Welcome to Wagner Blog
 
กันยายน 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
23 กันยายน 2549

กรูไม่ใช่เกย์....จริงๆนะ..ฮือๆเลิกจีบกรูซะทีเหอะ 4

ผมแต่งตัวของผมเองเรียบร้อย หูก็ฟังเพลงที่มันร้องเองแต่งเองของมัน แต่จำเนื้อไม่ได้ รู้แต่ว่าขำอ่ะ ขำทั้งน้ำตา มันร้องประมาณเพลงฉ่อยอ่ะ ร้องจีบใครสักคน(ซึ่งก็คือผมนั่นแหละ) ผมฟังไปหัวเราะไป น้ำตาก็ปริ่มๆ "เมิงอย่าทำให้กรูรู้สึกแบบนี้ได้ม้ายยยยยย" ผมตะโกน
"รู้สึกอะไร" อ้าวเวนมันได้ยินด้วย
"ปล่าว กรูพูดเล่น" "บร้ารึปล่าว พูดคนเดียวก็เป็น"
เออ กรูบร้า แล้วไอ่ตัวที่ร้องเพลงฉ่อย เพลงอีแซวอยุ่ในห้องน้ำนี่คือคนดีงั้นเหรอ
มันอาบน้ำเสร็จออกมาร้อง เฮ้ยย กรูไม่ได้เอาชุดมา
"เดือดร้อนกรูอีกนะเมิง"
"ก็ใครหล่ะ ทำกรูเปียก" มันตัดพ้อ
ผมเดินไปหยิบชุดนอนให้มัน
"โห นี่เมิงใส่ชุดอย่างงี้เหรอ " ชุดนอนมันแปลกตรงไหนว่ะ คิดในใจ
"จะใส่ไม่ใส่ "
"เออ ใส่ " ............................."แมร่ง เป็นไงกรูเหมือนไอ่บร้าเชนป่าว" ผมงง ใครคือไอ่เชน
" เออ เหมือนๆ"ผมตอบขณะนี่กะลังนอนรอมันอยู่บนเตียง(จ๊าก ไม่ได้นอนรอนะ ) มันกระโดดโครมลงบนเตียง........................
"เตียงเมิงนุ่มจัง"
"เออ เป็นไง ดีกว่านอน หลุมหลบภัยห้องเมิงใช่ป่าว"
"ก็ห้องเค้ารกนิ ไม่มีใครจัด แฟนก็ไม่มี ไม่มีใครรัก" มันพูดเชิงน้อยใจ
"ไปเรื่อยนะเมิง กรูจะนอนแล้ว ปิดไฟ"
" โอเค " ไฟดับสนิท สมองผมก็ตื้อสนิทเหมือนกัน
...................

ท่ามกลางความมืดและเงียบสงัด ผมได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นอย่างชัดเจน เพราะความตื่นเต้น บวก ตื่นตระหนก ที่ต้องมานอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับชายที่ตัวเงอไม่เคยไว้ใจ กระซิกๆ แต่มีอีกเสียงนึงที่ยังคงก่อกวนเสียงเต้นของหัวใจผม
"เอ้ย" ผมเอาแขนกระทุ้งมันเบาๆ "หายใจเบาๆสิวะ หายใจอย่างกะวัว"
"เออ ให้กรูหยุดให้ใจไปเลยดีมั๊ย" แน๊ ช่วงนี้รู้จักประชดประชัน "เออ เอาดิ"
แล้วก็เงียบไปอีกสักพัก
"เป็ด... กรูขอกอดเมิงได้มั๊ย " จึ๋ย ผมฟังแล้วจั๊กเดียม
"เมิงไม่ตอบกรูถือว่าเมิงอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วน๊า" พูดเสร็จ แมร่งมาเลยครับ ท่อนแขน วางพาดแหมะ บนหน้าอกผม ผมนอนแข็งไปทั้งตัว
"ท่าไมหายใจแรง" มันยังมีหน้ามาถาม
"แมร่ง เมิงก็ลองนอนให้ผู้ชายกอดมั่งสิวะ แล้วจะรู้"
สักพักมาแล้วครับท่อนขาพาดขวางอย่างไม่เกรงใจ
"เอาขาเมิงลงไปอีก จะโดนไข่กรูอยู่แล้ว แมร่งชักเอาใหญ่" มันค่อยลากขาลงไป
ผมนอนนิ่งไปสักพัก หาจังหวะ คุยเรื่องนั้นกับมัน แมร่งร้อนก็ร้อน เกร็งก็เกร็ง กลืนน้ำลายไม่ลงคอ
"ตัวเมิงนุ่มจัง หอมด้วย" เฮ้ออออออออ ผมทำอะไรอยู่เนี๊ยะ
......................................................................
มันกอดผมแน่น ยังกะลูกลิงกอดแม่ ผมน๊าก็ยอมมันช่วงนั้น
มันบอกว่า"กรูไม่เคยกอดใครมานานแล้วตั้งแต่แม่กรูเสีย"
"เออ เมิงเห็นกรูเป็นแม่เมิงเหรอ สาดดดดด"
"ปล่าว แต่กรูอยากให้เมิงเป็นแม่คุณทูนหัวของกรู กรูจะรักเมิงไปจนกว่ากรูจะตาย"
"โห แมร่ง จะรักกรูถึงพรุ่งนี้เองเหรอ" ผมแซว เพราะกะว่าถ้ามันทำไร พรุ่งนี้ตายแน่
" เอ้ย สาดด กรูไม่ตายเร็วขนาดนั้น แช่งกรูเหรอ"
แล้วเด็กผีโกยเถอะโยมก็เข้าสิงมัน มันจีเอวผมจนเตียงขย่ม(ถ้าใครอยู่ข้างล่างคงคิดว่าเราล่อกันแหง๋ม)
.."พอเมิงกรุหายใจไม่ทัน" ผมหัวเราะ หายใจไม่ออกเลย เหนื่อยด้วย มันก็ยังกอดผมแน่นเหมือนเดิม
"ขอกรูกอดเมิงอย่างงี้ทั้งคืนนะ"
"เออ แต่เมิงช่วยเอาหมอนเน่าออกไปไกลๆหน้ากรูหน่อยเถอะ เดี๋ยวหน้ากรูเป็นสิว" มันหยิบหมอนเน่ามันออกมา ยัดจมูกผม " เอ้ยยยยยยยย" ผมกลั้นหายใจ กะว่าสงสัยได้ตายเพราะหมอนนรกนร่แน่เลย สักพักมันก็เขว้งหมอนออก ผมเขกกะโหลกมัน 2 โป๊ก กอดจะโดนกอดเหมือนเดิม
"มีความสุขจังเร้ยยยยกรู" เออ เมิงสุข แต่กรูทุกข์ขนัด
"เมิงเล่านิทานให้กูฟังหน่อย"
"เมิงจะบร้าเหรอ สาดด โตเป็นกระซู่ ยังจะฟังนิทาน"
มันก็อืมๆๆ เพลียๆ
ผมเลยนึกออกเล่านิทานที่แต่งเองเลย เรื่อง "กรูจะทิ้งเมิงไปแล้วนะ ไอ่ฟาย ฮือๆๆT_T" (อันนี้แต่งเองนะ คริๆ)
ผมเริ่มเล่าตั้งแต่ กาลครั้งนึงนานมาแล้วมีเด็กวัด 2 คน บราๆๆๆๆ แต่งเองสด มันก็นอน อืมๆๆ ไป ......... จนมาถึงกลางเรื่องผมวกเข้าเรื่อง
"อ้อย(ขอยืมชื่อที่ชาวพันทิพย์ตั้งให้หน่อยนะ) กรูมีเรื่องจะบอก"
"อืม"
"กรุเคยบอกใช่ป่าวว่ากรูอยากเป็นกระจ๊วต"
"อืม"
"วันนั้นเพื่อนกรูโทรมา........................ให้กรูสมัครที่สายการบิน......"
".........(เงียบ)............"
"กรูเลยลองสมัครดู ปรากฎว่า..........." ผมหายใจยาวววว "กรูสอบได้ว่ะ แล้วๆ แล้วกรู เอ่อ กรู ต้องไปอยู่ (รัฐนึงแถบตะวันออกกลาง) "
" กำหนดตรวจร่างกายกรูวัน ที่ 24 สค(คือพรุ่งนี้ของผม) แล้วกรูต้องไปวันที่....(ขอไม่บอกนะ กลัวแฟนขับ ไปขับไล่).....กรูจะไม่ได้อยู่กับเมิงอีกแล้ว เมิงได้ยินมั๊ย"
เอะ ทำไมมันเงียบผิดปกติ ผมลองย้ำอีกครัง "ได้ยินมั๊ย" มันยังไม่ตอบ เลยเอามือสะกิด "เฮ้ยๆไ ไร้ซึ่งอาการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น เวร แมร่ง หลับไปแล้วววว โอ้ยยยยยยยยย กรูอุตส่าห์ เฮ้อ..........

