Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
โรคของผู้บริหาร

๕ ก.ค. ๕๑ คุณหมอพิชัย ดิฐสถาพร จากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี มาบรรยายหัวข้อนี้

เริ่มด้วยรายชื่อโรคของผู้บริหาร เช่น
โรคเบาหวาน
โรคความดัน
โรคเก๊าส์
โรคไตวาย
โรคอัมพาต
โรคถุงลมโป่งพอง
ซึ่งโรคเหล่านี้จะมีอัตราเสี่ยงเพิ่มขึ้น ๑ เท่า หากมีญาติพี่น้องเป็นโรคเหล่านี้

ปัจจัยของโรคของผู้บริหาร
๑. หน้าที่และความรับผิดชอบ
๒. พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
๓. พฤติกรรมการออกกำลังกาย
๔. ท่าทางในการทำงาน

๑. หน้าที่และความรับผิดชอบ
คุณหมอบอกว่า หากผู้บริหารอยู่ใน ภาวะ Stress จะสามารถเป็นโรคอะไรก็ได้ที่เราอยากเป็น
มีสาร ๒ ตัวที่เกี่ยวข้อง คือ อดีนาลีน และ คอติซอล โดย อดีนาลีน จะทำให้เกิดความดัน อันจะทำให้เส้นเลือดแตกได้
ภาวะ Stress มี ๒ ตัว คือ แบบเฉียบพลัน และ แบบเรื้อรัง ซึ่งแบบเรื้อรังจะสะสม และ ค่อยๆ หลั่งอดีนะลีนออกมา

คุณหมอบอกว่า หากจะกินยานอนหลับ อย่ากินเกิน ๑๔ วัน เพราะ นาฬิกาชีวิตจะเปลี่ยน ตอนไม่หลับอย่าฝืนหลับ เพราะจะทำให้เกิดภาวะ Stress ให้ทำอะไรก็ได้ เช่น อ่านหนังสือ หากง่วงแล้วให้ไปนอน

ถ้าเป็นไปได้ให้ทำงานน้อยกว่า ๔๐ ชั่วโมง/สัปดาห์ ซึ่งมักจะเป็นไปได้ยาก
ให้หาเวลาว่างและพักผ่อนให้ได้ทุกสัปดาห์ โดยควรทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งาน


พยายามลดความเครียด วัดความเครียดได้จาก Serotonin (เป็นสารลดความเครียด) กิจกรรมหนึ่งที่เพิ่ม Serotonin ได้คือ การทำจิตให้ว่าง
Serotonin สามารถวัดผ่านการเจาะเลือดได้
ให้หมั่นสวดมนต์ ทำบุญ

มีอารมณ์ขัน คุณหมอยกตัวอย่างที่ประเทศญี่ปุ่นมีการฝึกอบรมการหัวเราะ
การหัวเราะให้ดังที่สุด จะ Release Pressure ได้ดีที่สุด

๒. พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ให้ทานผักเยอะๆ

๓. พฤติกรรมการออกกำลังกาย
Criteria ของการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
• บางคนบอกว่าออกกำลังกายด้วยการทำงาน คุณหมอบอกว่าต้องเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อชุดใหญ่ ต่อเนื่องกันอย่างน้อย ๑๐ นาที ดังนั้นการพิมพ์ดีด คิด เขียน ไม่เป็นการออกกำลังกาย
• ต้องออกกำลังกายต่อเนื่อง ๓ ครั้ง/สัปดาห์ และต้องติดต่อกัน ๓ วัน เว้น ๑ วัน อย่าให้ห่างเกิน ๒ วัน เพราะกระบวนการแอร์โรบิคจะหายไป

๔. ท่าทางในการทำงาน
ผู้บริหารมักเป็นโรค PC Syndrome เพราะท่านั่งไม่สมดุล และ Notebook ไม่สามารถแยกส่วนได้ ทำให้ท่านั่งไม่สมดุล
คุณหมอมีท่าการออกกำลังกายระหว่างการทำ Computer ให้ทดลองด้วย เป็น PowerPoint ยาว ๔ นาที ให้ทำประมาณ ๕ ครั้งต่อวัน

คุณหมอบอกว่าให้หายใจเข้าแล้วท้องป่อง หายใจออกแล้วท้องแฟบ ถึงจะถูก
แต่คนเรา ๘๐% หายใจแบบตรงกันข้าม ซึ่งผิด
ดังนั้นการฝึกโยคะ เรื่องแรกที่ฝึกคือ การหายใจ
ถ้าให้ดี หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก โดยให้ห่อปากให้เล็กๆ ด้วยขณะหายใจออก

โรคความดันโลหิตสูง
ค่าบนต้องน้อยกว่า ๑๔๐
ค่าล่างต้องน้อนกว่า ๘๐
ปัจจุบันค่าบนสำคัญกว่า

ในปัจจุบันที่อเมริกาสามารถเจาะเลือดแล้วบอกได้ว่าจะเป็นโรคอะไรในอนาคต
ปัจจุบันมีเทคนิคการ Resequence Amino Acid ได้ แต่ยังไม่อนุญาตออกใช้
คุณหมอแนะนำหนังเรื่อง Guttaca จะพูดถึงเรื่องนี้

