ชีวิตคือการเดินทาง

****หมายเหตุ***ห้ามผู้ใดนำข้อความ และ ภาพในบล๊อกนี้ไปใช้หรือนำไปตัดต่อดัดเเปลงโดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของเป็นอันขาด หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ******

This road is mine
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ชีวิตคือการเดินทางบนถนนที่เราเลือกเอง เลือกที่จะเป็น ขอให้ทุกคนมีความสุขที่ได้เดินบนเส้นทางของตัวเอง เเล้วคุณจะรู้ว่าทางเดินนี้มันสวยงามเพียงใด
New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add This road is mine's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
"Tokyo Tower" Mom & Me and Sometimes Dad : รักไหนจะยิ่งใหญ่เท่ารักของเเม่




---- เนื่องจาก นั่งคิดมานานมากเเล้วว่าจะเขียนอย่างไรดี กับรีวิวหนังเรื่องนี้ เพราะว่ามันเขียนยากเหลือเกิน
กับเรื่องราวที่จริงเเท้เเน่นอนของความรู้สึก เเละการกระทำอันมาจากความรัก ของคนที่เป็นเเม่ -----


เอาล่ะ ไหนๆก็คิดเเละเขียนไม่ออกเเล้ว

เริ่มด้วย... ขอตัดเอาคำพูด จากหนังตัวอย่างมาลงก่อนเเล้วกัน








"เเม่ครับ ผมขอโทษสำหรับทุกอย่าง เเล้วก็ขอบคุณนะครับ"



เธอมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ
เธอมองเขาอย่างเอ็นดู ด้วยสายตาที่ห่วงใย
เธอไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าสักคำ
เมื่อเห็นลูกของเธอล้มเหลวเพียงไหนก็ตาม



"คนที่ผมรักที่สุด ครอบครัวเดียวของผม คนที่มีชีวิตอยู่เพื่อผม .... เเม่ผมเอง"



ช่วงเวลาของความรัก ที่จะทำให้คุณต้องร้องไห้

ความรักที่คุณจะไม่มีวันลืม

สร้างจากเรื่องจริงที่เรียกน้ำตาคนญี่ปุ่นกว่า 2 ล้านคน

เรื่องราวของผู้หญิงที่รักคุณยิ่งกว่าชีวิต





-----------------------------------------------------------------------------




เรื่องราวความสัมพันธ์ ของลูกชายกับเเม่สองคน ตั้งเเต่เยาว์วัยจนถึงเติบใหญ่ ตั้งเเต่ล้มเหลวถึงขีดสุด
จนถึงเวลาที่เขามีครบทุกสิ่ง เเละประสบความสำเร็จในชีวิต


คนเดียวที่ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน
คนนั้น อยู่เคียงข้างเขามาตลอด
"....เเม่ของผมเอง"



หนังเรื่องนี้ทำเอาฉันกลายเป็นเด็กขี้มูกโป่ง ร้องไห้ได้มากกว่าหนังรักเกาหลีซะอีก
ฉันขอเชียร์สุดใจ อยากให้ทุกคนได้ไปดูหนังดีๆเเบบนี้
อย่ากลัว เเละอย่าอายถ้าจะร้องไห้เพราะหนังเรื่องนี้ หากมันจะทำให้เราได้ตระหนักถึง...
....บุคคลที่รักเราที่สุด....


สิ่งที่ฉันรับรู้ได้คือ...
มันสอนให้เรา อย่าประมาทกับช่วงชีวิตที่เหลืออยู่
ในทุกก้าวที่เราเดินไป วันผ่านพ้นไป เเต่ละวันๆ
ไม่มีใครรู้หรอก ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของเรา หรือคนที่เรารัก



ลองถามดูกับตัวเองว่า ที่ผ่านมา เราเคยเหลวเเหลก เกียจคร้านมามากเเค่ไหน
วันนี้เราทำได้มั้ย เปลี่ยนตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก เเละเค้าก็รักเรา


จริงเเท้เเน่นอน ของคนที่เป็นเเม่ เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า...
"เเม่ขอให้ลูกปลอดภัย เเข็งเเรง
แม่ขอให้ลูกมีจิตใจที่ดี เข้มเเข็ง
เเม่ยังขอมากไปอีกรึเปล่า..."


เเม่ไม่เคยขออะไร หวังอะไรมากไปเลย
เเละเเม่ก็ให้อะไรๆ กับเรามากมายเหลือเกิน
เเล้วเราล่ะ.......


ทำอะไรตอบเเทนท่านบ้างเเล้วหรือยัง?




-----------------------------------------------------------------------------






----- Tokyo ni mo Attanda เพลงประกอบภาพยนตร์โดย Fukuyama Masaharu
ที่ฉันนั่งฟังจนจบก่อนออกจากโรง (ความจริงคือนั่งปาดน้ำตาอยู่) ------




เกร็ดหนัง...


1. เรื่องนี้ได้รับรางวัลมาเเล้วที่ญี่ปุ่น ดังนี้

5 winners : Japan Academy Award
- Best film
- Best screenplay
- Best director
- Best actress
- Best supporting actor


2. คนที่เล่นเป็นเเม่ตอนสาวๆ (Yayako Uchida) กับคนที่เล่นเป็นเเม่ในวัยเเก่ (Kirin Kiki) คือเขามีหน้าคล้ายกันมาก จริงๆเเล้ว เขาเป็นเเม่ลูกกันนั่นเอง

3. ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้สร้างจากวรรณกรรมขายดีโดย Lily Franky ซึ่งเป็นนามปากกาของ Masaya Nakagawa




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cotton&month=27-04-2008&group=2&gblog=11

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




*****ดูจบเเล้ว รักเเม่ให้มากๆนะคะ*****





Create Date : 30 เมษายน 2551
Last Update : 30 เมษายน 2551 1:37:36 น. 6 comments
Counter : 1118 Pageviews.