ผมผล๊อย หลับไปตอนไหนไม่รู้ รุ้แต่นานน่ะ กว่าจะหลับ เพราะอึดอัด ตื่นมาอีกที ไม่เห็นมันแล้ว แม่บอกว่า " อ้อย สั่งไว้ว่า มันไปทำงานก่อน เข้างานกะเช้า"
"มันกลับไปกี่โมงแม"
" 5 โมงได้มั้ง"
..................................................................

วันเดียวกันนั้นเองผมตัดสินใจลาพักร้อน 3 วัน(ก็ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งกระทู้หน่ะแหละ...จนถึงวันนี้) ผมไปทำงานเข้ากะเย็นเลยไม่ได้เจอมัน ตอนเย็นโทรหามันไม่ได้เพราะ เค้าห้ามใช้โทรศัพท์ ตอนอยู่ในสนาม วันนั้นผมก็ยังไม่ได้คุยกับมัน จนมาถึงวันจันทร์ผมหยุดพักร้อน จนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่ได้คุยกับมัน มันโทรมาที่บ้านบ้างแต่ก็คุยได้แป๊บเดียว(ตอนวันจันทร์ที่ผมบอกว่าผมต้องไปแล้ว มันมาอีกแล้ว นั่นแหละ แม่เรียกว่ามันโทรมา) เพราะว่าผมหยุดมาต้องลากกะทำงานแทนผม
.............................................................
พรุ่งนี้ผมไม่ได้อยู่โพส เพราะต้องไปตรวจร่างกายที่เวชศาสตร์การบิน กะว่าวันเสาร์ ว่าง จะคุยกับมันให้รู้เรื่อง .........................
.................................................... ยังไงผมรบกวนฝากกระทู้นี้ด้วยนะครับตอนผมไม่อยู่ 2-63 วันนี้ ช่วยจัดกระทู้ไม่ให้มันเน่า(สั่งเสีย) แล้ววันเสาร์ผมสัญญาว่า ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าสุดท้ายเรื่องของเรามันจะจบยัง

................ท้ายนี้แล้วก็ฝากไว้ให้ช่วยหน่อยนะครับ
1.ผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้
2.ควรจะมีวิธีบอกมันยังไงให้มันเสียใจน้อยที่สุด
3.ถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนๆจะเลือกใครระหว่าง เอ่อ (ไม่รู้จะใช้คำว่ายังไง)มัน กับงาน
4. คิดว่าต่อไปผมควรจะทำยัง เฮ้อออ สับสนเล็กน้อย เอาเป็นว่า วันนี้ผมแค่นี้ก่อนนะครับ ยังไงฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ ดูแลแทนผมด้วยน้า.........................




กรูไม่ใช่เกย์....จริงๆนะ..ฮือๆเลิกจีบกรูซะทีเหอะ IIII


แฮๆ ต้องขอโทษอย่างยิ่งที่ปล่อยให้เพื่อนๆรอ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเยอะกะหนาด พอดี หลายวันที่ผ่านมามีธุระอะไรยุ่งนิดหน่อย เลยไม่ได้เข้ามาเล่นเลยครับ แต่เดี๋ยววันนี้จะอัพเดทความเคลื่อนล่าสุด จากสำนักข่าว ไฮเตอร์
ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อก่อนนะ ให้ผมเริ่มเบื่อตัวเองก่อน แล้วเพื่อนๆค่อยเบื่อนะ ตอนนี้กะลังสนุกกะการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ และก็เศร้ากับการต้องสะสางเรื่องบางเรื่อง ........

เนื่องจากไม่ทราบว่าเกิดอาเพศประการใดกระทู้นี้ดั๊นเผยแผร่ ลามไปถึงกระทู้ thaicabincrew ซึ่งที่นั่นเพื่อนที่ผมรู้จักก็เยอะแยะจนทำให้.................
คืนวันพุธผมเข้านอนแต่หัวค่ำ ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ ตื่นมามีเบอร์แปลกๆ โทรมาประมาณ 4-5 ครั้ง ผมโทรกลับไป...
...."อะโหล ใครครับ"
" น้องเป็ดเหรอ(กลายเป็นชื่อจริงไปแล้ว ใครๆก็เรียกเป็ด...นี่คือที่มาของ...เซ็งเป็ด) พี่โบ้เอง หวัดดีครับ" ครับของพี่โบ้ดูหลวมยังไงไม่รู้ คาดว่าถ้าพูดค่ะ จะชัดถ้อยชัดคำกว่า
ย้อนประวัติของบุคคล(มือ)ที่สามท่านนี้หน่อย นักแสดงท่านนี้อดีตชาติเคยทำงานบริษัทเดียวกับผม เข้ามาก่อนผมกับไอ่อ้อย พอผมทำงานได้ประมาณไม่ถึง 2เดือน ท่านก็อพยพย้ายถิ่นฐานไปปักหลักอยู่สีลม ที่ที่ท่านคิดว่าศิวิไลย และเหมาะกับ life style ท่านที่สุด
ผมกับพี่โบ๊สนิทกัน แต่พี่โบ้กับไอ่อ้อย ไม่สนิท เพราะไอ่อ้อยมันบอกว่า
"กรูว่าพี่แก่ ติ๋มๆยังไงไม่รู้ เมิงว่าแกเป็น...รึปล่าวว่ะ" พี่โบ้แกไม่ได้ปกปิดเลย ทุกคนทั้งแผนกรู้กันหมดว่าแกปัย มีแต่ไอ่กระบื่อนี้คนเดียวที่ดูไม่ออก......ไหนว่าผีเห็นผีวะ

"นี่แก ชั้นไปอ่านเจอเรื่องนึงใน......ชั้นว่ามันคุ้นๆนะ" ระดับความสนิทสนมสูงขึ้นอย่างพรวดพราดจากที่ไม่เคยคุยกันมานานกว่า 1 ปี
"นี่มันมีเชื่อไอ่พี่เต้ยด้วยนะแก แล้วก็มีคน 32 คนที่ชั้นว่าชั้นพอจะเดาออกว่าเป็นใคร"
"แล้วเจ๗ว่าใครหล่ะ"
"แหมรู้อยู่แกใจยังมาทำไขสือ ผู้ชายปากแข็ง นี่ชั้นอ่านอล้วชั้นอิน้เลยนะแก หลงรักไปเลยแหละ"
"เว่อร์ไปเจ๊ หลงรักผมเนี๊ยะนะ"
"บร้าสิ ชั้นจะรักแกไปทำไม หน้าตาอย่างแก ชั้นมีเป็นเข่งแล้วหย่ะ"
"ปลาทู"เหรอ ผมเย้าไปเล่นๆ
"เออ ปลาทูคอหักด้วย บร้าสิ ชั้นหมายถึงน้อง...." เออ...เรียกผมแก เรียกไอ่อ้อย น้อง อืมม ไม่มีสัจจะในหมู่เจ๊แกจริง Gentlemen come first .

