April Snow, Funny Games, Saving Private Ryan, Wall-E สี่เรื่องเขียนถึงทีเดียว ดูมาสี่เรื่อง ไม่ได้เขียนถึงทีละเรื่อง เอามารวมเลยทีเดียวแล้วกัน บางเรื่องถึงขั้นไม่ชอบนะ April Snow : ผลพวงของความเลว ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่อง Chrismas in August คงไม่รู้จักหนังเรื่องนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับ Hur Jin Ho อีกเรื่องที่เคยดูคือ One Fine Spring Day เรื่องนี้ก็ไม่ชอบ นางเอกเรื่องแดจังกึม ลี ยอง เอ แสดงด้วย มาเจอเรื่องนี้ ยิ่งไม่ชอบใหญ่เลย เป็นหนังที่สะท้อนสังคมเสื่อมทรามได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่หนังเรื่อง Closer ที่นึกในใจว่าเป็นเรื่อง หญิงร้ายชายเลว แล้ว ก็มาเจอเรื่องนี้แหละที่ออกอารมณ์เดียวกัน เลยไม่รู้จะเขียนถึงอย่างไร ไม่มีข้อคิดใดๆ นำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตครับ รู้แต่ว่า April Snow สื่อถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก็ทราบไว้เป็นข้อมูลแล้วกัน Funny Games : โลกนี้มีเรื่องน่ากลัวกว่าที่คิด อ่านเจอตอนเป็นหนังรีเมคของผู้กำกับไมเคิล ฮาเนเก้ ชาวเยอรมัน พอรู้เนื้อเรื่องเลาๆ ดูแล้วก็ไม่น่าเข้าทางเราเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ได้ดูเพราะน้องที่ทำงานมีแผ่น เมื่อเริ่มเปิดก็เป็นเวอร์ชั่นเยอรมัน แสดงว่าเป็นต้นฉบับเลย น้องเจ้าของแผ่นบอกว่าเป็นหนังที่จงใจทำร้ายความรู้สึกผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ไม่จบเสียที เป็นความรู้สึกตอนดูหนังเรื่องนี้ แอบดูเวลาบนปกหลังแค่ ๑๐๔ นาที เลยทนดูจนจบ ดูจบแล้วก็ถามตัวเองว่าหนังเรื่องนี้พยายามจะสื่ออะไรกับคนดู หากเจอกับตัวเราจะทำอย่างไรดี? ในเมื่อสองหนุ่มนี่มันโรคจิตชัดๆ ยังคิดว่าถ้าผู้พ่อให้ไข่แพ็คนั้นไป จะรอดไหม? คิดอีกทีสองหนุ่มก็คงหาเรื่องต่อจนได้ทำร้ายผู้เป็นพ่ออีกอยู่ดี สรุปว่าคงเป็นคราวเคราะห์ของครอบครัวนี้ แต่ถ้าให้ดีควรเที่ยวแบบปลอดภัยมากกว่านี้นะ นี่ผมคิดเองในเชิงป้องกันนะ หรืออย่าไว้ใจใครมากเมื่ออยู่ต่างถิ่น ดูหนังเรื่องนี้แล้วความคิดจะสวนทางกับหนังสือชื่อ เดินสู่อิสรภาพ เล่มนั้นอาจารย์ประมวลบอกว่าให้รักทุกคน อย่าทำให้เขาหรือเธอกลัวเรา เมื่อเรารักก็จะได้รักตอบ หรือเราต้องทำใจ คิดเสียว่าเราคงทำกรรมกับเขามามาก