โรคเบาหวาน
ค่าของน้ำตาลมากกว่า ๑๒๖ มก./ดล. ถือว่าเป็นโรคเบาหวาน (ของผมครั้งหลังสุดตรวจได้ ๙๕ มก./ดล.)
หากค่าเกิน ๒๐๐ มก./ดล. จะมีภาวะแทรกซ้อน นั่นคือ ปัสสาวะจะมาก
คุณหมอให้คนไข้โรคนี้หมั่นสำรวจปลายมือและปลายเท้าทุกเช้าและก่อนเข้านอน โดยให้ตรวจถึงซอกมือซอกเท้าเลย เพราะคนเป็นโรคนี้เส้นประสาทจะชา เมื่อเป็นแผลแล้วจะไม่ทราบ

คลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
คลอเรสเตอรอลรวมไม่ควรเกิน ๒๐๐ มก./ดล.
คลอเรสเตอรอลรวมมีผลมากกว่าไตรกลีเซอไรด์
LDL Cholesterol ทำให้เส้นเลือดตีบ
HDL Cholesterol ทำให้เส้นเลือดโป่ง หากมี HDL Cholesterol > 40 ถือว่าเหมาะสม หาก > ๖๐ จะทำให้ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

โรคเก๊าส์
อาหารที่มียูริกสูงจะเป็นส่วนที่เคลื่อนไหวและเจริญเติบโต เช่น เครื่องในสัตว์ ที่เคลื่อนไหวตลอกเวลา, สัตว์ปีก ที่ต้องใช้ปีกในการบิน, ยอดผัก ที่ต้องเจริญเติบโต และ แตงกวา ที่มีเมล็ดภายในที่กำลังเจริญเติบโต เป็นต้น

สาเหตุของการปวดเข่าปวดข้อ
ได้ดูรายการโลกใบเดียวกัน ช่อง ๙ เช้าวันเสาร์ที่ ๕ ก.ค. ๕๑
อาจารย์สุทธิวัสส์ คำพา นักธรรมชาติบำบัด มาสอนว่าสาเหตุของการปวดเข่าปวดข้อมาจาก
๑. มาจากกรรม
นั่งนานๆ ไม่นั่ง ยืน เดิน นานเกิน ๒ ชม. เปลี่ยนทำอย่างอื่นบ้าง
๒. มาจากความเครียด จะเกิดกรดยูริก อาบน้ำเช้าๆ เอาน้ำเย็นราดตามเข่าตามข้อก่อนอาบน้ำ
๓. ไม่ถ่ายอุจจาระตามปกติ
ให้หมั่นถ่าย ๕-๗ โมงเช้า
ทานนมและกล้วยน้ำว้า ๒ ลูก จะช่วยขับถ่ายได้
๔. ไม่ทานอาหารเช้า ให้ทานอาหารเช้า
แนะนำให้ทานลูกเดือยจะลดการปวดเข่าปวดข้อได้ ๑ ถ้วยแกงเล็กๆ ต่อวัน
น้ำกระชาย กินช่วงบ่ายถึงเย็น จะแก้การปวดได้ดี

ของแถม มะละกอดิบต้มจืด ลดคลอเรสเตอรอลได้
อาหารสีเหลือง ดูแลกระเพาะอาหารได้


สุขภาพดีกันทุกคนนะครับ





Create Date : 08 กรกฎาคม 2551
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2551 10:12:33 น. 6 comments
Counter : 899 Pageviews.

 
แต่ว่าโรคเหล่านี้คงไม่เกี่ยวกะการเป็นผู้บริหารหรอก

ถ้าคิดเป็นเปอร์เซนต์บุคคลธรรมดาเป็นมากกว่ามากมายนัก

ขอบคุณที่นำอาหารสมองมาฝาก จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:38:49 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:41:04 น.  

 

คุณเอกสงกาสัยว่าคุณอุ้มไม่ได้เป็นผู้บริหาร
เลยไม่เป็นสักกะโรคเลยเจ้าค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:47:37 น.  

 


โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:48:56 น.  

 
อ่านแล้วกลุ้มค่ะ

เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสารพัดโรคเหมือนกันค่ะ

แต่ไม่ได้เป็นผู้บริหารนะคะ


โดย: ปณาลี วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:02:27 น.  

 
เป็นแค่หัวข้อการบรรยายน่ะครับ
ผมว่าเราทำงานที่โต๊ะกันจนเป็นโรคเดียวกันเสียส่วนใหญ่แล้วครับ
ในอดีตโรคพวกนี้ไม่มี เพราะเราทำเกษตรกรรม ทำงานไปด้วย ออกกำลังกายไปด้วย

คิดถูกไหมเนี่ยที่จะเป็นเสือตัวที่ห้า ในวันนั้นอันนานมาแล้ว


โดย: คนขับช้า วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:06:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนขับช้า
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ย้ายมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖

เคยมาเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘

เคยมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗

เคยเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒

ย้ายที่ทำงานในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๖
เคยเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

เคยเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๙

เคยเป็นคนระยอง ตั้งแต่ ๒๕๓๗
Friends' blogs
[Add คนขับช้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.