"นี่น้องเค้าน่ารักขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมตอนชั้นอยู่ไม่เห็นมาทำกับชั้นแบบนี้มั่งหล่ะ ชั้นไม่รู้เลยนะเนี๊ยะว่าเค้าเป็น"
" เจ็ ไอ่อ้อยมันบอกว่ามันไม่ชอบตีฉิ่ง เจ๊เข้าใจป่ะ"
"ฉิ่งบร้าแกสิ ว่าแต่แกช่วยชั้นหน่อยสิ ชั้นอยากสอยน้องเค้าแล้วหล่ะ" โห เป็นบุคคลที่มีรังศีอำมหิตแผ่ซ่านจริงๆ โอ้ นี่หรือเมืองพุทธ ผู้ชายเป็นได้แค่ลุกมะม่วง
"แก วันเสาร์-อาทิตย์นี่แก ว่างกันรึป่าว ไปหาอะไรกินกันมั๊ย" ถึงผมจะไม่เห็นหน้าเจ๊แก แต่คาดว่าน้ำลายคงย้อยลงมาถึงหัวแม่ทีนแล้วป่านนี้

" อืมม เจ๊โทรมาอีกทีแล้วกันนะ"
"โห เจ๊ขอนะ เจีไม่เคยขออะไรแกเลย ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ"
"เจ๊ กล้าพูดดดดด แล้วไอ่ที่ ขอติดรถ ขอเข้าสาย ขอให้เข้ากะแทน ขอแลกวันไปเที่ยวกับผู้ชาย ขอให้ซื้อของให้ ขอให้จ่ายตั้งค่าข้าวก่อน ขอแม้กระทั่ง ช้อน นี่เค้าเรียกยังไม่ขออีกเหรอ" ผมทวงบุญคุณ
"บร้า นั่นเค้าเรียกน้องที่ดีพึงกระทำต่อพี่ที่น่ารัก" อืม บรรลุ........
"ตกลงจะช่วยรึปล่าว" เจ๊ยังคงจะเอาให้ได้
" เออ โทรมาอีกทีแล้วกัน"

ผมรับปากไปไม่ใช่เพราะอยากช่วยพี่โบ๊ แต่เป็นเพราะผมอยากให้ไอ่อ้อยเจอคนที่ดีกว่าผม และคนที่ให้ในสิ่งที่มันต้องการได้ ผมไม่อยู่อย่างน้อยถ้ามันกับพี่เค้าไปกันได้ ก็คงมีคนดูแลมัน พี่โบ๊ก็เป็นคนดีคนนึง นิสัยดี มีข้อเสียนิดเองตรงที่
1. ชอบตวาด
2. ชอบด่า
3. ชอบให้กำลัง โดยเฉพาะฝ่ามือ
4.ชอบตื่นสาย
5เที่ยวเก่ง
6.กินจุ
7.ต้องการให้คนชมว่าสวยตลอดเวลา(ผมมักตอบว่าสวยเพราะไม่งั้นจะเจอข้อ 1+ข้อ2 จะเท่ากับข้อ 3 ตามมาทันที)
8. พอแล้วดีกว่า คาดว่าข้อเสียคงยังไม่หมดแค่นี้เกรงว่าจะเปลืองพื้นที่(ล้อเล่นนะครับพี่โบ๊)
...................................
****ข้อความทั้งหมดที่กล่าวพาดพิงถึงพี่โบ๊นั้น ได้ทำการขออนุญาตจากเจ้าตัวและ เจ้าตัวอนุมัติแล้ว(เอาผู้ชายเข้าล่อเลยยอม) ว้าฮ่าๆๆๆ

เย็นวันนั้น หลังจากที่ผมเสร็จธุระ มันก็โทรมา.............
"กี่วันแล้ว"
"อะไรของเมิงกี่วันแล้ว สวดอภิธรรมเหรอ" ผมก็ตอบไป แต่ในใจก็ดีใจที่ได้ยินเสียงมันซะที
"ไอ่บร้า กี่วันแล้วที่กรูไม่เจอเมิง"
"ไม่รู้ ไม่ได้นับจะนับทำไมวะ"
" 3วันกับอีก 11 ชม กรูช่วยนับ" โอโห้ นอกจากวันที่ 1 กับวันที่ 16 ที่มันจำได้แม่นแล้ว(เนื่องจากหวยออก เมื่อก่อนวันผลบอลออกด้วยแต่ตอนนี้มันเลิกแล้ว...มันว่านะ) มันยังจำวันนี้ด้วยอืมม นับถือๆ
"มีธุระอะไรรึปล่าว"
"ไม่มี กรูแค่อยากโทรมาบอกว่ากรูน่ะ คิดถึงเมิงว่ะ ไม่มีใครให้กรูล้อ เหงาสาดดดด"
" เออ กรูขอโทษ ที่ทำให้เมิงต้องทำกะแทนกรู กรูมีธุระจิงๆ เหนื่อยป่าววะ"
"เหนื่อยแค่นี้ไม่ตายหรอก ยังไกลหัวใจอีกเยอะ" อืมมุขไกลปืนเที่ยงอย่างแรง
"ว่าแต่ธุระอะไรของเมิงว่ะ บอกกรูไม่ได้เหรอ" ผมอ้ำอึ้ง เพราะว่ายังไม่ทันคิด
"เออ เมิงไม่ต้องรู้หรอก ไม่เกี่ยวอะไรกับเมิงอยู่แล้วแหละ ไม่ต้องกลัว" ไม่ทันคิดก้เลยตอบไปอย่างงี้
"เมิงก็สาดดดพูดแต่ แบบนี้ กรูแค่อยากรู้เรื่องของเมียกรูมั่ง เผื่อสวมเขาให้กรู กรูจะได้รู้ไง"
"กรูว่าเมิงมีเขาตั้งแต่ยังไม่รู้จักกรูเลยว่ะ คริๆ"
"ไอ่เวน กรูไม่ใช่กวางเรนเดียร์" ผมหัวเราะออกมา นานๆทีจะหัวเราะกับมุขมัน อาจเป็นเพราะผมเปิดใจรับมันมากขึ้นก็ได้มั้ง
"พรุ่งนี้ว่างป่าวหล่ะ ไปหาห้องกัน แถวลาดกระบังน่ะ ห้องเยอะ" มันชวนเนื่องจากว่าเราต้องทำการย้ายที่พักพิงในอีกไม่ช้าแต่ ผมกับมันยังไม่เคยหาหอเลย มันเคยบอกว่า
"เราอยู่ห้องเดียวกันดีป่าว สร้างรังรักด้วยกัน"
"ถุย.....รังรักกะผีเมิงสิ อยู่นรกมากกว่ากรูว่า เมิงอยู่รกจะตาย กรูกลัว นอนๆตื่นมากรูหลง หาทางออกไปทำงานไม่เจออะดิ"
จนวันนั้นมันชวนผมอีกครั้ง
"เออ กรูไปเป็นเพื่อนก็ได้ แต่กรูไม่อยู่หอนะ กรูจะขับรถไปทำงาน"
"อ้าวทำไมหล่ะว่ะ สาดดด กรูอุตส่าห์ จินตนาการ........"
"จินตนาการอะไรของเมิง"
"ป่าว แมร่งแล้วกรูจะอยู่กับใครหล่ะ"
เยงกันพอให้หายคิดถึง ผมเลยขอตัววางหู เพราะอยากพักเหลือเกิน................................................

ผมยังคงหาทางบอกมันเรื่องที่ต้องไปอยู่เมืองนอก แต่ยังไง๊ ยังไงก้จนใจ นึกไม่ออก ในห้องนี้ก็มีแต่คนยุให้เอากะมัน(จะเอากันยังไงยังไม่รู้เลยครับ) ผมน่ะนึกไปนึกว่าก็ไม่รู้บอกยังไง กลัวไปสารพัด รู้ว่ากลัวไปเอง ปต่ก็นะอดไม่ได้....................
ความรู้สึกที่มีกับมันตอนนี้ คือ ผมรู้สึกดีกับมันนะ แต่ไม่ได้หมายความรัก แค่มีความรู้สึก ห่วง หวงบ้าง และก็บางทีก็นึกถึงมันอยู่บ่อยๆ มันมีเรื่องให้นึกถึงเยอะมาก...........
เช่น.........
วันนึงผมนั่งมอไซต์รับจ้างไปหามันที่ห้อง เนื่งจากจะเอาใบลาไปฝากกับมัน ด้วยความรีบเร่ง ลืมดูตังส์ในกระเป๋ามีแต่ 500 .......
ไปถึงหอควักตัง 8 บาท อิ๊บอ๋าย เศษตังส์ไม่มีเลย ผมรื้อกระเป๋าเละเทะด้วยความลน ผมโดนมอไซค์รับจ้างด่าเละ
"ไม่มีหรอก 8 บาท ให้แบงค์ 500 น่ะ คุณไม่คิดจะแลกมาก่อนเหรอ ผมทำงานนะคุณ เสียเวลา"
"พี่ ผมวิ่งไปเอาให้อยู่ชั้น 4 เอง"
" นี่น้อง พี่ไม่ว่างรอเงิน 8บาทหรอกนะ น้องก็เห็นมีคนรอคิวมอไซต์เยอะขนาดนั้น เอาแบงค์ 500 มา พี่จัเอาไปแลกหน้าปากซอย" ใครจะกล้าให้ไปหล่ะ เผื่อมันเชิดเงินไปผมจะตังส์ที่ไหนกลับบ้าน.............ตอนนั้นกดดันนะ เพราะว่าแมร่งมอไซ๖ก้หน้าเหี้ยมยังกะโจรปูโล ตางี้แดงยังกะนกกะปูด ผมว่าถ้าพี่เค้ากินเนื้อผมแทนได้พี่เค้าคงกินหัวผมไปแล้ว