เขาเลยตามมาทวงคืน ก็ได้แต่ตั้งใจทำดี จะได้ไม่เจอคนแบบสองหนุ่มนี้ครับ หากเจอจริงๆ ถ้าจิตไม่เกิด ไม่ผูกกับเขาได้ ก็ไม่ต้องเจอกันอีกครับ พูดง่าย ทำยาก ขนาดดูยังจิดเกิดเลย ฉากสุดยอดคือฉาก Rewind ลุ้นจนสำเร็จ แต่ก็ทำร้ายผู้ชมคืนได้อย่างถึงใจจริงๆ ยอมแล้วครับพี่ หามาดูถ้าอยากรู้ว่ามันสนุกตรงไหม Funny Games ของใครกันแน่? Saving Private Ryan : ภาระกิจคือช่วยคน เป็นหนังดีของสปิลเบิร์ก ไม่แน่ใจว่าดูหรือยัง แต่เมื่อได้แผ่น VCD มา ก็แปลงเอาไปชมด้วย Pocket PC บนรถไฟ หนังดีมากเลยครับ ฉากแรกยาวนานครึ่งชั่วโมง แสดงให้เห็นความโหดร้ายของสงครามได้ดี ภาพลูกปืนทะลุน้ำมาฆ่าคน สลดใจจริงๆ ใครคิดทำสงคราม ประนามได้เลยครับ คิดผิดแน่นอน จบฉากแรก ก็บอกที่มาของเรื่อง ยอดเยี่ยมครับ สุดท้ายทีมงานก็ทำภาระกิจจนสำเร็จ แต่ก็ต้องสูญเสีย (อีกแล้ว) แล้วสงครามให้อะไรเราบ้าง นอกจากความทรงจำเลวร้าย แม้แต่คนที่ดูข่าวยังสลด ขอเถอะครับ อย่ามีสงครามอีกเลย จะฆ่ากันไปทำไม เดี๋ยวก็ตายจากกันแล้ว Wall-E : การ์ตูนดีๆ ที่ไม่ค่อยพูด หนังการ์ตูนของ Pixar ที่หลายคนชื่นชอบ พี่ที่ทำงานเอามาให้ดู ภาพไม่ชัด เลยคืนไป ซื้อมาเอง ดูจนจบ พูดกันน้อยจัง แต่ก็สื่ออะไรได้หลายอย่าง หลักๆ คือ หากเราไม่ดูแลโลก ไม่นานก็จะเป็นแบบในหนัง จริงๆ ทุกคนรู้ แต่ไม่เริ่มทำครับ ผมเอาถุงผ้า ปิ่นโต ไปซื้อกับข้าวทุกเช้า แต่ก็ยังมีถุงพลาสติกที่ต้องใส่กับข้าวเพื่อใส่บาตรอยู่ดี นี่ขนาดตั้งใจแล้วนะ ยังสร้างขยะต่อโลกเลย หากไม่ตั้งใจ คงเยอะกว่านี้ แผ่นซีดีก็อีกอย่าง ผมว่าใช้ Thumb Drive หรือ CDRW เพื่อจะได้นำมาใช้หลายๆ รอบ เราชอบเขียนข้อมูล หนัง ลงแผ่นซีดี แล้วก็เป็นขยะต่อโลก วันก่อนเอาไฟล์ใส่ Thumb Drive แล้วเสียบดูหนังได้ ผมว่าเทคโนโลยีนี้ดีต่อโลกครับ แต่อาจไม่ถูกใจเจ้าของลิขสิทธิ์เท่าไหร่นะ คงต้องช่วยกันรักษาโลกนี้ไว้ให้นานที่สุด อย่าเอาแต่รับรู้ แต่เริ่มเลยครับ ทำที่ตัวเรานี่แหละ ไม่ต้องเริ่มที่ใคร หนังการ์ตูนดีๆ เรื่องนี้ พยายามบอกผมอย่างนี้ครับ ------------------------------------------------------------------- เชิญแวะร้านค้าออนไลน์ของผมครับ Books Toys & Games DVD   Create Date : 19 มกราคม 2552 19 comments Last Update : 19 มกราคม 2552 20:22:30 น. Counter : 3084 Pageviews. Share Tweet