 
กำลังจะไปดูก้ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:10:20:52 น.  

 
พี่หมดโอกาสดูแล้วหละ อยู่บ้านนอกไม่ได้เข้าเมืองซะที


โดย: ammataya วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:23:04 น.  

 
ขอบคุณครับ ที่แวะไปเยี่ยมบ้านใหม่ของผม

(เพิ่งจะมีโอกาสเขียนบันทึกเรื่องราวอีกครั้ง ^^)




ป.ล รีวิวหนังดีครับ
แย่จังอ่ะ ผมคงไม่ได้ดูเรื่องนี้ซะล่ะ
เพราะต้องรอจบซัมเมอร์ก่อน

เพราะตอนแรกก็กะดูเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ไม่มีรอบ เลยดู Alway2 แทน -_-"


โดย: อีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ IP: 124.120.106.138 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:12:09 น.  

 
ว่าจะไปดูค่ะ


โดย: BoOKend วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:34:09 น.  

 
เด็กที่รอคอยได้ comment ไปแล้วในบล๊อคของใครบางคน โดยที่เอาความรู้สึกและชีวิตส่วนตัวแชร์ให้เจ้าของบล๊อคนั้นได้รู้แล้ว ก้อเลยคิดว่า คงจะไม่พูดถึงมันอีกที่นี่ แต่มันก้อเป็นหนึ่งในบรรดา comment ที่พิมพ์ไปน้ำตาร่วงไปตลอด นอกเหนือจากตอนที่เด็กที่รอคอยพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนรักที่ได้เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุก่อนวัยอันสมควร

เพราะเป็นเพื่อนที่รักกันและอยู่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พวกเราก้อไม่เคยพูดว่ารักกันเลย รับรู้กันเองโดยสัญชาตญาณ แล้วเราก้อเป็นเพื่อนกันมา ตราบจนความตายมาแยกเราจากกัน เราก้อยังเป็นเพื่อนกันพียงแต่อยู่คนละภพ


เป็นหนังที่ดีนะคะ ถึงจะสั้นเกินไปสำหรับ 142 นาที ในภาคซีรี่ส์ละครอาจจะให้ความละเอียดของตัวละครได้มากกว่า (อย่างน้อยก้อสาเหตุที่ มานามิกับมาซายะต้องแยกทางกัน แต่แม่ก้อไม่เคยรู้) แต่เราดีใจที่เจ้าของบล๊อคติดตามข้อมูลเรื่องตัวละคร เอโกะซัง ว่า เป็นแม่-ลูก กันในชีวิตจริง


เพราะเราน่ะน๊า... คิดตั้งแต่เห็นในหนังครั้งแรกแล้วว่า เออ...เค้าก้อช่างเข้าใจไปหาตัวละครมาแสดงให้มันเหมือนกันอะไรขนาดนี้นะ... มาถึงบางอ้อ ก้อตอนกลับมาค้นข้อมูลเองที่บ้านแล้วพบว่า อ้าว... เป็นแม่-ลูก กันนี่นามิน่า มีกลิ่นไอและเค้าหน้าท่าทางเหมือนกันเลย เอโกะซังในวัยสูงอายุแสดงได้ดีมากจริงๆค่ะ


โดยเฉพาะ ฉากที่ทำเหนียมอายตอนพ่อมาเยี่ยมที่ รพ ... ทำให้รู้สึกได้เลยว่า เวลาผ่านไปนานขนาดนั้นเธอก้อยังรักผู้ชายคนนี้อยู่ (รู้ทั้งรู้ว่าเขาก้อไปอยู่กินกับคนอื่นแล้ว แต่ก้ออดดีใจไม่ได้ที่คนที่เคยเป็นครอบครัวเดียวกันกลับมาเยี่ยมดูใจ) และเธอก้อไม่ยอมที่จะดูกะเร้อกะรัง ต่อหน้าต่อด้วย (เหมือนคุณหญิงกีรติเลย...)


ส่วนเอโกะซังตอนสาว แสดงได้สื่อถึงความรู้สึกมากๆเลยตอนที่ลูกโผเข้ามากอดหลังจากเดินตามหาอยู่นาน ... หน้าเธอตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันเป็นใบหน้าของ แม่ ที่ตัดใจจากชีวิตรักแล้ว ... ในเมื่อถ้าเธอจะมีครอบครัวใหม่ มีพ่อใหม่ให้มาคุงอีกครั้ง เธออาจจะต้องมีหน้าที่ดูแลครอบครัวใหม่ ซึ่งไม่ได้มีแค่มาคุง ... ดังนั้น เธอขอตัดใจจากจุดนั้น แล้วจะมีแค่เพียงลูกคนนี้คนเดียวจะดีกว่า ...


รู้สึกแบบนี้นะ


โดย: เด็กที่รอคอย IP: 202.149.24.161 วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:3:26:29 น.  

 
ไปดูมาแล้วล่ะ แต่ไม่ปลื้มเท่าไหร่




โดย: joblovenuk วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:50:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.