ผมตัดสินใจโทรหามัน
"เฮ้ยย ช่วยกรูหน่อย" ผมบอก
"อะไร"
"เอาเงินมาให้กรู 8 บาท มอไซต์จะแดกกรูอยู่แล้ว"
"ก้อให้มันแดกไปสิ" ผมยังต่อล้อต่อเถียง
"เมิงอย่ามากวนส้นกรูตอนนี้ได้ป่าวสาดดด กรูจะตายอยู่แล้ว รีบเอาลงมาเหอะ"
"ตั้งชั้น 4 แน่ะ กรูขี้เกียจลงไป..เมิงขึ้นมาดิ" อืมมมมมมมมมมกรอดดด
"ไอ้เอี๊ย เมิงนี่มันสันดานจิงๆ กรูลำบากเมิงลงมาหน่อยสิว่ะ อย่าให้กรูต้องขึ้นเมิงขึ้นกรูกับเมิงนะ"
"ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ" โห ผมนี่สุดๆครับตอนนั้น คือกะว่ายังไงเลิกคบแน่ มอไซต์ก็จ้องซะ....ผมกดหูวางหันหลังไป ตัดสินใจยกเงิน 500 ให้มอไซต์ไป หันมาขวับ มันมายืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า มันลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
" อะไรของพี่ เงิน 8 บาท ผมเอาเอาไป" มันยื่นเงินให้มอไซต์
"ก็เพื่อนน้องอ่ะ ยึกยักแมร่ง" มอไซต์มันก็คงเดือด
"ยึกยักยังไง ว่ามาดิ" มันยังกล้าไปพูดดีกับเค้า
"พอเหอะ อ้อย กรูว่าไปเหอะ" ผมปรามกลัวมันโดยยำตีน
"ยัง เมิงขึ้นไปก่อน กรูจะคุยกับมันก่อน ยึกยักยังไงว่ามา อ่ะ" มันจับแฮนด์รถไว้
"แมร่งก็มันนั่งรถรู้อยู่แล้ว ว่า 8 บาท ไม่รู้จักแลก ผมเสียเวลา วิ่งครั้งนึงได้ 8บาทยังต้องมารอ ซื้อมาม่าได้ยังไม่ครบ 2 ห่อ" แน๊ หัวหมอด้วย แต่ตอนนั้นสงสารเค้าแหละ
"แล้วไง ก็เพื่อนผมบอกจะเอามาให้ ทำไมไม่ให้มันขึ้นมาเอา"
"อ้าว ถ้ามันหายไปแล้วผมจะทำไง"
" มันจะหายไปไหน ตึกมีอยู่ 6 ชั้น มันโดดหนีพี่กับเงิน 8 บาทมันไม่คุ้มหรอก กับตายห่านะ เอาไป 20บาท ไม่ต้องทอน แล้วทีหลังนะ น้ำใจน่ะ หัดมีมั่งคนเค้าไม่ได้ตั้งใจ ไปว่ามัน"
"อ้าว เมิงก็ขอโทษเค้าซะ ทีหลังนะ พกไว้มั่งเหรียญน่ะ ไม่หนักกระเป๋าเมิงเท่าไหร่หรอกสาดดด" มันหันมาทางผม ผมหันไปขอโทษมอไซต์ เค้าก็หน้าเจื่อน ผมก็หน้าเสีย................................
"ต้องให้กรุเหนื่อย ไอ่นี่" ผมได้ยินเสียงมันบ่นนำหน้า
"เมิงมาเมื่อไหร่อ่ะ กรูนึกว่าเมิงไม่ลงมาซะแล้ว" ผมยังคงรู้สึกสำนึกบุญคุณในความเมตตาของมัน
"กรูลงมาตั้งแต่เมิงบอกขอตังส์ 8 บาทแล้ว กรูแหย่เมิงเล่น" มันคงอยากให้ผมด่าก่อนมั้งมันถึงจะพอใจ
แต่ยังไงตอนนั้นมันก็ได้ใจผมไปโขอยู่..................


ผมนอนนึกถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็วกมาที่เรื่องของมัน ถามผมว่าผมใจหายมั๊ย เมื่อวันที่จะต้องพูดคำว่า "กรูไปก่อนนะ" กับมัน หายครับ หายไปทั้งใจแน่ ไหนจะห่วงแม่ ห่วงน้อง ห่วงมันอีก แต่ก็ ไม่รู้ว่ามันจะยอมมาส่งรึปล่าวก็ไม่รู้............
"เฮ้ย กรูตัดผมทรงแบงค์ เมิงว่าเป็นไง" มันยื่นรูปแบงค์วงแครชในหน้าหนังสือพิมพ์มาให้ผมดู
"เออ เข้ากับเมิงว่ะ ตัดปุ๊บเหมือน บังเลย"
"ไม่เอาดิ เอาจริงๆ กรูไว้ผมยาวมันรำคาญ กรูขี้เกียจสระ" มันทำท่ารวบผมซึ่งก็ไม่ได้ยาวนักหนา
"เออ เมิงจะตัดเมิงก็ตัดสิวะ มาถามอะไรกรู" ผมพูดตัดรำคาญ พลางหยิบก้อนหินโยนลงสระ(จตุจักร ตอนที่แล้ว ย้อนไปอ่านซะนะอิๆ เล่นให้งง)
"อ้าวกรูต้องถามเมิงสิ กรูตัดมาหล่อ เมิงจะได้ภูมิใจที่ผัวเมิงหล่อ เดินด้วยจะได้ไม่อายใครไง ดูๆ...คนนั้นมองกรูอีกแล้ว มองอะไรว่ะ" พูดเสร็จมันชี้ไปที่ผู้หญิง2-3คนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่ง เค้าไม่ได้มองมันหรอก เค้าหาเพื่อนเค้า
"กรูว่าน้องเค้าคงไม่เคยเห็นแมลงวันหัวเขียวตัวเท่าคนมั้ง" ผมกัดไปนึงดอก
"ผั๊วะ กรูเป็นแมลงวันหัวเขียวเมิงก็เป็นหมาเน่าแหละว่ะ กรูจะดม จะชอน จะไช ทั้งตัว" ผมขนลุกพรึบเลยครับ เห็นภาพขึ้นมาทันที
"นานะ พากรูไปตัดผมหน่อยนะ เดี๋ยวกรูเลี้ยงฟูจิ" ได้ยินฟูจิแล้วหูผึ่งครับ เอาก็เอา ผมตัดสินใจพามันนั่งรถไฟฟ้าต่อไป ชิกชับทันที มาถึงระหว่างทางเดิน มันเจอขอทานที่ไหนมันให้หมด จนผมบอกว่าให้มันแลกเศษตังส์เลยดิ ผมพูดประชด หันไปอีกที ไปยืนขอแลกตังส์อยู่หน้าเซเว่นจริงๆ เอากับมัน
"หวัดดีครับพี่" ผมทักทายพี่ที่ร้าน
"พี่ ผมเอาเพื่อนมา พี่ช่วยตัดหัวมันออกทีนะ" พี่เค้ายิ้มใหญ่
มันนั่งมองตัวเองด้วยความภูมิใจที่ชาตินี้สามารถหาร่างที่หล่อเหลาแบบนี้สิงสถิตย์ได้(ผมว่าคิดเอาเอง)
"กรูก็หล่อเหมือนกันนะ เมิงว่าป่าว" มันหันซ้ายหันขวา
"อืม กรูก็ว่างั้น" ผมไม่สนใจยังคงนั่งอ่านหนังสือต่อไป
"หล่อแล้วทำไมเมิงไม่ชอบกรู"
"ก็เมิงไม่มีนม ไม่มี....เหมือนผู้หญิง" พิมพ์เองยังอดหัวเราะไม่ได้
"ใครบอกกูไม่มี นมกรูก็มี" มันขยำนมตัวเอง
"....กรูก็มี"พูดไม่พูดปล่าว ขยำเป้าตัวเอง
สักพักช่างเอาอุปกรณ์มา
"อ่ะ เมิงตัดไปก่อน กรูจะไปเดินศูนย์ฯจุฬา" ผมทำท่าลุก
"เฮ้ย ไม่เอา เมิงอยู่กะกรูก่อนดิสาดดดด "
"เรื่องอะไร เมิงบอกให้กรูพามากรูก็พามา ไม่ได้บอกให้กรูอยู่เป็นเพื่อน" พูดเสร็จผมลุกเดินออกไปเลย
................เดินมาถึงหน้าโรงหนังลิโด้ เหมือนมีคนเดินตาม หันไปดู.....
"อ่าว ไอ่เอ็ดเข้ ออกมาทำไม๊" ผมตกใจ มันยืนยิ้มแหยะ หัวลีบเพราะโดนฉีดน้ำมา
" เมิงไม่อยู่เป็นเพื่อนกรู กรุไม่มีอารมณ์ตัด"
"อะไรของเมิง แล้วเมิงจะไปเดินหัวเปียกเป็นลุกวัวเพิ่งเกิดเนี๊ยะนะ แมร่ง ภาระกรูจริงๆ"
"ฝากให้เธอเลี้ยงดู ให้อยู่กับเธอแล้วกัน" ตอนแรกนึกว่าเพลงอะไร มารู้ทีหลังเพลงของเจ เมื่อ 10 ปีก่อน ยังคงฮิตตลอดกาลสำหรับมัน...............เฮ้อออ




ผมยังคงนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เป็นอะไรมากป่าวว่ะเนี๊ยะกรู ทำไมต้องกลัวมันเสียใจขนาดนั้น หรือว่าไอ่ที่กลัวๆน่ะ กลัวตัวเองต้องเสียใจซะเอง.............
.....................................................................
..........................................................
........................................
.............................
..................
.............
.........
.....
.....
..
.ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปิดคอม เข้าพันทิพย์ หากระทู้ที่พิมพ์เองกับมือ ผมว่าความรู้สึกทุกอย่างที่ผมมีให้มันล้วนถูกเก็บไว้ในตัวอักษรทุกตัวที่ผมเขียน บางทีมันอาจสื่อความรู้สึกที่แท้จริงของผมได้มากกว่าคำพูดก็เป็นได้..............
.............................................................ผมก๊อปปี้ สิ่งที่ผมเขียน และความเห็นของเพื่อนในนี้ทุกคน ทุกคนที่เข้ามาและตอบกระทู้ให้กำลังใจ เข้ามาร้องให้ เข้ามาหัวเราะ เข้ามากด F5 เข้ามารอเร่งให้ผมรีบพิมพ์จนผมพิมพ์ผิดๆถูกๆ มือหงิก ทุกความเห็นที่เข้ามาเตือน หรือแม้แต่ความเห็นที่บอกให้เอาเรื่องของผมไปทำหนัง(ซึ่งคาดว่าจะเจ๊งกว่าโบย่า งูยักษ์เขมือบไอ่อ้อย) ทุกอย่างถูกผมนำมาเรียบเรียงลงใน word จัดหน้าอย่างปราณีต ก่อนจะกดสั่งปริ๊นส์ ผมรออยู่นาน.......
.........

.ยังไม่เสร็จ ผมยังคงรอต่อไป.
.........
.........ยังอีกเหรอว่ะทำไมมันเยอะจัง
.........
.........อ้าวหมึกจะหมดแล้ว แต่ก็ใกล้เสร็จแล้ว
.........

....โอเค เสร็จแล้ว โห 100 กว่าหน้า มันจะอ่านมั๊ยว่ะเนี๊ยะ
.......................................................................
แผนของผมคือ ผมจะไม่เผชิญหน้ากับมันโดยตรง ผมจะเอาสิ่งที่ผมเขียนและความเห็นของทุกคนที่เข้ามา ให้มันอ่าน อย่างน้อย ถ้ามันอ่านแล้วเศร้าก็จะมี ความเห็นของเพื่อนๆบางคนที่อาจทำให้มันหัวเราะ แล้วรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง(เหมือนผม) หรือหากมันร้องไห้ ก็จะมีความเห็นของหลายๆคนที่คอยให้กำลังใจ และอยู่ข้างมัน(พวกที่เชียร์ให้ผมได้กับมันนั่นแหละ).....
....................ผมว่าวิธินี้แหละดีที่สุด หลังจากนั้นผมและมันจะเป็นยังไงก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินและเยียวยาเอาแล้วกัน เออ ลืมอีกอย่าง พี่โบ้ด้วย หวังวาจะทำให้มันลืมผมได้นะ พี่โบ้
.......................................................................
เสร็จจากการปริ๊นมอราทอน ผมยังคงนอนไม่หลับ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา


โห ลืมเปิดเสียงไว้ มีเบอร์โทรเข้ามา 8 เบอร์ เป็นของพี่โบ้ 7เบอร์ อีกเบอร์ เป็นของมัน ผมเลือกที่จะโทรหาพี่โบ้ก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่ากินเส้นให้หมดห่อน เหลือลูกชิ้นกินทีหลัง(เกี่ยวมั๊ยหว่า)
" พี่โบ้ มีไร"
"โห ไม่ยอมรับสาย ปล่อยให้ชั้นกระหน่ำจิกถี่กว่าจิกผู้ชายอีก"
"อืม พอแล้วเจ๊ เข้าเรื่องมาเลย มา ว่ายังไง"
"คืนวันเสาร์ว่างมั๊ย ไปดู af กัน พี่ได้บัตรมา3ใบ" เพิ่งรู้ว่าจะไปดูแก๊งนี้ต้องใช้บัตรด้วย นึกว่าเดินเข้าไปดูได้เลย
"เอ่อ ขอคิดดูก่อนนะเจ๊ พอดีผมไม่ค่อยชอบดูอ่ะ ไม่รู้จักใครเลย" ผมยังคงไม่รับปากเพราะว่าไม่รู้จะไปดูทำไม ผู้หญิงน่ารักๆไปหมดแล้ว
"ไม่ได้แกต้องไป ชั้นเอาบัตรมาได้แล้ว ชวนน้อง...มาด้วย"
"อ้าววว ถ้ามันมาไม่ได้หล่ะ"
"แกก็ไม่ต้องมา.........ชั้นล้อเล่นน่ะ เอามาให้ได้นะ ถือว่าพี่ขอร้องง ง ง ง ง"
"โอเคครับผมจะลองโทรชวนดูนะ ไม่รู้มันจะมารึป่าว มันคงดูไม่รู้เรื่อง เห็นดูแต่ บันทึกการแสดงสด ศิริพร อำไพวงศ์" ผมเห็นที่ห้องมันมีแผ่นด้วย ว่าจะยืมมาดูมั่ง
" โห งั้นเข้าทางเลยแกคืนวันนั้นเค้าได้โจทย์เพลงลูกทุ่งกัน โอ้ยยยแกเห็นยัง ฟ้าดินเป็นใจ"
อืม โอเคๆ ผมก็รับปากว่าจะชวนให้ สิ้นจากเสียง 8ปรอทของพี่โบ้ ผมกดโทรออกหามันทันที หาข้ออ้างคุยกับมันได้แล้ว ว้าฮ่าๆๆๆๆ