อยากดู Wall-E คงต้องรอเป็นหนังแผ่น เฮ้อ... April Snow นี่เคยดูแต่พล็อตคล้ายๆ หนังฝรั่งเรื่องหนึ่งจำชื่อเรื่องไม่ได้แต่คล้ายๆกัน ชอบ One Fine Spring Day ที่เป็นหนังสวยๆ ได้ยินเสียงน้ำ,เสียงต้นไม้ ซึ่งเป็นเสียงจริงๆ แต่โดยเนื้อหาของหนังไม่พูดถึงนะคะ เพราะออกจะเลื่อนๆ ไปแล้ว Haaaaa   โดย: สายลมอิสระ 19 มกราคม 2552 20:42:44 น.

Funny Games เป็นประสบการณ์การดูหนังที่สะใจผมมากนะ แล้วผมก็เป็นแฟนหนังของฮาเนเก้ไปเลยด้วย (ใครจะว่าเราโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย) ว่าแต่พี่เคยดู The Piano Teacher หรือยังครับ อันนั้นผมก็ชอบเหมือนกัน แรงจริงๆ การแสดงของอูแปรต์นั้นก็สุดยอด   โดย: เอกเช้า IP: 124.120.194.158 19 มกราคม 2552 20:45:36 น.

ตอบ คุณสายลมอิสระ คิดว่าหนังฝรั่งที่คล้ายๆ April Snow น่าจะเป็น Random Hearts นะครับ แฮริสัน ฟอร์ด กับ คริสติน สก็อต ธอมัสเล่นคู่กัน   โดย: เอกเช้า IP: 124.120.194.158 19 มกราคม 2552 20:48:11 น.

The Piano Teacher เคยอ่านถึง เรื่องนี้ก็แรง ออกแนวโรคจิตเหมือนกัน แค่อ่านยังว่าไม่น่าใช่แนวผมเท่าไหร่ แต่คุณ'ปราย พันแสง ชอบนักชอบหนาเลย เธอว่าสื่ออะไรหลายอย่างเลย   โดย: คนขับช้า 19 มกราคม 2552 21:37:34 น.

ทั้ง 4 เรื่องนั้น เคยดูแต่ ภาระกิจช่วยไรอัน เท่านั้นเอง การ์ตูนเรื่องนั้น ก็ว่าจะหามาดู...รอให้้น้องชายซื้ออยู่...เค้าต้องซื้อให้ลูกค้าดูอยูแล้ว เราก็รอดูพร้อมหลานดีกว่า ส่วน April snow ร่ำๆ จะซื้อหลายรอบแล้ว แต่เนื้อหาไม่โดน โดนแต่พระเอกหล่่อ อย่างเดียวเลย   โดย: นัทธ์ 19 มกราคม 2552 22:23:38 น.

อยากดู Funny game มากเลยครับ ได้ยินเสียงลือลั่นมานานแล้ว จะทดสอบความอดทนตัวเองว่าจะไปได้ขนาดไหน แล้วดีวีดีัสามเรื่องของผมเป็นไงมั่งครับ   โดย: jonykeano 19 มกราคม 2552 22:39:22 น.

^ ^ ดู Pi ไปเรื่องเดียวเอง ว่าจะดูหนังสารคดีต่อครับ สนใจ Funny Games หรือ ผมก็ยืมเขามาอีกที แต่หาดูนะ ถูกใจคุณหมอแน่นอน   โดย: คนขับช้า 19 มกราคม 2552 22:51:27 น.

ได้ดูสองเรื่องครับพี่ ดูหนังเกาหลีก็อึดอัดนิดหน่อย เดำเนินเรื่องเนิบนาบไปนิด แต่ชอบนางเอกครับ 5555 ส่วนพลทหารไรอันนี่ ชอบมากถึงมากที่สุดครับ   โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 20 มกราคม 2552 7:32:49 น.

เคยดูแต่ Saving Private Ryan ค่ะ เรื่องอื่น ๆ ที่อยากดูก็ Wall E ก็น่าสนใจดีนะคะ ขอบคุณที่แวะไปดูหนังที่บล็อกนะคะ จริง ๆ หนังอาจไม่ซาบซึ้งกินใจในหัวใจของทุกคน หากแต่บางครั้ง มีบางจุดที่ตรงหัวใจของบางคน บางคนซึ้ง บางคนเฉย ๆ แต่ขอให้ได้ดูอย่างรื่นรมย์ และได้หยิบเก็บอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ จากหนัง มาเป็นแง่คิดที่ดีให้กับชีวิต ก็คุ้มค้าแล้วค่ะ   โดย: กองฟอน 20 มกราคม 2552 9:14:17 น.

