สิ้นแสงฉาน (Twilight over Burma: My life as a Shan Princess)

สิ้นแสงฉาน(Twilightover Burma: My life as a Shan Princess)

แต่งอิงเง่ ซาร์เจนท์ (Inge Sagent)

แปล มนันยา



สิ้นแสงฉานนวนิยายอัตชีวประวัติของ อิงเง่ ซาเจนท์หญิงสาวชาวออสเตรียที่โชคชะตาพาให้เธอได้มาพบรักกับเจ้าฟ้าจาแสงแห่งสีป่อ รัฐฉานประเทศพม่า และเดินทางมาใช้ชีวิตไกลโพ้นจากบ้านเกิดเมืองนอนในฐานะมหาเทวีสุจันทรีแห่งสีป่อจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนเทพนิยายพาฝันของเจ้าหญิงเจ้าชาย เมื่อหญิงสาวชาวตะวันตกกลายมาเป็นพระชายาในเจ้าฟ้าสีป่อในดินแดนตะวันออกเธอได้มาเรียนรู้และใช้ชีวิตในแบบขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย ด้วยความรักที่มีต่อสามีทำให้หญิงสาวสามารถปรับตัวเข้ากับดินแดนแห่งนี้ได้อย่างรวดเร็วและได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมกับธิดาสององค์คือเจ้าฟ้ามายรีและเกนรี แต่หากเทพนิยายเรื่องนี้ไม่ได้จบแบบที่เจ้าหญิงเจ้าชายทรงครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไปเมื่อเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของพม่าได้พลัดพรากเจ้าฟ้าจาแสงไปจากเธอการหายตัวไปโดยไม่รู้ชะตากรรมของเจ้าฟ้าจาแสงได้สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสให้กับมหาเทวีสุจันทรีที่เฝ้าคอยการกลับมาของสามีและเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับเธอที่จะเชื่อว่าเจ้าฟ้าจาแสงได้สิ้นแล้ว เนื่องจากไม่มีใครสามารถที่จะยืนยันเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้และเมื่อเวลาผ่านพ้นไปการรอคอยอย่างมีความหวังกลับสร้างความปวดร้าวอย่างแสนสาหัสให้กับเธอหญิงสาวชาวตะวันตกที่ความรักนำพาเธอมายังดินแดนอันไกลโพ้น แต่กลับต้องมาพบกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันเธอจะผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้อย่างไร และจุดจบนั้นจะเป็นอย่างไรน่าสนใจยิ่งนัก

ส่วนตัวก่อนอ่านนวนิยายเรื่องนี้ได้รู้ความเป็นมาของเรื่องอยู่บ้างเนื่องจากการหายตัวไปของเจ้าฟ้าจาแสงแห่งสีป่อระหว่างการยึดอำนาจของนายพลเนวิน เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีผู้สอบถามมายังรัฐบาลพม่าโดยตลอดแม้ว่าจะรู้มาก่อนว่าเรื่องมีจุดสิ้นสุดอย่างไร แต่เมื่อได้อ่านนวนิยายเล่มนี้แล้วทั้งการดำเนินเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดึงดูดให้เรื่องน่าอ่านและชวนติดตามไปจนถึงตอนจบผู้แต่งใช้การเล่าเรื่องตามลำดับเวลาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้แต่งและสามารถที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างละเอียดและเข้าใจได้ง่าย และสามารถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กระตุ้นและดึงอารมรณ์ความรู้สึกของผู้อ่านให้ร่วมไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างดีซึ่งอาจจะมีบางส่วนที่ผู้เขียนเพิ่มเติมเข้าไปบ้าง แต่ไม่ได้มากจนทำให้เกินจากความเป็นจริงผู้อ่านจึงติดตามคอยเอาใจช่วยอิงเง่ ซาเจนท์ ในการรับมือกับเหตุการณ์และเงื่อนไขบีบรัดที่กระทบจิตใจของเธอเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานั้นได้อย่างไรอีกเหตุผลที่สำคัญคือนวนิยายเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงส่งผลให้ผู้อ่านตรึงอยู่กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนกระทั่งหน้าสุดท้ายโดยมีความหวังเดียวกันกับผู้แต่งที่จะได้รับทราบข่าวหรือการกลับมาของเจ้าฟ้าจาแสงอีกครั้งหนึ่งดังนั้นความประทับใจเมื่ออ่านเรื่องนี้จบจึงอยู่ที่ว่ามีเรื่องจริงเช่นนี้เกิดขึ้นกับคนคนหนึ่งได้จริงหรือทำไมจึงเหมือนเรื่องแต่งที่ได้วางโครงเรื่อง พล็อตเรื่องต่างๆ ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่เริ่มต้นจากความสุขสมหวังมาถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอทุกข์อย่างแสนสาหัส ความบีบคั้นสิ้นหวังในชีวิต และการกระทำและตัดสินใจของเธอที่ส่งผลต่อการดำเนินเรื่องซึ่งมีครบทุกอารมณ์ในเรื่องเดียว