ผมโทรไปครั้งแรกไม่ติด ฟังเสียงรอสายอยู่นาน จนอดคิดไม่ได้ว่าหรือมันไม่อยากรับสายหว่า กรูไปทำอะไรให้โกรธรึปล่าวฟะ(ปกติ ยิงเบอร์ไป นับ1 ยังไม่ถึง 3 ดีมันก็โทรมาแล้ว) ผมลองกดอีกที
"ฮือๆๆ อะโหล รู้แล้วว่าคิดถึง" เสียงมันเหมือนหมาหอบแดด
"ทำไรอยู่ ว่าวเหรอ เสียงหอบเชียวเมิง" ผมแซว
"ว่าวกับเอี๊ยะเมิงอะดิ กรูล้างห้างน้ำอยู่"
" 5 ทุ่มนี่อ่ะนะ ล้างห้องน้ำ....โบราณเค้าถือนะโว้ย เค้าไม่ให้ล้างห้องน้ำกลางคืนเค้าบอกเหมือนปัดเป่าโชคลาภ (จริงๆเค้าห้ามกวาดขยะกลางคืน)" ผมหลอกมัน
"จริงเหรอ...แมร่งซวยแล้วกรู แล้วกรูต้องทำไง" มันแมร่งโง่เชื่ออีก
"แก้เคล็ดก็ต้องทำให้ห้องน้ำซกมกเหมือนเดิม" 555
"เออ เดี๋ยวกรูจัดการเอาขยะมาเทๆกองไว้ก่อน กรุ่งนี้ค่อยทำก้ได้ แมร่ง เดี๋ยวสิ้นเดือนโดนหวยแ**กอีกกรู" สุดยอด หลอกง่ายยิ่งกว่าหลอกว่าหน้าตาดี
"กรูล้อเล่น แมร่ง ง งมงายนะเมิง"
"อ่าว ไอ่สาดดด หลอกกรู....ว่าแต่มีอะไร"
" อ๋อ กรูจะชวนเมิงไปดู af วันเสาร์"
"อะไรของเมิง af เครื่องเล่นดีวีดีเหรอ" กรูว่าแล้วคนอย่างเมิง.....
"บร้า นั่นมัน aj เล่นได้ไม่เลือกแผ่น af น่ะ academy fantasia อ่ะ"
"เง้อ กรูไม่รู้จักว่ะ แต่เมิงชวน กรูไปก้ได้" ผมรับปาก
"เมิงจะไม่คิดก่อนหน่อยเหรอ"
"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เมิงว่าดีกรูก็ว่าดี" โห มันจะรู้มั๊ยว่าคืนวันเสาร์จะเป็นการดูตัวคู่บ่าวสาว(พี่โบ้-มัน สมรสสมรัก กร๊ากกก)
"เออ แล้วพรุ่งนี้(วันศุกร์)กรูไปบ้านเมิงเช้าหน่อยนะ ไปหาไรกินก่อนออกไปหาหอ" มันทำตัวเหมือนบ้านมันเอง
"ตามใจเมิง แต่แม่กรูไม่อยู่ ไปวัดอัมพะวากับน้อง" แม่คงปวดหัวกับมัน ถึงขั้นหนีไปวิปัสสนาทีเดียว
"เหรอ ทิ้งเมิงอยู่บ้านคนเดียวอันตรายว่ะ กรูไปนอนเป็นเพื่อนนะ"
"..เอ่อ............................."
เสียงโทรศัพท์หายไปคาดว่าจะรีบวางก่อนที่จะได้ยินคำปฏิเสธ
........................................................................... ผมหยิบเอกสารที่ปริ๊นไว้มานอนอ่าน คืนวันเสาร์ ผมจะต้องเอาให้มันอ่านให้ได้......


.............ผมอยู่ไหนวะเนี๊ยะ ที่นี่ที่ไหนว่ะ แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมเดินตุปัดตุเป๋ ผ่านกอหญ้า ไม่ใส่รองเท้า หักกิ่งไม่มา 1อัน เดินแกว่งไปแกว่งมา
"เฮ้ยยยย อยู่ไหนกันหมดว่ะ" ผมตะโกน แต่เสียงยังเงียบเหมือนเดิม หันไปมองข้างทางเจอทางลาดลงเนิน ผมเดินลงไปแบบไม่คิดอะไร เดินๆไป ผลุง!!! ขาเหยียบลงไปในหลุมอะไรสักอย่าง แหยะ ยกทีนขึ้นมารดู อี๋ กรูเหยียบไข่อะไรว่ะ เหลืองอ๋อยเลย ผมยกเท้ามาถูกับหญ้าข้างๆหลุม มองไปข้างหน้า ป่ายางนี่หว่า ตัดสินใจหันหลังกลับ
ขวับ!!!! แอๆๆๆๆๆ บรึ๋ยๆๆๆ งูตัวเท่าหมาได้มั้ง 2 ตัวอ่ะ แผ่แม่เบี้ย ขู่ฟ่อๆ อิ๋บอ๋าย ผมไปเหยียบรังไข่มันแน่ๆเลย ผมตัดสินใจวิ่งเข้าป่ายาง วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ เหอๆๆๆ(หอบ) หันไปมันเลื้อยตามมากระชั้นชิด ผมเร่งสปีดเร็วกว่านรก ใส่เกียร์หมา วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ให้ตายเหอะ วิ่งเท่าไหร่ทำไม่มันไม่ไปว่ะ กรูเหนื่อยแล้วนะ สุดท้ายผมลองกระโดดแผล๋ว เฮ้ยกรูเหาะได้ด้วย เข้าทางผมใช้วิชาตัวเบาเหยีบยอดไม้วิ่งฉิว แต่งูเจ้ากรรม(ตอนนี้เหลือตัวนึงแล้ว อีกตัวสงสัยกำลังเฝ้าที่รังมั้ง) มันบินได้ ตามไม่เลิก ผมขึ้นไปยืนบนยอดต้นยาง มองลงมาเห็นงูตัวนั้นเลื้อยอยู่ข้างล่าง ผมตัดสินใจ ใช้วิชาบาทาไรไง กระโดดลงมาจากยอดยาง ฟิ้ววววววว ด้วยความเร็วสูง งอขาข้างนึงยืดขาข้างนึง ลงมาในท่ายืน งูยังคงส่ายหัวไปมา หาผม ในที่สุด ......
........แผละ ผมใช้ส้นะเท้าบี้หัวงูเละคาทีน
"........ออดดดดดดดดดดดดดดดดด" ผมสะดุ้งตื่น ใครแมร่งมากดออดหน้าบ้านแต่เช้าว่ะ หยิบนาฟิกามาดู ...............โอ้ยย 6 โมงเช้า กรูรู้แล้วเมิงเป็นใคร....


