจารย์รูปใดจะสร้างเนื้อเมฆสิทธิ์ได้ นอกจากท่านพระอาจารย์ทับ วัดองนงคาราม ธนบุรี รูปเดียว เป็นที่น่าเสียดายว่าท่านได้มรณภาพไปนานแล้วท่านได้สร้างลูกอม เนื้อเมฆสิทธิ์และเป็นที่นิยมเล่นหากันอยู่มากเหมือนกัน ตะกรุดลูกอมม้วนเป็นก้อนกลม ๆ มีความกว้างขนาดเท่าใบมะขาม ยาวประมาณเจ็ดนิ้ว ลงในแผ่นทอง นาค เงิน ตะกั่ว ทองแดง อะลูมิเนียม ก็เคยพบ เมื่อลงแล้วม้วนเข้าเป็นตะกรุดจึงมีลักษณะกลมป้อม ร้อยด้วยไหมเจ็ดสี เรียกกันว่า “ตะกรุดลูกอม” ตะกรุดลูกอมที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากก็คือ ตะกรุดลูกอม ของหลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อวัดใต้ หลวงปู่ดี วัดเหนือ จังหวัดกาญจนบุรี หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จังหวัดสมุทรสงครามสืบทอดวิชาทำตะกรุดลูกอมมาจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ต้นตำรับทั้งสิ้น ตำราการลงตะกรุดลูกอม ของพระเดชพระคุณ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว นี้เป็นของเก่าตกทอดมาแต่ครั้งสมัยอยุธยาของเดิมลงด้วยพระคาถาอิชันโตชิโตอิชันโส โลกธาตุตุมหิ เรียกว่า “วิชาโลกธาตุ” ผู้ที่จะเรียนสำเร็จวิชาโลกธาตุนี้ได้จะต้องมีสมาธิจิตแก่กล้า จนกระทั่งภาวนาบทพระคาถานี้พร้อมกับเพ่งไส้เทียนขาดจึงจะเรียกว่าเรียนสำเร็จ ตะกรุดลูกอมของแท้ (ของเก่า) มีอุปเท่ห์อยู่มากมายใช้ได้รอบตัวเกือบลืมก่อนที่หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านจะมรณภาพนั้น ยังไม่มีสานุศิษย์ของท่าน รูปใดที่มีคุณสมบัติพอที่จะรับถ่ายทอดวิชาลงตะกรุดลูกอมนี้ได้ และท่านเกรงวิชาของท่านจะสูญจึงนำเอาไปฝากกับหลวงพ่อเนื่องวัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงครามไว้ และท่านก็ได้เรียนวิชานี้สำเร็จเพียงองค์เดียวเท่านั้น ยังมีอยู่อีกหน่อย คือ เรื่องลูกอมชนิดทำด้วยใบลาน ใบตาล มีลักษณะกลมป้อม คล้ายตะกรุดลูกอม เหมือนกันท่านคณาจารย์ผู้ชาญฉลาด ท่านได้เอาใบลานหรือ ใบตาลมาลงหัวใจพุทธมนต์ต่าง ๆ ลงไปแล้วม้วนเป็นรูปกลม ๆ ตรงกลางมีรู ส่วนมากจะถักด้วยเชือกแล้วลงรักปิดทองเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง ที่เคยเห็นและนิยมเล่นหาอยู่มากเหมือนกัน ลูกอมใบลานนี้บางท่านเรียก “ลูกอมกลอง” (ตะกรุดลูกกลอง) ของเก่ามีสร้างหลายอาจารย์ด้วยกัน ปัจจุบันมีสร้างอยู่อาจารย์เดียวคือหลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
เครื่องรางของขลัง:นำเสนอความรู้เกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง บทความเครื่องรางของขลัง ข่าวเครื่องรางของขลัง เครื่องรางของขลังไทย และเครื่องรางของขลังชนชาติอื่นๆ เช่น กำเนิดเครื่องรางของขลัง เครื่องรางญี่ปุ่น Omamori เครื่องรางนำโชค ฯลฯ