|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เสน่ห์ยุโรป : เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี
อีกไม่นานประเทศในแถบยุโรปจะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือ Autumn ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดง สีเหลืองหรือสีส้ม ขึ้นอยู่กับพรรณไม้ ก่อนที่ใบจะร่วงจากต้น เหลือเพียงลำต้น กิ่งและก้าน เพื่อพร้อมจะรับมือกับลมหนาวและหิมะในฤดูหนาวได้อย่างอดทนต่อไป
ในช่วงที่ฤดูกาลเปลี่ยนและใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ภูมิประเทศที่เคยดูสวยงามแบบธรรมดา ๆ กลับงดงามเพิ่มขึ้นด้วยสีสันที่โดดเด่นแปลกตา เป็นเสน่ห์ของยุโรปอีกช่วงเวลาหนึ่ง วันนี้ผมมีภาพใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศต่าง ๆ แถบยุโรปมาฝากครับ
การเปลี่ยนสีของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นปรากฏการณ์ผลกระทบที่เกิดกับใบไม้ของต้นไม้หรือไม้พุ่มผลัดใบที่โดยปกติแล้วมีสีเขียว เปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลืองถึงแดงโดยใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ในฤดูใบไม้ร่วง ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า fall colors หรือ autumn colors
ใบไม้มีสีเขียวเพราะการมีอยู่ของเม็ดสีที่เรียกว่าคลอโรฟิลล์ เมื่อมีคลอโรฟิลล์จำนวนมากในเซลล์ของใบไม้ เช่น ช่วงฤดูที่พืชพันธุ์เจริญงอกงาม สีเขียวของคลอโรฟิลล์จะมีอำนาจเหนือและปกคลุมเม็ดสีอื่นๆที่อาจมีอยู่ในใบไม้ ดังนั้นใบไม้ในฤดูร้อนจึงมีสีเขียว
คลอโรฟิลล์มีหน้าที่สำคัญคือจับรังสีแสงอาทิตย์และนำพลังงานที่ได้ไปใช้สร้างอาหารสำหรับพืช สร้างน้ำตาลจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำตาลจะเป็นสิ่งตั้งต้นของอาหารพืช ก็คือคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสิ่งที่พืชต้องการเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ในกระบวนการผลิตอาหาร คลอโรฟิลล์จะทำลายตัวเองอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหมดไป ระหว่างฤดูที่พืชพันธุ์เจริญงอกงาม พืชจะสร้างคลอโรฟิลล์เพิ่มเติมทำให้มีปริมาณคลอโรฟิลล์อยู่มาก ใบไม้จึงยังคงมีสีเขียว
ในปลายฤดูร้อน กลางวันสั้นลงและอุณหภูมิลดต่ำลง เส้นใบซึ่งเป็นทางผ่านของเหลวเข้าและออกจากใบจะค่อย ๆ ปิดทีละน้อย ๆ ทำให้น้ำและแร่ธาตุเข้าสู่ใบไม้น้อยลง ในช่วงนี้คลอโรฟิลล์ในใบไม้จะลดลง จึงเกิดการเปลี่ยนสีในที่สุด
เรามาชมความงามเมื่อยามใบไม้เปลี่ยนสี ในแต่ละประเทศกันครับ
1. เมืองบรูจจ์ (Brugge) ประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงของประเทศเบลเยี่ยม ลักษณะของเมืองล้อมรอบด้วยคูเมืองสองชั้น และมีอาคาร โบสถ์ บ้านเรือน ถนนที่สะอาดสวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นสถาปัตยกรรมแบบเฟลมมิช และแบบเรเนซองค์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ จัตุรัสใจกลางเมือง หอระฆังเก่าแก่ ที่มีประวัติอันยาวนาน และมีประติมากรรมที่งดงาม เมืองนี้ผมเคยไปมาและเขียนรีวิวไว้แล้ว (คลิกที่นี่ครับ)
2. บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี เมื่อถึงช่วง Autumn ใบไม้ก็เปลี่ยนสีสันสดสวย ตรงกลางคือยอดของอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก
3. ไฮเดลแบร์ก (Heidelberg) เป็นเมืองเก่าแก่อายุนับพันปีของเยอรมนี เมืองนี้จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีอายุยาวนานเคียงคู่ประวัติศาสตร์ของเมือง ทั้งปราสาทเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี ซึ่งตั้งเด่นบนเนินเขา มองเห็นได้จากจุดต่างๆ ในย่านเมืองเก่า รูปทรงทางสถาปัตยกรรมของอาคารในเมืองที่บ่งบอกได้ถึงความเก่าแก่ รวมถึงมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ อายุกว่า 600 ปี
4. เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) สาธารณรัฐเช็ค ภาพนี้เป็นทางเดินเข้าตัวเมือง ตึกสีสันพาสเทลว่าสวยแล้ว ผสมกับใบไม้เปลี่ยนสีเข้าไปอีก ยิ่งสวยจนอดใจไม่ไหว
5. เชสกีกรุมลอฟ (Cesky Krumlov) เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมและศิลปะของเขตเมืองเก่าและปราสาทกรุมลอฟ ซึ่งเขตเมืองเก่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก
6. กรุงปร๊าก (Prague) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก มีประชากรอาศัยประมาณ 1.2 ล้านคน เมื่อ ค.ศ. 1992 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้ปร๊ากเป็นมรดกโลก
7. ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์บูร์ก เมืองเก่าของซาลทซ์บูกร์กและสถาปัตยกรรมบาโรก เป็นหนึ่งในบริเวณใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุด ในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน
8. พระราชวังเชิงบรุนน์ (Schönbrunn Palace) ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึง พ.ศ. 2461
9. สวนด้านหลังของพระราชวังเชิงบรุนน์ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ดูงดงามจริง ๆ
10. พระราชวังวินด์เซอร์ (Windsor Castle) เป็นพระราชวังตั้งอยู่ที่วินด์เซอร์, มลฑลบาร์คเชอร์ในสหราชอาณาจักร สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1070สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นพระราชฐานที่เก่าที่สุด ที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง เนื้อที่ใช้สอยมีทั้งหมดด้วยกัน 484,000 ตารางฟุต หรือ 45,000 ตารางเมตร
ขอขอบคุณภาพประกอบที่นำมาจากเฟสบุ๊คของ HIT Tour และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 05 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2556 11:04:58 น. |
|
18 comments
|
Counter : 11479 Pageviews. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:14:06:32 น. |
|
|
|
โดย: surya21 (surya21 ) วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:11:56:43 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:18:00:57 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:21:09:11 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:11:10:26 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:16:08:39 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 8 สิงหาคม 2556 เวลา:23:43:22 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 สิงหาคม 2556 เวลา:0:39:56 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 10 สิงหาคม 2556 เวลา:12:45:43 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:23:30:12 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:13:43:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
งดงามมากค่ะ ดูเป็นสีทองไปทั้งเมืองเลย
เดี๋ยวว่าง ๆ มาเก็บรายละเอียดอีกที แหะ
แวะมาทักทายแล้วก็ชวนไปเล่นซ่อนหาค่ะ อิอิ
บล็อกใหม่ "ที่ซ่อนมหาสมบัติ" ขอเชิญด้วยนะคะ