จุดเด่นของนวนิยายเรื่องนี้นอกจากการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอิงเง่ ซาร์เจนท์แล้วสิ่งหนึ่งที่ผู้อ่านจะได้รับรู้คือ การบอกเล่าเรื่องของชาวไทใหญ่ (ขอที่จะเขียนว่า“ไทใหญ่” แตกต่างจากที่คุณมนันยาเขียนว่า “ไทยใหญ่”) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาน่าสนใจอย่างยิ่งกลุ่มหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งคนไทยเองแม้ว่ามีความใกล้ชิดกับคนไทใหญ่ในรัฐฉานประเทศพม่า ทั้งที่ตั้งและความใกล้ชิดด้านขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม แต่หากคนไทยไม่รู้จักไทใหญ่ในรัฐฉานว่ามีความเป็นมาอย่างไรและทำไมจึงเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลพม่าที่สำคัญยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดนภาคเหนือของประเทศไทยดังนั้นในช่วงต้นของเรื่องจึงเป็นเสมือนบันทึกที่น่าตื่นเต้นของอิงเง่ ซาเจนท์เธอได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเห็นและเรียนรู้อย่างลึกซึ้งในวิถีชีวิตศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทในรัฐฉานซึ่งทำให้ผู้อ่านได้ตื่นตาตื่นใจไปกับผู้แต่งไม่น้อยและการบอกเล่าเหตุการณ์ในประเทศพม่าในช่วงที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญซึ่งเรื่องราวในช่วงเวลานั้นไม่ได้เป็นที่รับรู้อย่างแพร่หลายสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับประเทศพม่าการหายตัวไปของเจ้าฟ้าจาแสงโดยไม่มีใครรู้ข่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจของนายพลเนวินนวนิยายเรื่องนี้จึงได้สะท้อนให้เห็นบรรยากาศสภาพบ้านเมืองและเหตุการณ์ทางด้านการเมืองของพม่าในช่วงเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดีแม้จะเป็นในมุมมองของผู้ที่ได้รับกระทบและพยายามจะต่อสู้เพื่อที่จะได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นกับบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งน่าเสียดายที่การแปลนวนิยายเรื่องนี้ไม่ได้แปลในส่วนบทนำในหนังสือภาษาอังกฤษที่กล่าวถึงประวัติศาสตร์ไทใหญ่และความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์พม่ารวมถึงเหตุการณ์การเมืองพม่าหลังจากที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษซึ่งจะทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์ของประเทศพม่าที่มีความหลากหลายและความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ได้มากขึ้น

จากการอ่านนวนิยายเรื่องนี้นอกจากจะได้รับอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายแล้วสิ่งหนึ่งที่เราจะได้รับรู้คือความเข้าใจประเทศพม่าในอีกมิติมุมมองหนึ่งที่มากกว่าการเป็นคู่ศัตรูทางประวัติศาสตร์และในปลายปี 2558 เรากำลังจะรวมตัวและเปิดการค้าเสรีทางด้านเศรษฐกิจหรือAsean Economics Community (AEC) เราได้ทำความเข้าใจผู้คนและประเทศสมาชิกAECที่เราจะต้องเกี่ยวข้องกันแม้ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจก็ตามมากน้อยแค่ไหนเราจะอยู่ร่วมกันเอื้อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียมอย่างไรซึ่งเป็นคำถามที่คนไทยจะต้องหาคำตอบเพื่อที่เราจะได้เข้าร่วม AEC ได้อย่างอย่างสง่างามและเป็นที่ยอมรับจากใจจริงของประเทศสมาชิกได้อย่างไร

ปล.มีนวนิยายที่ส่งเสริมการเรียนรู้ประเทศอาเซียนมาแนะนำบ้างหรือไม่ลองแนะนำแลกเปลี่ยนกันได้ค่ะ




Create Date : 05 สิงหาคม 2558
Last Update : 5 สิงหาคม 2558 10:40:45 น.
Counter : 1039 Pageviews.

4 comments
  
ถ้าแนวเดียวกัน แนะนำสารคดี
ปลายขอบฟ้าฉาน/ แผ่นดินฉานในสายหมอก/ของ นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ค่ะ
โดย: dal IP: 61.19.41.154 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:11:46:32 น.
  
เรื่องนี้น่าสนใจครับ ผมเองกำลังรอดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ :)
โดย: Jim-793009 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:23:41:32 น.
  
สวัสดีค่าคุณเปิ้ล
เล่มนี้ก็ได้อ่านแล้ว ได้อารมณ์ความรู้สึกคล้าย ๆ คุณเปิ้ล

เคยอ่าน"จำหลักไว้ในแผ่นดิน"ของกฤษณา อโศกสินหรือยังคะ น่าจะสนองต่อคำถามในปล.ของคุณเปิ้ลได้ค่ะ
โดย: แม่ไก่ IP: 110.49.251.140 วันที่: 6 สิงหาคม 2558 เวลา:11:35:14 น.
  
อ่านแล้วค่ะ เรื่องนี้ทำให้อินได้ด้วยความรู้สึกที่เรารู้ว่าเป็นเรื่องจริงนี่ละค่ะ
โดย: kunaom วันที่: 7 สิงหาคม 2558 เวลา:23:58:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เสี้ยวป่า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments
สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog