|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ADSL
ถ้าจะบอกว่าเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คาดว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งาน ADSL 7-8 แสนรายเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้น TRUE ซึ่งเป็นเจ้าตลาด ADSL อยู่ และยังมีเจ้าอื่นที่มีเครือข่ายของตัวเองอย่าง TOT และ TT&T อีก ยังไม่นับพวกที่ไม่มีเครือข่ายของตัวเองอย่าง CSLOX, JINET ฯลฯ ทีนี้คนแบบเราๆท่านๆ สมควรใช้ของที่ไหนดีล่ะ บางคนก็บอกของที่นั่นดี บางคนบอกของที่นู่นดี บางคนเองก็รักใน brand ของเจ้านั้นๆ อาจจะเป็นความชอบหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ขอแนะนำดังนี้แล้วกันครับ คำแนะนำในการเลือก ISP
1 คู่สายสัญญาณ - หากบ้านของคุณอยู่ใกล้ชุมสายของ TOT มากๆ แนะนำว่าให้ใช้บริการของ ISP ที่ใช้สาย TOT ครับ เพราะสัญญาณ ADSL จะให้ดีนั้น ไม่ควรไกลจากชุมสายเกิน 2.5 km และจะมีประสิทธิภาพสูงมากๆมากๆ ถ้าไม่เกิน 500 m 2 เงื่อนไขและสปีดของแพ็คเกต - ข้อนี้สำคัญมาก เพราะจะอ้างอิงถึงการใช้งานของเราว่า เราใช้ internet เพื่ออะไร? หากเรามีการใช้งานเวปไซต์ต่างประเทศบ่อย โหลด e-doc ต่างๆ จากเวปนอกบ่อย ควรศึกษาให้ดีว่ามีการการันตี bandwidth หรือไม่ ISP บางเจ้าเองพยายามจะหมกเม็ดด้วยการให้ speed ที่ connect สูง แต่แอบพิมพ์ตัวหนังสือเล็กๆ ว่าเป็นการ connect ในประเทศเท่านั้น ซึ่งหากมีผู้ใช้งานเยอะๆ อย่างช่วงเวลาเร่งด่วนล่ะก็ รับประกันได้เลยว่า ท่านไม่มีทางได้สปีดถึงตามนั้นหรอก แนะนำว่าให้ดูจาก bandwidth ที่ออกต่างประเทศของ ISP เจ้านั้นๆ หรือดูจากราคาครับ ราคาแพงยิ่งดี ดียังไงดูข้อ 3 ครับ 3 ชนิดของแพ็คเกต - เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า speed 1024/512 เหมือนๆ กัน ของบริษัทเดียวกันนั้น แต่ทำไม packet a ถึงแพงกว่า packet b นั่นก็เป็นเพราะว่า อัตราการแชร์กันมีความแตกต่างกันนั่นเอง ซึ่งสรุปง่ายๆ ว่า หากมีการแชร์กันสูง โอกาสที่สปีดจะได้ลดลงนั่นก็ยิ่งสูง ซึ่ง packet ที่แชร์กันสูงก็คือที่เราใช้กันตามบ้านนั่นแหละครับ สำหรับที่ใช้ในด้านธุรกิจ ทาง ISP เขาก็จะทำการแบ่ง traffic ไว้ ทำให้แบบที่ใช้ในธุรกิจนั้น เร็วกว่า ถึงแม้ว่าจะเป็น speed เดียวกันครับ
ส่วนตัวแล้วผมใช้ internet มา 3 ที่ คือ cslox, TOT, TRUE อยากจะให้พิจารณาในแง่ของ 3 ข้อแรกก่อน โดยเฉพาะคู่สาย โดย ISP นั้นจะมีผลในแง่ของบริการหลังการขายครับ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ใช้บริการของเอกชนนะครับ เพราะเวลาที่เราเกิดปัญหาเราเลือกไม่ได้ว่าปัญหาจะเกิดเวลาไหน call center ของเอกชนส่วนใหญ่จะมีเวลาทำการนานกว่า จึงเป็นที่พึ่งอย่างดีให้กับ user อย่างเราๆท่านๆ เวลาเกิดปัญหา
ขอสรุปเป็นแบบสั้นๆ อย่างนี้ละกันว่า - เน้นการใช้งานในประเทศ 1 40% 2 50% 3 10%
- เน้นการใช้งานนอกประเทศ 1 50% 2 40% 3 10%
สุดท้ายแล้วจะดีหรือไม่ดียังไง ต้องลองใช้ด้วยตัวเองครับ บ้านคนอื่นไม่ใช่บ้านเรา ไม่มีความแน่นอนว่าบ้านเขาเร็ว บ้านเราจะต้องเร็วครับ
Create Date : 06 ตุลาคม 2549 |
|
2 comments |
Last Update : 6 ตุลาคม 2549 9:40:26 น. |
Counter : 397 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง ) 6 ตุลาคม 2549 10:26:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: amigo 6 ตุลาคม 2549 17:32:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|