ผมงัวเงียเดินจากชั้นสอง แค่ร่าง ส่วนวิญญาณกำลังสู้กับงูอีกตัว
"ที่บ้านเมิงสว่างเร็วเหรอ แมร่ง มาบร้าอะไรป่านนี้" มันไม่รอให้ผมชวนเดินแทรกเข้ามาเฉย เดินแกว่งถุงเต้าหู้ กับโจ๊กอย่างละสอง
"ก็กรูนอนไม่หลับนิ วันนี้กรูจะได้อยู่กับเมิงท้างงงงงงงวัน" มันลากเสียงยาวววววววว
" เออ เมิงจะทำเอี๊ยอะไรก็ทำนะ กรูไปนอนต่อนะ" ผมคลานขึ้นบันได ไปนอนต่อ
ตื่นมาได้ยินเสียงก๊องแก๊งๆ หลังบ้าน เดินลงมาดู
"เมิงทำอะไรของเมิงเนี๊ยะ" ผมชะโงกไปดู
"กรูเจียวไข่โว้ย ตอนแรกกรูซื้อโจ๊กมาแต่ว่ามันหล่น แตก" มันชี้ร่องรอยให้ดู
"กรูกลัวเมิงไม่มีไรแดกกรูเลย ทำไข่เจียว นี่สูตรที่ตอนกรูอยู่วัดเลยนะ" ผมเดินไปดูใกล้ๆ อะไรของมันวะ
"เนี๊ยะ ตอนกรูอยู่วัดนะ ดึก กรูหิวก็ลุกขึ้นมาทำกับข้างเอง นี่เค้าเรียก ข้าวไข่เจียว" ผมงง แล้วมันแปลกตรงไหน
"นี่เมิงดู"มันตกไข่3-4 ใบ ใสอ่าง ใส่มะนาว ใส่น้ำปลา
"เมิงกินหวานปล่าว" มันหันมาถามก่อนเติมน้ำตาล ผมส่ายหน้างึดๆ
"เออ เหมือนกรูเลย งั้นกรูไม่ใส่" หยิกแก้มผมไป 1ที
"อ่ะ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย หั่นหอมกระเทียมให้ไวใส่ในไข่เจียวกรู" อืมมม เป็นกลอนแรกที่จำได้แม่น เอ้ยยยยย นี่มันบ้านกรูไอ้สาดดดด
ทุกอย่างเหมือนไข่เจียวปกติทุกอย่าง
" นี่ กรูไม่เห็นมันจะพิศดารผาดโผนตรงไหน" ผมถาม..
"เดี๋ยวเมิงคอยดู เอาตีไข่กรูหน่อย"
"ตีไข่เมิงเหรอ" ผมทำท่าจะเอาซ้อมตีไข่มัน
"เออ เอา" มันแอ่นไข่มาให้ตี ผมวางซ้อม หันไปหยิบมีดทันที ผมเอามือกุมไข่.....
..............ผมตีไข่ไปสักพักจนเมื่อยมือ
"เอามา เมิงดู" พูดเสร็จมันเอาข้าวเทผลัวะ ลงไปคน 2-3 ที จนเข้ากันแล้ว เอาไปเทใส่กระทะ ท่าทางชำนาญน่าดู
เสียงดูซู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"อ้าว เมิงถอย เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นโดนเอา" อืม เป็นห่วงกรูหรือกลัวกรูเกะกะ ผมมองดูมันทำ แอบคิดขำๆ ถ้ามันมาเป็นผัวผมจริงผมก็สบายเลยดิ มีคนรับใช้ คริๆ ล้ำเลิศ
........................................................................
ข้าวไข่เจียวสูตรฮ่องเต้ ของมันมาอยู่ในจานผมเป็นแผ่นแล้วมีข้าวอยู่ข้างในพร้อมพริกน้ำปลา และน้ำเต้าหู้ อยากจะบอกว่าหน้าตาเหมือนข้าว+ไข่คน แต่ก็ต้องกิน
"โทรศัพท์อยู่ข้างนอกนะ ถ้ากรูตายโทรบอกแม่ด้วย" ผมแหย่มันเล่นพลางตักไข่มันใส่ปาก
"อืมมม สุดยอดว่ะ อร่อยโคตร อร่อย เชลล์ลืมชิม"
"เวอร์ ไปแล้วเมิง" มันว่า..............
.......................................................................
ผมทนนั่งกินไปสักพักก็เริ่มคิดว่า มันก็อร่อยดีเหมือนกันนะ หรือเพราะหิวหว่า
ผมเริ่มเล่าความฝันเมื่อคืนเรื่องงูให้ฟัง
"กรูว่า งู 1 ไข่ น่ะ 0 แล้วเมิงเหาะได้ 6 " มันเอาไปตีเป็นเลขเฉย
"เมิงบอกว่างู 2ตัว ตัวนึงเมิงเหยียบตาย อีกตัวนึงไปไหนหล่ะ"
"ไม่รุเว้ย ก็มันไล่กรูตัวเดียว สงสัยอีกตัวกะลังเช็ดรังมันอยู่มั้ง"
"แล้วเมิงเห็นไข่รึป่าวกี่ฟอง"
"ก็เมิงนั่นแหละ เสือกมาปลุก กูว่าจะวกกลับไปนับไข่มาบอกเมิงอยู่แล้ว" ผมว่า
"เออ กรูนี่มันเลวจริงๆนะ" อืม ผมก็ว่างั้นแหละ
.......................................................................


ผมขึ้นไปอาบน้ำ ระหว่างที่มันนั่งดูผู้หญิง-ผู้หญิง แต่งตัวไปสักพัก ได้ยินเสียงมันเคาะประตู รีบมาเปิด
"น้องนุ่น(น้องผมเอง น่ารักนะ แต่ไม่ตลก เล่นมุขไปทีไรมันไม่ค่อยขำ แม่บอกว่า ผมติดตลกเหมือนพ่อ น้องติดเรียบร้อยเหมือนแม่....ดีใจจังที่ไม่ติดเรียบร้อยเหมือนแม่ เพราะไม่งั้นมาเจอไอ่นี่มีหวังร้องแน่) โทรมาบอกว่าให้แวะบอกน้อง....(เพื่อนน้องอยู่หน้าปากซอย)ด้วยว่าไม่ได้ไปหานะ ไม่ต้องรอให้ไปกันก่อนเลย" ผมก็อืมมม
"นั่นหนังสือไรอ่ะ" มันชี้ไปที่สนธิสัญญาสารภาพที่ผมปริ๊นไว้ มันเดินปรี่ไปจะไปหยิบ
"เฮ้ยยย" ผมรั้งมือมันไว้ "หนังสือน้องกรู กรูเอามาอ่านเล่น" ผมคว้าสนธิสัญญาไว้ทัน.....
"เมิงก็ปล่อยมือกรูสิ จับอยู่ได้ เห็นกรูใจง่ายแล้วจะเกาะแกะเหรอ" อ่าวววแป่วววลืมไป อารามตื่นเต้นกลัวมันอ่าน ..
"เออ โทดที เดี๋ยวกรูไปล้างมือก่อน กลัวติดขี้กลากเมิงลงไปก่อน ปิดหน้าต่าง แล้วก็ประตูหลังดู เดี๋ยวกรูลงไป" มันหายไป ผมรีบเอาสนธิสัญญาสารภาพซ่อนไว้ในลิ้นชักใส่กุญแจ
..................ยังหรอกไอ่อ้อย ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอให้เมิงมีความสุขไปก่อน แล้วพรุ่งนี้(วันเสาร์) กรูจะได้ไม่เสียใจมากหากทำเมิงร้องไห้..................................................................................................................T_T


ผมสะพายเป้เตรียมพร้อม มีกันแดดอยู่ข้างในเป้
"เมิงจะกลัวดำไปทำไม ดูอย่างกรูดิ ดำไม่กลัวกลัวไม่ดำ" มันแซว เราแวะซื้อแซนวิสร้านเพื่อนน้องผม พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องรอน้องผมแล้ว ป่านนี้บรรลุแล้วมั้ง (สงสัยชาติหน้าคงไม่ได้เกิดเป็นลูกแม่แล้วมั้งเรา ไม่เคยไปวัดกับแม่เลย)
ออกมายืนรอรถ 10.30 จนผ่านไป 11.00 จนใกล้ 11.30
" กรูบอกแล้วว่าให้เอารถไป...ร้อนจะตายเห็นป่าว ควันก็เยอะ รถก็ติด หงุดหงิดโว้ยยย" มันบ่น
" อ้าวไหนว่าไม่กลัวดำ ไม่กลัวร้อนไง"
"ดำไม่กลัวหรอกเว้ย แต่กรูกลัวประสาทแดก ตายไปพร้อมๆกะเป็นมะเร็งอะดิ"
เห็นมันหงุดหงิดแล้วก็หงุดหงิดไปด้วย รอรถนานมาก
"ไป.....ไปยืนบนสะพานลอบกะกรูดีกว่า ควนไม่เยอะ ไม่ร้อน แล้วก็เห็นรถแต่ไกลด้วย" สรุปเราทั้งคู่ไปยืนชมวิว ถ.วิภาวดีรังสิต ยามเที่ยงวัน ตดยังไม่ทันหายเหม็น(หมายความว่าเร็วมากกก) รถสายไปสุวรรณภูมิมา เรารีบวิ่งลงไป ผมไปถึงก่อนหันไป อ่าว "ไอ่อ้อย เมิงทำเอี๊ยไรอยู่ เดี๋ยวแมร่งตกรถ รอกันอีก ชม ครึ่งพอดี"
"เออ โทดที สายกระเป๋าเป้กรูไปพันกับร่มยายแก เกือบตกสะพานลอย " เกือบซวยมั๊ยหล่ะเมิง
ผมนั่งรถได้รีบหันแอร์มาตรงหัวอันนึงอีกอันนึงหันให้มัน
"เมิงเอาไปเหอะ กรูไม่ร้อนหรอก ขอแค่ให้เมิงเย็น ถึงกรูจะร้อนตับแลบแค่ไหนกรูก็ทนได้" มันร่ายยาว
"เมิงอย่ามาลิเกกับกรู ความเย็นมันออกเท่ากันสองรู ต่อให้เมิงเอามาจ่อที่กรูคนเดียวกรูก็เย็นเท่ากันเอาไป กรูไม่อยากฟังหมาบ่น".....................สุดท้ายมันก็ยอม เพราะมันก็คงร้อนเหมือนกัน ผมหยิบโทรศัพท์มาหยิบหูฟังเสียบหู "เมิงทำอะไรอ่ะ"
"ทอดแหอยู่มั่ง ฟังวิทยุดิสาดด"
"ไม่อาวววเมิงฟังแล้วกรูจะคุยกับใคร เมิงก็อยู่โลกของเมิง ก็ก็เซ็งดิ" มันดึงหูฟังไป "อะไรเมิงนักหนานิห่า เดี๋ยวแมร่งกรูปล่อยให้ไปคนเดียวเลย เม่งเรื่องมากสาดดด" ผมดึงหูฟังกลับมา ยืนหูข้างขวาให้มัน " เอา เอาไป" แล้วก็หุบปาก อย่าโวยวายโหวกเหวก อย่าเล่น อย่ายื่นมือหรือหัวออกนอกหน้าตา" ผมแซว
"ครับคุณครู" มันทำเสียงเด็กได้กวนประสาทมากกกกกกก