+ ทั้ง 4 เรื่องที่ว่ามา ผมได้ดูไป 2 เรื่องหลังเองครับ ... * April Snow - ยังไม่ได้ดู (รวมทั้ง random hearts ด้วย) เลยวิพากษ์อะไรไม่ได้ ... แต่หนังแต่ละเรื่องที่สร้างขึ้นมา ก็มักจะมีจุดอะไรบางอย่างในตัวมันเองเสมอ เพียงแต่ว่าเวลาเราดูแล้วเราจะเข้าใจสิ่งที่เค้าพยายามสื่อออกมา หรือรู้สึก 'คลิก' กับหนังเรื่องนั้นรึเปล่า (ก็เหมือนเวลาเลือกคบเพื่อน หรือแฟนนั่นแล อุๆ ) ก็ถ้าผมได้ดูเมื่อไหร่ แล้วอาจยกมาถกกันเพิ่มเติมอีกครั้งนะครับผม * Funny Games - เท่าที่เคยอ่านมา เห็นเค้าวิเคราะห์กันว่าเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ออกแนวเสียดสีสังคมในยุคปัจจุบัน และจริยธรรมของสื่อนะครับ แต่เนื่องจากผมยังไม่มีโอกาสได้ดูเสียที ก็เลยยังพูดอะไรไม่ได้มาก * พลตะหานไรอัน - อันนี้ก็เสียดสีความไร้สาระของสงคราม ฉากยกพลขึ้นนอร์มังดีตอนเปิดเรื่องนั่น กลายเป็น 1 ในฉากคลาสสิคขึ้นหิ้งของหนังแนวสงครามไปเรียบร้อยแล้ว * Wall-E - มีการอ้างอิงการ์ตูนเรื่องนี้กับหนังคลาสสิคเรื่อง 2001 : A space Odyssey ของคูบริคอ่ะครับ ว่ามีบางส่วน (โดยเฉพาะในช่วงต้นเรื่อง ที่แทบจะไม่มีบทสนทนาเลย) คล้ายคลึงกัน (ผมไม่รู้ เพราะยังไม่เคยดู 2001 เหมือนกัน) ... แต่ที่เจ๋งก็คือ เค้าสามารถปั้นคาแรคเตอร์ของหุ่นยนต์ทั้งหลายให้ดูมีชีวิต มีจิตวิญญาณ มีอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาได้ อีกทั้งส่วนพล็อตบนยานอวกาศ จะว่าไปก็ออกแนว 'รักษ์โลก' และเสียดสีทุนนิยม-บริโภคนิยม (จนอ้วนเผละกันทั้งยาน) อยู่กลายๆ อารมณ์หนังโดยรวมๆ มันเลยโดนใจผู้คนหลายๆ คนที่ได้ดูมังครับ   โดย: บลูยอชท์ 20 มกราคม 2552 14:51:00 น.

ตอนที่สภาพจิตใจแย่มากมายเนี่ย ดูหนังเรื่องอะไรดีอ่ะคะ ที่ทำให้เรา ฮึดสู้ ได้อีกครั้ง ที่เราจะรู้สึกว่าเรามีค่ามากขึ้นอ่ะ แนะนำหน่อยสิคะ ขอบคุณ ที่แวะไปเยี่ยมค่ะ   โดย: นู๋แอน (one mind seven guys ) 20 มกราคม 2552 16:56:36 น.

^ ^ คำถามนู๋แอน น่าสนใจมากครับ นึกไวๆ ได้ ๑ เรื่อง คือ The diving bell and the butterfly ลองอ่านที่ Blog คุณหมอโจนะครับ ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jonykeano&month=01-2009&date=18&group=2&gblog=17 ผมเองก็ยังไม่ดู แต่มีหนังสือแล้ว ผมว่าเรายังน่าจะดีกว่าตัวละครในเรื่องนะ น่าจะฮึดได้ เดี๋ยวได้เพิ่ม จะมาบอก เพื่อนๆ ช่วยนู๋แอนได้นะครับ   โดย: คนขับช้า 20 มกราคม 2552 19:26:54 น.

อ่านหนังสือ ก็น่าจะดีนะ จิงๆแล้ว แอนชอบอ่านหนังสือมากกว่าดูหนังนะ คิดว่าได้ซึมซับอรรถรถได้ดีกว่าด้วย หาหนังสืออ่านได้ที่ไหนมั่งคะ   โดย: นู๋แอน (one mind seven guys ) 20 มกราคม 2552 20:25:01 น.

ที่พูดมาทั้งหมด ดูไปสองเรื่อง คือ april snow กับ wall-e นะคะ ความคิดคล้าย ๆ กับคุณคนขับช้า เรื่องแรก เป็นเรื่องผิดศีลธรรม ลักษณะเหมือนการต้องการ จะ "แก้แค้น" ปน ๆ อยู่หรือเปล่า อันนี้ตีความไม่ถูกเหมือนกัน แต่... ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะทำให้เรื่องที่ยุ่งอยู่แล้ว มันยุ่งหนักขึ้นไปอีก ไม่รู้ซิ สรุปก็ไม่ค่อยชอบ แม้มันจะสะท้อนว่า สังคมปัจจุบันสามารถรมี sex กันได้ง่าย ๆ ขึ้น โดยโยนศีลธรรมทิ้ง ไม่คำนึงถึงคนที่ได้ชื่อว่า สามีหรือภรรยา แต่ของพวกนี้ สะท้อนมาก ๆ บางที มันจะทำให้ชินซะเปล่า ๆ สำหรับ wall-e ค่อนข้างพูดน้อยจริง ๆ ด้วยค่ะ ตอนแรกนึกว่าเป็นหนังใบ้ด้วยซ้ำไป แต่ก็ดูน่ารัก และให้อะไรดีนะคะ บางครั้ง การไม่พูด ช่วยให้หนังสนุกกว่าพูดซะอีก   โดย: โสดในซอย 20 มกราคม 2552 20:30:28 น.

แวะมาทักทาย และเข้ามาขอบคุณที่แวะไปชมบล็อกครับ   โดย: กัปตันลูกชุบ 20 มกราคม 2552 20:40:56 น.

สงสัยน้องสาวไม่อยู่อ่านบล้อกผมแล้ว เธอปิดบล้อกไปแล้วครับ   โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 20 มกราคม 2552 23:00:45 น.

ขอบคุณที่เยี่ยมเยือนค่า... จริง ๆ แล้วลิตช์เข้ามาอ่านบล๊อคนี้บ่อยเหมือนกัน แต่ที่ไม่เม้นท์ เพราะหลายเดือนมานี่งานยุ่ง ตอบเม้นท์เพื่อน ๆ ไม่ทันเลยหน่ะค่ะ... เรื่องแรกยังไม่เคยดูค่ะ แต่ได้ดู Closer ส่วนอีก 3 เรื่องหลังที่กล่าวถึง ได้ดูหลายรอบหน่อย เห็นว่าอีกหน่อยหนังจะขายมาเป็นแบบ Thumb Drive ถึงจะมีระบบป้องกันการเขียนทับ ก็คงมีแบบผีอยู่ดี...   โดย: ลิตช์ (Litchi ) 20 มกราคม 2552 23:30:15 น.

สวัสดียามค่ำครับพี่ ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ   โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 21 มกราคม 2552 21:16:41 น.

โคลสเซอร์ให้อะไรมากกว่าหญิงร้ายชายเลวนะคะ จำได้ว่าตอนดูก็ขึ้นหิ้งเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องค่ะ วอลอีนี่ก็ด้วย ตอนดูร้องไห้เลยค่ะ บังเอิญว่าตัวเองเอาไปผูกโยงกับทฤษฎีจิตวิทยาอันหนึ่ง ที่ว่า มนุษย์เราทุกคนมีศักยภาพ และความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองให้ไปอยู่ในที่ดีๆ ให้ตัวเองดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น ฉากที่บรรดามนุษย์อ้วนๆ พร้อมใจกันลุกขึ้นมาต่อสู้นั่นแหละค่ะ ร้องไห้เลย ขนลุกซู่ด้วยค่ะ พวกเรามีศักยภาพ และความปรารถนา เช่นว่า มิใช่หรือคะ   โดย: cinta IP: 58.64.56.17 10 กุมภาพันธ์ 2552 1:10:03 น.