.........จะบอกว่าผมนั่งฟัง seed ไปตลอดทางก็นะ เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณาให้เค้า คนวัยเดียวกันมันก็ต้องฟังแนวๆหน่อย นั่งผ่านไปพอดีเจเปิดเพลงเพราะแมร่งสะกิดอีกและ แล้วก็ทำตาเยิ้มมมม ผมก็เลยแกล้งหลับ สะกิดให้ตายก็ไม่ฟื้น....................
...........ผมหลับจนมาถึงสุวรรณภูมิ อืมมม สวยดีนะเนี๊ยะ เคยเห็นแต่ในทีวี รถมาจอดเทียบที่ชานชาลารถโดยสาร เราลงรถ นั่งรอรถอีกสายไปกิ่งแก้ว เพื่อนแนะนำว่าหอเยอะ........สุดท้ายเรามาถึงกิ่งแก้วด้วยความลำบาก ร้อนโคตรๆ มันเป็น ถนนสายใหญ่ มีแต่โรงงานแล้วก็รถบันทึก แล้วก็ฝุ่น เราลงตรงกลางกิ่งแก้วหน้าโรงบาลจุฬารัตน์
แต่ทีนี้หิวครับ แซนวิดเอาไม่อยู่ เลยต้องข้ามถนน ข้ามครั้งแรกผมไม่รอมัน วิ่งออกมาก่อน หันไปอีกทีเห็นมันยืนชี้หน้าด่าอะไรสักอย่างไม่ได้ยิน มันวิ่งมาถึงผม เรารอข้ามต่อที่เกาะกลางถนน รถวิ่งเร็วโคตรๆ ผมเห็นจังหวะ จะข้าม ก็เลยพล่อยปาก
"อ้าวไป" พอพูดเสร็จผมทำท่าจะออกวิ่ง แต่เกิดเปลี่ยนใจถอยกลับเพราะมีรถวิ่งมาเร็ว หันไปอีกทีไอ่นี่วิ่งไปก่อนไปเบรคอยู่เกือบกลางถนน แล้ววิ่งกลับมาหาผมใหม่
"ไอ่เอี๊ยะ ไหนเมิงบอกไป กรูก็ไป แมร่งเกือบตายอ่ากลางถนนแล้วมั๊ยหล่ะ" มันด่า
" ฮือๆกรูขอโทก็รถมันเร็วนิหว่าแล้วเมิงเชื่อกรูทำไมหล่ะสาดดด" ผมกลั้นหัวเราะ คนร้านข้าวฝั่งตรงห้ามก็มอง
"อ่าวสาดดด มานิมา" มันจับมือผมแน่น
"เมิงทำอะไรของเมิง กรูข้ามเองได้ ปล่อยเว้ย กรูอายคน" ผมไม่รู้ว่าหน้าแดงรึปล่าว รู้แต่ว่าอาย
"เมิงอายกับตายเมิงเลือกเอาจะเอาแบบไหน" สุดท้ายผมก็ยอมให้มันลากวิ่งข้ามถนน .....
"กรูว่าเมิงอยู่แถวนี้ก็ดีนะ เห็นป่าวสะดวกออก ข้างโน่นก็มีโรงบาล ข้างนี้ก็มีโรงบาล เวลาเมิงข้ามถนนโดนรถชน ปัง เดินเข้า โรงบาลต่อได้เลย สะดวกจะตาย" ผมแซวเพราะว่ามันอันตรายจริงๆแถวนั้น
..........................................................................


เราเดินหาหอเกือบ 5 กิโล ร้อนมากครับ แสบผิวเลยฝุ่นด้วยหายใจไม่ถนัด หอส่วนใหญ่มีแต่พี่ๆชาวโรงงาน เพราะฉะนั้นสภาพหอจึง.............
"โห แมร่งกรูจะอยู่เข้าไปได้ไง แมร่ง แค่เดินผ่านมันยังทะเลาะกันโหวกเหวก กรูอยู่นี่วันดีคืนดี มันทะเลาะกับผัววิ่งเข้าห้องกรู กรูไม่โดนสปาต้ารึว่ะ"
"อืม กรูอยู่ได้ก็เก่งแล้วเมิง แค่กรูเห็นเสาทีวีก็สยองแล้ว วันไหนไม้ไผ่ผุขึ้นมามีหวังหล่นใส่หัวกรูแน่"
"ไม่เอาอ่ะ อย่างกะหอผีสิงกรูกลัว"
.......................................................
"โอ้ยยยยแมร่งเมิงเลือกซะทีสิวะ กรูร้อนโคตรๆ แมร่ง เดี๋ยวไม่สบายกันพอดี" ผมไม่ไหว
"ก็กรุไม่ถูกใจนี่หว่า หน่านะ ทนหน่อย เป็นเมียพี่ต้องอดทนนะจ๊ะ" ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมาก เพราะมันเลือกโคตรๆ เกือบระเบิดอารมณ์ใส่ไปแล้วดีที่ว่า.....
"เอ้ยยย ๆๆๆเมิง หนูๆ"ผมเหลือบไปเห็นหนูนอนตายข้างกองขยะใกล้ทีน ด้วยความตกใจกระโดดขี่หลังทันควัน มือก็ตีหัวมันรัวยิกๆ มันคงตกใจ
"โอยแล้วเมิงมาตีกรูทำไม สาดดด กรูเจ็บ ลงไป" ผมได้สติ แต่ขนยังลุกเกลียว สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ อะไรก็ได้ที่ตาย หนูเป็นไม่กลัว หมาเป็นไม่กลัว กระตายเป็นไม่กลัว (แต่ถ้านกเป็น ไก่เป็น เป็ดเป็น สัตว์ปีกเป็น กลัว หรือตายก็กลัว เพราะตอนเด็กๆเคยดูหนังจนที่มีนกอินทรีตัวใหญ่ๆ ไม่รู้ใช่เอี๊ยก๊วยรึป่าว เลยฝังใจ อิๆ เป็นคนกลัวอะไรที่มีขนๆ) ถ้าทุกอย่างนอนตายกลัวหมด แม้แต่มด
"เมิงมันตายแล้วจะกลัวทำซากอะไร" ผมหันหลังไปมอง เห็นพวกวัยรุ่นเดินตามหลังมา ท่าทางก็นะ น่ากลัวหน่อยนึงเดินหัวเราะตามหลัง มันเลยคว้าคอผมกอดแน่น
"เมิงจะกอดคอกรูทำไม กรูเหนียว "ผมพยายามแกะมือมันออก
" เหอะหน่า" ยอมกรูไปเหอะ"
.................



Create Date : 23 กันยายน 2549
Last Update : 23 กันยายน 2549 11:51:25 น. 0 comments
Counter : 888 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wagner
Location :
Pennsylvania United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Google



../viewdiary.php?id=wagner&group=12&month=09-

[Add wagner's blog to your web]